สวัสดีวันอาทิตย์สีแดงค่ะทุกๆท่าน
วันนี้ป้ามีข้อคิดดีๆสำหรับ "การอยู่ร่วมกันของคนหมู่มาก" มาฝาก
เพราะป้าไม่บังอาจสั่งสอนหรือตักเตือนใครในราชดำเนินนี้ด้วยตัวเอง
จึงเพียงแต่นำเอาข้อคิดที่มีคนคิดไว้ดีแล้ว เรียบเรียงมาให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ
การอยู่ร่วมกันกับคนหมู่มาก ย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไปบ้างจากคนรอบตัว ไม่เว้นแม้แต่ในครอบครัวเราเอง
การคิดต่างที่ไม่เป็นที่ยอมรับ นานวันเข้าอาจสะสมและลดทอนความรู้สึกดีๆที่เคยมีต่อกัน
เพื่อก้าวข้ามและลดความขัดแย้ง ข้อคิดเล็กๆนี้อาจช่วยสร้างไมตรีจิตและความเข้าใจอันดีซึ่งกันและกันได้
1 เปิดใจรับฟัง
การโต้เถียงส่วนใหญ่มักต้องการให้อีกฝ่ายหนึ่งมาเห็นด้วยกับความคิดของเรา
มักเกิดขึ้นเมื่อถูกขัดแย้งหรือขัดจังหวะในสิ่งที่เขากำลังพูด ซึ่งเป็นสิ่งที่ใครๆก็ไม่ชอบ
ถ้าเราลองเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายเริ่มรับฟังความคิดเห็นเขาก่อน นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความใจกว้างของเราแล้ว
เขาน่าจะอารมณ์เย็นลงและเปิดใจรับฟังเราบ้าง ก็จะช่วยลดความขัดแย้งหรือการทะเลาะเบาะแว้งต่อกัน
2 ทำความเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
แม้ว่าเหตุผลของเขาจะไม่ตรงกับใจเรา
แต่ถ้าเขารู้สึกว่าเราตั้งใจที่จะทำความเข้าใจในตัวเขา
ก็จะช่วยลดความขัดแย้งหรือการทะเลาะเบาะแว้งได้เช่นกัน
3 เก็บถ้อยคำร้ายๆเอาไว้
อย่าเผลอหลุดถ้อยคำหยาบคายออกไปอย่างไม่ยั้งคิด
เพราะเมื่อพูดออกไปแล้วก็ยากที่จะได้ความรู้สึกดีๆกลับคืนมา
ยิ่งเราหยาบคายมากเท่าไรก็จะได้รับความหยาบกลับมามากกว่านั้น
ควรสงบนิ่ง ใช้สติเตือนตัวเองให้มากที่สุดทุกครั้งก่อนหลุดถ้อยคำใดใดออกไป
เรื่องที่แย่จะได้ไม่แย่ลงไปกว่าเดิม
4 ลืมอดีตเสียบ้าง
ถ้าหากเราคอยแต่จะเอาเรื่องที่ผิดพลาดในอดีตมาโต้แย้งในเวลาที่ทะเลาะกัน
นอกจากจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้แล้ว ยังทำให้การทะเลาะบานปลายขึ้นไปอีก
ให้นึกเสียว่าไม่มีใครไม่เคยพลาด ให้โอกาสซึ่งกันและกันเพื่อปรับปรุงตัวเอง
5 เรียนรู้ที่จะประนีประนอม
ลองเปลี่ยนมาใช้วิธีการประนีประนอมแทนการพยายามเอาชนะกันดูบ้าง
แล้วจะพบว่าความขัดแย้งนั้นลดลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ถ้ายังมีบางสิ่งที่ยังไงๆเราก็ไม่เห็นด้วย ให้ลองใช้วิธีพบกันครึ่งทางดู
มันคงไม่ทำให้ใครเสียศักดิ์ศรีไปเท่าไรเลย
6 นึกถึงความสัมพันธ์ดีๆเอาไว้
สำหรับความเป็นเพื่อนที่อยู่ต่างสี
ในยามทะเลาะกันเรามักไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์และเรื่องราวดีๆของกันและกัน
เพราะเราต่างมุ่งจะสรรหาถ้อยคำดุเด็ดเผ็ดร้อนมาตอบโต้เอาชนะกัน
ถ้าเรามีสติยั้งคิดและลองนึกถึงสัมพันธภาพดีๆที่เคยมีต่อกัน
เรื่องใหญ่อาจกลายเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กอาจกลายเป็นเรื่องจิ๊บๆ ขำๆก็ได้
7 ให้อภัยซึ่งกันและกัน
ให้อภัย...คงเป็นสิ่งที่ทำได้ยากที่สุดในทุกข้อที่กล่าวมา
แต่การให้อภัยแก่กันในวันนี้ ดีกว่าอโหสิให้กันตอนตาย
เพราะการให้อภัยเป็นแค่การวางความโกรธเคืองและความเจ็บปวดลง
และเลือกที่จะเรียนรู้ความถูกผิดจากเหตุการณ์นั้นเป็นบทเรียนของชีวิต
ก้าวเดินต่อไปด้วยใจเป็นสุข
3 สิ่งในชีวิตเราที่ไม่อาจรู้ได้ล่วงหน้า คือการเกิด การเจ็บ และการตาย
เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าเราจะเกิด จะเจ็บ จะตาย ที่ไหน เมื่อไร
เพราะฉนั้นเราจึงไม่ควรใช้ชีวิตอยู่บนความประมาททั้งคำพูดและการกระทำ
เพราะไม่ว่าจะเก่ง จะแกร่งมาจากไหน ยิ่งใหญ่มากเท่าใด สุดท้าย..ก็เล็กกว่า "โลง" ทุกคน
พึงสังวรณ์ไว้ว่า
เมื่อก่อนยังไม่มีเรา
เราพึ่งมีมาเมื่อไม่นานนี้เอง
และอีกไม่นานก็จะไม่มีเราอีก
จึงควรรีบทำดี ในขณะที่ยังมี...เรา
ขอบคุณทุกบทความที่ป้าได้นำมาเรียบเรียงค่ะ
จากใจจริงคุณป้ารักแมว และลูกๆทั้ง 5 คน
ป้าขอฝากเพลงและเอ็มวีน่ารักๆนี้ไว้ให้ฟังนะคะ
ถือสิทธิว่าเป็นเพลงประจำตัวป้า และประจำตระกูล "รักแมว" แล้ว
หากได้ยินได้ฟังเพลงนี้ที่ไหนก็ขอให้คิดถึงป้าและลูกๆบ้าง..
ได้รับอภินันทนาการจากคุณเพื่อนรักต่างวัยของป้า
ขอบคุณ..คุณเพื่อนมากค่ะ
ข้อคิดดีที่มีมาฝาก
วันนี้ป้ามีข้อคิดดีๆสำหรับ "การอยู่ร่วมกันของคนหมู่มาก" มาฝาก
เพราะป้าไม่บังอาจสั่งสอนหรือตักเตือนใครในราชดำเนินนี้ด้วยตัวเอง
จึงเพียงแต่นำเอาข้อคิดที่มีคนคิดไว้ดีแล้ว เรียบเรียงมาให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ
การอยู่ร่วมกันกับคนหมู่มาก ย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไปบ้างจากคนรอบตัว ไม่เว้นแม้แต่ในครอบครัวเราเอง
การคิดต่างที่ไม่เป็นที่ยอมรับ นานวันเข้าอาจสะสมและลดทอนความรู้สึกดีๆที่เคยมีต่อกัน
เพื่อก้าวข้ามและลดความขัดแย้ง ข้อคิดเล็กๆนี้อาจช่วยสร้างไมตรีจิตและความเข้าใจอันดีซึ่งกันและกันได้
1 เปิดใจรับฟัง
การโต้เถียงส่วนใหญ่มักต้องการให้อีกฝ่ายหนึ่งมาเห็นด้วยกับความคิดของเรา
มักเกิดขึ้นเมื่อถูกขัดแย้งหรือขัดจังหวะในสิ่งที่เขากำลังพูด ซึ่งเป็นสิ่งที่ใครๆก็ไม่ชอบ
ถ้าเราลองเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายเริ่มรับฟังความคิดเห็นเขาก่อน นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความใจกว้างของเราแล้ว
เขาน่าจะอารมณ์เย็นลงและเปิดใจรับฟังเราบ้าง ก็จะช่วยลดความขัดแย้งหรือการทะเลาะเบาะแว้งต่อกัน
2 ทำความเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
แม้ว่าเหตุผลของเขาจะไม่ตรงกับใจเรา
แต่ถ้าเขารู้สึกว่าเราตั้งใจที่จะทำความเข้าใจในตัวเขา
ก็จะช่วยลดความขัดแย้งหรือการทะเลาะเบาะแว้งได้เช่นกัน
3 เก็บถ้อยคำร้ายๆเอาไว้
อย่าเผลอหลุดถ้อยคำหยาบคายออกไปอย่างไม่ยั้งคิด
เพราะเมื่อพูดออกไปแล้วก็ยากที่จะได้ความรู้สึกดีๆกลับคืนมา
ยิ่งเราหยาบคายมากเท่าไรก็จะได้รับความหยาบกลับมามากกว่านั้น
ควรสงบนิ่ง ใช้สติเตือนตัวเองให้มากที่สุดทุกครั้งก่อนหลุดถ้อยคำใดใดออกไป
เรื่องที่แย่จะได้ไม่แย่ลงไปกว่าเดิม
4 ลืมอดีตเสียบ้าง
ถ้าหากเราคอยแต่จะเอาเรื่องที่ผิดพลาดในอดีตมาโต้แย้งในเวลาที่ทะเลาะกัน
นอกจากจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้แล้ว ยังทำให้การทะเลาะบานปลายขึ้นไปอีก
ให้นึกเสียว่าไม่มีใครไม่เคยพลาด ให้โอกาสซึ่งกันและกันเพื่อปรับปรุงตัวเอง
5 เรียนรู้ที่จะประนีประนอม
ลองเปลี่ยนมาใช้วิธีการประนีประนอมแทนการพยายามเอาชนะกันดูบ้าง
แล้วจะพบว่าความขัดแย้งนั้นลดลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ถ้ายังมีบางสิ่งที่ยังไงๆเราก็ไม่เห็นด้วย ให้ลองใช้วิธีพบกันครึ่งทางดู
มันคงไม่ทำให้ใครเสียศักดิ์ศรีไปเท่าไรเลย
6 นึกถึงความสัมพันธ์ดีๆเอาไว้
สำหรับความเป็นเพื่อนที่อยู่ต่างสี
ในยามทะเลาะกันเรามักไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์และเรื่องราวดีๆของกันและกัน
เพราะเราต่างมุ่งจะสรรหาถ้อยคำดุเด็ดเผ็ดร้อนมาตอบโต้เอาชนะกัน
ถ้าเรามีสติยั้งคิดและลองนึกถึงสัมพันธภาพดีๆที่เคยมีต่อกัน
เรื่องใหญ่อาจกลายเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กอาจกลายเป็นเรื่องจิ๊บๆ ขำๆก็ได้
7 ให้อภัยซึ่งกันและกัน
ให้อภัย...คงเป็นสิ่งที่ทำได้ยากที่สุดในทุกข้อที่กล่าวมา
แต่การให้อภัยแก่กันในวันนี้ ดีกว่าอโหสิให้กันตอนตาย
เพราะการให้อภัยเป็นแค่การวางความโกรธเคืองและความเจ็บปวดลง
และเลือกที่จะเรียนรู้ความถูกผิดจากเหตุการณ์นั้นเป็นบทเรียนของชีวิต
ก้าวเดินต่อไปด้วยใจเป็นสุข
3 สิ่งในชีวิตเราที่ไม่อาจรู้ได้ล่วงหน้า คือการเกิด การเจ็บ และการตาย
เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าเราจะเกิด จะเจ็บ จะตาย ที่ไหน เมื่อไร
เพราะฉนั้นเราจึงไม่ควรใช้ชีวิตอยู่บนความประมาททั้งคำพูดและการกระทำ
เพราะไม่ว่าจะเก่ง จะแกร่งมาจากไหน ยิ่งใหญ่มากเท่าใด สุดท้าย..ก็เล็กกว่า "โลง" ทุกคน
พึงสังวรณ์ไว้ว่า
เมื่อก่อนยังไม่มีเรา
เราพึ่งมีมาเมื่อไม่นานนี้เอง
และอีกไม่นานก็จะไม่มีเราอีก
จึงควรรีบทำดี ในขณะที่ยังมี...เรา
ขอบคุณทุกบทความที่ป้าได้นำมาเรียบเรียงค่ะ
จากใจจริงคุณป้ารักแมว และลูกๆทั้ง 5 คน
ป้าขอฝากเพลงและเอ็มวีน่ารักๆนี้ไว้ให้ฟังนะคะ
ถือสิทธิว่าเป็นเพลงประจำตัวป้า และประจำตระกูล "รักแมว" แล้ว
หากได้ยินได้ฟังเพลงนี้ที่ไหนก็ขอให้คิดถึงป้าและลูกๆบ้าง..
ได้รับอภินันทนาการจากคุณเพื่อนรักต่างวัยของป้า
ขอบคุณ..คุณเพื่อนมากค่ะ