สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
คบกันปีนี้
เพิ่งเจอกันครั้งเดียว
รักกันมากๆ
.
.
.
กำลังคิดว่าถ้าปลาเข็มน้อยมาตั้งกระทู้แบบนี้ ในฐานะแม่จะรู้สึกยังไงดี
ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องวีซ่าไม่ผ่านเลย
หนูจ๋า อย่าเศร้าไปเลย ปีนี้เพิ่งผ่านไปแค่สี่เดือนยังไม่เต็มเลย
ไอ้ที่คิดว่ารักมากๆ อาจจะแค่โปรโมชั่นก็ได้
ไว้ให้มหาลัยตอบรับ เวลาผ่านไปซักระยะค่อยไปขอใหม่แล้วกันนะจ๊ะ
หรือไม่ถึงตอนนั้น คนไทยอาจจะไม่ต้องใช้วีซ่าเข้าญี่ปุ่นแล้วก็ได้^^
เพิ่งเจอกันครั้งเดียว
รักกันมากๆ
.
.
.
กำลังคิดว่าถ้าปลาเข็มน้อยมาตั้งกระทู้แบบนี้ ในฐานะแม่จะรู้สึกยังไงดี
ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องวีซ่าไม่ผ่านเลย
หนูจ๋า อย่าเศร้าไปเลย ปีนี้เพิ่งผ่านไปแค่สี่เดือนยังไม่เต็มเลย
ไอ้ที่คิดว่ารักมากๆ อาจจะแค่โปรโมชั่นก็ได้
ไว้ให้มหาลัยตอบรับ เวลาผ่านไปซักระยะค่อยไปขอใหม่แล้วกันนะจ๊ะ
หรือไม่ถึงตอนนั้น คนไทยอาจจะไม่ต้องใช้วีซ่าเข้าญี่ปุ่นแล้วก็ได้^^
moopoo_1008 ถูกใจ, aisukun ถูกใจ, นังผึ้งน้อย ถูกใจ, พ่อแมวอ้วน ถูกใจ, Mr_Architect ถูกใจ, San Makyos ถูกใจ, Abreast of the timE ถูกใจ, Wonder_B ถูกใจ, ตะลาล๊า ถูกใจ, สิบล้อชอบเที่ยว ถูกใจรวมถึงอีก 6 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 3
1.หลักฐานนักศึกษาไม่มี
2.หลักฐานการทำงานไม่มี
3.มีคนออกค่าใช้จ่ายให้ เดินทางคนเดียว
แบบนี้มันมีแนวโน้มว่าจะไปขายตัวครับ (ขอโทษที่บอกแบบนี้ ไม่ได้ตั้งใดูถูกครับ แต่ว่ามันไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันเลย)
แนะนำว่า
1.ให้แฟนมาหาจะง่ายกว่า ระหว่างนี้ก็สไกป์กันบ่อยๆ
2.สมัครเรียน แล้วขอใบรับรองสถานภาพ อีก6เดือนก็ไปขอใหม่
แบบนี้มีโอกาสมากกว่านะครับ
หลักฐานเราไม่แน่น เราจะไปเรียกร้องอะไรก็คงไม่ได้ครับ เขาก็ต้องทำตามกฏกติกาครับ
คราวหน้าขอให้ได้วีซ่าตามความตั้งใจนะครับ คราวนี้ก็ทำใจก่อน เพราะเราไม่พร้อมจริงๆ
2.หลักฐานการทำงานไม่มี
3.มีคนออกค่าใช้จ่ายให้ เดินทางคนเดียว
แบบนี้มันมีแนวโน้มว่าจะไปขายตัวครับ (ขอโทษที่บอกแบบนี้ ไม่ได้ตั้งใดูถูกครับ แต่ว่ามันไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันเลย)
แนะนำว่า
1.ให้แฟนมาหาจะง่ายกว่า ระหว่างนี้ก็สไกป์กันบ่อยๆ
2.สมัครเรียน แล้วขอใบรับรองสถานภาพ อีก6เดือนก็ไปขอใหม่
แบบนี้มีโอกาสมากกว่านะครับ
หลักฐานเราไม่แน่น เราจะไปเรียกร้องอะไรก็คงไม่ได้ครับ เขาก็ต้องทำตามกฏกติกาครับ
คราวหน้าขอให้ได้วีซ่าตามความตั้งใจนะครับ คราวนี้ก็ทำใจก่อน เพราะเราไม่พร้อมจริงๆ
aisukun ถูกใจ, นังผึ้งน้อย ถูกใจ, Bonkai ถูกใจ, ลูกแม่ดอกบัว ถูกใจ, เข้ามาครองโลก ถูกใจ, Abreast of the timE ถูกใจ, Wonder_B ถูกใจ, takara yume ถูกใจ, Assasin Lady ถูกใจ, KengMgroup ถูกใจรวมถึงอีก 6 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 41
อ่านแล้วสะท้อนใจ ตอนพี่อายุเท่าน้อง พี่เคยเป็นแบบน้องเปี๊ยบค่ะ
แค่เปลี่ยนโลเคชั่นจากญี่ปุ่น เป็นอเมริกาเท่านั้นเอง ซึ่งวีซ่าโหดกว่ากันเยอะ
ผู้ชายเปิดเผยตัวตนชัดเจนมากๆ มาไทยเข้าหาพ่อแม่เรา ให้เงินทอง
คุยไอซีคิวบอกรักเราทุกวัน อยากให้เราไปหาสารพัด แบบน้องเลย
เรายังเรียนหนังสือ แต่ก็กระเอือกกระสนดิ้นรนขอวีซ่าไปจนได้ เพื่อจะพบว่าเขามีเมียอยู่แล้ว
(เขากับเมียทำงานคนละกะ เมียเลยไม่เห็นว่าเขาติดไอซีคิวผิดสังเกต)
ถามเขาว่า ทำไมถึงกล้าให้เงินเรา กล้าคะยั้นคะยอให้มานัก เขาตอบง่ายๆ
"ก็ไม่คิดว่าจะขอวีซ่าได้จริงๆ" จบป่ะ?
ผู้ชายหมาๆ จะแสนดีแค่ไหน บทจะหมาขึ้นมาหมายังอายค่ะ
ทริปนั้นคนที่ดูแลเรา พาเรามาส่งขึ้นเครื่องกลับไทย ก็เมียเขานั่นแหละ ตัวเขาหลบหน้าหนีไปอยู่บ้านเพื่อน
กว่าสติสตังพี่จะกลับมาครบ ก็ดรอปไปเป็นปี อนาคตเกือบพังเลยทีเดียว
คนสองคนเท่านั้นที่อยู่เคียงข้างก็คือพ่อแม่เรา
เล่าไว้เป็นอุทธาหรณ์ แค่อยากให้รู้ว่าโลกนี้มีหลายสี ไม่ใช่แค่สีชมพูสีเดียว
ขอให้เผื่อใจเอาไว้สำหรับเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้ด้วย
อ่านกระทู้นี้แล้วเสียดาย ถ้าพี่ตั้งกระทู้ก่อนไป แล้วมีคนมาเตือนมาให้สติพี่แบบนี้ เยอะขนาดนี้บ้าง
พี่อาจคิดได้ ใจเย็นลงจนล้มเลิกแผนการเดินทาง ไม่ต้องเจอเหตุการณ์เจ็บปวดขนาดนี้
ชีวิตพี่คงเจริญขึ้นกว่านี้เยอะมาก
กรณีน้อง พี่ไม่ขอสนับสนุนหรือห้ามปรามน้องนะคะ
แต่ควรเอะใจนิดนึงว่า หากเราทำถูกแล้วทำดีแล้วจริง ทำไมความเห็นคนหมู่มากถึงได้เป็นไปในทางเดียว คือตรงข้ามกับเรา
ฟังหูไว้หูไม่เสียหายค่ะ
แค่เปลี่ยนโลเคชั่นจากญี่ปุ่น เป็นอเมริกาเท่านั้นเอง ซึ่งวีซ่าโหดกว่ากันเยอะ
ผู้ชายเปิดเผยตัวตนชัดเจนมากๆ มาไทยเข้าหาพ่อแม่เรา ให้เงินทอง
คุยไอซีคิวบอกรักเราทุกวัน อยากให้เราไปหาสารพัด แบบน้องเลย
เรายังเรียนหนังสือ แต่ก็กระเอือกกระสนดิ้นรนขอวีซ่าไปจนได้ เพื่อจะพบว่าเขามีเมียอยู่แล้ว
(เขากับเมียทำงานคนละกะ เมียเลยไม่เห็นว่าเขาติดไอซีคิวผิดสังเกต)
ถามเขาว่า ทำไมถึงกล้าให้เงินเรา กล้าคะยั้นคะยอให้มานัก เขาตอบง่ายๆ
"ก็ไม่คิดว่าจะขอวีซ่าได้จริงๆ" จบป่ะ?
ผู้ชายหมาๆ จะแสนดีแค่ไหน บทจะหมาขึ้นมาหมายังอายค่ะ
ทริปนั้นคนที่ดูแลเรา พาเรามาส่งขึ้นเครื่องกลับไทย ก็เมียเขานั่นแหละ ตัวเขาหลบหน้าหนีไปอยู่บ้านเพื่อน
กว่าสติสตังพี่จะกลับมาครบ ก็ดรอปไปเป็นปี อนาคตเกือบพังเลยทีเดียว
คนสองคนเท่านั้นที่อยู่เคียงข้างก็คือพ่อแม่เรา
เล่าไว้เป็นอุทธาหรณ์ แค่อยากให้รู้ว่าโลกนี้มีหลายสี ไม่ใช่แค่สีชมพูสีเดียว
ขอให้เผื่อใจเอาไว้สำหรับเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้ด้วย
อ่านกระทู้นี้แล้วเสียดาย ถ้าพี่ตั้งกระทู้ก่อนไป แล้วมีคนมาเตือนมาให้สติพี่แบบนี้ เยอะขนาดนี้บ้าง
พี่อาจคิดได้ ใจเย็นลงจนล้มเลิกแผนการเดินทาง ไม่ต้องเจอเหตุการณ์เจ็บปวดขนาดนี้
ชีวิตพี่คงเจริญขึ้นกว่านี้เยอะมาก
กรณีน้อง พี่ไม่ขอสนับสนุนหรือห้ามปรามน้องนะคะ
แต่ควรเอะใจนิดนึงว่า หากเราทำถูกแล้วทำดีแล้วจริง ทำไมความเห็นคนหมู่มากถึงได้เป็นไปในทางเดียว คือตรงข้ามกับเรา
ฟังหูไว้หูไม่เสียหายค่ะ
tottui ถูกใจ, aisukun ถูกใจ, นังผึ้งน้อย ถูกใจ, IamUna ถูกใจ, Green_Kappa ถูกใจ, ลบหน้าแล้วมาหาฉัน ซึ้ง, แฟนหล่อกว่าแบรดพิทท์นิดเดียว ถูกใจ, แมวดำน้อย ซึ้ง, melody_bangkok ถูกใจ, phillia ถูกใจรวมถึงอีก 6 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 10
หนูจ๋า อายุเพิ่งพ้น 20 ยังไม่มีรายได้ ไม่ได้ศึกษาต่อ เงินสปอนเซอร์(แค่)เจ็ดหมื่น คิดแค่ชั้นเดียวก็ไม่ผ่านละค่ะ รอให้มีสถานภาพนักศึกษาให้ชัวร์ก่อน แล้วให้แฟนส่งเงินมาสบทบในบัญชีให้มีเกินแสน (เอแต่ว่าแฟนกำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีสี่ แล้วจะช่วยได้แค่ไหน) แล้วค่อยยื่นขอใหม่ ขณะรอก็อยากให้ไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าให้ความรักบังตา คิดไปไกลๆว่าถ้าได้ไปจริงๆหนูจะไปพักที่ไหน หรือไปอยู่กับเขาที่บ้าน/ที่หอพัก(ห้องสี่เหลี่ยมแคบๆเตียงสองชั้น) หรือพักโรงแรม(ซึ่งแพงมาก) หนูบอกว่าแฟนออกค่าเดินทางให้ แล้วค่ากินอยู่ล่ะ หรือป้าที่เป็นสปอนเซอร์จะยกให้ไปทั้งเจ็ดหมื่น
ถ้าแฟนต้องการให้เราไปหาเขาเร็วโดยไม่ต้องรอนาน ควรจะให้เขาหรือพ่อแม่เขารับรองว่ายินดีให้เราไปพำนักด้วย แนบหลักฐานที่อยู่(คล้ายสำเนาทะเบียนบ้าน) มาด้วย เจ้าหน้าที่สถานทูตเขาจะตรวจสอบไปเองว่าจริงตามที่อ้างมั้ย ถ้าทำได้ตามนี้เรื่องก็ง่ายขึ้น
ไม่อยากคิดในแง่ร้ายเลย มีข่าวมากมายที่ถูกหลอกล่อให้ไปเทีี่ยวตามฝัน แต่เมื่อไปถึงอาจเจอเรื่องร้ายๆที่ไม่คาดคิดมาก่อน ...
"อย่าเชื่อว่าจริงในสิ่งที่คิดว่าใช่ เพราะบางครั้ง แม้สิ่งที่เห็นยังไม่ใช่ความจริง"
ถ้าแฟนต้องการให้เราไปหาเขาเร็วโดยไม่ต้องรอนาน ควรจะให้เขาหรือพ่อแม่เขารับรองว่ายินดีให้เราไปพำนักด้วย แนบหลักฐานที่อยู่(คล้ายสำเนาทะเบียนบ้าน) มาด้วย เจ้าหน้าที่สถานทูตเขาจะตรวจสอบไปเองว่าจริงตามที่อ้างมั้ย ถ้าทำได้ตามนี้เรื่องก็ง่ายขึ้น
ไม่อยากคิดในแง่ร้ายเลย มีข่าวมากมายที่ถูกหลอกล่อให้ไปเทีี่ยวตามฝัน แต่เมื่อไปถึงอาจเจอเรื่องร้ายๆที่ไม่คาดคิดมาก่อน ...
"อย่าเชื่อว่าจริงในสิ่งที่คิดว่าใช่ เพราะบางครั้ง แม้สิ่งที่เห็นยังไม่ใช่ความจริง"
Eureka101 ถูกใจ, gornkunk ถูกใจ, แมวดำน้อย ซึ้ง, บูตะ กะ กิมจิ ถูกใจ, เมี้ยวน้อย ถูกใจ, Perth&Pearl ทึ่ง, Mr_Architect ถูกใจ, San Makyos ถูกใจ, Wonder_B ถูกใจ, เกิดมามีกรรม ตัวดำแต่สวย ถูกใจรวมถึงอีก 6 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ถูกปฎิเสธวีซ่าญี่ปุ่น อยากระบายความรู้สึก และอยากขอคำแนะนำด้วยค่ะ
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะแชร์ประสบการณ์ฟรีวีซ่าญี่ปุ่น(ไปตปทครั้งแรก, โดนปฎิเสธวีซ่าญี่ปุ่น)ผ่านตมภายใน5นาทีค่ะ
http://pantip.com/topic/31087355
และอีกกระทู้สำหรับใครที่ไม่เคลียร์เรื่องแฟนเรา ติดตามอ่านเรื่องราวเต็มจริงๆจากกระทู้นี้ได้เลยค่ะ(ตั้งใจจะเปิดบล้อคเล่าเรื่องน่ารักๆของแฟน แต่ก็คาทิ้งไว้อย่างนั้น555 ส่วนมากจะอัพเดทที่เฟซมากกว่าค่ะ)
แชร์เรื่องเล่าแฟนหนุ่มชาวญี่ปุ่นค่ะ
http://pantip.com/topic/31138624
เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับการขอวีซ่าเที่ยวญี่ปุ่นไปอยู่ครั้งหนึ่ง โปรไฟล์เราตามนี้เลยนะคะ http://pantip.com/topic/30302129
เรายื่นเอกสารครบถ้วนตามที่หลายๆท่านแนะนำ วันต่อมาสถานทูตโทรมาสัมภาษณ์ รู้สึกว่าตอบได้ไม่ค่อยดีเลย เพราะตื่นเต้นมาก
ขอคัดแต่คำถามที่เรารู้สึกว่าน่าจะเป็นห่วงนะคะ
พูดอังกฤษ พูดญี่ปุ่นได้มั้ย
-อังกฤษได้ แต่ญี่ปุ่นนิดหน่อยค่ะ (เพิ่งค้นเจอในเน็ตเร็วๆนี้ว่าถ้าตอบว่ารู้ญี่ปุ่นนี่ซวยเลยใช่มั้ยคะ แต่เอาจริงๆรู้แค่งูๆปลาๆแต่ดันตอบเค้าไปซะแบบนั้นTT)
ทำไมให้คุณป้าเป็นสปอนเซอร์
-เพราะสถานะการเงินคุณป้าดีกว่าค่ะ(ตอบอย่างนี้มันจะทะไปมั้ยเนี่ยะ (ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมเราใช้คุณป้าเป็นสปอนเซอร์เพราะแกมีหลักฐานเกี่ยวกับตัวเองพร้อม แกขายรถมือสองค่ะ รายได้ค่อนข้างดี และก่อนยื่นก็อัพเงินในบัญชีคุณป้าเพิ่มไปอีกหกหมื่น(คุณป้าเงินเข้าออกสม่ำเสมอคะ แต่เผอิญวันที่เราขอบัญชีคุณป้าไปขอวีซ่าเหลืออยู่แค่หมื่นเดียว เลยอัพเพิ่มให้แกเป็นเจ็ดหมื่นกว่าค่ะ)
อยู่บ้านเดียวกันกับคุณป้าใช่มั้ย
-ใช่ค่ะ
ใครเป็นส่งเสียเลี้ยงดู เดือนละเท่าไร
-ถ้าค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆจะเป็นคุณแม่ แต่ถ้าเป็นค่าใช้จ่ายสูงๆจะเป็นคุณป้าค่ะ(เอกสารที่เกี่ยวกับคุณแม่มีเพียงทะเบียนบ้านเดียวกัน(เรา แม่ ป้า) เพราะทาง jvac ขอเพิ่ม เพื่อจะได้เชื่อมโยงความสัมพันธ์ได้ถูกต้อง (คุณป้ากับคุณแม่เป็นพี่น้องกันแท้ๆค่ะ) ถึงตรงนี้เราแอบกังวลเล็กน้อยว่าที่ตอบไปตะกี้จะเป็นอะไรรึป่าวเนี่ยะ)
ตอนนี้ทำอะไรอยู่ มีงานทำมั้ย
-ไม่ได้ทำงานคะ กำลังรอสมัครรับเข้าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอยู่ค่ะ รับสมัครเดือนหน้า (แล้วสถานทูตก็ถามวกไปวนมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เช่น สมัครเมื่อไร เปิดเทอมวันไหน แล้วทำไมไม่มีใบสถาณะภาพนักศึกษาละ (อ้าว นี่ตั้งใจฟังที่เราพูดรึป่าวเนี่ยTT)เราก็พูดไปอีกรอบ แล้วเค้าก็ถามพูดวกวนไปมาอยู่อย่างนั้น จนเราเริ่มเบลอไปกับเค้า (ตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้คิดว่าจะรอดมั้ยเนี้ย)
แล้วจะไปเที่ยวยังไง รึไปดาบหน้าเอา (โห...)
-ก็ศึกษาจากเซ็ปไซต์ท่องเที่ยว พันทิฟ บลาๆ มีแผนการท่องเที่ยวค่ะ
ทำไมไม่ไปกะทัวร์ละ
-อยากไปเที่ยวด้วยตัวเองคะ
คิดว่าอย่างไรกันบ้างค่ะ ตอนนี้เรารู้สึกเศร้า และเสียใจมากๆ ไม่ได้เสียใจที่ไม่ได้วีซ่า แต่เสียใจที่จะไม่ได้เจอแฟนไปอีก 8 เดือน หรืออาจจะมากกว่านั้น(แฟนติดเรียน) เราคบกันปีนี้ และเพิ่งได้เจอกันที่เมืองไทยเพียงครั้งเดียวเอง ตอนนี้รู้สึกอยากจะโกธรสถานทูต อยากจะแบนญี่ปุ่นไปเลย แต่ก็ได้แต่คิด ทำไม่ลง เพราะแฟนเราก็คนญี่ปุ่นเหมือนกัน และเราสองคนก็รักกันมากๆด้วย ทำไม... แค่คนรักกันอยากเที่ยว(อ้อ ตอนยื่นคำร้อง เราไม่ได้กรอกเกี่ยวกับแฟนตามที่หลายๆคนแนะนำนะคะ) อยากจะเจอกัน ทำไม... ทำไม... ต้องกีดกันขนาดนี้ด้วย...
เจ็บปวด...