คือตอนนี้ผมกำลังเรียน ปริญญาโทวิศวอุตสาหการ (จบตรีปุ๊ป ต่อโทเลย ไม่ได้ทำงานก่อน)
เรียนมาได้ 2 ปีแล้ว ใจผมก็อยากจบภายใน 2 ปี เอาเต็มที่ก็ไม่อยากเกินเทอมหน้า แต่ที่ มหาลัยผม ทุกสิ่งอย่างขึ้นอยู่กับ Advisor ทั้งหมด
จนตอนนี้รู้สึกลึกๆว่าน่าจะอีก 1 ปีเต็ม
ผมเรียนเพราะแม่ผมก็สนับสนุน ถึงแม้แม่จะต้องเหนื่อยส่งผมเรียน (แม่ขายก๋วยเตี๋ยว) แต่เวลาผมเห็นแม่ผมตอนที่ผมรับปริญญาตรี แม่ผมดูปลื้ม
ดูภูมิใจ ดูมีความสุขมาก ผมเห็นแบบนั้นผมก็รู้สึกดีนะ ผมก็เรียนยอมเรียนต่อก็ได้อยากเห็นแม่แบบนั้นอีกครั้ง
เอาจริงๆผมเป็นคนขี้เกียจเรียนมากนะ เวลาเรียนไม่ค่อยตั้งใจเรียน ชอบมาเน้นอ่านก่อนสอบ 3-4 วัน แต่ผมก็ยอมทนเรียนปริญญาโทต่อมาได้
จนตอนนี้ cost work หมดแล้ว เหลือแค่ Thesis เท่านั้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น บางทีผมก็รู้สึกว่า "เอ๊ะ ที่ตูเรียนต่อเนี่ย มันใช่รึปล่าววะ ตูทำถูกปะเนี่ย ตูน่าจะทำงานเพื่อให้แม่เลิกขายก๋วยเตี๋ยวไม่ดีกว่าเรอะ"
ที่ผมคิดแบบนั้นก็เพราะว่า คนรอบข้างชอบมาค่อนขอดผม เช่น ลูกพี่ลูกน้องผมคนนึง มาบอกว่า "เอ(นามสมมุติผม) รีบจบมาหางานทำซักทีนะ แม่จะได้เลิกขายได้แล้ว"
หรือ น้าผมอีกคนอยู่ดีดีก็มาพูดอ้อมๆว่า "คนเรามันจะไปเรียนตลอดได้ยังไง มันต้องทำไมหากินคอยเลี้ยงดูครอบครัว เรียนอย่างเดียวจะเอาตังจากไหนมาใช้" ผมเลยนั่งซึมไปเลย ทั้งที่ ผมเคยคิดว่าการเรียนต่อโท นี่มันน่าภูมิใจนะ ทำให้แม่เรามีหน้ามีตาได้นะ ญาติคนอื่นๆในตระกูลควรจะอิจฉาเรา อิจฉาแม่เราสิ ที่มีลูกกำลังจะจบโทคนแรกของตระกูล
แต่ตอนนี้ทำไมผมไม่รู้สึกแบบน้ันแล้ว ผมรู้สึกว่าผมทำผิด ผมควรหางานทำ ทำแบบนี้มันเหมือนเกาะแม่กิน ทำให้แม่ลำบากมากขึ้น
สรุปที่ผมทำอยู่นั้น มันถูกต้องมากน้อยแค่ไหนกันนะ
ปล บางคนบอกว่าทำไมไม่หางานทำไปด้วยเรียนไปด้วย ที่มหาลัยผม จะต้องเข้าหา Advisor อย่างน้อยๆอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ผมว่าถ้าทำงานไปด้วยมันจะไม่เป็นผลดีต่อตัวผม และที่ทำงาาน ที่ผมจะต้องคอยลาอยู่ตลอดเวลาเพื่อมาหาอาจารย์ ผมจึงคิดว่าเรียนอย่างเดียวให้มันรีบๆจบซะดีกว่า (แต่ปัญหาตอนนี้คือ มันไม่น่าจะจบง่ายๆแห๊ะ เฮ้อออออ)
คิดยังไงกับการที่มีคนมาค่อนขอดเราว่า " ไม่ยอมทำงาน เอาแต่เรียน "
เรียนมาได้ 2 ปีแล้ว ใจผมก็อยากจบภายใน 2 ปี เอาเต็มที่ก็ไม่อยากเกินเทอมหน้า แต่ที่ มหาลัยผม ทุกสิ่งอย่างขึ้นอยู่กับ Advisor ทั้งหมด
จนตอนนี้รู้สึกลึกๆว่าน่าจะอีก 1 ปีเต็ม
ผมเรียนเพราะแม่ผมก็สนับสนุน ถึงแม้แม่จะต้องเหนื่อยส่งผมเรียน (แม่ขายก๋วยเตี๋ยว) แต่เวลาผมเห็นแม่ผมตอนที่ผมรับปริญญาตรี แม่ผมดูปลื้ม
ดูภูมิใจ ดูมีความสุขมาก ผมเห็นแบบนั้นผมก็รู้สึกดีนะ ผมก็เรียนยอมเรียนต่อก็ได้อยากเห็นแม่แบบนั้นอีกครั้ง
เอาจริงๆผมเป็นคนขี้เกียจเรียนมากนะ เวลาเรียนไม่ค่อยตั้งใจเรียน ชอบมาเน้นอ่านก่อนสอบ 3-4 วัน แต่ผมก็ยอมทนเรียนปริญญาโทต่อมาได้
จนตอนนี้ cost work หมดแล้ว เหลือแค่ Thesis เท่านั้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น บางทีผมก็รู้สึกว่า "เอ๊ะ ที่ตูเรียนต่อเนี่ย มันใช่รึปล่าววะ ตูทำถูกปะเนี่ย ตูน่าจะทำงานเพื่อให้แม่เลิกขายก๋วยเตี๋ยวไม่ดีกว่าเรอะ"
ที่ผมคิดแบบนั้นก็เพราะว่า คนรอบข้างชอบมาค่อนขอดผม เช่น ลูกพี่ลูกน้องผมคนนึง มาบอกว่า "เอ(นามสมมุติผม) รีบจบมาหางานทำซักทีนะ แม่จะได้เลิกขายได้แล้ว"
หรือ น้าผมอีกคนอยู่ดีดีก็มาพูดอ้อมๆว่า "คนเรามันจะไปเรียนตลอดได้ยังไง มันต้องทำไมหากินคอยเลี้ยงดูครอบครัว เรียนอย่างเดียวจะเอาตังจากไหนมาใช้" ผมเลยนั่งซึมไปเลย ทั้งที่ ผมเคยคิดว่าการเรียนต่อโท นี่มันน่าภูมิใจนะ ทำให้แม่เรามีหน้ามีตาได้นะ ญาติคนอื่นๆในตระกูลควรจะอิจฉาเรา อิจฉาแม่เราสิ ที่มีลูกกำลังจะจบโทคนแรกของตระกูล
แต่ตอนนี้ทำไมผมไม่รู้สึกแบบน้ันแล้ว ผมรู้สึกว่าผมทำผิด ผมควรหางานทำ ทำแบบนี้มันเหมือนเกาะแม่กิน ทำให้แม่ลำบากมากขึ้น
สรุปที่ผมทำอยู่นั้น มันถูกต้องมากน้อยแค่ไหนกันนะ
ปล บางคนบอกว่าทำไมไม่หางานทำไปด้วยเรียนไปด้วย ที่มหาลัยผม จะต้องเข้าหา Advisor อย่างน้อยๆอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ผมว่าถ้าทำงานไปด้วยมันจะไม่เป็นผลดีต่อตัวผม และที่ทำงาาน ที่ผมจะต้องคอยลาอยู่ตลอดเวลาเพื่อมาหาอาจารย์ ผมจึงคิดว่าเรียนอย่างเดียวให้มันรีบๆจบซะดีกว่า (แต่ปัญหาตอนนี้คือ มันไม่น่าจะจบง่ายๆแห๊ะ เฮ้อออออ)