เป็นอุทาหรณ์ให้ระมัดระวังเพิ่มขึ้นนะค่ะ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หน้าบ้านเราเองเลยค่ะ

เมื่อไม่กี่วันก่อน เรากำลังจะเข้าบ้าน ปกติเราจะเข้าข้างบ้านแต่วันนี้เข้าหน้าบ้านเลยเกิดเรื่อง คือ พอเราจอดปุ๊ป คุณแม่ก็เดินไปเปิดประตู เราก็มองไปเอ๊ะมีผู้หญิงคนนึงเดินมาพูดอะไรสักอย่าง แล้วก็ปลี่เข้ามากระชากประตูรถเราทันที โชคดีที่เราสังเกตเห็นว่ามองมาก็เลยรีบกดล็อกประตูแล้วก็แอบมอง คนนั้นก็เดินไปพูดอะไรกับคุณแม่อีกแป๊บ ๆ เราก็มองตาม ช่วงเวลาประมาณนี้ ผู้หญิงคนนั้นเดินไปเดินมาระหว่างประตูบ้านที่คุณแม่ยืนกับประตูรถเราที่พยายามกระชากเปิดประตู


พอได้จังหวะเราก็ถอยยาวเข้าบ้าน แต่ยังไม่ปิดเครื่องและลงจากรถ พอดีได้จังหวะคุณแม่ดึงประตูมาได้ฝั่งนึงพร้อมที่ยืนขวางผู้หญิงคนนั้นไว้นิดนึงแบบพูด ๆ นะ เราก็รีบลงจากรถพร้อมเดินเร็วไปกระชากประตูอีกฝั่งมาปิดได้ทันก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะทันรู้ตัว (คือน่าจะตกใจที่เราทำเร็วมาก) และคุณนายก็ล็อกแม่กุญแจได้ทัน แต่ปิดประตูเหล็กด้านในไม่ทันเพราะพอเราดึงประตูมา ผู้หญิงคนนั้นก็นั่งคุกเข่าแล้วก็ยื่นแขมาในบ้านแบบเกร็งแขนไว้ ถ้าเรากระชากประตูอาจทำแขนหักได้ เลยไม่กล้าทำอะไรมาก ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องไห้ พูดจาไร้สาระ เพ้อเจ้อไม่หยุด


และสักพักก็มีผู้ชายขี่มอเตอร์ไซด์มา 2 คัน จอดพร้อมพูดจาแบบตะโกนว่าเราว่าทำไมไม่เปิดประตูให้น้องเข้าบ้าน ไม่เห็นเหรอว่า ร้องไห้แล้ว เราก็เลยตะโกนกลับไปอีกว่า กำลงโทร 191 เรียกตำรวจมา อย่ายุ่งเพราะผู้หญิงคนนี้เราไม่รู้จักมาสร้างความเดือนร้อน ถ้าอยากเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดก็อยู่ไป ผู้ชาย 2 คนนั้นก็เลยมองหน้ากันแล้วก็ขับไปทันที คราวนี้ผู้หญิงคนนี้ก็ยิ่งโวยวายร้องไห้พูดไม่หยุด (ระหว่างนี้เรายังโทร 191 ซึ่งขอบอกว่า แย่มาก รอสายเกือบครึ่งชั่วโมงไม่สามารถช่วยอะไรเราเลย) เราก็เลยโทรบอกป๊าให้ส่งคนมาช่วยหรือมาช่วยด้วยเพราะค่อนข้างกลัวมาก


สักพักเราก็เลยขึ้นมาข้างบนแบบไม่อยากอยู่ข้างล่างคิดว่าน่าจะปลอดภัยกว่า ที่ไหนได้ กดออดไม่หยุด เขย่าประตู นั่งร้องไห้ แล้วก็เราแอบมอง เห็นผู้หญิงคนนั้นพยายามไขประตูเราอย่างเอาเป็นเอาตาย และร้องไห้พูดพร่ำเพ้อเจอ จนสักพักก็มีผู้หญิงอีกคนเดินมาก็ถามอะไรแป๊บแล้วก็ตะโกนเรียกเราที่ยืนข้างในว่า ทำไมใจร้ายกับพี่แบบนั้นไม่เปิดประตูให้พี่เค้าเข้าบ้านละ ทะเลาะกันเหรอ แม่เราก็เลยตะโกนไปว่า ไม่รู้จักค่ะ ตำรวจกำลังมา ถ้าไม่รู้จักและไม่เกี่ยวข้องอะไร อย่ายุ่งเพราะไม่งั้นจะถือว่าเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนี้และจะจับไปเป็นพยานนะ แค่นั้นเองผู้หญิงคนนั้นก็รีบเดินไปเลย


คราวนี้เราก็เลยยืน ๆ ข้างในรอป๊าพาคนมา แต่ระหว่างนี้ก็ได้ยินเสียงโวยวายและเสียงกระชากประตูแบบพยายามแกะกุญแจคล้องบ้าน สักพักป๊าโทรมาบอกว่ามาถึงแล้ว อยู่ในนั้นไม่ต้องทำไรนะ เดี๋ยวเคลีย์ให้ ป๊าก็เลยไปพูดคุย แบบะสังเกตอาการ สักพักก็มี ผู้ชายขี่มอไซด์รับจ้างมีวอเดินเข้ามาพูดด้วย สักพักใหญ่ก็เริ่มพูดกันว่า เมาหรือเปล่า กินยาอะไรหรือเปล่า แต่ก็เห็นว่าพูดจารู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ผู้ชายขี่มอไซด์น่าจะเป็นอาสาสมัคร ก็เลยวอเรียกตำรวจมาอีกรอบ


จนในที่สุดตำรวจก็มา คราวนี้ผู้หญิงคนนี้ก็เหมือนรนคือ บอกว่าตัวเองเป็นลูกสาวบ้านนี้ หนีไปเที่ยวกลับมาไม่ให้เข้าบ้านอะไรแบบนั้น พอพูดแบบนี้กับตำรวจปุ๊ป ป๊าก็เลยแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบ้านและแม่บ้านที่บ้านโทรแจ้งว่ามีผู้บุกรุกมาสร้างความเดือดร้อนอยู่หน้าบ้าน พอแจ้งให้ตำรวจทราบแบบนั้น ผู้หญิงคนนี้ก็พูดอีกอย่าง เฉไฉไปมา เดินไปเดินมา บอกจำบ้านผิดบ้าง แล้วก็ทำเหมือนไม่รู้เรื่อง พูดจารู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าน อ้างนั้น นี่ นู้น และพูดจารู้เรื่องขึ้นเยอะเลยอะ แต่สุดท้ายพี่ตำรวจและอาสาสมัครก็พาตัวขึ้นรถไปโรงพักสำเร็จ

มันผ่านเฉียดตายมาก เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นประมาณ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น แต่เหมือนเหตุการณ์นานมาก เพราะมันน่ากลัวเหมือนกัน คือ ถ้าเราไม่มอง และมือไม่ไว คิดไม่ออกเลยว่า ถ้าเปิดประตูรถเข้ามาได้เราจะเป็นไง อาจตายหรือโดนจับไปก็ได้ และถ้าเรากับแม่มือไม่เร็วตัดสินใจปิดประตูไม่ไว เกิดผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในบ้านเราได้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้างนะ

จำไว้เถอะค่ะ ลงรถขึ้นรถ รีบล็อกประตูรถให้เร็วและอย่าลืมเด็ดขาด เพราะเกิดอะไรขึ้นมันยังคุ้มครองเราได้ในกรณีที่คนร้ายพยายามจะเปิดประตูรถเรา พยายามตั้งสติทำใจให้ว่าง เรียกสมาธิตั้งสติให้ได้ รับรองจะผ่านเหตุการณ์ร้าย ๆ ได้เหมือนกัน นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าบ้านเราเลยนะเนี่ย

และถ้าเรามีทางเข้าบ้านได้หลายทาง ควรเลือกเปลี่ยนเส้นทางเรื่อย ๆ อย่าไปเส้นทางไหนประจำนะค่ะ เพราะมันจะทำให้เราเป็นอันตรายได้มาก