เรื่องสั้น "มาล่าท้าผีกันเหรอ?"

วันนี้ขอมาลงเรื่องสั้นเรื่องให้ลองได้อ่านกันนะครับ เป็นแนวเบาๆไม่โรคจิต
เหมือนกับเรื่องที่แล้วๆ เป็นเรื่องสั้นที่ผมได้แรงไอเดียมาจากการดูรายการ
"คนอวดผี" เลยลองเรื่องนี้ออกมาดูครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมครับผม




เรื่องสั้น "มาล่าท้าผีกันเหรอ?"



ผมอยู่ในบ้านนี้คน เดียวมานานแล้ว วันๆไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน ผมคอยมองที่้เดินผ่านไปผ่านมาหน้าบ้าน และสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงรีบกันจัง มีอะไรยุ่งขนาดนั้นเชียวเหรอ ผิดกับผมที่อยู๋วันๆอย่างกับคนว่างงานไม่มีอะไรให้ทำมาก


ส่วนอดีตความเป็นมาของตัวผมนั้นเป็นยังไงผมไม่เล่านะ เพราะมันนานมาแล้ว ตอนนี้ความจำผมมันเริ่มเลือนรางไปแล้วเพราะบ้านผมตอนนี้แทบจะไม่มีอะไร เหมือนเดิม จากบ้านน่าอยู่หลังหนึ่งก็กลายเป็นเหมือนซากรอวันทุบทิ้ง


...เพราะตัวผมเป็นผีนี่...


อย่าพึ่งด่าว่าผมบ้าไปแล้วนะ ที่จู่ๆก็ประกาศตัวโต้งๆแบบนี้ ก็จะปิดบังทำไมล่ะในเมื่อผีไม่มีตัวตน ไม่มีใครสนใจ มีแต่คนกลัวว่าจะโดนหลอกถ้าไปไหนตอนกลางคืน ทั้งๆที่บางครั้งผมไปยืนอยู่ตรงหน้าเขาเขายังไม่เห็นหรือสัมผัสผมได้ซักนิด ทำเป็นกลัวไปได้ ผมซะอีกที่กลัวว่าซักวันบ้านที่ผมอยู๋จะถูกขายหรือทุบทอ้งแล้วผมจะไปอยู่ไหน ล่ะ


เห็นไหม ชีวิตผีวันๆมันน่าเศร้าขนาดไหน ผมต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาเป็นสิบปี อย่าคิดว่าผีจะ Connect ถึงกันหมดทุกตัวนะครับ บางตัวเป็นสังคมแต่บางตัวก็เป็นวิญญาณติดที่ อย่างผมไง แต่ผมไม่คอยหลอกเอาชีวิตใครหรอก มันไร้สาระน่ะ


แต่มีอยู่คืนหนึ่ง ตอนกลางดึก ผมเห็นรถประมาณสามสี่คันมาจอดในบ้านผม ข้างๆรถเขียนว่า "รายการล่าท้าผี"


สงสัย คงเป็นพวกถ่ายรายการล่ะมั้ง นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มีใครเข้ามาในบ้าน ถ้าไม่นับพวกเด็กมือบอนที่มาพ่นสีใส่กำแพงบ้านผมนะ คราวนี้มากันเป็นทีม มีดาราที่ผมไม่รู้จักเพราะเป็นดารารุ่นใหม่ๆ (ผีไม่มีทีวีดูอย่าลืมสิ) มาสัมภาษณ์ความรู้สึก ก่อนจะเข้ามาในบ้านผม


"เอ่อ มาคราวนี้รู้สึกเป็นไงบ้างครับน้อง?" พิธีกรถามน้องดาราคนนั้น เธอเป็นผู้หญิงที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะอยากเจอผี สงสัยโดนบังคับมามั้ง


"อ๋อ ตื่นเต้นมากเลยค่ะ แค่บรรยากาศก็รู้สึกขนลุกแล้ว นี่ขนาดยังไม่เข้าไปเลยนะคะเนี่ย!" เธอตอบไป ใจร้ายจังเนาะ ผมยังไม่ทันจะทำอะไรเลยก็เห็นๆอยู่


แต่เอาเถอะ จะมาทำอะไรก็ทำ แต่อย่ามาทำอะไรรุ่มร่ามละกัน


"ตอน นี้เราจะเข้าไปสำรวจห้องที่มีชาวบ้าน เคยเห็นผู้ชายตัวสูงใหญ่ เดินไปเดินมาในห้องนี้นะครับ" พิธีกรชายเดินเข้ามากับน้องดาราเข้ามาในห้องที่อดีตเคยเป็นห้องนอนของผม


ว้า ว! เซอร์ไพรซ์นะเนี่ย มีคนเห็นเราด้วยเหรอ แต่ปกติผมไม่ค่อยได้เข้าไปเดินในห้องนั้นเลยนะ นานๆจะเข้าไปดูอะไรซักหน่อย ผมคอยเดินตามหลังพวกเขาไป คอยดูว่าจะพูดอะไรกันออกมาอีก จะได้เตรียมขำทันเวลา


"ว้ายยยย! พี่คะๆๆๆ หนูเห็นอะไรก็ไม่รู้ผ่านหน้าต่างไปค่ะ!" น้องดาราโพล่งขึ้นมา


อะไรฟะ! เป็นอะไรกันมากมั๊ยเนี่ย ตูยืนอยู่ข้างหลังไม่รู้กันเลยเหรอไง!!!


"ท่าน ผู้ชมครับ ตอนนี้บรรยากาศชวนขนลุกมากเลยครับ..." พิธีกรพยายามจะบิวต์ เออสิ มันต้องน่ากลัวอยู่แล้ว ก็พวกเอ็งมาตอนกลางคืนนี่หว่า ลองมากลางวันสิวะ อะโธ่


ผมเดินตามอยู่นานจนเริ่มเหนื่อยแล้ว แต่ก็ยังอยากรู้ว่าจะเล่นอะไรกันอยู่ดี


"พี่ คะ หนูรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ใกล้ๆเราค่ะ อาจจะอยู่ตรงหน้าเราก็ได้!" น้องดาราพูดแบบไม่สะทกสะท้าน แต่พิธีกรเริ่มสะดุ้งแล้ว (น่าอายจริงๆว่ะ)


"ลืมบอกไปครับ ว่าน้องเขามีสัมผัสพิเศษมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว สามารถสื่อสารกับวิญญาณได้" พิธีกรชายแนะนำสรรพคุณของน้องเขา


ผม เองก็เริ่มจะมีความหวังขึ้นมาแล้วล่ะทันทีที่ได้ยิน บางทีผู้หญิงคนนีอาจจะได้ยินหรือรู้สึกถึงการมีอยู่ของผมขึ้นมาก็ได้ หรือถ้าไม่ มันคงเป็นแค่อุปทนไปเอง


ตอนนี้เขาเอาน้องไปขังไว้ใน อดีตห้องนั่งเล่น "คราวนี้นะครับจะเป็นการทดสอบ ให้น้องเขาอยู่ในห้องที่ได้ชื่อว่า เคยมีคนได้ยินเสียงลึกลับดังออกมาจากห้องตรงนี้ครับ"


เผอิญว่าผมชอบฮัมเพลงน่ะ ถ้าได้ยินก็แสดงว่าคุณหูถึงมาก


"หากอยู่ได้นาน 10 นาที ก็จะผ่านการทดสอบครับ" พิธีกรชายพูดจบก็รีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว


น้อง ดาราคนนี้น่าตาน่ารักทีเดียว เสียแต่ว่าผมเป็นผี ไม่งั้นจีบไปแล้ว เธอนั่งอยู่กลางห้องมองไปทางนั้นทางนี้เหมือนกำลังกังวล แต่มันไม่ใช่อาการกลัวนะ มันคือความกังวล ผมเลยยิ้มตะโกนไปส่งๆเพราะรู็ว่ายังไงเธอก็ไม่ได้ยินหรอก


"ไม่น้องกังวลไปหรอกน่า! ที่นี่มีผีตัวเดียวคือฉันเนี่ยแหละ และฉันก็จะไม่ไปเสียเวลาไปหลอกเธอหรอก"


เธอสะดุ้งขึ้นมา "เอ๊ะ เสียงอะไรน่ะ ใครพูด!?"


เฮ้ย พูดแบบนี้ แสดงว่าเธอได้ยินผมเหรอ "อะไรกัน เธอไม่ยินที่ฉันพูดเหรอเมื่อกี้้เนี่ย"


"ฉันได้ยินเสียงดังมาจากในหัวฉัน คุณเป็นใครกันน่ะ?" เธอกำลังพูดกับผมจริงๆด้วยแฮะ


"ฉันเหรอ ถามได้ ก็เป็นผีน่ะสิ!" ผมตอบไปหน้าด้านๆ "แต่ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ฉันไม่หลอกใครหรอก ไม่มีอารมณ์"


"แล้วใครบอกว่าฉันกลัวล่ะ ฉันดีใจมากกว่าที่คุยกับผีได้" เป็นงั้นไป


"เธอนี่บ้าแน่ๆเลย" ผมอมยิ้มนิดๆ


"จริงๆนะ ฉันว่าเรากลัวผีเพราะเราคุยกันไม่ได้ แต่พอคุยกันได้ฉันก็หายกลัวแล้วล่ะ"


"งั้นเหรอ งั้นก็ดี" ผมตอบไป "เธอชื่ออะไรเหรอ?"


"โบว์" เธอตอบกลับมาทันควัน "แล้วคุณล่ะ?"


"เพชร" ผมตอบไป (คุณรู้ชื่อผมจนได้สิน่า) "โบว์ เธอคิดยังไงถึงมาถ่ายรายการบ้าบอเนี่ย ไม่กลัวเหรอ"


"กลัวสิ แต่จะทำไงได้ล่ะ ก็มันเป็นงานนี่" โบว์ตอบกลับมาอย่างไม่รู้สึกอะไร "ยังไงฉันก็เป็นดารานะ"


"ก็ รู้ แต่งานอื่นมีให้ทำตั้งเยอะ" ผมพูด พลางถอนหายใจ "จะว่าไป ตอนฉันยังมีชีวิตอยู่ มันก็มีรายการแบบนี้ ฉันก็ไปนั่งกลัวมันมาตั้งนาน พอมาตอนนี้ฉันกลับมานั่งเหงาคนเดียว..."


"คุณ...คงอยู่คนเดียวมานานแล้วสินะ" เธอถาม


"ก็เกือบจะสิบปีแล้วล่ะ" ผมตอบ "ฉันล่ะอิจฉาพวกมีชีวิตอยู่อย่างพวกเธอจริจจริ๊ง ได้ทำอะไรตั้งเยอะตั้งแยะ"


"ไม่ หรอกค่ะคุณเพชร บางทีจะมีหรือไม่มีชีวิต อะไรๆมันก็น่าเบื่อทั้งนั้นแหละ" เธอตอบผมกลับมา "เว้นแต่ถ้าคุณอยู่กับมันได้ คุณก็มีความสุขแล้วหล่ะ คุณน่ะ เคยผ่านการมีชีวิตมาแล้วอย่างแท้จริงนะ คุณไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว


แอบอายนิดๆที่ให้คนมีชีวิตมาสอน แต่เธอก็พูดถูก ผมไม่จำเป็นต้องได้อะไรอีกแล้วล่ะ


"ครบ 10 นาทีแล้วล่ะ ได้เวลาออกไปแล้ว" ผมรีบไล่


"ต่อไปนี้คุณคงต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว"


"ฉันชินแล้ว ก็อยู่มาตั้งสิบกว่าปีแล้ว และฉันก็อยู่กับมันได้แล้วด้วยนะ"


เธอเงียบไปพักหนึ่ง


"ดีใจที่ฉันได้ยินคุณนะคะ" เธอบอก


"เหมือนกัน ยินดีที่ได้คุยกัน" ผมตอบไปและยิ้ม แต่เธอไม่เห็นผมหรอก


และทันใดนั้น พิธีกรชายกับตากล้องก็เดินเข้ามารับโบว์ทันที "เอาล่ะครับ น้องผ่านการทดสอบแล้ว ยนดีด้วยครับ"



ต่อมาก็ต้องมาบรรยายความรู้สึกหลังจากไปเผชิญความน่าสะพรึงกลัวมาตามฟอร์ม


"รู้สึกเป็นยังไงบ้างครับกับการทดสอบที่ผ่านมา" พิธีกรชายถาม แต่โบว์ก็ไม่ตอบ และเอาแต่ก้มหน้าอยู่นั่น


"น้องโบว์ครับ" พิธีกรชายเรียกซ้ำ จนกระทั่งโบว์เงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยอ้มสดใส


"เขาเป็นคนนิสัยดีมากเลยค่ะ อัถยาสัยดีมากด้วย ดีใจที่ได้คุยกับเขามากเลยค่ะ!" เธอตอบหน้าตาเฉย เล่นเอาทั้งกองอึ้งไปหมดเลย


ผมก็ได้แต่ขำอยู่คนเดียวที่ชั้นบน





ผ่าน มาหลายเดือน บางครั้งน้องโบว์ผ่านมาที่นี่และเอาของมาวาง บางครั้งก็รูปถ่าย บางครั้งก็ของกินแปลกๆ พิซซ่างี้ ซาลาเปางี้ ผมอยากจะบอกเธอว่าผมไม่ต้องกินก็ได้ แต่หลังจากเหตุการ์ณนั้น เธอก็ไม่ได้ยินที่ผมพูดอีกเลย


ตอนนี้ไม่รุู้ว่าน้องโบว์จะเป็นยังไงบ้าง คงไม่มีใครจ้างไปออกรายการแบบนี้อีกเลยแหงๆ เล่นไปเปลี่ยนอารมณ์รายการเขาซะขนาดนั้น


แต่ก็นี่แหละ เรื่องพิเศษของผีแบบผมที่นานๆจะมีซักครั้ง....








END.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่