ค่ำคืนตื่นฝัน...
"พลันแสงปลายปืนปะทุช่วงทาบทอผืนฟ้า เดือนหงายเจิดจ้าไร้ดาราแข่งรัศมี ผงคลีตลบกลบฟุ้งมืดมิด เสียงหวีดหวิวปลิวปลิดจิตสังหาร ฝูงชนตาเหลือกลานพล่านหาที่หลบ เหตุรบราฆ่าฟันไม่คาดฝัน หนึ่งลั่นหนึ่งร่วงควงถลาดิน สิ้นแสงแผลงสำแดงระเบิดก้อง ผนังห้องเสียหายสูญวายวอด เงาทะมึนทอดร่างลายพรางนับร้อย เด็กน้อยร้องจ้าผวาขวัญ สั่นเทิ้มดุจชีวันถลันพราก กระชากร่างคว้างดั่งไร้แรงขืน เสียงสะอื้นรื้นนัยน์ตาดั่งชีพจะหาไม่ ปีศาจสงครามสั่นให้หวาดหวั่น สะดุ้งตื่นร้องลั่น..."
ฝันอะไรกันนี่?
นับครั้งได้ที่ผมก้าวย่างไปกลางทุ่งสงครามระทึก แน่นอน ตึกเหล่านั้นบรรจงสรรสร้างจากอาคารพาณิชย์ราคาถูก จนกลายเป็นแหล่งบันเทิงที่ใครๆ ก็กำเงินไม่มากเข้าไปแลกความสนุกสนานได้
ห้องแอร์ กระติกน้ำร้อน โซฟา ตู้แช่ และเกมส์ออนไลน์เท่านั้นที่เหล่าวัยรุ่นใฝ่ฝัน มันพัฒนาจากร้านเพลย์สเตชั่นจนมาเป็นร้านอินเตอร์เน็ตและนานาบันเทิง เพียงรอบมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็มีนับร้อยร้าน หรือพูดให้ชัดเจน ไม่น่าต่ำกว่าครึ่งหมื่นเครื่อง เจ้าคอมพิวเตอร์เหล่านี้พร้อมดลบันดาลจินตนาการให้บรรเจิด โลดแล่น ไปกับโลกส่วนตัวและโลกเสมือนจริงทันทีที่หย่อนตัวลงนั่ง
แว่วเสียงฝีเท้าไม่ต่ำกว่าหกคนก้าวเข้ามาในขณะที่ผมกำลังเปิดเว็บกูเกิ้ล
ทันใดนั้น
เด็กร่างผอมสูงถูกกระชากคอเสื้อ แล้วโยนลงพื้นแบบไม่ทันตั้งตัว พลันตีนนับสิบก็ประเคนลงบนร่างที่นอนจนฝุ่นตลบท่ามกลางเสียงกรีดร้องของคนในร้าน เพื่อนที่นั่งสองฝั่งเริ่มตั้งสติได้ ตีนลอยมาจากฝั่งผู้ถูกรุกราน พอเด็กร่างผอมสูงเริ่มยืนได้อีกครั้ง ก็ตามด้วยมหกรรมหมาหมู่ มวยวัด เฟเธอร์เวท เฮฟวี่เวท เวลเตอร์เวท ฟัดกันชนิดไม่สนใจพิกัด หัวโจกทั้งสองฝ่ายดูจะเสมอกัน ซัดกันชนิดไม่มีใครยอมใคร คนดูในร้านระทึก โอ้... เรียลลิสติก สมจริง เซอร์ราวนด์ ในจอยังไงก็ไม่ติดฝุ่น กระทั่ง
"ตำรวจโว้ย ตำรวจ!!!!"
หมาหมู่กลายเป็นเกียร์หมาในเวลาไม่ถึงสามวินาที แตกกระจายกันไปคนละทิศ คู่หนึ่งถึงกับลืมแค้น วิ่งจูงมือกันหวานแหววออกข้างร้านไปชนิดชาตินี้ให้เราเกิดเป็นคู่กัน จังหวะวิ่งพร้อมกันไม่มีผิด ที่เหลือกระเจิง อาสาสมัครร่างสันทัดกลับฝีเท้าดีกว่าเพื่อนอย่างไม่น่าเชื่อ วิ่งไล่รวบลงมาทีเดียวได้ถึงสาม เป็นฝ่ายแดงหนึ่ง ฝ่ายน้ำเงินสอง แล้วพลันเสียงโหวกเหวกก็ลั่นขึ้น
"มันเริ่มก่อน"
"เพราะนั่นแหละ"
" กูนั่งเล่นเกมส์อยู่ดีๆ เข้ามากระทืบกู ไอ้....!!!!"
"พอ ไปๆ ไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก"
ทุกคน(ที่ถูกรวบ)ถูกลากตัวออกไปแบบไม่เต็มใจ ในร้านที่เงียบเสียงเพราะลุ้นอย่างลืมตัว กลับคืนสู่มหกรรมจ้อกแจ้กอีกครั้ง
"ไอ้แว่น

เจ๋งว่ะ ต่อยยังกะมีสามมือ"
"มันตีกันเรื่องอะไรวะ กูงง เข้ามาอยู่ดีๆ ก็ลากไปกระทืบ"
"ไปดูหน้าจอไอ้คนแรกดิ๊ ไปๆ"
"เออว่ะ"
ทุกคนเฮโลมาดูเครื่องต้นเรื่อง
มันเกิดอะไรร้ายแรงหนักหนาถึงขั้นต้องยกพวกตีกันวะ? ทุกคนคิด
แม้ไทยมุงจะเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนพร้อมใจกันมุงดูอย่างผิดหลักประชาธิปไตย ทุกคนล้วนเป็นเสียงข้างมาก คือข้า(กู)ก็อยากมุง แต่งานนี้ทุกคนล้วนหน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แล้วถอยอย่างเงียบๆ เหมือนเขินอายอะไรสักอย่าง ผมงง เฮ้ย? มีแต่ผู้ชายเกินค่อนร้าน เมิงจะเขินอะไรกันนักหนาเหรอ?
ผมค่อยๆ เดินเนิบๆ แบบง่วงๆ เหมือนแมวขี้เกียจเพราะส่องอีเบย์มากเกินไป ตาปรือๆ มองหน้าจอ ก็พลันเบิกโพลงด้วยอาการช็อก ค่อยๆ ถอยออกมาจากหน้าจอด้วยอาการหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
ในจอเป็นห้องแชทของเว็บคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง
"แจกโค้ด DotA2 มาเลย
http://bit.ly/cEHaiP"
"....."
"สาสสสสสสสสสสสสส"
"55555555555555"
"อ๋อ ไอ้เชี่ยนี้

เล่นร้านนี้ประจำ กูจำได้ ตายแน่สัด"
"55555555555555"
บทสนทนาหยุดแค่ตรงนั้นแหละ
แต่เพลงนี้ยังคุ้นในใจ...
----------------------------------
ผมจ่ายเงินกลับบ้านด้วยอาการที่ยังตะลึงไม่หาย เด็กสมัยนี้มันเล่นบ้าบออะไรกัน มันก็แค่คอมพิวเตอร์ เกมส์ออนไลน์ และอินเตอร์เน็ตเองนะ ผมอยู่กับมันมาตั้งแต่ก่อนบางคนที่เป็นแก๊งตะลุมบอนในวันนี้เกิดเสียอีก
ยังไม่เคยคิดทำอะไรแผลงๆ บนโลกไซเบอร์เลย อย่างมากสุดก็แค่เอา PictureSucker ให้เพื่อนตอน ม.1 เท่านั้นแหละ นั่งคิดในใจ โถ... เด็กสมัยนี้
กลับมาถึงบ้าน ไอ้น้องสาวตัวดีนั่งเล่นโน้ตบุ๊คเครื่องใหม่ผมอย่างสนุกสนาน เป็นเด็กเป็นเล็ก แถมเป็นกุนและสตรี ยังจะเล่น FPS อีก น้องเรานี่หนอ ผมเดินไปลูบหัวมัน
"แกทำอะไรไว้ให้พี่กินบ้างวะ"
"อาหารญี่ปุ่นๆๆๆๆ อยู่ในห้องครัวๆๆๆ"
อารามหิวจัดจากสภาวะอะดรีนาลิน นอร์อะดรีนาลิน เอพิเนฟริน และนอร์เอพิเนฟรินหลั่งแทบจะพร้อมกัน ผมเดินกึ่งวิ่งเข้าครัว ไปเจอมาม่าแช่น้ำร้อน อืดได้ที่ ลอยฟ่องอยู่ในชาม ไอ้น้องเวร....
"55555555555555555"
ไม่ต้องรอช้า ผมอดทนกับมันไม่ไหวอีกต่อไป วันก่อนมันก็ต้มผมเสียสุกไปรอบหนึ่ง
ใช่สิ อร่อยนักสินะ ไอ้น้องตัวดี แกนี่มัน!!!!!! ผมหยิบตะเกียบอย่างหิวจัดแล้วสวาปามเข้าไปด้วยความเร่งรีบ จุกติดคอ เสียงปังๆๆๆ ในจอก็กลบเสียงหมีควายตาเหลือกหัวฟาดพื้นไม่ได้
"พี่ เฮ้ย พี่ๆๆๆๆๆ"
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!"
---------------------------------
"พลันแสงปลายปืนปะทุช่วงทาบทอผืนฟ้า เดือนหงายเจิดจ้าไร้ดาราแข่งรัศมี ผงคลีตลบกลบฟุ้งมืดมิด เสียงหวีดหวิวปลิวปลิดจิตสังหาร ฝูงชนตาเหลือกลานพล่านหาที่หลบ เหตุรบราฆ่าฟันไม่คาดฝัน หนึ่งลั่นหนึ่งร่วงควงถลาดิน สิ้นแสงแผลงสำแดงระเบิดก้อง ผนังห้องเสียหายสูญวายวอด เงาทะมึนทอดร่างลายพรางนับร้อย เด็กน้อยร้องจ้าผวาขวัญ สั่นเทิ้มดุจชีวันถลันพราก กระชากร่างคว้างดั่งไร้แรงขืน เสียงสะอื้นรื้นนัยน์ตาดั่งชีพจะหาไม่ ปีศาจสงครามสั่นให้หวาดหวั่น สะดุ้งตื่นร้องลั่น..."
ผมสะดุ้งตื่นจริงจัง ฝันร้ายนั่นกลับมาอีกแล้ว ทั้งที่สายระโยงระยางทั่วตัว แต่รอบนี้สยองกว่าเก่า เพราะคนที่ฆ่ากันตายในฝันนั่นมีแต่เด็กๆ ที่ร้านเจ้าประจำของผมทั้งนั้น ผมส่งเสียงแหบพร่าด้วยความยากลำบากชนิดดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนน้องที่นั่งสัปหงกสะดุ้ง
"พี่ฟื้นแล้วๆ ฮือๆ"
"โอ้ย เจ็บ อย่ากอดแรงนักได้ไหมนี่"
ว่าไปถ้าผมตายเพราะมาม่าติดคอนี่คงอนาถยิ่งกว่าเด็กต่อยกันตายในร้านอินเตอร์เน็ตอีกนะ
---------------------------------
เดือนต่อมา...
ผมเริ่มเดินคล่องแล้ว วันนี้ถึงกับสะเงาะสะแงะไปกลางซอยบ้านได้ มีแผงหนังสือพิมพ์อยู่ ถ้าเดินไปอีกสามซอยก็จะเป็นร้านอินเตอร์เน็ตเจ้าประจำ แต่เฮียเจ้าของแผงบอกว่า
"ร้านไม่เปิดมาหลายวันแล้วล่ะคุณ ว่าแต่ก่อนหน้านี้คุณหายไปไหนมาตั้งเดือน ผมไม่เห็นเลยนะนี่"
จะให้ผมบอกว่ากระไร
สำลักบะหมี่จนเข้าไอซียู? การเสมองไปที่แผงหนังสือพิมพ์คงจะดีกว่าสบตาเจ้าของร้าน
พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทั้งหัวเขียวและบานเย็น ตีข่าวเด็กยิงกันตายในร้านเกมส์ฟอนต์เท่าบ้าน กระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องตัวเองของผมทันที ผมซื้อมาฉบับหนึ่ง สิบบาทแล้วสินะ ไม่มีเงินทอนชั่งน้ำหนักหน้าร้าน กลับบ้านก็ได้ ในใจครุ่นคิดถึงร้านอินเตอร์เน็ตร้านนั้น คงไม่ใช่หรอกน่า ผมคิดมากเกินไป ผมแวะซื้อน้ำเต้าหู้แล้วเข้าบ้าน
ยังไม่ทันหย่อนก้นลงนั่ง เสียงประกาศจากวิทยุก็ทำให้ผมตกอยู่ในภวังค์ และคิดว่าตนหูแว่วไป ผมคว้าขึ้นมาพลิกครึ่งล่างดู ที่นอนแอ้งแม้งนั่นมันไอ้เด็กผอมสูงนี่หว่า ไปดีเถอะน้อง กินข้าวอยู่ดีไม่ว่าดี กินตีนยังไม่อิ่มอีก สงสัยไปก่อวีรกรรมอะไรไว้ซ้ำๆ ซ้อนๆ
ผมพลิกไปอ่านหน้า 19 ตามประสาผู้คงแก่เรียน ต้องอยากรู้อยากเห็นและสนใจไปเสียทุกเรื่อง เนื้อข่าวไม่ผิดจากที่คาดเดาไว้แม้สักนิด
ผมถอนใจยาวๆ อนาคตเยาวชนของชาติเล่นฝากไว้กับคีย์บอร์ดเช่นนี้ แล้วประเทศชาติเราจะเป็นยังไงต่อไป?
ผมไม่รู้จริงๆ
ฝันร้าย
"พลันแสงปลายปืนปะทุช่วงทาบทอผืนฟ้า เดือนหงายเจิดจ้าไร้ดาราแข่งรัศมี ผงคลีตลบกลบฟุ้งมืดมิด เสียงหวีดหวิวปลิวปลิดจิตสังหาร ฝูงชนตาเหลือกลานพล่านหาที่หลบ เหตุรบราฆ่าฟันไม่คาดฝัน หนึ่งลั่นหนึ่งร่วงควงถลาดิน สิ้นแสงแผลงสำแดงระเบิดก้อง ผนังห้องเสียหายสูญวายวอด เงาทะมึนทอดร่างลายพรางนับร้อย เด็กน้อยร้องจ้าผวาขวัญ สั่นเทิ้มดุจชีวันถลันพราก กระชากร่างคว้างดั่งไร้แรงขืน เสียงสะอื้นรื้นนัยน์ตาดั่งชีพจะหาไม่ ปีศาจสงครามสั่นให้หวาดหวั่น สะดุ้งตื่นร้องลั่น..."
ฝันอะไรกันนี่?
นับครั้งได้ที่ผมก้าวย่างไปกลางทุ่งสงครามระทึก แน่นอน ตึกเหล่านั้นบรรจงสรรสร้างจากอาคารพาณิชย์ราคาถูก จนกลายเป็นแหล่งบันเทิงที่ใครๆ ก็กำเงินไม่มากเข้าไปแลกความสนุกสนานได้ ห้องแอร์ กระติกน้ำร้อน โซฟา ตู้แช่ และเกมส์ออนไลน์เท่านั้นที่เหล่าวัยรุ่นใฝ่ฝัน มันพัฒนาจากร้านเพลย์สเตชั่นจนมาเป็นร้านอินเตอร์เน็ตและนานาบันเทิง เพียงรอบมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็มีนับร้อยร้าน หรือพูดให้ชัดเจน ไม่น่าต่ำกว่าครึ่งหมื่นเครื่อง เจ้าคอมพิวเตอร์เหล่านี้พร้อมดลบันดาลจินตนาการให้บรรเจิด โลดแล่น ไปกับโลกส่วนตัวและโลกเสมือนจริงทันทีที่หย่อนตัวลงนั่ง
แว่วเสียงฝีเท้าไม่ต่ำกว่าหกคนก้าวเข้ามาในขณะที่ผมกำลังเปิดเว็บกูเกิ้ล ทันใดนั้น
เด็กร่างผอมสูงถูกกระชากคอเสื้อ แล้วโยนลงพื้นแบบไม่ทันตั้งตัว พลันตีนนับสิบก็ประเคนลงบนร่างที่นอนจนฝุ่นตลบท่ามกลางเสียงกรีดร้องของคนในร้าน เพื่อนที่นั่งสองฝั่งเริ่มตั้งสติได้ ตีนลอยมาจากฝั่งผู้ถูกรุกราน พอเด็กร่างผอมสูงเริ่มยืนได้อีกครั้ง ก็ตามด้วยมหกรรมหมาหมู่ มวยวัด เฟเธอร์เวท เฮฟวี่เวท เวลเตอร์เวท ฟัดกันชนิดไม่สนใจพิกัด หัวโจกทั้งสองฝ่ายดูจะเสมอกัน ซัดกันชนิดไม่มีใครยอมใคร คนดูในร้านระทึก โอ้... เรียลลิสติก สมจริง เซอร์ราวนด์ ในจอยังไงก็ไม่ติดฝุ่น กระทั่ง
"ตำรวจโว้ย ตำรวจ!!!!"
หมาหมู่กลายเป็นเกียร์หมาในเวลาไม่ถึงสามวินาที แตกกระจายกันไปคนละทิศ คู่หนึ่งถึงกับลืมแค้น วิ่งจูงมือกันหวานแหววออกข้างร้านไปชนิดชาตินี้ให้เราเกิดเป็นคู่กัน จังหวะวิ่งพร้อมกันไม่มีผิด ที่เหลือกระเจิง อาสาสมัครร่างสันทัดกลับฝีเท้าดีกว่าเพื่อนอย่างไม่น่าเชื่อ วิ่งไล่รวบลงมาทีเดียวได้ถึงสาม เป็นฝ่ายแดงหนึ่ง ฝ่ายน้ำเงินสอง แล้วพลันเสียงโหวกเหวกก็ลั่นขึ้น
"มันเริ่มก่อน"
"เพราะนั่นแหละ"
" กูนั่งเล่นเกมส์อยู่ดีๆ เข้ามากระทืบกู ไอ้....!!!!"
"พอ ไปๆ ไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก"
ทุกคน(ที่ถูกรวบ)ถูกลากตัวออกไปแบบไม่เต็มใจ ในร้านที่เงียบเสียงเพราะลุ้นอย่างลืมตัว กลับคืนสู่มหกรรมจ้อกแจ้กอีกครั้ง
"ไอ้แว่น
"มันตีกันเรื่องอะไรวะ กูงง เข้ามาอยู่ดีๆ ก็ลากไปกระทืบ"
"ไปดูหน้าจอไอ้คนแรกดิ๊ ไปๆ"
"เออว่ะ"
ทุกคนเฮโลมาดูเครื่องต้นเรื่อง มันเกิดอะไรร้ายแรงหนักหนาถึงขั้นต้องยกพวกตีกันวะ? ทุกคนคิด
แม้ไทยมุงจะเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนพร้อมใจกันมุงดูอย่างผิดหลักประชาธิปไตย ทุกคนล้วนเป็นเสียงข้างมาก คือข้า(กู)ก็อยากมุง แต่งานนี้ทุกคนล้วนหน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แล้วถอยอย่างเงียบๆ เหมือนเขินอายอะไรสักอย่าง ผมงง เฮ้ย? มีแต่ผู้ชายเกินค่อนร้าน เมิงจะเขินอะไรกันนักหนาเหรอ?
ผมค่อยๆ เดินเนิบๆ แบบง่วงๆ เหมือนแมวขี้เกียจเพราะส่องอีเบย์มากเกินไป ตาปรือๆ มองหน้าจอ ก็พลันเบิกโพลงด้วยอาการช็อก ค่อยๆ ถอยออกมาจากหน้าจอด้วยอาการหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
ในจอเป็นห้องแชทของเว็บคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง
"แจกโค้ด DotA2 มาเลย http://bit.ly/cEHaiP"
"....."
"สาสสสสสสสสสสสสส"
"55555555555555"
"อ๋อ ไอ้เชี่ยนี้
"55555555555555"
บทสนทนาหยุดแค่ตรงนั้นแหละ แต่เพลงนี้ยังคุ้นในใจ...
----------------------------------
ผมจ่ายเงินกลับบ้านด้วยอาการที่ยังตะลึงไม่หาย เด็กสมัยนี้มันเล่นบ้าบออะไรกัน มันก็แค่คอมพิวเตอร์ เกมส์ออนไลน์ และอินเตอร์เน็ตเองนะ ผมอยู่กับมันมาตั้งแต่ก่อนบางคนที่เป็นแก๊งตะลุมบอนในวันนี้เกิดเสียอีก ยังไม่เคยคิดทำอะไรแผลงๆ บนโลกไซเบอร์เลย อย่างมากสุดก็แค่เอา PictureSucker ให้เพื่อนตอน ม.1 เท่านั้นแหละ นั่งคิดในใจ โถ... เด็กสมัยนี้
กลับมาถึงบ้าน ไอ้น้องสาวตัวดีนั่งเล่นโน้ตบุ๊คเครื่องใหม่ผมอย่างสนุกสนาน เป็นเด็กเป็นเล็ก แถมเป็นกุนและสตรี ยังจะเล่น FPS อีก น้องเรานี่หนอ ผมเดินไปลูบหัวมัน
"แกทำอะไรไว้ให้พี่กินบ้างวะ"
"อาหารญี่ปุ่นๆๆๆๆ อยู่ในห้องครัวๆๆๆ"
อารามหิวจัดจากสภาวะอะดรีนาลิน นอร์อะดรีนาลิน เอพิเนฟริน และนอร์เอพิเนฟรินหลั่งแทบจะพร้อมกัน ผมเดินกึ่งวิ่งเข้าครัว ไปเจอมาม่าแช่น้ำร้อน อืดได้ที่ ลอยฟ่องอยู่ในชาม ไอ้น้องเวร....
"55555555555555555"
ไม่ต้องรอช้า ผมอดทนกับมันไม่ไหวอีกต่อไป วันก่อนมันก็ต้มผมเสียสุกไปรอบหนึ่ง ใช่สิ อร่อยนักสินะ ไอ้น้องตัวดี แกนี่มัน!!!!!! ผมหยิบตะเกียบอย่างหิวจัดแล้วสวาปามเข้าไปด้วยความเร่งรีบ จุกติดคอ เสียงปังๆๆๆ ในจอก็กลบเสียงหมีควายตาเหลือกหัวฟาดพื้นไม่ได้
"พี่ เฮ้ย พี่ๆๆๆๆๆ"
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!"
---------------------------------
"พลันแสงปลายปืนปะทุช่วงทาบทอผืนฟ้า เดือนหงายเจิดจ้าไร้ดาราแข่งรัศมี ผงคลีตลบกลบฟุ้งมืดมิด เสียงหวีดหวิวปลิวปลิดจิตสังหาร ฝูงชนตาเหลือกลานพล่านหาที่หลบ เหตุรบราฆ่าฟันไม่คาดฝัน หนึ่งลั่นหนึ่งร่วงควงถลาดิน สิ้นแสงแผลงสำแดงระเบิดก้อง ผนังห้องเสียหายสูญวายวอด เงาทะมึนทอดร่างลายพรางนับร้อย เด็กน้อยร้องจ้าผวาขวัญ สั่นเทิ้มดุจชีวันถลันพราก กระชากร่างคว้างดั่งไร้แรงขืน เสียงสะอื้นรื้นนัยน์ตาดั่งชีพจะหาไม่ ปีศาจสงครามสั่นให้หวาดหวั่น สะดุ้งตื่นร้องลั่น..."
ผมสะดุ้งตื่นจริงจัง ฝันร้ายนั่นกลับมาอีกแล้ว ทั้งที่สายระโยงระยางทั่วตัว แต่รอบนี้สยองกว่าเก่า เพราะคนที่ฆ่ากันตายในฝันนั่นมีแต่เด็กๆ ที่ร้านเจ้าประจำของผมทั้งนั้น ผมส่งเสียงแหบพร่าด้วยความยากลำบากชนิดดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนน้องที่นั่งสัปหงกสะดุ้ง
"พี่ฟื้นแล้วๆ ฮือๆ"
"โอ้ย เจ็บ อย่ากอดแรงนักได้ไหมนี่"
ว่าไปถ้าผมตายเพราะมาม่าติดคอนี่คงอนาถยิ่งกว่าเด็กต่อยกันตายในร้านอินเตอร์เน็ตอีกนะ
---------------------------------
เดือนต่อมา...
ผมเริ่มเดินคล่องแล้ว วันนี้ถึงกับสะเงาะสะแงะไปกลางซอยบ้านได้ มีแผงหนังสือพิมพ์อยู่ ถ้าเดินไปอีกสามซอยก็จะเป็นร้านอินเตอร์เน็ตเจ้าประจำ แต่เฮียเจ้าของแผงบอกว่า
"ร้านไม่เปิดมาหลายวันแล้วล่ะคุณ ว่าแต่ก่อนหน้านี้คุณหายไปไหนมาตั้งเดือน ผมไม่เห็นเลยนะนี่"
จะให้ผมบอกว่ากระไร สำลักบะหมี่จนเข้าไอซียู? การเสมองไปที่แผงหนังสือพิมพ์คงจะดีกว่าสบตาเจ้าของร้าน
พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทั้งหัวเขียวและบานเย็น ตีข่าวเด็กยิงกันตายในร้านเกมส์ฟอนต์เท่าบ้าน กระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องตัวเองของผมทันที ผมซื้อมาฉบับหนึ่ง สิบบาทแล้วสินะ ไม่มีเงินทอนชั่งน้ำหนักหน้าร้าน กลับบ้านก็ได้ ในใจครุ่นคิดถึงร้านอินเตอร์เน็ตร้านนั้น คงไม่ใช่หรอกน่า ผมคิดมากเกินไป ผมแวะซื้อน้ำเต้าหู้แล้วเข้าบ้าน
ยังไม่ทันหย่อนก้นลงนั่ง เสียงประกาศจากวิทยุก็ทำให้ผมตกอยู่ในภวังค์ และคิดว่าตนหูแว่วไป ผมคว้าขึ้นมาพลิกครึ่งล่างดู ที่นอนแอ้งแม้งนั่นมันไอ้เด็กผอมสูงนี่หว่า ไปดีเถอะน้อง กินข้าวอยู่ดีไม่ว่าดี กินตีนยังไม่อิ่มอีก สงสัยไปก่อวีรกรรมอะไรไว้ซ้ำๆ ซ้อนๆ
ผมพลิกไปอ่านหน้า 19 ตามประสาผู้คงแก่เรียน ต้องอยากรู้อยากเห็นและสนใจไปเสียทุกเรื่อง เนื้อข่าวไม่ผิดจากที่คาดเดาไว้แม้สักนิด ผมถอนใจยาวๆ อนาคตเยาวชนของชาติเล่นฝากไว้กับคีย์บอร์ดเช่นนี้ แล้วประเทศชาติเราจะเป็นยังไงต่อไป?
ผมไม่รู้จริงๆ