มั่นใจว่า ณเดชน์ FC ทุกคน รักคู่กรรม 2556 แต่คู่กรรม FC ตัวจริงทุกคน เกลียด ภาพยนต์เวอร์ชั่นนี้ ที่สุด ครับ

กระทู้สนทนา
คู่กรรมคืองาน Master pieceของคุณป้าทมยันตี

หลังจากตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 47 ปีก่อน
"คู่กรรม" กระชากอารมณ์ผู้คนทุกคนที่ได้อ่าน จนถูกสร้างเป็นละครเวที ละครโทรทัศน์ เป็นภาพยนต์ มากมายหลายต่อหลายครั้ง และประสบความสำเร็จเกือบทุกครั้ง

ทำไม?...

คู่กรรมเป็นภาพสะท้อนของโลกทัศน์ และความรู้สึกนึกคิดของของเด็กสาวคนหนึ่งชื่ออังศุมาลิน ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

ผู้อ่านทุกคนรักอังศุมาลินครับ

เพราะเธอเป็นเด็กดี เรียนเก่ง เป็นผู้ใหญ่เกินตัว มีความคิดความอ่านฉลาดหลักแหลม แต่กลับมีปมขัดแย้งมากมายในชีวิต จึงทำให้เธอเป็นคนที่น่าสนใจและน่าติดตาม
อังศุมาลินโหยหาความรักจากพ่อซึ่งทิ้งแม่ของเธอไปมีภรรยาใหม่  ทำให้เด็กผู้หญิงอายุ 20 ปี ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวที่มีแต่แม่และยาย ครอบครัวของเธอต้องดิ้นรนเพื่อให้อยู่รอดท่ามกลางภยันตราย ความขาดแคลนและเงินเฟ้ออย่างมโหฬารในยุคสงครามโลก

สำหรับเธอญี่ปุ่นคือผู้รุกราน มาย่ำยีบ้านเมืองของเธอ อังศุมาลินเกลียดชังคนญี่ปุ่น

ทหารญี่ปุ่นชื่อโกโบริ จึงเป็นปมขัดแย้งในชีวิตของเธอ
การรักคนญี่ปุ่นก็เหมือนทรยศต่อประเทศชาติและต่อตนเอง
อังศุมาลินอยากจะเกลียดชายคนนี้ และตั้งใจว่าจะเกลียด แต่ในที่สุดเธอก็รักเขา

วันที่เธอถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องแต่งงานกับโกโบริ
อังศุมาลินไม่รู้ว่าตัวเองดีใจหรือเสียใจ ไม่รู้ว่าตนควรจะรู้สึกอย่างไร
ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองเป็นความรักบนความขัดแย้งภายในจิตใจของตนเอง ท่ามกลางความเกลียดชังของคนทั้งสองชนชาติ

อังศุมาลินยอมรับกับตัวเองว่าเธอรักทหารญี่ปุ่นคนนี้ ในวันที่เขาได้ตายจากเธอไป..

เรามักมองไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่มี จนเมื่อเราได้สูญเสียสิ่งนั้นไป..  

..................................................................................................................................................................  


ต่อไปเป็นความคิดเห็นของผู้ชม คู่กรรม 2556 คนหนึ่ง ผมคิดแบบนี้ ท่านจะเห็นต่างก็ไม่แปลกนะครับ

คู่กรรม 2556 เป็นเวอร์ชั่นที่น่าผิดหวังที่สุด เท่าที่ผู้เขียนเคยชมมา ทั้งที่เป็นภาพยนต์และละครโทรทัศน์

ความล้มเหลวที่สุดของเวอร์ชั่นนี้ คือ บทภาพยนต์ครับ
เป็นจุดอ่อนเดิมๆ ของภาพยนต์ไทย ที่ "มีตัง แต่คิดน้อย"
เน้นดารา เน้นโปรโมท เน้นภาพสวย แต่บทอ่อน ดูแล้วเพลียสุดๆ

เปิดฉากมาก็ผิดตั้งแต่ต้นแล้วครับ
เรื่องราวในยุคสงครามโลก เป็นแผลเป็น เป็นความชอกช้ำที่ลืมไม่ลงของคนทั้งโลก แต่ผู้สร้างคงจะไม่อยากซีเรียส จึงเปิดฉากด้วยการ์ตูนและเพลงน่ารักๆสไตล์ญี่ปุ่น?!?

เรื่องบางเรื่องทำให้น่ารักได้ แล้วแต่มุมมองและการตีความ แต่เรื่องบางเรื่อง เช่น สงครามโลก นาซีฆ่าคนยิว อยุธยาแตก พ่อตาย ญาติเสีย ฯลฯ เรื่องราวเหล่านี้ขำไม่ออกครับ ไม่ทราบว่าโปรดิวเซอร์เกิดในยุคไหน เคยอ่านประวัติศาสตร์บ้างหรือเปล่า? น้องเรียนจบมาจากไหนอะอยากรู้จัง?

สรุปว่าเปิดฉากมา คุณทำ mood ของหนังเสียตั้งแต่ 1นาทีแรกแล้วครับ

ความผิดพลาดที่ยอมรับไม่ได้ในเรื่องนี้คือ อังศุมาลินครับ (ว่าบทนะครับ ไม่ได้ว่านักแสดง)
อย่างที่เรียนให้ทราบในช่วงแรก เสน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ที่ปมความขัดแย้ง
ผู้สร้างจะเน้นณเดชน์ จะขายณเดชน์นั้นเราเข้าใจครับว่าเป็นเรื่องของการตลาด
แต่เอาให้ชัดว่าคุณจะเล่าเรื่องผ่านมุมมองของใคร?

ทมยันตีเล่าเรื่องผ่านสายตาของอังศุมาลิน
จึงบรรยายความคิด ความรู้สึกของอังศุมาลินอย่างชัดเจน
ถ้าหนังจะขาย ณเดชน์ ก็ควรจะเล่าเรื่องผ่านมุมมองของโกโบริ ว่าเขารู้สึกอย่างไร คิดอะไร ทำไม่ถึงไปรักผู้หญิงคนนี้ได้ นิยายทุกเรื่องจะน่าติดตามเมื่อมีปมขัดแย้ง โกโบริมีปมอะไร คุณสื่อให้ชัด เพื่อให้น่าติดตาม

แต่สิ่งที่คุณทำคือ ขายความน่ารักของณเดชน์ โกโบริในเวอร์ชั่นนี้จึงดูเป็นเด็กหนุ่มญี่ปุ่น มาซ่อมเรือในเมืองไทย มีความน่ารัก สนุกสนาน ร่าเริง ตลก คิ๊กขุซัง แต่ขาดความลึก ไม่มีที่มาที่ไป รักผู้หญิง แต่ผู้หญิงไม่รัก ก็เลยเสียใจ

ทำไมช่างตื้นเขินได้ขนาดนี้?

บทที่คุณมองข้ามไม่ได้เป็นอันขาดคืออังศุมาลินครับ
จากเด็กสาวที่ฉลาด มีความคิดอ่าน มีปมด้อยเรื่องพ่อ มีความขัดแย้งภายใน
ต้องแต่งงานกับศัตรูของชาติ พ่ายแพ้ให้กับความรัก
กลายเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาดี บ้านอยู่ริมคลอง ทำหน้างอตลอดเวลาโดยไม่ทราบสาเหตุ
พูดจาห้วนๆกับทุกคนรวมทั้งแม่ตัวเอง ไม่มีบทไหนที่แสดงว่าเธอเป็นคนฉลาด
ไม่มีตอนไหนที่อธิบายว่าในที่สุดเธอรักโกโบริได้อย่างไร(ขออภัยครับดูไม่จบเรื่อง)

อังศุมาลินในเวอร์ชั่นนี้จึงแบนแต๊ดแต๋ ไม่มีความลึก ไม่น่าสนใจ
ดูแล้วเหมือนเด็กออติสติก หรือเด็กมีปัญหาทางบ้านไม่ค่อยได้รับการอบรมมารยาท

คุณเอาเหตุการณ์ต่างๆในนิยายมาถ่ายๆ แล้วก็เอามาเรียงๆกัน โดยขาดอารมณ์ต่อเนื่อง ฉากแต่ละฉากควรจะอธิบาย หรือสร้างอารมณ์ซึ่งกันและกัน แต่คุณทำเหมือนเด็ก ม. 1 เล่นละครหน้าชั้นเรียน แต่มีทุนมากหน่อย เลยมีตังจ้างณเดชน์และสร้างฉากออกมาดูดีหน่อย ที่เลวร้ายคือดนตรีประกอบครับ ดนตรีประกอบภาพยนต์ควรจะช่วยส่งเสริมอารมณ์ของหนัง ดนตรีประกอบที่ดีจะสร้างอารมณ์ ผู้ชมจะได้ยินโดยไม่รู้ตัวเพราะดนตรีจะกลมกลืนไปกับหนัง ไม่ใช่โผล่โพล่งขึ้นมาเหมือนใครลืมปิดวิทยุแบบนี้

ก่อนจบความคิดเห็นขอชมณเดชน์นะครับว่าคุณทำการบ้านมาอย่างดีเรื่อง
การพูดภาษาไทยสำเนียงญี่ปุ่น คุณทำได้ดีที่สุดแล้วเท่าที่บทภาพยนต์อำนวย
น้องริชชี่กับบทอังศุมาลิน ไม่ใช่ความผิดของนู๋นะจ้ะ เพราะบทมันเป็นแบบนี้นู๋ก็ต้องเล่นไปตามบท
บทมันแบนต่อให้จ้างดาราระดับออสก้ามาเล่น ก็คงได้ประมาณนี้แหละครับ

จบละ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่