สวัสดีครับ ผมมีเรื่องจะมาเล่าเป็นประสบการณ์ให้กับคนที่เดินทางไปไหนมาไหนบ่อยๆนะครับ เผื่อเรื่องของผมจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับใครหลายๆคนได้ ก่อนอื่นเลยผมขอบอกว่า ผมเป็นนักเรียนที่จีน และผมต้องเดินทางไปกลับไทยก็บ่อยๆอยู่เหมือนกัน ผมขอพูดถึงเรื่องราวเลยนะครับ
คือผมเรียนอยู่ที่เมืองหังโจว กลับไทยครั้งล่าสุดตอนวันที่ 23 กุมภา 2556 แล้วกลับมาจีนวันที่ 11 มีนา 2556 คือตอนที่ผมกลับจากไทยมาจีน ผมแวะที่ฮ่องกงก่อน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็เข้าฮ่องกงได้ตามปกติ จากฮ่องกงกลับมาหังโจวก็ไม่มีปัญหาอะไร พอผ่าน ตม. ผมก็เก็บpassport โดยที่ไม่ได้เช็คอะไร (เพราะปกติผมไม่เคยดูเลย) ผมก็คิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิดอย่างเดียวว่าไม่อยากกลับมาจีน เพราะคิดอย่างนี้ทุกเทอม ฮ่าๆๆ
แต่เรื่องมันเกิดตรงนี้ครับ เพราะวันที่ 3 เมษา 2556 ผมต้องกลับไทยอีกรอบเผื่อไปบวช ผมก็จองตั๋ว เครื่องบินเหมือนเดิมทุกอย่าง จองวัน จ่ายเงิน เหมือนปกติ แต่ต้องไปขึ้นเครื่องที่เซี่ยงไฮ้ (ห่างจากหังโจว180) ผมก็นั่งรถไฟมา ตอนนั้นผมมาตัวป่าวเลย เพราะว่ากลับไปบวชไม่นาน ประมานหนึ่งอาทิตย์ เลยไม่ได้เอากระเป๋าหรือของไรกลับเลย แม้แต่ที่ชาตไอโฟน (สำคัญมากก ฮ่าๆ) ผมไปถึงที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ ประมานบ่ายสาม ซึ่งflight บินของผมตอนนั้นคือ 17.25 ผมก็เข้าไปเช็คอินเผื่อรับตั๋ว พอตอนที่ยื่นpassport ไป เขาก็ถามผมว่า วีซ่าของผมไปไหน คือผมก็เลยเปิดหา ทั้งวีซ่าเข้าประเทศ และวีซ่านักเรียนก็หายหมดเลย ผมก็ตกใจมากว่าหายไปไหน และพอสังเกตดีๆ พาสปอตอ่ะครับมันจะมีเลขหน้าบอกตรงมุมขวามบน หน้า9-12มันหายไปเหมือนมีคนดึงออกไป ซึ่งมันเป็นหน้าที่วีซ่าผมอยู่ ที่นี้ทำไงหล่ะ ผม เอ๋อไปเลย ตอนนั้น คิดไม่ออกเลยต้องทำไง เพราะมันไม่ออกตั๋วให้ ผมบินวันนั้นไม่ได้ ตอนนั้นนี้แบบคิดถึงวันพรุ้งนี้ที่เราต้องเดินทางต่อ คิดถึงวันที่ต้องไปบวช ต้องเลื่อนออกไปหมดเลย ทั้งๆที่ที่บ้านจัดเตรียมหมดแล้ว พอตั้งสติได้ก็ถามว่าต้องทำไง พนักงานมันก็บอกว่าต้องไปติดต่อสถานกุงสุลไทยที่จีน แต่วันนี้ปิดเพราะเป็นวันเชงเม้งเปิดอีกที่วันที่ 5 คือผมต้องรออีกสองวันหรอเนี่ยย ตอนนั้นแบตไอโฟนก็จะหมดคือติดต่อใครแทบไม่ได้เลย ดีที่เจอร้านขายที่ชาร์ทในสนามบินเลยต้องซื้อและชาตแบต ผมพยายามติดต่อเพื่อนที่หังโจวให้มาช่วย ก็เลยต้องค้างที่เซี่ยงไฮ้สองคืน ทั้งๆที่ไม่มีเสื้อผ้าหรือของใช้เลย ต้องไปหาซื้อ พอถึงวันที่ 5 (วันนี้เลย) ผมก็ไปกงสุลไทยผมคิดว่าผมคงได้กลับวันนั้น พี่ที่นั่นดีมากเลย เขาช่วยผมทุกอย่าง แต่ผมก็ต้องกลับไปทำวีซ่านักเรียนที่หังโจวใหม่อยู่ดี ซึ่งมันเปิดวันที่เจ็ด กำหนดการบวชผมวันที่เจ็ด ตอนนั้นคือไม่มีหวังได้กลับไปบวชทันแล้วอ่ะ ผมแบบเซงมากก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ก็ต้องยกเลิกการบวชไปเลย เพราะวีซ่ามันต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์ และหลังจากนั้นผมก็ไม่มีเวลาว่างแล้ว
ที่ผมมาเล่าเรื่องนี้นะครับ อยากจะบอกคนที่เดินทางไปจีน หรือ ประเทศอื่นด้วย ให้เช็ตวีซ่าทุกครั้ง ว่าหายไหม เขาปั้มให้เราไหม เช็คตรงนั้นเลย เพราะไม่งั้นอาจเป็นแบบผม ที่ไม่ได้ตรวจดูให้ละเอียด ต้องเสียเวลา เสียการบวช เสียทั้งเงิน หลายๆอย่าง เรื่องของผมอาจช่วยให้ทุกๆมีประสบการณ์ ไม่มากก็น้อยนะครับ
ปล. ไม่รู้เป็นมารผจญก่อนบวชพระใหญ่ป่าวก็ไม่รู้ๆ - -
ระวัง!! สำหรับคนเดินทางง
คือผมเรียนอยู่ที่เมืองหังโจว กลับไทยครั้งล่าสุดตอนวันที่ 23 กุมภา 2556 แล้วกลับมาจีนวันที่ 11 มีนา 2556 คือตอนที่ผมกลับจากไทยมาจีน ผมแวะที่ฮ่องกงก่อน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็เข้าฮ่องกงได้ตามปกติ จากฮ่องกงกลับมาหังโจวก็ไม่มีปัญหาอะไร พอผ่าน ตม. ผมก็เก็บpassport โดยที่ไม่ได้เช็คอะไร (เพราะปกติผมไม่เคยดูเลย) ผมก็คิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิดอย่างเดียวว่าไม่อยากกลับมาจีน เพราะคิดอย่างนี้ทุกเทอม ฮ่าๆๆ
แต่เรื่องมันเกิดตรงนี้ครับ เพราะวันที่ 3 เมษา 2556 ผมต้องกลับไทยอีกรอบเผื่อไปบวช ผมก็จองตั๋ว เครื่องบินเหมือนเดิมทุกอย่าง จองวัน จ่ายเงิน เหมือนปกติ แต่ต้องไปขึ้นเครื่องที่เซี่ยงไฮ้ (ห่างจากหังโจว180) ผมก็นั่งรถไฟมา ตอนนั้นผมมาตัวป่าวเลย เพราะว่ากลับไปบวชไม่นาน ประมานหนึ่งอาทิตย์ เลยไม่ได้เอากระเป๋าหรือของไรกลับเลย แม้แต่ที่ชาตไอโฟน (สำคัญมากก ฮ่าๆ) ผมไปถึงที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ ประมานบ่ายสาม ซึ่งflight บินของผมตอนนั้นคือ 17.25 ผมก็เข้าไปเช็คอินเผื่อรับตั๋ว พอตอนที่ยื่นpassport ไป เขาก็ถามผมว่า วีซ่าของผมไปไหน คือผมก็เลยเปิดหา ทั้งวีซ่าเข้าประเทศ และวีซ่านักเรียนก็หายหมดเลย ผมก็ตกใจมากว่าหายไปไหน และพอสังเกตดีๆ พาสปอตอ่ะครับมันจะมีเลขหน้าบอกตรงมุมขวามบน หน้า9-12มันหายไปเหมือนมีคนดึงออกไป ซึ่งมันเป็นหน้าที่วีซ่าผมอยู่ ที่นี้ทำไงหล่ะ ผม เอ๋อไปเลย ตอนนั้น คิดไม่ออกเลยต้องทำไง เพราะมันไม่ออกตั๋วให้ ผมบินวันนั้นไม่ได้ ตอนนั้นนี้แบบคิดถึงวันพรุ้งนี้ที่เราต้องเดินทางต่อ คิดถึงวันที่ต้องไปบวช ต้องเลื่อนออกไปหมดเลย ทั้งๆที่ที่บ้านจัดเตรียมหมดแล้ว พอตั้งสติได้ก็ถามว่าต้องทำไง พนักงานมันก็บอกว่าต้องไปติดต่อสถานกุงสุลไทยที่จีน แต่วันนี้ปิดเพราะเป็นวันเชงเม้งเปิดอีกที่วันที่ 5 คือผมต้องรออีกสองวันหรอเนี่ยย ตอนนั้นแบตไอโฟนก็จะหมดคือติดต่อใครแทบไม่ได้เลย ดีที่เจอร้านขายที่ชาร์ทในสนามบินเลยต้องซื้อและชาตแบต ผมพยายามติดต่อเพื่อนที่หังโจวให้มาช่วย ก็เลยต้องค้างที่เซี่ยงไฮ้สองคืน ทั้งๆที่ไม่มีเสื้อผ้าหรือของใช้เลย ต้องไปหาซื้อ พอถึงวันที่ 5 (วันนี้เลย) ผมก็ไปกงสุลไทยผมคิดว่าผมคงได้กลับวันนั้น พี่ที่นั่นดีมากเลย เขาช่วยผมทุกอย่าง แต่ผมก็ต้องกลับไปทำวีซ่านักเรียนที่หังโจวใหม่อยู่ดี ซึ่งมันเปิดวันที่เจ็ด กำหนดการบวชผมวันที่เจ็ด ตอนนั้นคือไม่มีหวังได้กลับไปบวชทันแล้วอ่ะ ผมแบบเซงมากก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ก็ต้องยกเลิกการบวชไปเลย เพราะวีซ่ามันต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์ และหลังจากนั้นผมก็ไม่มีเวลาว่างแล้ว
ที่ผมมาเล่าเรื่องนี้นะครับ อยากจะบอกคนที่เดินทางไปจีน หรือ ประเทศอื่นด้วย ให้เช็ตวีซ่าทุกครั้ง ว่าหายไหม เขาปั้มให้เราไหม เช็คตรงนั้นเลย เพราะไม่งั้นอาจเป็นแบบผม ที่ไม่ได้ตรวจดูให้ละเอียด ต้องเสียเวลา เสียการบวช เสียทั้งเงิน หลายๆอย่าง เรื่องของผมอาจช่วยให้ทุกๆมีประสบการณ์ ไม่มากก็น้อยนะครับ
ปล. ไม่รู้เป็นมารผจญก่อนบวชพระใหญ่ป่าวก็ไม่รู้ๆ - -