บทที่ 2
ภายในใจวนเวียน เฝ้าคิดถึงเพียงเธอ
วันเวลาผ่านไป โอมก็เริ่มเรียนไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจต่อสิ่งใดเว้นเสียแต่คนที่ตัวเองรักมากที่สุดเท่านั้นเอง ได้แต่คิดไปคิดมาว่าจะทำยังไงดี คำถามนั้นยังวนเวียนกลับมาที่เดิม ว่าเราจะกลับหาเขาจริงๆ เหรอ ความคิดของโอมจึงแยกออกเป็น 2 ส่วนซึ่งก็ขัดแย้งกันเองอยู่ตลอดเวลา “เป็นควายเหรอ ถูกเค้าทิ้งแล้วจะกลับไปหาเค้าเนี่ย” “แต่เรายังรักพี่เค้าอยู่นะ ตอนนี้เค้าไม่มีใครแล้วด้วย เรายังคิดถึงพี่เค้าอยู่ตลอดเวลาเลยนะ” “เหรอ กลับไปให้เค้าทิ้งอีก เจ็บอีกใช่มั้ย จำวันที่เค้าบอกเลิกนายได้มั้ยว่าสีหน้าเค้าเป็นยังไง คิดที่จะรู้สึกผิดบ้างมั้ย อย่าโง่” “เรายอมโง่นะ ที่ได้กลับไปเห็นหน้าเค้าอีก” ความคิดของโอมได้ชนกันไปจนสับสนวุ่นวายจนกระทั่งหลับไป
หลังเลิกเรียนเสร็จโอมก็เหลือบไปเห็นบาสเดินท่อมๆมองๆอยู่ บริเวณหน้าอาคารเรียน และได้คุยกับรุ่นพี่ในคณะคนหนึ่ง
“เฮ้ย ต่อ วันนี้โอมเป็นไงบ้างวะ เค้าเครียดเรื่องไรป่ะ” บาสถามต่อเพื่อนจากโรงเรียนเดิม ที่รูปร่างหน้าตาดี ผิวเข้ม
“โหย กลิ่นบุหรี่หึ่งเลยนะแก เพลาๆหน่อยดิวะ น้องเค้าก็เหมือนเดิม แกจะถามหาพระแสงอะไรทุกวันวะ ไม่ทำการทำงานบ้างหรือไง” ต่อเริ่มรำคาญ
“เอาน่า ก็ฉันอยากรู้ว่าน้องเค้าเป็นยังไงบ้างก็เท่านั้นเอง” บาสบอกต่อ
“อยากกลับไปคบเค้าก็บอกมาเถอะน่า ไงล่ะทีตอนเค้าอยู่ด้วยไม่ยอมสนใจ ทีตอนเค้าไปอยากให้เค้ากลับมาหา เนี่ยล่ะนะคนเรา” ต่อเริ่มบ่น
“อย่าซ้ำเติมเราได้ไหม แค่นี้มันยังเจ็บไม่พออีกหรือไง” บาสพูดน้ำตาเริ่มคลอเบ้า
“บาส บาสใจเย็นๆนะ ฉันขอโทษ ลืมตัวไปไม่น่าพูดออกมาเลย ใจเย็นๆนะ” ต่อพยายามปลอบเพื่อไม่ให้บาสปล่อยโฮออกมา เพราะมีคนอยู่มาก
“งั้นเราไปก่อนนะ ขอโทษด้วยนะที่รบกวนเวลาของแก วันหลังฉันไม่มาแล้วล่ะ” บาสพูด
“ไม่เอาน่า อย่าพูดแบบนั้นสิ เราเป็นเพื่อนกันนะ แกก็รู้ว่าฉันก็ชอบบ่นอยู่แบบนี้บ่อยๆ อย่าถือสาเลยนะ แกจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ฉันจะไม่บ่นไม่ว่าอะไรแล้ว สัญญาๆ” ต่อพูดเพราะกลัวบาสน้อยใจ
“ขอบใจมากๆ นะ” บาสพูดแล้วก็เดินจากไป
หลังจากที่บาสเดินออกไปพ้นสายตาแล้ว โอมจึงรีบเดินไปถามต่อซึ่งเป็นรุ่นพี่ในคณะที่บาสมาคุยด้วยทุกวัน
“พี่ต่อครับ นั่นใช่พี่บาสป่ะครับ” โอมถามอย่างใจจดใจจ่อ
“เออ ไม่ใช่ๆ แกคงตาฝาดไปเองอ่ะ ทำไมคิดถึงมันมากเหรอยังไง” ต่อพยายามโกหกโอม
“เหรอครับ” โอมพูด และยังคงสงสัยอยู่
“อืมๆ” ต่อพูดแล้วก็กลอกตาไปมา
“พี่ครับ พี่อย่าโกหกผมนะครับ พี่เป็นพี่คนเดียวที่ผมไว้ใจที่สุดนะครับ” โอมพูด เพราะต่อเคยเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเดิมที่รักและเอ็นดูโอมเหมือนน้องชายของตัวเอง เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน และต่อก็เป็นแบบเดียวกับโอม
“คือ คือว่า” ต่ออ้ำอึ้งๆ เพราะได้รับปากกับบาสไว้แล้ว ไม่อยากเสียคำพูด จึงลำบากใจที่จะพูด
“เออ วันนั้นฉันไปเจอมัน มันถามฉันว่าแกเรียนที่นี่ด้วยเหรอ ฉันก็บอกว่าใช่” ต่อพูดประโยคเดียว
“แค่นี้เหรอครับ” โอมถามเพื่อยืนยัน
“เออ แค่นี้ล่ะ เดี๋ยวพี่ไปทำงานก่อนนะ งานเยอะมากเลยช่วงนี้” ต่อพูดแล้วรีบเดินจากไป
โอมเริ่มสงสัยกับคำพูดและพฤติกรรมของต่อ เหมือนต่อมีอะไรที่ปกปิดอะไรบางอย่างกับตัวเอง เพราะคนที่เห็นนั้นเป็นบาสแน่นอน โอมยังจำได้อย่างถนัดตา และไม่มีวันลืมง่ายๆ แต่เค้าโกหกเราทำไม นี่เค้าจะเล่นลูกไม้อะไรกับเราอีกเนี่ย เค้าต้องการอะไรจากเราอีก เราให้เค้าไปหมดทุกอย่างแล้วนะ แล้วเค้าก็ทิ้งมันไปหมดแล้ว แล้วตอนนี้เค้าต้องการอะไรอีกนะ โอมคิดระหว่างทางที่เดินกลับหอพัก แล้วก็เจอผู้ชายคนหนึ่ง นั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนข้างทาง โอมเหลือบไปเห็น บาสนั่นเอง กำลังนั่งอยู่ในท่าที่เหมือนคนกำลังสิ้นหวัง แล้วค่อยๆมองมาที่โอมที่กำลังเดินผ่านไป
“โอม วันนี้เหนื่อยมั้ยครับ” บาสทักขึ้นมา โอมที่กำลังเดินอยู่ก็หยุดอีกครั้ง
“อย่าหักโหมมากนะครับ พี่เป็นห่วงนะ นี่แค่ปี 1 เองนะเดี๋ยวต้องเจออะไรมากกว่านี้อีก” บาสพูดแนะนำ
“ครับ ขอบคุณนะครับ แล้วพี่มาทำอะไรแถวนี้ล่ะครับ” โอมพยายามข่มใจพูดและถามอย่างสงสัย
“พี่ก็มาเดินเล่นแก้เครียดไปก็เท่านั้นล่ะครับ วันนี้พี่เหนื่อยแล้วก็เครียดมากด้วยอ่ะครับ พี่นั่งแถวนี้แล้วรู้สึกผ่อนคลายมาบ้างอ่ะครับ” บาสพูดด้วยสายตาที่เศร้าหมองเหมือนคนที่ไม่ได้นอนมาหลายวัน
“ดูพี่ไม่ค่อยสบายนะครับ” โอมทักขึ้นตามสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อเห็นหน้าบาสซีดไป ในขณะนี้ความคิดของโอมที่จะเดินจากไปก็หายไปกลายเป็นความเป็นห่วงบาสขึ้นมาแทน เพราะโอมทนเห็นสภาพอดีตคนรักของตัวเองเป็นแบบนี้ไม่ได้
“ป่าวนี่ครับ พี่สบายดี” บาสโกหกเพื่อให้โอมสบายใจ จากนั้นโอมก็ได้กลิ่นเหมือนบุหรี่ออกมาจากปากบาส
“พี่สูบบุหรี่อีกแล้วเหรอครับ ไหนบอกว่าเลิกแล้วไงครับ” โอมถามอย่างสงสัย
“พี่ทนไม่ได้จริงๆ บางครั้งก็อยากจะหลุดออกไปจากความเป็นจริงบ้างก็ดีนะ จะได้ลืมเรื่องอะไรๆได้บ้าง” บาสพูด
“ถ้าพี่อยากจะทำร้ายตัวเอง โอมไม่มีสิทธิไปห้ามพี่ได้หรอกนะครับ แต่พี่จำไว้ว่าพี่ได้ทำร้ายคนที่เป็นห่วงพี่ด้วยนะครับ” โอมพูด อย่างเป็นห่วง บาสเริ่มยิ้ม
“ขอบคุณนะครับ ที่ยังเป็นห่วงพี่อยู่ พี่นี่มันแย่จริงๆนะครับ ตอนนี้สิ่งที่พี่ทำไป มันกำลังจะกลับมาเอาคืนพี่แล้วล่ะ” บาสพูดอย่างรู้สึกผิด เพราะตั้งแต่บาสเลิกกับคนนั้นไป แล้วก็ได้เห็นหน้าโอมอีกครั้งภาพเก่าๆ ที่บาสได้ทำไว้ก็กลับหวนกลับเข้ามา ทำให้กลายเป็นความรู้สึกที่จะมาครอบงำ และทำร้ายตัวเองแทน จึงเกิดความละอายใจที่จะให้โอมเห็นหน้าคนเลวๆ อย่างตัวเองตลอดเวลา
“พี่บาสครับ” โอมถาม ทำให้บาสตื่นขึ้นจากภวังค์
“โอม พี่ขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน ไว้เจอกันใหม่นะครับ” บาส กล่าวลา
“แล้วพี่จะกลับยังไงครับ หอพี่อยู่ตั้งไกล แล้วดูพี่สบายเลยนะครับ ไปหาหมอมั้ยครับ เดี๋ยวโอมไปส่ง” โอมถามอย่างเป็นห่วง
“ดูสิโอมยังเป็นห่วงพี่เหมือนเดิม พี่ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่เดินมาได้พี่ก็เดินกลับได้เหมือนกัน ไม่ต้องเป็นห่วงนะ” บาสพูดแล้วเดินกลับ โดยไม่หันกลับมามองโอมอีก เพราะตอนนี้น้ำในตามันไหลออกมาแล้ว ระหว่างทางที่เดิน บาสเดินไปอย่างรู้สึกผิด ปล่อยน้ำตาให้ไหลลงไปกับพื้นดินทีละหยดๆ แสดงว่าตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมานี้เค้าไม่เลิกที่จะหยุดคิดถึงเราอย่างนั้นเลยหรือ ทำไมนะ เรามันเลวขนาดนี้ทำไมเค้ายังเป็นห่วงเราอีก เราจะทำตัวยังไงดีนะ เราอยากจะเห็นหน้าเค้าเพื่อที่จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้น แต่เมื่อเห็นเค้ามาเป็นห่วงเราทำให้เราไม่อยากอยู่ใกล้เค้าเลย เราจะทำยังไงดีนะ บาสสับสนกับตัวเองน้ำตายังไหลออกมาเรื่อยๆเมื่อมาถึงหอพัก เมื่อถึงหอพักก็รีบหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบด้วยมือที่สั่น แล้วก็เห็นภาพที่ตัวเองบอกเลิกโอม น้ำตาของโอมที่ไหลออกมาพร้อมกับสายฝน คำขอร้องอ้อนวอนให้กลับมาเป็นเป็นเหมือนเดิมดังก้องขึ้น โดยที่ตัวเองไม่เคยสนใจใยดีอะไรเลย น้ำตาที่ไหลพรั่งพรูมากับความรู้สึกผิด นี่เราทำกับคนที่เรารักได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ ก้นบุหรี่ ถูกทิ้งลงไปในที่เขี่ยบุหรี่มวนแล้วมวนเล่า
พอถึงรุ่งเช้า บาสก็ได้เข้าไปเรียนตามปกติ แต่ไปเรียนแบบไม่มีชีวิตจิตใจ ไม่มีการตอบสนอง หรือสนใจต่อสิ่งรอบตัว
“คุณธีรธัช คุณธีรธัช” อาจารย์เรียกบาส เพื่อให้บาสรู้สึกตัว บาสก็ได้ยินก็ถึงกับสะดุ้ง แล้วหันมามองอาจารย์
“เป็นอะไรหรือเปล่า นั่งเหม่อลอยตั้งแต่เริ่มเรียนแล้วนะ” อาจารย์ถามอย่างเป็นห่วง
“คือ ผม ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ” บาสตอบอย่างโกหก
“เหรอ หลังเลิกเรียนมาพบผมด้วยล่ะ” อาจารย์นัดพบบาส
“ครับ” บาสตอบตกลง
หลังจากเลิกเรียนแล้ว บาสรีบไปพบอาจารย์ที่ห้องพักครู ซึ่งมีผนังกั้นแต่ละโต๊ะไว้
“นั่งก่อนสิ” อาจารย์บอกให้นั่งเมื่อบาสมาถึง
“ครับ” บาสตอบตกลงแล้วนั่งลง
“ช่วงนี้ไม่ค่อยตั้งใจเรียนเลยนะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” อาจารย์เริ่มถาม
“ไม่มีอะไรหรอกครับ” บาสยังยืนยันคำตอบ
“อย่าโกหกอาจารย์เลยนะ มีอะไรก็พูดออกมาได้นะ เมื่อก่อนบาสไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ มีอาจารย์หลายคนมาบ่นว่าบาสเปลี่ยนไปนะ” อาจารย์พูดอย่างรู้ทัน และจับมือบาสเพื่อให้กำลังใจ โดยพยามทำตัวเป็นกันเองกับบาส บาสยังคงเงียบแล้วนั่งก้มหน้าอยู่พักหนึ่ง เหมือนมีอะไรเก็บซ่อนไว้
“เอาล่ะ อาจารย์จะไม่เร่งบาสนะ ใจเย็นๆนะ ไว้ใจอาจารย์นะ วัยเราก็ใกล้เคียงกันด้วยนี่ เรื่องของบาสอาจารย์สัญญานะว่าจะไม่ไปบอกใคร” อาจารย์พูดเพื่อให้บาสไว้ใจ เพราะอาจารย์ก็เป็นอาจารย์ใหม่ที่อายุห่างกับบาสมาไม่กี่ปีนี่เอง จากนั้นบาสก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วเริ่มพูด
“อาจารย์ครับ ที่อาจารย์เรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มาเนี่ย อาจารย์เชื่อเรื่องบาปกรรมมั้ยครับ” บาสเริ่มเปิดประเด็นถาม
“เชื่อสิ เพราะมันพิสูจน์ได้ไง ใครทำอะไรไว้ก็จะได้รับผลตอบแทนแบบนั้น อาจารย์เคยเห็นมานักต่อนักแล้วล่ะ” อาจารย์ตอบอย่างคาดเดาได้
“นั่นล่ะครับ เมื่อก่อนผมไม่เคยเชื่อเลย แต่ตอนนี้ผมเชื่อจนสนิทใจเลยครับ” บาสพูดขึ้นอีก
“บาสไปทำอะไรกับใครไว้เหรอ” อาจารย์ถามอย่างสงสัย บาสถอนหายใจก่อนจะพูด
“ผมมันเป็นคนที่ไม่จริงจังกับใคร คิดแต่สนุกไปวันๆ จนมองข้ามความรักที่เค้าให้กับผมไป ตอนนี้ก็ได้มาเจอกับตัวเอง กรรมตามทันจริงๆเลยนะครับ” บาสพูดแล้วหัวเราะให้กับโชคชะตาของตัวเอง ปล่อยให้อาจารย์มองหน้าด้วยความสงสัย
“น้องเค้ารักผมมาก ผมต้องการอะไรเค้าให้ผมทุกอย่าง แต่ผมกลับทิ้งเค้าไป เพราะคิดว่าเจอคนที่ดีกว่าเค้า แต่มันก็กลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรแล้ว แม้แต่จะเจอหน้าเค้า ผมก็ไม่อยากเจอ ผมอาย อายกับความผิดของตัวเองมาก พี่ไม่สบายหรือเปล่า ดูหน้าพี่ซีดไปนะ แล้วพี่จะกลับยังไงล่ะครับ หอพี่อยู่ตั้งไกล ให้ผมไปส่งมั้ย คำพูดแต่ละคำที่น้องเค้าพูดกับผม ทำให้ผมเกลียดตัวเองมาก ทำไมเราต้องทำแบบนี้ด้วยนะ ถ้าเลือกได้ผมคงไม่อยากให้น้องเค้ามาเจอคนเลวๆอย่างผมเลย เค้าน่าจะรู้สึกดีกว่านี้ อาจารย์ว่ามั้ย” ตอนนี้คำพูดของบาสทุกคำออกมาพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาไม่หยุด จนอาจารย์ก็เกือบจะมีอารมณ์ร่วมด้วยแล้ว อาจารย์หยิบกระดาษให้บาสได้เช็ดหน้า บาสรีบรับมาเช็ดหน้า
“บาส อดีตมันเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ อยู่ที่เราจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดยังไง เรื่องของบาสกับน้องเค้าอาจารย์ไม่สามารถไปยุ่งได้ แต่อาจารย์อยากบอกบาสนะว่า ถ้าคนที่เค้ารักบาสมากมาเห็นบาสอยู่ในสภาพแบบนี้เค้าจะมีความสุขมั้ย ที่เห็นคนที่ตัวเองรักมานั่งจมอยู่กับอดีตที่ไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว โดยไม่ได้มองถึงวันนี้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เค้าคงจะภูมิใจหรอกนะที่เห็นคนที่เค้ารักเป็นคนที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆแบบนี้ บาสเคยเห็นสายน้ำเวลามันไหลมั้ย” อาจารย์ถาม บาสหยักหน้า แล้วอาจารย์ก็อธิบายต่อ
“แล้วบาสเคยเห็นมันไหลกลับป่ะ” อาจารย์ถามต่อ
“ไม่ครับ” บาสตอบ
“นั่นสิ สายน้ำไม่เคยไหลกลับ มันก็เหมือนกับอดีตของบาสมันกลับไปทำอะไรไม่ได้แล้ว เราควรที่จะปล่อยมันไปซะ แล้วมองไปข้างหน้าสิว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เหมือนสายน้ำไง เมื่อมันไหลต่อไปเรื่อยๆ มันก็จะไปบรรจบกับสายน้ำหลายๆสาย จนกลายเป็นลำธาร เป็นแม่น้ำ มาหล่อเลี้ยงชีวิตคนให้อยู่อย่างมีความสุขไง บาสเข้าใจยัง” อาจารย์อธิบาย
“ครับผมเข้าใจแล้วครับ ขอบคุณอาจารย์มากนะครับที่ให้คำปรึกษาผม” บาส ตอบอย่างเข้าใจ
“ปรับปรุงตัวเองใหม่นะ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดนะ” อาจารย์พูดแล้วตบไหลบาสเบาๆ
“ขอบคุณมากนะครับ” บาสยกมือไหว้อาจารย์ อาจารย์รับไหว้ แล้วบาสก็ลุกเดินออกจากห้องไป พอลงมาข้างล่างบาสถึงกับตกใจเมื่อเห็นคนสองคนยืนอยู่
บทที่ 1 หมื่นเหตุผลที่ทิ้งฉันไป กี่พันคำที่เธอคร่ำครวญ
http://pantip.com/topic/30317365
[Y] รัก/ที่สุด/ของหัวใจ (มาใหม่) บทที่ 2 ภายในใจวนเวียน เฝ้าคิดถึงเพียงเธอ
บทที่ 2
ภายในใจวนเวียน เฝ้าคิดถึงเพียงเธอ
วันเวลาผ่านไป โอมก็เริ่มเรียนไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจต่อสิ่งใดเว้นเสียแต่คนที่ตัวเองรักมากที่สุดเท่านั้นเอง ได้แต่คิดไปคิดมาว่าจะทำยังไงดี คำถามนั้นยังวนเวียนกลับมาที่เดิม ว่าเราจะกลับหาเขาจริงๆ เหรอ ความคิดของโอมจึงแยกออกเป็น 2 ส่วนซึ่งก็ขัดแย้งกันเองอยู่ตลอดเวลา “เป็นควายเหรอ ถูกเค้าทิ้งแล้วจะกลับไปหาเค้าเนี่ย” “แต่เรายังรักพี่เค้าอยู่นะ ตอนนี้เค้าไม่มีใครแล้วด้วย เรายังคิดถึงพี่เค้าอยู่ตลอดเวลาเลยนะ” “เหรอ กลับไปให้เค้าทิ้งอีก เจ็บอีกใช่มั้ย จำวันที่เค้าบอกเลิกนายได้มั้ยว่าสีหน้าเค้าเป็นยังไง คิดที่จะรู้สึกผิดบ้างมั้ย อย่าโง่” “เรายอมโง่นะ ที่ได้กลับไปเห็นหน้าเค้าอีก” ความคิดของโอมได้ชนกันไปจนสับสนวุ่นวายจนกระทั่งหลับไป
หลังเลิกเรียนเสร็จโอมก็เหลือบไปเห็นบาสเดินท่อมๆมองๆอยู่ บริเวณหน้าอาคารเรียน และได้คุยกับรุ่นพี่ในคณะคนหนึ่ง
“เฮ้ย ต่อ วันนี้โอมเป็นไงบ้างวะ เค้าเครียดเรื่องไรป่ะ” บาสถามต่อเพื่อนจากโรงเรียนเดิม ที่รูปร่างหน้าตาดี ผิวเข้ม
“โหย กลิ่นบุหรี่หึ่งเลยนะแก เพลาๆหน่อยดิวะ น้องเค้าก็เหมือนเดิม แกจะถามหาพระแสงอะไรทุกวันวะ ไม่ทำการทำงานบ้างหรือไง” ต่อเริ่มรำคาญ
“เอาน่า ก็ฉันอยากรู้ว่าน้องเค้าเป็นยังไงบ้างก็เท่านั้นเอง” บาสบอกต่อ
“อยากกลับไปคบเค้าก็บอกมาเถอะน่า ไงล่ะทีตอนเค้าอยู่ด้วยไม่ยอมสนใจ ทีตอนเค้าไปอยากให้เค้ากลับมาหา เนี่ยล่ะนะคนเรา” ต่อเริ่มบ่น
“อย่าซ้ำเติมเราได้ไหม แค่นี้มันยังเจ็บไม่พออีกหรือไง” บาสพูดน้ำตาเริ่มคลอเบ้า
“บาส บาสใจเย็นๆนะ ฉันขอโทษ ลืมตัวไปไม่น่าพูดออกมาเลย ใจเย็นๆนะ” ต่อพยายามปลอบเพื่อไม่ให้บาสปล่อยโฮออกมา เพราะมีคนอยู่มาก
“งั้นเราไปก่อนนะ ขอโทษด้วยนะที่รบกวนเวลาของแก วันหลังฉันไม่มาแล้วล่ะ” บาสพูด
“ไม่เอาน่า อย่าพูดแบบนั้นสิ เราเป็นเพื่อนกันนะ แกก็รู้ว่าฉันก็ชอบบ่นอยู่แบบนี้บ่อยๆ อย่าถือสาเลยนะ แกจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ฉันจะไม่บ่นไม่ว่าอะไรแล้ว สัญญาๆ” ต่อพูดเพราะกลัวบาสน้อยใจ
“ขอบใจมากๆ นะ” บาสพูดแล้วก็เดินจากไป
หลังจากที่บาสเดินออกไปพ้นสายตาแล้ว โอมจึงรีบเดินไปถามต่อซึ่งเป็นรุ่นพี่ในคณะที่บาสมาคุยด้วยทุกวัน
“พี่ต่อครับ นั่นใช่พี่บาสป่ะครับ” โอมถามอย่างใจจดใจจ่อ
“เออ ไม่ใช่ๆ แกคงตาฝาดไปเองอ่ะ ทำไมคิดถึงมันมากเหรอยังไง” ต่อพยายามโกหกโอม
“เหรอครับ” โอมพูด และยังคงสงสัยอยู่
“อืมๆ” ต่อพูดแล้วก็กลอกตาไปมา
“พี่ครับ พี่อย่าโกหกผมนะครับ พี่เป็นพี่คนเดียวที่ผมไว้ใจที่สุดนะครับ” โอมพูด เพราะต่อเคยเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเดิมที่รักและเอ็นดูโอมเหมือนน้องชายของตัวเอง เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน และต่อก็เป็นแบบเดียวกับโอม
“คือ คือว่า” ต่ออ้ำอึ้งๆ เพราะได้รับปากกับบาสไว้แล้ว ไม่อยากเสียคำพูด จึงลำบากใจที่จะพูด
“เออ วันนั้นฉันไปเจอมัน มันถามฉันว่าแกเรียนที่นี่ด้วยเหรอ ฉันก็บอกว่าใช่” ต่อพูดประโยคเดียว
“แค่นี้เหรอครับ” โอมถามเพื่อยืนยัน
“เออ แค่นี้ล่ะ เดี๋ยวพี่ไปทำงานก่อนนะ งานเยอะมากเลยช่วงนี้” ต่อพูดแล้วรีบเดินจากไป
โอมเริ่มสงสัยกับคำพูดและพฤติกรรมของต่อ เหมือนต่อมีอะไรที่ปกปิดอะไรบางอย่างกับตัวเอง เพราะคนที่เห็นนั้นเป็นบาสแน่นอน โอมยังจำได้อย่างถนัดตา และไม่มีวันลืมง่ายๆ แต่เค้าโกหกเราทำไม นี่เค้าจะเล่นลูกไม้อะไรกับเราอีกเนี่ย เค้าต้องการอะไรจากเราอีก เราให้เค้าไปหมดทุกอย่างแล้วนะ แล้วเค้าก็ทิ้งมันไปหมดแล้ว แล้วตอนนี้เค้าต้องการอะไรอีกนะ โอมคิดระหว่างทางที่เดินกลับหอพัก แล้วก็เจอผู้ชายคนหนึ่ง นั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนข้างทาง โอมเหลือบไปเห็น บาสนั่นเอง กำลังนั่งอยู่ในท่าที่เหมือนคนกำลังสิ้นหวัง แล้วค่อยๆมองมาที่โอมที่กำลังเดินผ่านไป
“โอม วันนี้เหนื่อยมั้ยครับ” บาสทักขึ้นมา โอมที่กำลังเดินอยู่ก็หยุดอีกครั้ง
“อย่าหักโหมมากนะครับ พี่เป็นห่วงนะ นี่แค่ปี 1 เองนะเดี๋ยวต้องเจออะไรมากกว่านี้อีก” บาสพูดแนะนำ
“ครับ ขอบคุณนะครับ แล้วพี่มาทำอะไรแถวนี้ล่ะครับ” โอมพยายามข่มใจพูดและถามอย่างสงสัย
“พี่ก็มาเดินเล่นแก้เครียดไปก็เท่านั้นล่ะครับ วันนี้พี่เหนื่อยแล้วก็เครียดมากด้วยอ่ะครับ พี่นั่งแถวนี้แล้วรู้สึกผ่อนคลายมาบ้างอ่ะครับ” บาสพูดด้วยสายตาที่เศร้าหมองเหมือนคนที่ไม่ได้นอนมาหลายวัน
“ดูพี่ไม่ค่อยสบายนะครับ” โอมทักขึ้นตามสัญชาตญาณของตัวเอง เมื่อเห็นหน้าบาสซีดไป ในขณะนี้ความคิดของโอมที่จะเดินจากไปก็หายไปกลายเป็นความเป็นห่วงบาสขึ้นมาแทน เพราะโอมทนเห็นสภาพอดีตคนรักของตัวเองเป็นแบบนี้ไม่ได้
“ป่าวนี่ครับ พี่สบายดี” บาสโกหกเพื่อให้โอมสบายใจ จากนั้นโอมก็ได้กลิ่นเหมือนบุหรี่ออกมาจากปากบาส
“พี่สูบบุหรี่อีกแล้วเหรอครับ ไหนบอกว่าเลิกแล้วไงครับ” โอมถามอย่างสงสัย
“พี่ทนไม่ได้จริงๆ บางครั้งก็อยากจะหลุดออกไปจากความเป็นจริงบ้างก็ดีนะ จะได้ลืมเรื่องอะไรๆได้บ้าง” บาสพูด
“ถ้าพี่อยากจะทำร้ายตัวเอง โอมไม่มีสิทธิไปห้ามพี่ได้หรอกนะครับ แต่พี่จำไว้ว่าพี่ได้ทำร้ายคนที่เป็นห่วงพี่ด้วยนะครับ” โอมพูด อย่างเป็นห่วง บาสเริ่มยิ้ม
“ขอบคุณนะครับ ที่ยังเป็นห่วงพี่อยู่ พี่นี่มันแย่จริงๆนะครับ ตอนนี้สิ่งที่พี่ทำไป มันกำลังจะกลับมาเอาคืนพี่แล้วล่ะ” บาสพูดอย่างรู้สึกผิด เพราะตั้งแต่บาสเลิกกับคนนั้นไป แล้วก็ได้เห็นหน้าโอมอีกครั้งภาพเก่าๆ ที่บาสได้ทำไว้ก็กลับหวนกลับเข้ามา ทำให้กลายเป็นความรู้สึกที่จะมาครอบงำ และทำร้ายตัวเองแทน จึงเกิดความละอายใจที่จะให้โอมเห็นหน้าคนเลวๆ อย่างตัวเองตลอดเวลา
“พี่บาสครับ” โอมถาม ทำให้บาสตื่นขึ้นจากภวังค์
“โอม พี่ขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน ไว้เจอกันใหม่นะครับ” บาส กล่าวลา
“แล้วพี่จะกลับยังไงครับ หอพี่อยู่ตั้งไกล แล้วดูพี่สบายเลยนะครับ ไปหาหมอมั้ยครับ เดี๋ยวโอมไปส่ง” โอมถามอย่างเป็นห่วง
“ดูสิโอมยังเป็นห่วงพี่เหมือนเดิม พี่ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่เดินมาได้พี่ก็เดินกลับได้เหมือนกัน ไม่ต้องเป็นห่วงนะ” บาสพูดแล้วเดินกลับ โดยไม่หันกลับมามองโอมอีก เพราะตอนนี้น้ำในตามันไหลออกมาแล้ว ระหว่างทางที่เดิน บาสเดินไปอย่างรู้สึกผิด ปล่อยน้ำตาให้ไหลลงไปกับพื้นดินทีละหยดๆ แสดงว่าตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมานี้เค้าไม่เลิกที่จะหยุดคิดถึงเราอย่างนั้นเลยหรือ ทำไมนะ เรามันเลวขนาดนี้ทำไมเค้ายังเป็นห่วงเราอีก เราจะทำตัวยังไงดีนะ เราอยากจะเห็นหน้าเค้าเพื่อที่จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้น แต่เมื่อเห็นเค้ามาเป็นห่วงเราทำให้เราไม่อยากอยู่ใกล้เค้าเลย เราจะทำยังไงดีนะ บาสสับสนกับตัวเองน้ำตายังไหลออกมาเรื่อยๆเมื่อมาถึงหอพัก เมื่อถึงหอพักก็รีบหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบด้วยมือที่สั่น แล้วก็เห็นภาพที่ตัวเองบอกเลิกโอม น้ำตาของโอมที่ไหลออกมาพร้อมกับสายฝน คำขอร้องอ้อนวอนให้กลับมาเป็นเป็นเหมือนเดิมดังก้องขึ้น โดยที่ตัวเองไม่เคยสนใจใยดีอะไรเลย น้ำตาที่ไหลพรั่งพรูมากับความรู้สึกผิด นี่เราทำกับคนที่เรารักได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ ก้นบุหรี่ ถูกทิ้งลงไปในที่เขี่ยบุหรี่มวนแล้วมวนเล่า
พอถึงรุ่งเช้า บาสก็ได้เข้าไปเรียนตามปกติ แต่ไปเรียนแบบไม่มีชีวิตจิตใจ ไม่มีการตอบสนอง หรือสนใจต่อสิ่งรอบตัว
“คุณธีรธัช คุณธีรธัช” อาจารย์เรียกบาส เพื่อให้บาสรู้สึกตัว บาสก็ได้ยินก็ถึงกับสะดุ้ง แล้วหันมามองอาจารย์
“เป็นอะไรหรือเปล่า นั่งเหม่อลอยตั้งแต่เริ่มเรียนแล้วนะ” อาจารย์ถามอย่างเป็นห่วง
“คือ ผม ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ” บาสตอบอย่างโกหก
“เหรอ หลังเลิกเรียนมาพบผมด้วยล่ะ” อาจารย์นัดพบบาส
“ครับ” บาสตอบตกลง
หลังจากเลิกเรียนแล้ว บาสรีบไปพบอาจารย์ที่ห้องพักครู ซึ่งมีผนังกั้นแต่ละโต๊ะไว้
“นั่งก่อนสิ” อาจารย์บอกให้นั่งเมื่อบาสมาถึง
“ครับ” บาสตอบตกลงแล้วนั่งลง
“ช่วงนี้ไม่ค่อยตั้งใจเรียนเลยนะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” อาจารย์เริ่มถาม
“ไม่มีอะไรหรอกครับ” บาสยังยืนยันคำตอบ
“อย่าโกหกอาจารย์เลยนะ มีอะไรก็พูดออกมาได้นะ เมื่อก่อนบาสไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ มีอาจารย์หลายคนมาบ่นว่าบาสเปลี่ยนไปนะ” อาจารย์พูดอย่างรู้ทัน และจับมือบาสเพื่อให้กำลังใจ โดยพยามทำตัวเป็นกันเองกับบาส บาสยังคงเงียบแล้วนั่งก้มหน้าอยู่พักหนึ่ง เหมือนมีอะไรเก็บซ่อนไว้
“เอาล่ะ อาจารย์จะไม่เร่งบาสนะ ใจเย็นๆนะ ไว้ใจอาจารย์นะ วัยเราก็ใกล้เคียงกันด้วยนี่ เรื่องของบาสอาจารย์สัญญานะว่าจะไม่ไปบอกใคร” อาจารย์พูดเพื่อให้บาสไว้ใจ เพราะอาจารย์ก็เป็นอาจารย์ใหม่ที่อายุห่างกับบาสมาไม่กี่ปีนี่เอง จากนั้นบาสก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วเริ่มพูด
“อาจารย์ครับ ที่อาจารย์เรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มาเนี่ย อาจารย์เชื่อเรื่องบาปกรรมมั้ยครับ” บาสเริ่มเปิดประเด็นถาม
“เชื่อสิ เพราะมันพิสูจน์ได้ไง ใครทำอะไรไว้ก็จะได้รับผลตอบแทนแบบนั้น อาจารย์เคยเห็นมานักต่อนักแล้วล่ะ” อาจารย์ตอบอย่างคาดเดาได้
“นั่นล่ะครับ เมื่อก่อนผมไม่เคยเชื่อเลย แต่ตอนนี้ผมเชื่อจนสนิทใจเลยครับ” บาสพูดขึ้นอีก
“บาสไปทำอะไรกับใครไว้เหรอ” อาจารย์ถามอย่างสงสัย บาสถอนหายใจก่อนจะพูด
“ผมมันเป็นคนที่ไม่จริงจังกับใคร คิดแต่สนุกไปวันๆ จนมองข้ามความรักที่เค้าให้กับผมไป ตอนนี้ก็ได้มาเจอกับตัวเอง กรรมตามทันจริงๆเลยนะครับ” บาสพูดแล้วหัวเราะให้กับโชคชะตาของตัวเอง ปล่อยให้อาจารย์มองหน้าด้วยความสงสัย
“น้องเค้ารักผมมาก ผมต้องการอะไรเค้าให้ผมทุกอย่าง แต่ผมกลับทิ้งเค้าไป เพราะคิดว่าเจอคนที่ดีกว่าเค้า แต่มันก็กลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรแล้ว แม้แต่จะเจอหน้าเค้า ผมก็ไม่อยากเจอ ผมอาย อายกับความผิดของตัวเองมาก พี่ไม่สบายหรือเปล่า ดูหน้าพี่ซีดไปนะ แล้วพี่จะกลับยังไงล่ะครับ หอพี่อยู่ตั้งไกล ให้ผมไปส่งมั้ย คำพูดแต่ละคำที่น้องเค้าพูดกับผม ทำให้ผมเกลียดตัวเองมาก ทำไมเราต้องทำแบบนี้ด้วยนะ ถ้าเลือกได้ผมคงไม่อยากให้น้องเค้ามาเจอคนเลวๆอย่างผมเลย เค้าน่าจะรู้สึกดีกว่านี้ อาจารย์ว่ามั้ย” ตอนนี้คำพูดของบาสทุกคำออกมาพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาไม่หยุด จนอาจารย์ก็เกือบจะมีอารมณ์ร่วมด้วยแล้ว อาจารย์หยิบกระดาษให้บาสได้เช็ดหน้า บาสรีบรับมาเช็ดหน้า
“บาส อดีตมันเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ อยู่ที่เราจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดยังไง เรื่องของบาสกับน้องเค้าอาจารย์ไม่สามารถไปยุ่งได้ แต่อาจารย์อยากบอกบาสนะว่า ถ้าคนที่เค้ารักบาสมากมาเห็นบาสอยู่ในสภาพแบบนี้เค้าจะมีความสุขมั้ย ที่เห็นคนที่ตัวเองรักมานั่งจมอยู่กับอดีตที่ไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว โดยไม่ได้มองถึงวันนี้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เค้าคงจะภูมิใจหรอกนะที่เห็นคนที่เค้ารักเป็นคนที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆแบบนี้ บาสเคยเห็นสายน้ำเวลามันไหลมั้ย” อาจารย์ถาม บาสหยักหน้า แล้วอาจารย์ก็อธิบายต่อ
“แล้วบาสเคยเห็นมันไหลกลับป่ะ” อาจารย์ถามต่อ
“ไม่ครับ” บาสตอบ
“นั่นสิ สายน้ำไม่เคยไหลกลับ มันก็เหมือนกับอดีตของบาสมันกลับไปทำอะไรไม่ได้แล้ว เราควรที่จะปล่อยมันไปซะ แล้วมองไปข้างหน้าสิว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เหมือนสายน้ำไง เมื่อมันไหลต่อไปเรื่อยๆ มันก็จะไปบรรจบกับสายน้ำหลายๆสาย จนกลายเป็นลำธาร เป็นแม่น้ำ มาหล่อเลี้ยงชีวิตคนให้อยู่อย่างมีความสุขไง บาสเข้าใจยัง” อาจารย์อธิบาย
“ครับผมเข้าใจแล้วครับ ขอบคุณอาจารย์มากนะครับที่ให้คำปรึกษาผม” บาส ตอบอย่างเข้าใจ
“ปรับปรุงตัวเองใหม่นะ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดนะ” อาจารย์พูดแล้วตบไหลบาสเบาๆ
“ขอบคุณมากนะครับ” บาสยกมือไหว้อาจารย์ อาจารย์รับไหว้ แล้วบาสก็ลุกเดินออกจากห้องไป พอลงมาข้างล่างบาสถึงกับตกใจเมื่อเห็นคนสองคนยืนอยู่
บทที่ 1 หมื่นเหตุผลที่ทิ้งฉันไป กี่พันคำที่เธอคร่ำครวญ http://pantip.com/topic/30317365