บทที่ 1
http://pantip.com/topic/30317365 บทที่ 2
http://pantip.com/topic/30325483 บทที่ 3
http://pantip.com/topic/30329905 บทที่ 4
http://pantip.com/topic/30338257 บทที่ 5
http://pantip.com/topic/30533028
หลังจากที่บาสเช็ดน้ำตาของโอมที่ร้องไห้ออกแล้ว บาสก็ยิ้มให้โอมเพื่อไม่ให้โอมคิดมากเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“โอมไม่ต้องคิดมากนะครับ เอาเป็นว่าพี่จะพยายามไม่ทำแบบนี้อีกก็แล้วกันนะครับ” บาสบอกโอม
“ครับ ยังไงโอมก็หวังว่าความพยายามของพี่ครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จนะครับ” โอมพูดแล้วยิ้มเพื่อสร้างความมั่นใจให้บาส
“ครับ” บาสรับคำ
“งั้นเดี๋ยวโอมกลับหอพักก่อนนะครับ” โอมกล่าวลาบาส แล้วก็ขับรถจักรยานกลับไปที่หอพักของตัวเอง
วันรุ่งขึ้น พอไปถึงที่คณะโอมก็ได้เจอกับเพื่อนๆและพี่หลายคน ก็ได้ทักทายตามมารยาท แต่มีรุ่นพี่คนหนึ่งเข้ามาคุยกับโอมอย่างดี เป็นรุ่นพี่ผู้ชายตัวสูงขาว ตาตี่ๆ หน้าตาดีคนหนึ่ง
“หวัดดีครับน้องโอม เป็นไงบ้างครับ” ชายคนนั้นทักโอมเมื่อโอมกล่าวทักทาย
“ก็สบายดีครับ แล้วพี่ตั้มล่ะครับ” โอมถามบ้าง
“ก็เรื่อยๆล่ะครับ ตามประสาคนขี้เหงาอ่ะครับ” ตั้มตอบโอม
“ก็หาคนมาอยู่แก้เหงาสิครับ เพื่อนๆก็มีเยอะแยะนี่ครับ” โอมบอก
“เพื่อนพี่มีเยอะแล้วล่ะ แต่คนพิเศษสิยังไม่มีเลย” ตั้มแอบบ่นกับโอม
“มีสาวๆมาชอบตั้งเยอะแยะนี่ครับ” โอมบอก
“พี่ไม่ชอบไม่ใช่สเป๊กพี่อ่ะ ต้องน่ารักๆ อ่อนโยน และแฝงไปด้วยความแข็งแกร่ง ประมาณนักกีฬาประมาณนี้อ่ะครับ” ตั้มบอก
“งั้นก็หายากหน่อยนะครับ” โอมพูดแล้วยิ้มให้
“ไม่ยากหรอกครับ เค้าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี้เอง แต่เค้าจะชอบพี่หรือเปล่ายังไม่รู้เลยอ่ะครับ” ตั้มพูดแล้วส่งสายตามาให้โอม โอมก็ทำหน้างงๆ โดยไม่รู้ตั้มหมายถึงใคร
“ใครเหรอครับ อยากรู้จังเลย ถ้าพี่ชอบเค้าก็บอกให้เค้ารู้ไปเลยสิครับ จะได้ไม่มีอะไรมาค้างคา ถึงเค้าจะชอบหรือไม่ชอบเราก็ตาม แต่เราก็ได้บอกเค้าไปแล้วครับ” โอมบอกตั้มแล้วนึกถึงบาสขึ้นมาอีก
“พี่ยังไม่กล้าบอกเค้าอ่ะ ถ้าวันไหนพี่กล้าแล้วพี่จะไปบอกเค้านะครับ” ตั้มบอก
“ครับ งั้นโอมไปเรียนก่อนนะครับ” โอมบอกตั้ม และเดินขึ้นไปเรียน
บาสหลังจากที่นอนหลับมาแล้ว ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น จึงรับโทรศัพท์
“ฮัลโหลบาส วันนี้ทำไมแกไม่มาเรียนน่ะ” ตี๋โทรมาถาม
“วันนี้ไม่ค่อยสบายอ่ะ อาจารย์เช็คชื่อป่ะ” บาสถาม
“ไม่เช็คหรอก บาสเป็นอะไรหรือเปล่าช่วงนี้ไม่ค่อยไปเรียนเลยนะ” ตี๋พูดด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่ค่อยสบายนิดเดียวเอง ขอยืมเลคเชอร์หน่อยดิ” บาสบอกตี๋
“เออๆ เดี๋ยวฉันเอาไปให้ แค่นี้ก่อนนะ” ตี๋บอก แล้วกดวางไป
จากนั้นอีกไม่นานกลุ่มเพื่อนของบาสก็มาถึงห้องของบาสด้วยความเป็นห่วง เพราะไม่เคยเห็นบาสอยู่ในสภาพนี้มาก่อน ในกลุ่มเพื่อนบาสนั้นมีผู้หญิงสองคนและผู้ชายสองคน
“ไงแก เป็นอะไรนักหนาฮะ ไม่ยอมไปเรียน” ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีหน้าตาขาวหมวยทักขึ้นมา
“พอดีมีปัญหานิดหนึ่งอ่ะ” บาสตอบ
“ปัญหาอะไรล่ะ ทำไมไม่บอกพวกเราล่ะ เราเป็นเพื่อนกันนี่” ผู้หญิงที่มีหน้าตาคมเข้มอีกคนหนึ่งพูด
“ใช่ๆ เราเป็นเพื่อนกันนะ” ตี๋
“ขอบใจทุกคนมากนะที่เป็นห่วง ตอนนี้เราดีขึ้นแล้วล่ะ ถ้าเราพร้อมเมื่อไหร่เราจะเล่าให้พวกนายฟังทั้งหมดเลยนะ” บาสพูด
“เรายินดีช่วยนายนะ” ผู้ชายรูปร่างท้วมๆหน้าตาตี๋ๆหน่อย
“ขอบใจทุกๆคนนะแนน” บาสพูดแล้วหันไปที่ผู้หญิงหน้าหมวยคนนั้น “หญิง” มองไปที่ผุ้หญิงคมเข้ม “โต้ง” หันมามองชายร่างผมบาง “และก็ตี๋”
“พวกนายเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ” บาสพูดแล้วน้ำตาก็ท่วมออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“ไม่เอาน่า เราเป็นเพื่อนกันนะ เรื่องแค่นี้เองเราช่วยได้อยู่แล้วล่ะ” แนนพูด
“ใช่ๆ นายอย่าร้องเลยนะ” หญิงเข้ามาปลอบลูบหลังบาส ทำให้บาสรู้สึกดีขึ้นและมีกำลังใจขึ้นมา พร้อมกับยิ้มทั้งน้ำตา
“ต้องแบบนี้สิ เพื่อนเรา” โต้งพูด
“อ้าวนี่ เลคเชอร์เอาไปอ่านซะ พวกเราช่วยกันจดให้อย่างละเอียดเลย” ตี๋พูดแล้วยื่นสมุดให้
“ขอบใจนะ” บาสพูด
“ติดใจอะไรเด็กวิดวะเหรอ ไปแถวนั้นเกือบทุกวันเลย เบาๆ หน่อยนะยะ เดี๋ยวพวกฉันจะขึ้นคานกันหมด ผู้ชายดีๆแกจะเอาไปงาบหมดแล้ว” หญิงแซวต่อ แนนแอบสะกิด แล้วหันไปมองที่ตี๋ที่กำลังทำหน้านิ่งๆ อยู่
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า แค่อยากเจอน้องเค้าเฉยๆ” บาสพูด
“เออ จะทำอะไรก็นึกถึงคนที่เป็นห่วงแกบ้างนะ สงสารเค้าน่ะ” แนนพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ
“ใช่ นายก็รู้นะว่ามีคนคอยเป็นห่วงนายเยอะอยู่นะ เค้าอาจจะกินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนนายด้วยก็ได้” โต้งพูดแล้งฉีกยิ้มเบาๆ
“ใครเหรอ” ตั้มถามอย่างสงสัย
“จะเป็นใครไม่สำคัญหรอกน่า แต่ที่รู้ก็คือนายทำแบบนี้มันไม่ดีกับตัวนายแน่นอน เออวันนี้เราซื้อกับข้าวมากินที่นี่ด้วย กินด้วยกันนะ ของที่นายชอบเยอะแยะเลย” ตี๋พูด แล้วชูอาหารที่ซื้อมาให้บาสดู
“แล้วของที่พวกเราชอบน่ะทำไมไม่ซื้อมาบ้างวะ” โต้งแซว
“อ้าวไปซื้อด้วยกัน ทำไมไม่เลือกซื้อเองล่ะครับ” ตี๋พูดแล้วก็จัดแจงนำอาหารไปใส่จาน โต้ง แนน และหญิงต่างก็ยิ้มให้กัน จากนั้นทั้งหมดก็รับประทานอาหารเย็นด้วยกัน
โอมหลังจากซ้อมกีฬาแล้วก็เดินทางเพื่อที่จะกลับหอพัก ก็ได้เจอกับตั้มอีกครั้ง โอมรีบยกมือไหว้ ตั้มรีบรับไหว้ทันที
“วันหลังเจอพี่ไม่ต้องไหว้ก็ได้ครับ มันดูห่างๆกันยังไงไม่รู้” ตั้มบอก
“ไม่ได้หรอกครับ มันเป็นประเพณี อีกอย่างพี่ก็อยู่ตั้งปีสามน่ะ ห่างกันเยอะด้วยครับ” โอมพูด
“ว้า พี่คงจะแก่ไปแล้วสินะ” ตั้มพูดแกล้งโอม
“ไม่ใช่แบบนั้นครับ ผมไม่ได้ว่าพี่แก่นะครับ” โอมพูดอย่างตกใจ ตั้มยิ้มเมื่อมองเห็นความไร้เดียงสาของโอม
“พี่ล้อเล่นอ่ะครับ เออ แล้วกินอะไรมายัง ไปกินข้าวกับพี่มั้ย” ตั้มถาม
“ยังครับ เดี๋ยวผมว่าจะไปกินกับเพื่อนที่หอครับ ไม่เป็นไรครับ” โอมบอกตั้ม
“พี่เลี้ยงน้องรหัสสายตรงของพี่แล้ว แต่พี่ยังไม่ได้เลี้ยงสายจับของพี่เลย ขอให้พี่ได้เลี้ยงโอมสักครั้งเถอะนะครับ เดี๋ยวคนอื่นเค้าจะว่าพี่สนใจน้องรหัสไม่เท่ากัน” ตั้มพยายามหาเรื่องให้โอมไปกินข้าวด้วย เพราะพี่รหัสของโอมลาออก และตั้มมีน้องรหัสสองคนคือสายตรงคนหนึ่ง และพี่รหัสของโอมซึ่งเป็นสายจับ โอมจึงไม่มีใครดูแล ตั้มจึงต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ
“งั้นก็ได้ครับ” โอมตอบอย่างฝืนใจ
“งั้นขึ้นรถพี่ไปเลยครับ” ตั้มชวนโอมขึ้นรถ ไปที่รถเก๋งคันหรูที่จอดอยู่
“พี่ครับผมขอไปแต่งตัวก่อนได้มั้ยครับ ใส่ชุดกีฬาไปมันดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่อ่ะครับ” โอมขอตั้ม เพราะเห็นตั้มใส่ชุดนักศึกษาเข้ารูปดูสะอาดสะอ้าน และดูสุภาพ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะร้านอาหารเป็นร้านของพี่เอง แล้วอีกอย่างก็ไม่มีใครเห็นเราหรอกครับเพราะมีห้องส่วนตัว” ตั้มเสนอ
“โห ไม่ถึงขนาดนั้นก็ได้ครับ” โอมพูดอย่างเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เลี้ยงน้องทั้งทีก็ต้องเลี้ยงให้ดีๆสิครับ ขึ้นรถเถอะครับเดี๋ยวจะช้า” ตั้มชวนโอม โอมขึ้นรถของตั้มและตั้มรีบออกรถทันที ระหว่างทางก็คุยกัน
“ทำไมพี่ไม่ชวนเก่งกับพี่อ้นมาด้วยล่ะครับ จะได้ครบทั้งสายเลย” โอมถาม
“สองคนนั้นเหรอ พี่เลี้ยงมันบ่อยแล้ว ยิ่งเลี้ยงยิ่งได้ใจพอก่อนเถอะครับ ทุกวันนี้พี่ท่าจะเหมือนห้องอาหารของพวกมันแล้วมั้ง” ตั้มพูดแล้วยิ้มไปด้วยเหมือนไม่ได้คิดอะไรมาก
“แต่โอมสิ พี่ยังไม่ได้ให้อะไรมากเลย พี่ชวนเมื่อไหร่โอมก็ไม่ว่างสักที” ตั้มพูดอย่างน้อยใจ
“โอมไม่ได้อะไรมากเหรอครับ ตอนเข้าห้องเชียร์ ผมอิ่มคนเดียวยังไม่พอ เพื่อนผมยังอิ่มไปด้วยอีก นี่พี่ยังว่าไม่ได้อะไรมากอีกเหรอครับ” โอมถาม
“ป่าว พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น พี่หมายถึงอย่างอื่นด้วยอ่ะครับ อย่างหนังสือหรือว่าข้าวของอย่างอื่นอะไรแบบนี้ครับ” ตั้มพูด
“อ่ะอ๋อครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี่ยวผมไปยืมพวกเค้าก็ได้ครับ” โอมพุดอย่างเกรงใจ
“ไม่ได้หรอกครับ ยืมกันไปยืมกันมาเดี๋ยวก็อ่านไม่รู้เรื่องพอดี” ตั้มพูดอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” โอมพูดแล้วก็ยิ้มให้ตั้ม ตั้มยิ้มแล้วก็มองโอมอย่างไม่ละสายตา
จากนั้นก็มาถึงร้านอาหาร ซึ่งเป็นภัตตาคารจีนที่ใหญ่ ตั้มจึงพาโอมเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง โดยมีอาหารจัดเรียงอยู่เต็มโต๊ะ โอมเห็นถึงกับตะลึงอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ว่าจะได้มากินอาหารที่แพงและหรูหราอะไรเช่นนี้
“อาหารมาแล้วครับ เรามากินกันดีกว่านะ” ตั้มชวนโอมกิน โอมผงกหัวตกลง แล้วทั้งสองก็ลงมือกินข้าวกัน ระหว่างที่กินอยู่นั้นจู่ๆ ตั้มก็ถามโอมขึ้นมา
“แล้วมีแฟนยังฮะ เราอ่ะ” ตั้มถาม โอมได้ยินถึงกับตะลึงไปพักหนึ่ง และกำลังจะอ้าปากตอบ ตั้มก็พูดออกมาทันที
“ท่าจะมีแล้วล่ะสิ ท่าทางแบบนี้ อยากรู้จังว่าน้องสะใภ้พี่จะเป็นใครนะ” ตั้มพูดแล้วยิ้มให้โอม โอมรีบขัดขึ้นมาทันที
“ยังครับ โอมยังไม่มีใครเลยครับพี่” โอมตอบทำหน้าตื่นๆ ทำให้ตั้มหัวเราะออกมาเบาๆ ในความไร้เดียงสาของโอมอีกครั้ง
“ทำไมน่ารักแบบนี้นะ อยากได้เอามาเป็นน้องชายจริงๆ จังเลย ไม่รู้จักโตสักทีนะเรา พี่แค่ล้อเล่นเฉยๆครับ” ตั้มพูดแล้วยิ้มให้กับท่าทางของโอมที่ตอนนี้ทำท่าทางเหมือนกำลังสับสนในชีวิตของตัวเองมาก
“ก็ผมไม่รู้นี่ครับ” โอมพูดแล้วเกาหัวตัวเองเบาๆ ทำให้ตั้มอมยิ้มของตัวเองไว้
“มีน้องรหัสเป็นโอมเนี่ย พี่มีความสุขจังเลยครับ” ตั้มพูด
“โอมเหมือนตัวตลกมากเลยเหรอครับ” โอมพูดแล้วทำหน้างงๆ
“ป่าวๆ ครับพี่หมายถึงความน่ารักในตัวโอมอ่ะครับ” ตั้มพูดแล้วยิ้ม
“พี่ว่าเรากินกันต่อเถอะนะครับ เดี๋ยวของจะเย็นหมด” ตั้มเปลี่ยนเรื่องแล้วชวนกินต่อ หลังจากทานข้าวอิ่มกันแล้วก็ถึงเวลาของของว่าง ตั้มจึงชวนโอมคุยต่อ
“โอม โอมจบจากโรงเรียนอะไรนะครับ” ตั้มถาม
“บุรุษศึกษาครับ” โอมตอบ
“เหรอครับ จบจากโรงเรียนชายล้วนเหมือนพี่เลย ถึงว่าล่ะไม่มีแฟนกับเค้าซะที ตอนพี่อยู่ปี 1 พี่ก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ” ตั้มบอก
“อืมครับ ผมไม่ซีเรียสกับเรื่องแบบนี้หรอกครับ ถ้ามีก็ดี ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร” โอมตอบแบบไม่ค่อยสนใจ
“ได้ยังไงครับ เราเป็นผู้ชาย เราก็ต้องไปจีบเค้าก่อนสิครับ จะให้เค้ามาจีบเราก่อนได้ยังไง” ตั้มบอก ทำให้โอมคิดอยู่นาน เพราะโอมไม่ได้ชอบผู้หญิง และนึกถึงตอนที่บาสเข้ามาจีบโอมและตอนที่คบกัน ทำให้โอมนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง จนตั้มต้องมาสะกิด
“โอม โอมครับ เป็นอะไรป่ะครับ” ตั้มถาม
“ปะป่าวครับ ผมว่าเรามากินของหวานกันดีกว่านะครับ โอมอยากกลับหอแล้วครับ” โอมบอกแล้วเปลี่ยนมากินของว่างที่อยู่ข้างหน้า
“ครับๆ” ตั้มพูดและแอบสงสัยนิดหน่อย
หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้ว ตั้มก็ไปส่งโอมที่หอพักในมหาวิทยาลัย
“โอม วันหลังพี่จะหาหนังสือมาให้นะครับ รอหน่อยนะ” ตั้มพูด
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” โอมตอบอย่างเกรงใจ
“ขอบคุณมากนะครับที่พาผมไปเลี้ยง” โอมพูดแล้วยกมือไหว้ ตั้มรีบจับมือโอมที่ไหว้ทันที
“พี่บอกแล้วไง กับพี่ไม่ต้องไหว้ก็ได้” ตั้มทำหน้าจริงจังใส่
“ครับ ผมไปก่อนนะครับ” โอมพูดแล้วเดินออกจากรถของตั้ม และรอตั้มขับรถไปให้พ้นสายตาก่อนจะเดินเข้าหอพัก
ดูต่อด้านล่าง
[Y] รัก/ที่สุด/ของหัวใจ บทที่ 6 น้องจ๋า น้องมาจากไหน เป็นผู้ใดก็ไ่ม่สำคัญ
หลังจากที่บาสเช็ดน้ำตาของโอมที่ร้องไห้ออกแล้ว บาสก็ยิ้มให้โอมเพื่อไม่ให้โอมคิดมากเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“โอมไม่ต้องคิดมากนะครับ เอาเป็นว่าพี่จะพยายามไม่ทำแบบนี้อีกก็แล้วกันนะครับ” บาสบอกโอม
“ครับ ยังไงโอมก็หวังว่าความพยายามของพี่ครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จนะครับ” โอมพูดแล้วยิ้มเพื่อสร้างความมั่นใจให้บาส
“ครับ” บาสรับคำ
“งั้นเดี๋ยวโอมกลับหอพักก่อนนะครับ” โอมกล่าวลาบาส แล้วก็ขับรถจักรยานกลับไปที่หอพักของตัวเอง
วันรุ่งขึ้น พอไปถึงที่คณะโอมก็ได้เจอกับเพื่อนๆและพี่หลายคน ก็ได้ทักทายตามมารยาท แต่มีรุ่นพี่คนหนึ่งเข้ามาคุยกับโอมอย่างดี เป็นรุ่นพี่ผู้ชายตัวสูงขาว ตาตี่ๆ หน้าตาดีคนหนึ่ง
“หวัดดีครับน้องโอม เป็นไงบ้างครับ” ชายคนนั้นทักโอมเมื่อโอมกล่าวทักทาย
“ก็สบายดีครับ แล้วพี่ตั้มล่ะครับ” โอมถามบ้าง
“ก็เรื่อยๆล่ะครับ ตามประสาคนขี้เหงาอ่ะครับ” ตั้มตอบโอม
“ก็หาคนมาอยู่แก้เหงาสิครับ เพื่อนๆก็มีเยอะแยะนี่ครับ” โอมบอก
“เพื่อนพี่มีเยอะแล้วล่ะ แต่คนพิเศษสิยังไม่มีเลย” ตั้มแอบบ่นกับโอม
“มีสาวๆมาชอบตั้งเยอะแยะนี่ครับ” โอมบอก
“พี่ไม่ชอบไม่ใช่สเป๊กพี่อ่ะ ต้องน่ารักๆ อ่อนโยน และแฝงไปด้วยความแข็งแกร่ง ประมาณนักกีฬาประมาณนี้อ่ะครับ” ตั้มบอก
“งั้นก็หายากหน่อยนะครับ” โอมพูดแล้วยิ้มให้
“ไม่ยากหรอกครับ เค้าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี้เอง แต่เค้าจะชอบพี่หรือเปล่ายังไม่รู้เลยอ่ะครับ” ตั้มพูดแล้วส่งสายตามาให้โอม โอมก็ทำหน้างงๆ โดยไม่รู้ตั้มหมายถึงใคร
“ใครเหรอครับ อยากรู้จังเลย ถ้าพี่ชอบเค้าก็บอกให้เค้ารู้ไปเลยสิครับ จะได้ไม่มีอะไรมาค้างคา ถึงเค้าจะชอบหรือไม่ชอบเราก็ตาม แต่เราก็ได้บอกเค้าไปแล้วครับ” โอมบอกตั้มแล้วนึกถึงบาสขึ้นมาอีก
“พี่ยังไม่กล้าบอกเค้าอ่ะ ถ้าวันไหนพี่กล้าแล้วพี่จะไปบอกเค้านะครับ” ตั้มบอก
“ครับ งั้นโอมไปเรียนก่อนนะครับ” โอมบอกตั้ม และเดินขึ้นไปเรียน
บาสหลังจากที่นอนหลับมาแล้ว ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น จึงรับโทรศัพท์
“ฮัลโหลบาส วันนี้ทำไมแกไม่มาเรียนน่ะ” ตี๋โทรมาถาม
“วันนี้ไม่ค่อยสบายอ่ะ อาจารย์เช็คชื่อป่ะ” บาสถาม
“ไม่เช็คหรอก บาสเป็นอะไรหรือเปล่าช่วงนี้ไม่ค่อยไปเรียนเลยนะ” ตี๋พูดด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่ค่อยสบายนิดเดียวเอง ขอยืมเลคเชอร์หน่อยดิ” บาสบอกตี๋
“เออๆ เดี๋ยวฉันเอาไปให้ แค่นี้ก่อนนะ” ตี๋บอก แล้วกดวางไป
จากนั้นอีกไม่นานกลุ่มเพื่อนของบาสก็มาถึงห้องของบาสด้วยความเป็นห่วง เพราะไม่เคยเห็นบาสอยู่ในสภาพนี้มาก่อน ในกลุ่มเพื่อนบาสนั้นมีผู้หญิงสองคนและผู้ชายสองคน
“ไงแก เป็นอะไรนักหนาฮะ ไม่ยอมไปเรียน” ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีหน้าตาขาวหมวยทักขึ้นมา
“พอดีมีปัญหานิดหนึ่งอ่ะ” บาสตอบ
“ปัญหาอะไรล่ะ ทำไมไม่บอกพวกเราล่ะ เราเป็นเพื่อนกันนี่” ผู้หญิงที่มีหน้าตาคมเข้มอีกคนหนึ่งพูด
“ใช่ๆ เราเป็นเพื่อนกันนะ” ตี๋
“ขอบใจทุกคนมากนะที่เป็นห่วง ตอนนี้เราดีขึ้นแล้วล่ะ ถ้าเราพร้อมเมื่อไหร่เราจะเล่าให้พวกนายฟังทั้งหมดเลยนะ” บาสพูด
“เรายินดีช่วยนายนะ” ผู้ชายรูปร่างท้วมๆหน้าตาตี๋ๆหน่อย
“ขอบใจทุกๆคนนะแนน” บาสพูดแล้วหันไปที่ผู้หญิงหน้าหมวยคนนั้น “หญิง” มองไปที่ผุ้หญิงคมเข้ม “โต้ง” หันมามองชายร่างผมบาง “และก็ตี๋”
“พวกนายเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ” บาสพูดแล้วน้ำตาก็ท่วมออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“ไม่เอาน่า เราเป็นเพื่อนกันนะ เรื่องแค่นี้เองเราช่วยได้อยู่แล้วล่ะ” แนนพูด
“ใช่ๆ นายอย่าร้องเลยนะ” หญิงเข้ามาปลอบลูบหลังบาส ทำให้บาสรู้สึกดีขึ้นและมีกำลังใจขึ้นมา พร้อมกับยิ้มทั้งน้ำตา
“ต้องแบบนี้สิ เพื่อนเรา” โต้งพูด
“อ้าวนี่ เลคเชอร์เอาไปอ่านซะ พวกเราช่วยกันจดให้อย่างละเอียดเลย” ตี๋พูดแล้วยื่นสมุดให้
“ขอบใจนะ” บาสพูด
“ติดใจอะไรเด็กวิดวะเหรอ ไปแถวนั้นเกือบทุกวันเลย เบาๆ หน่อยนะยะ เดี๋ยวพวกฉันจะขึ้นคานกันหมด ผู้ชายดีๆแกจะเอาไปงาบหมดแล้ว” หญิงแซวต่อ แนนแอบสะกิด แล้วหันไปมองที่ตี๋ที่กำลังทำหน้านิ่งๆ อยู่
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า แค่อยากเจอน้องเค้าเฉยๆ” บาสพูด
“เออ จะทำอะไรก็นึกถึงคนที่เป็นห่วงแกบ้างนะ สงสารเค้าน่ะ” แนนพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ
“ใช่ นายก็รู้นะว่ามีคนคอยเป็นห่วงนายเยอะอยู่นะ เค้าอาจจะกินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนนายด้วยก็ได้” โต้งพูดแล้งฉีกยิ้มเบาๆ
“ใครเหรอ” ตั้มถามอย่างสงสัย
“จะเป็นใครไม่สำคัญหรอกน่า แต่ที่รู้ก็คือนายทำแบบนี้มันไม่ดีกับตัวนายแน่นอน เออวันนี้เราซื้อกับข้าวมากินที่นี่ด้วย กินด้วยกันนะ ของที่นายชอบเยอะแยะเลย” ตี๋พูด แล้วชูอาหารที่ซื้อมาให้บาสดู
“แล้วของที่พวกเราชอบน่ะทำไมไม่ซื้อมาบ้างวะ” โต้งแซว
“อ้าวไปซื้อด้วยกัน ทำไมไม่เลือกซื้อเองล่ะครับ” ตี๋พูดแล้วก็จัดแจงนำอาหารไปใส่จาน โต้ง แนน และหญิงต่างก็ยิ้มให้กัน จากนั้นทั้งหมดก็รับประทานอาหารเย็นด้วยกัน
โอมหลังจากซ้อมกีฬาแล้วก็เดินทางเพื่อที่จะกลับหอพัก ก็ได้เจอกับตั้มอีกครั้ง โอมรีบยกมือไหว้ ตั้มรีบรับไหว้ทันที
“วันหลังเจอพี่ไม่ต้องไหว้ก็ได้ครับ มันดูห่างๆกันยังไงไม่รู้” ตั้มบอก
“ไม่ได้หรอกครับ มันเป็นประเพณี อีกอย่างพี่ก็อยู่ตั้งปีสามน่ะ ห่างกันเยอะด้วยครับ” โอมพูด
“ว้า พี่คงจะแก่ไปแล้วสินะ” ตั้มพูดแกล้งโอม
“ไม่ใช่แบบนั้นครับ ผมไม่ได้ว่าพี่แก่นะครับ” โอมพูดอย่างตกใจ ตั้มยิ้มเมื่อมองเห็นความไร้เดียงสาของโอม
“พี่ล้อเล่นอ่ะครับ เออ แล้วกินอะไรมายัง ไปกินข้าวกับพี่มั้ย” ตั้มถาม
“ยังครับ เดี๋ยวผมว่าจะไปกินกับเพื่อนที่หอครับ ไม่เป็นไรครับ” โอมบอกตั้ม
“พี่เลี้ยงน้องรหัสสายตรงของพี่แล้ว แต่พี่ยังไม่ได้เลี้ยงสายจับของพี่เลย ขอให้พี่ได้เลี้ยงโอมสักครั้งเถอะนะครับ เดี๋ยวคนอื่นเค้าจะว่าพี่สนใจน้องรหัสไม่เท่ากัน” ตั้มพยายามหาเรื่องให้โอมไปกินข้าวด้วย เพราะพี่รหัสของโอมลาออก และตั้มมีน้องรหัสสองคนคือสายตรงคนหนึ่ง และพี่รหัสของโอมซึ่งเป็นสายจับ โอมจึงไม่มีใครดูแล ตั้มจึงต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ
“งั้นก็ได้ครับ” โอมตอบอย่างฝืนใจ
“งั้นขึ้นรถพี่ไปเลยครับ” ตั้มชวนโอมขึ้นรถ ไปที่รถเก๋งคันหรูที่จอดอยู่
“พี่ครับผมขอไปแต่งตัวก่อนได้มั้ยครับ ใส่ชุดกีฬาไปมันดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่อ่ะครับ” โอมขอตั้ม เพราะเห็นตั้มใส่ชุดนักศึกษาเข้ารูปดูสะอาดสะอ้าน และดูสุภาพ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะร้านอาหารเป็นร้านของพี่เอง แล้วอีกอย่างก็ไม่มีใครเห็นเราหรอกครับเพราะมีห้องส่วนตัว” ตั้มเสนอ
“โห ไม่ถึงขนาดนั้นก็ได้ครับ” โอมพูดอย่างเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เลี้ยงน้องทั้งทีก็ต้องเลี้ยงให้ดีๆสิครับ ขึ้นรถเถอะครับเดี๋ยวจะช้า” ตั้มชวนโอม โอมขึ้นรถของตั้มและตั้มรีบออกรถทันที ระหว่างทางก็คุยกัน
“ทำไมพี่ไม่ชวนเก่งกับพี่อ้นมาด้วยล่ะครับ จะได้ครบทั้งสายเลย” โอมถาม
“สองคนนั้นเหรอ พี่เลี้ยงมันบ่อยแล้ว ยิ่งเลี้ยงยิ่งได้ใจพอก่อนเถอะครับ ทุกวันนี้พี่ท่าจะเหมือนห้องอาหารของพวกมันแล้วมั้ง” ตั้มพูดแล้วยิ้มไปด้วยเหมือนไม่ได้คิดอะไรมาก
“แต่โอมสิ พี่ยังไม่ได้ให้อะไรมากเลย พี่ชวนเมื่อไหร่โอมก็ไม่ว่างสักที” ตั้มพูดอย่างน้อยใจ
“โอมไม่ได้อะไรมากเหรอครับ ตอนเข้าห้องเชียร์ ผมอิ่มคนเดียวยังไม่พอ เพื่อนผมยังอิ่มไปด้วยอีก นี่พี่ยังว่าไม่ได้อะไรมากอีกเหรอครับ” โอมถาม
“ป่าว พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น พี่หมายถึงอย่างอื่นด้วยอ่ะครับ อย่างหนังสือหรือว่าข้าวของอย่างอื่นอะไรแบบนี้ครับ” ตั้มพูด
“อ่ะอ๋อครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี่ยวผมไปยืมพวกเค้าก็ได้ครับ” โอมพุดอย่างเกรงใจ
“ไม่ได้หรอกครับ ยืมกันไปยืมกันมาเดี๋ยวก็อ่านไม่รู้เรื่องพอดี” ตั้มพูดอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” โอมพูดแล้วก็ยิ้มให้ตั้ม ตั้มยิ้มแล้วก็มองโอมอย่างไม่ละสายตา
จากนั้นก็มาถึงร้านอาหาร ซึ่งเป็นภัตตาคารจีนที่ใหญ่ ตั้มจึงพาโอมเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง โดยมีอาหารจัดเรียงอยู่เต็มโต๊ะ โอมเห็นถึงกับตะลึงอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ว่าจะได้มากินอาหารที่แพงและหรูหราอะไรเช่นนี้
“อาหารมาแล้วครับ เรามากินกันดีกว่านะ” ตั้มชวนโอมกิน โอมผงกหัวตกลง แล้วทั้งสองก็ลงมือกินข้าวกัน ระหว่างที่กินอยู่นั้นจู่ๆ ตั้มก็ถามโอมขึ้นมา
“แล้วมีแฟนยังฮะ เราอ่ะ” ตั้มถาม โอมได้ยินถึงกับตะลึงไปพักหนึ่ง และกำลังจะอ้าปากตอบ ตั้มก็พูดออกมาทันที
“ท่าจะมีแล้วล่ะสิ ท่าทางแบบนี้ อยากรู้จังว่าน้องสะใภ้พี่จะเป็นใครนะ” ตั้มพูดแล้วยิ้มให้โอม โอมรีบขัดขึ้นมาทันที
“ยังครับ โอมยังไม่มีใครเลยครับพี่” โอมตอบทำหน้าตื่นๆ ทำให้ตั้มหัวเราะออกมาเบาๆ ในความไร้เดียงสาของโอมอีกครั้ง
“ทำไมน่ารักแบบนี้นะ อยากได้เอามาเป็นน้องชายจริงๆ จังเลย ไม่รู้จักโตสักทีนะเรา พี่แค่ล้อเล่นเฉยๆครับ” ตั้มพูดแล้วยิ้มให้กับท่าทางของโอมที่ตอนนี้ทำท่าทางเหมือนกำลังสับสนในชีวิตของตัวเองมาก
“ก็ผมไม่รู้นี่ครับ” โอมพูดแล้วเกาหัวตัวเองเบาๆ ทำให้ตั้มอมยิ้มของตัวเองไว้
“มีน้องรหัสเป็นโอมเนี่ย พี่มีความสุขจังเลยครับ” ตั้มพูด
“โอมเหมือนตัวตลกมากเลยเหรอครับ” โอมพูดแล้วทำหน้างงๆ
“ป่าวๆ ครับพี่หมายถึงความน่ารักในตัวโอมอ่ะครับ” ตั้มพูดแล้วยิ้ม
“พี่ว่าเรากินกันต่อเถอะนะครับ เดี๋ยวของจะเย็นหมด” ตั้มเปลี่ยนเรื่องแล้วชวนกินต่อ หลังจากทานข้าวอิ่มกันแล้วก็ถึงเวลาของของว่าง ตั้มจึงชวนโอมคุยต่อ
“โอม โอมจบจากโรงเรียนอะไรนะครับ” ตั้มถาม
“บุรุษศึกษาครับ” โอมตอบ
“เหรอครับ จบจากโรงเรียนชายล้วนเหมือนพี่เลย ถึงว่าล่ะไม่มีแฟนกับเค้าซะที ตอนพี่อยู่ปี 1 พี่ก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ” ตั้มบอก
“อืมครับ ผมไม่ซีเรียสกับเรื่องแบบนี้หรอกครับ ถ้ามีก็ดี ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร” โอมตอบแบบไม่ค่อยสนใจ
“ได้ยังไงครับ เราเป็นผู้ชาย เราก็ต้องไปจีบเค้าก่อนสิครับ จะให้เค้ามาจีบเราก่อนได้ยังไง” ตั้มบอก ทำให้โอมคิดอยู่นาน เพราะโอมไม่ได้ชอบผู้หญิง และนึกถึงตอนที่บาสเข้ามาจีบโอมและตอนที่คบกัน ทำให้โอมนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง จนตั้มต้องมาสะกิด
“โอม โอมครับ เป็นอะไรป่ะครับ” ตั้มถาม
“ปะป่าวครับ ผมว่าเรามากินของหวานกันดีกว่านะครับ โอมอยากกลับหอแล้วครับ” โอมบอกแล้วเปลี่ยนมากินของว่างที่อยู่ข้างหน้า
“ครับๆ” ตั้มพูดและแอบสงสัยนิดหน่อย
หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้ว ตั้มก็ไปส่งโอมที่หอพักในมหาวิทยาลัย
“โอม วันหลังพี่จะหาหนังสือมาให้นะครับ รอหน่อยนะ” ตั้มพูด
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” โอมตอบอย่างเกรงใจ
“ขอบคุณมากนะครับที่พาผมไปเลี้ยง” โอมพูดแล้วยกมือไหว้ ตั้มรีบจับมือโอมที่ไหว้ทันที
“พี่บอกแล้วไง กับพี่ไม่ต้องไหว้ก็ได้” ตั้มทำหน้าจริงจังใส่
“ครับ ผมไปก่อนนะครับ” โอมพูดแล้วเดินออกจากรถของตั้ม และรอตั้มขับรถไปให้พ้นสายตาก่อนจะเดินเข้าหอพัก
ดูต่อด้านล่าง