...ขอชื่นชมด้วยใจจริง “ประชาธิปัตย์” ผู้มีจุดยืนตลอดมา !...

กระทู้สนทนา
เขียนเมื่อ 1 เมษายน 56 ก่อนเที่ยงคืน


กว่า 60 ปี  ที่กำเนิดพรรคประชาธิปัตย์  โดยท่านควง อภัยวงศ์  ผู้ก่อตั้งพรรคและหัวหน้าพรรคคนแรก  จวบจนถึงปัจจุบันนี้  พรรคประชาธิปัตย์ได้สร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศอย่างล้นเหลือ  พูดได้ว่าถ้าไม่มีพรรคประชาธิปัตย์เสียแล้ว  ป่านนี้ประเทศไทยจะเป็นอะไรก็ไม่รู้..ไม่อยากคิด

ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา  หลายครั้ง พรรคปชป. เป็นตัวแทนประชาชน  ต่อสู้กับเผด็จการทหาร  โดยไม่คำนึงผลที่ตนจะได้รับ  ชนิดตายเป็นตาย ถ้าไม่ได้ประโยชน์ ..น่าชื่นชม

บางครั้ง  พรรคประชาธิปัตย์ถึงคราวตกต่ำ  จนแทบไม่เหลือ สส.ในพรรค  เพราะจุดยืนที่มั่นคง  คือค้านอย่างเดียว  โดยไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น  จนประชาชนมองว่าเป็นการเล่นแต่การเมือง  ฉะนั้น  เมื่อถึงการเลือกตั้ง  คนจึงไม่เลือกพรรค ปชป. ..เพราะประชาชนโง่ !

ปัจจุบัน มาถึงสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค  ได้ยึดมั่นบุคคลอย่างางนายชวน หลีกภัย “เทพเจ้าแห่งปักษ์ใต้”เป็นต้นแบบ  ต่อสู้กับอธรรมอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรแห่งพรรคไทยรักไทย  ทำให้พรรค ปชป.ได้รับการเลือกตั้งเป็นจำนวนมากในประวัติศาสตร์ ..เหนือกว่าเทพเจ้าชวน

เมื่อภาวะแห่งความวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้น เพราะพันธมิตรออกมาประท้วง นายอภิสิทธิ์ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความอัจฉริยะ ความเป็นผู้นำ แสดงความกล้าหาญในระบอบประชาธิปไตย  ได้เสนอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ ม.7 ขอนายกฯพระราชทาน ..แต่ยังไม่สำเร็จ

เมื่ออธรรมอย่างทักษิณ ประกาศยุบสภา เพราะคนดีอย่างพันธมิตรออกมาคัดค้านอย่างหนัก เนื่องจากทักษิณได้รับเลือกตั้งเกินครึ่ง จึงถือว่าเป็นเผด็จการรัฐสภาตามระบอบประชาธิไตย หรือเรียกสภาผัวเมีย ด้วยความร่วมมืออย่างดียิ่ง เพื่อเห็นแก่ประชาธิปไตยในระบอบรัฐสภา ปชป. จึงประกาศบอยคอตการเลือกตั้งครั้งนั้น..ไม่ส่งคนลงสมัคร

ในที่สุด ฟ้ามีตา ทักษิณต้องจ้างพรรคเล็กให้ลงสมัคร แต่ถูกจับได้ ศาลรัฐธรรมนูญจึงสั่งยุบพรรคไทยรักไทยในที่สุด จับ กกต.ชั่วไปติดคุก เพื่อหวังจะได้คนดีอย่างท่านอภิสิทธิ์ให้เป็นผู้นำประเทศที่สง่างาม..แต่ยังไม่ถึงเวลา

วันที่เกิดรัฐประหาร 19 กย.49 โดย พล.อ.สนธิ เหมือนช่วยประเทศไทย ให้พ้นจากอำนาจบ่วงมารของทรราชย์ทักษิณ ประชาชนต่างปลื้มปีติ ซึ่งตอนนั้น ทุกคนต่างเข้าใจว่าจะได้ท่านอภิสิทธิ์ มาเป็นนายกฯเสียที เพื่อกอบกู้สถานะการณ์ประเทศ..แต่ก็ยังคงไม่ถึงเวลา

คณะรัฐประหารผู้มีบุญคุณอันล้นพ้นประเทศไทย ได้ฉีกรัฐธรรมนูญชั่วร้าย ปี 40 ซึ่งร่างโดยประชาชนหน้าโง่ ปัญญาอ่อนทิ้ง เชิญท่านสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีให้มาเป็นนายกฯขัดตาทัพ และได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ซึ่งเปี่ยมล้นไปด้วยประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบชนิดไม่เคยมีในโลก อันมี สนช.ที่ฉลาดปราดเปรื่อง โดยมีท่านประสงค์ สุ่นศิริ เป็นประธาน เขียนรัฐธรรมนูญฉบับทักษิณ..นี่ซิของจริง !

หลังแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น ก็ต้องบังคับให้ประชาชนหน้าโง่ เหล่านั้นรับรัฐธรรมนูญ เพราะไม่เช่นนั้น ก็จะไม่รับ จึงต้องใช้ทั้งขู่หรือหลอกล่อ เพื่อให้รับไปก่อนแล้วค่อยแก้ไขทีหลัง ทั้งนี้ทั้งนั้น ท่านอภิสิทธิ์เอง ก็ได้ให้คำแนะนำและร่วมอยู่ในขบวนการนี้โดยตลอด..เพื่อจุดยืนประชาธิปไตย

เมื่อคณะคมช.ประกาศให้มีเลือกตั้งครั้งใหม่ โดยหมายใจว่าจะให้ท่านอภิสิทธิ์ผู้สง่างาม มาเป็นนายกฯเพื่อพัฒนาประเทศเสียที แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะประชาชนหน้าโง่ มืดบอด หันไปเลือกพรรคนอมินีของไทยรักไทยที่มีทักษิณหนุนหลัง คือพรรคพลังประชาชน ได้นายสมัคร สุนทรเวช คนไม่น่ารัก..มาเป็นนายกฯ

แต่กว่าจะแก้เกมได้  ต้องใช้แผนอันแยบยลโดยสมองชั้นเลิศ  ให้ศาลฯปลดนายสมัครออก  ตามพจนานุกรมเพราะความผิดไม่มีในข้อกฎหมาย  เมื่อได้นายสมชายเป็นนายกฯ ก็ต้องให้พันธมิตรออกมายึดทำเนียบ  ยึดสนามบิน  ยุบพรรคพลังประชาชนทิ้ง  ต้องใช้ทหารบังคับคุณเนวิน(คุณห้อย)ให้เป็นงูเห่า  ด้วยความเหนื่อยยากอย่างที่สุด  กว่าจะได้เป็นนายกฯ..ต้องทุ่มเทสุดๆ

เมื่อท่านอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ บริหารประเทศอย่างราบรื่น  สร้างประโยชน์ให้ประเทศอย่างมหาศาล  ประชาชนร่มเย็นเป็นสุขทุกถ้วนหน้า  ประเทศอื่นๆไม่อยากตอแยด้วย  เพราะท่านอภิสิทธิ์รู้ทันหมด  อีกทั้งนโยบายการบริหารประเทศที่เป็นแบบฉบับเฉพาะตัว  ที่นายกฯรุ่นต่อๆมา จะมองข้ามเสียมิได้  ด้วยความคิด  วิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลยิ่ง ..นั่นคือไข่ชั่งกิโล อันลือลั่น !

หลังการเลือกตั้งครั้งล่าสุด  เมื่อวันที่ 3 กค.54 แม้ท่านอภิสิทธิ์จะแพ้เลือกตั้งเหมือนเดิมอีกก็ตาม  นั่นถือว่าเป็นธรรมเนียมของพรรคอยู่แล้ว ก็ไม่ได้เสียใจแต่อย่างใด  ถึงแม้จะกลับมาเป็นฝ่ายค้านเหมือนเดิม  แต่ท่านอภิสิทธิ์ แห่งปชป.ก็ยังคงมีจุดยืนคงที่  คือค้านทุกอย่างที่รัฐบาลทำ เพราะถือว่าท่านคือฝ่ายค้าน ..นั่นเป็นจุดยืนของพรรค



จากวันนั้น ถึงวันนี้ ปชป.คือพรรคการเมืองที่ยืนเคียงข้างประชาชน  โดยเฉพาะท่านอภิสิทธิ์  ซึ่งเป็นผู้นำพรรคของคนรุ่นใหม่ยุคนี้  ได้สร้างพรรคฝ่ายค้านให้เจริญก้าวหน้า  จนคะแนนทิ้งห่างพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน คือ “พรรครักประเทศไทย”ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษย์  อย่างชนิดไม่เห็นฝุ่น  จึงเชื่อได้ว่า ท่านอภิสิทธิ์ของพวกเรา  จะสามารถยืนหยัดในตำแหน่งหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านได้อีกยาวนาน  และอาจถาวร ..ขอชื่นชมในจุดยืนตลอดไป !!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่