สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
อิจฉาได้ แต่อย่าริษยา
ผมเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน
แต่ผมถูกเลี้ยงดูด้วยความรัก ถามว่าพ่อแม่เลี้ยงดูยังไง....??
ก็ใช้ความยากจน นั่นแหละเลี้ยงมา บางครั้งกินน้ำข้าวผสมน้ำอ้อย (นม ยังอร่อยสู้ไม่ได้)
บางครั้งข้าวคลุกกะปิปนกากหมู แม้จะไม่ใช่อาหารเลิศเลอแต่มันก็อร่อยเชียวล่ะ
ความลำบากมันเป็นเลยเป็นเกราะชั้นดีให้กับตัวผม ให้ผมไม่รู้สึกว่ามันลำบาก เพราะเราชินกับมัน
ผมเรียนจบ ม.6 ผมก็บอกพ่อกับแม่ว่า ถึงเวลาที่ผมจะโบยบินแล้ว ผมจะไปต่อสู้กับโชคชะตาด้วยตัวของผมเอง
แล้วผมก็ดั้นดนเดินทาง ขึ้นมา กทม.เพื่อเรียนหนังสือ กู้ทุนเรียน เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย
(ทำงานร้านอาหาร ล้างจาน พ่อครัว เด็กเสริ์ฟ ขนขยะ ทำแมร่งทุกอย่าง)
บางครั้งเก็บร้านเลิกดึก ไม่มีรถกลับ ต้องวิ่งจากที่ทำงาน ไปหอพัก รองเท้านันยางๆ คู่เก่าๆ พรุนแล้วพรุนอีก
มีชีวิตอยู่ด้วยเศษอาหารของคนรวยที่เค้ากินทิ้งกินขว้างกัน แค่เศษเนื้อปลาที่ติดก้างปลากระพงทอดตัวใหญ่ๆ
นั่นก็ถือว่า วันนั้นมีอาหารชั้นดีให้เราได้กินแล้ว กินทุกอย่างที่ขวางหน้า เพื่อให้ท้องอิ่ม ให้วันนี้ได้นอนหลับ
ผมไม่รู้ว่าหรอกว่ามันสกปรกยังไง ผมรู้แต่ว่าผมต้องกิน ผมต้องมีชีวิตอยู่เพื่อวันพรุ่งนี้
ถามว่าลำบากมั๊ย.....?? ผมไม่รู้ ผมรู้แต่ว่ามันคือสิ่งที่ผมต้องเผชิญ
เรียนจบ ไม่ได้รับปริญญา (ไม่มีตังค์) ตกงานอยู่หลายเดือน กว่าจะหาเงินได้
กว่าจะได้ส่งให้ทางบ้าน มาม่าแค่ 1 Pack สามารถกินกับข้าวได้เป็นอาทิตย์
กว่าจะดีขึ้น ก็ใช้เวลาหลายปี ผมไม่เคยคิดที่จะให้อะไรกับตัวเอง
มีเงินก็ส่งให้ทางบ้าน ให้หลานได้เรียน ให้แม่ได้ใช้ ให้พวกเค้าได้กินอิ่มนอนหลับ
แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว เมื่อเราโตขึ้น เราถึงได้รู้ว่า เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร.....??
สมัยเรียนมหาลัย เวลาผมท้อแท้ เหนื่อยหน่าย เบื่อชีวิต ผมก็จะหยิบจดหมายแม่มาอ่าน
ตัวหนังสือของคนจบ ป.1 ที่บรรจงเขียนด้วยความรู้สึก แล้วลงท้ายด้วยข้อความว่า

มันทำให้ผมเลือกที่จะสู้ต่อไป
Smart phone โก้เก๋ ผมไม่ต้องการหรอก
รถเก๋งคันสวยๆ ผมไม่อยากได้หรอก
ร้านอาหารหรูๆ ผมไม่เคยเข้าหรอก
บ้านหลังใหญ่ๆ ผมไม่เอาหรอก
เสื้อผ้าแบรนด์เนม ผมไม่เคยใส่หรอก
ผมขอแค่ให้ร่างกายแข็งแรง และแกร่งพอที่จะต่อสู้กับอุปสรรควันพรุ่งนี้
ผมว่ามันก็เพียงพอแล้วล่ะ
ผมก็แค่อยากแชร์ประสบการณ์ชีวิต ให้ จขกท.รับรู้ว่า บนโลกใบนี้
ยังมีอีกหลายล้านคนที่แย่กว่าคุณ หลายล้านคนลำบากกว่าผม
ขอเพียงแค่เราทนกับมัน อยู่กับมันให้ได้ และอยู่กับมันให้ชิน ก็พอ
แม้ชีวิตจะติดลบ- แต่มันไม่ได้หมายความว่า ความคิดเราจะติดลบ
ผมเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน
แต่ผมถูกเลี้ยงดูด้วยความรัก ถามว่าพ่อแม่เลี้ยงดูยังไง....??
ก็ใช้ความยากจน นั่นแหละเลี้ยงมา บางครั้งกินน้ำข้าวผสมน้ำอ้อย (นม ยังอร่อยสู้ไม่ได้)
บางครั้งข้าวคลุกกะปิปนกากหมู แม้จะไม่ใช่อาหารเลิศเลอแต่มันก็อร่อยเชียวล่ะ
ความลำบากมันเป็นเลยเป็นเกราะชั้นดีให้กับตัวผม ให้ผมไม่รู้สึกว่ามันลำบาก เพราะเราชินกับมัน
ผมเรียนจบ ม.6 ผมก็บอกพ่อกับแม่ว่า ถึงเวลาที่ผมจะโบยบินแล้ว ผมจะไปต่อสู้กับโชคชะตาด้วยตัวของผมเอง
แล้วผมก็ดั้นดนเดินทาง ขึ้นมา กทม.เพื่อเรียนหนังสือ กู้ทุนเรียน เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย
(ทำงานร้านอาหาร ล้างจาน พ่อครัว เด็กเสริ์ฟ ขนขยะ ทำแมร่งทุกอย่าง)
บางครั้งเก็บร้านเลิกดึก ไม่มีรถกลับ ต้องวิ่งจากที่ทำงาน ไปหอพัก รองเท้านันยางๆ คู่เก่าๆ พรุนแล้วพรุนอีก
มีชีวิตอยู่ด้วยเศษอาหารของคนรวยที่เค้ากินทิ้งกินขว้างกัน แค่เศษเนื้อปลาที่ติดก้างปลากระพงทอดตัวใหญ่ๆ
นั่นก็ถือว่า วันนั้นมีอาหารชั้นดีให้เราได้กินแล้ว กินทุกอย่างที่ขวางหน้า เพื่อให้ท้องอิ่ม ให้วันนี้ได้นอนหลับ
ผมไม่รู้ว่าหรอกว่ามันสกปรกยังไง ผมรู้แต่ว่าผมต้องกิน ผมต้องมีชีวิตอยู่เพื่อวันพรุ่งนี้
ถามว่าลำบากมั๊ย.....?? ผมไม่รู้ ผมรู้แต่ว่ามันคือสิ่งที่ผมต้องเผชิญ
เรียนจบ ไม่ได้รับปริญญา (ไม่มีตังค์) ตกงานอยู่หลายเดือน กว่าจะหาเงินได้
กว่าจะได้ส่งให้ทางบ้าน มาม่าแค่ 1 Pack สามารถกินกับข้าวได้เป็นอาทิตย์
กว่าจะดีขึ้น ก็ใช้เวลาหลายปี ผมไม่เคยคิดที่จะให้อะไรกับตัวเอง
มีเงินก็ส่งให้ทางบ้าน ให้หลานได้เรียน ให้แม่ได้ใช้ ให้พวกเค้าได้กินอิ่มนอนหลับ
แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว เมื่อเราโตขึ้น เราถึงได้รู้ว่า เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร.....??
สมัยเรียนมหาลัย เวลาผมท้อแท้ เหนื่อยหน่าย เบื่อชีวิต ผมก็จะหยิบจดหมายแม่มาอ่าน
ตัวหนังสือของคนจบ ป.1 ที่บรรจงเขียนด้วยความรู้สึก แล้วลงท้ายด้วยข้อความว่า

มันทำให้ผมเลือกที่จะสู้ต่อไป
Smart phone โก้เก๋ ผมไม่ต้องการหรอก
รถเก๋งคันสวยๆ ผมไม่อยากได้หรอก
ร้านอาหารหรูๆ ผมไม่เคยเข้าหรอก
บ้านหลังใหญ่ๆ ผมไม่เอาหรอก
เสื้อผ้าแบรนด์เนม ผมไม่เคยใส่หรอก
ผมขอแค่ให้ร่างกายแข็งแรง และแกร่งพอที่จะต่อสู้กับอุปสรรควันพรุ่งนี้
ผมว่ามันก็เพียงพอแล้วล่ะ
ผมก็แค่อยากแชร์ประสบการณ์ชีวิต ให้ จขกท.รับรู้ว่า บนโลกใบนี้
ยังมีอีกหลายล้านคนที่แย่กว่าคุณ หลายล้านคนลำบากกว่าผม
ขอเพียงแค่เราทนกับมัน อยู่กับมันให้ได้ และอยู่กับมันให้ชิน ก็พอ
แม้ชีวิตจะติดลบ- แต่มันไม่ได้หมายความว่า ความคิดเราจะติดลบ
ความคิดเห็นที่ 21
"มองต่ำเราเหลือ มองเหนือเราขาด"
ผมไม่มีบ้าน ผมไม่มีรถ ไม่มีเงินเก็บ (พึ่งมามีเอาช่วงทำงานหาเงินเองเนี่ยล่ะ)
ทรัพย์สินปลอดภาระหนี้ของผมก็มีแค่พอร์ทหุ้นเล็กๆ โน๊ตบุ๊คตัวนึง และมือถือ
แถมมีหนี้ของครอบครัวที่ผมต้องใช้ให้หมดราวๆ2ล้านกว่าบาทภายในปีนี้ ไม่งั้นบ้านของแม่จะโดนยึด
เพื่อนผมมีรถขับ คิดแค่ว่าเสาร์อาทิตย์ไปเที่ยวไหนดี เรียนจบโท (พ่อแม่ส่ง)
เคยถามตัวเองว่าเจ็บใจมั้ย? ก็เจ็บใจ ก่อนแม่ผมจะล้มป่วยแบบทุกวันนี้
ท่านบอกกับผมว่า
สิ่งที่แม่จะให้ลูกได้ก็มีแค่วิชาความรู้เท่านั้น อย่างอื่นแม่คงไม่มีให้
ทุกวันนี้เวลาไปเจอเพื่อน นัดกันไปจิบไวน์
ผมก็ไม่ไป บอกแค่ว่า ไม่มีตังอ่ะ ผมจน
อย่างเจ้าของกระทู้ยังมีบ้าน ยังมีรถ ยังคิดแบบนี้
แล้วถ้าเป็นอย่างผมหรือแย่กว่าผม ไม่ฆ่าตัวตายเลยหรือ?
ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีผลตอบแทนทั้งนั้น
ผมไม่อยากให้ จขกท โกหกตัวเองหรอกนะครับว่า ให้พอใจในสิ่งที่มี
เพราะผมก็ไม่เคยพอใจในสิ่งที่ผมมี
และความรู้สึกแบบนี้ ถึงทำให้หัวใจผมยังเต้นอยู่ได้
ยังเยาว์ ยังอยากได้ ยังอยากมี ยังมีความฝัน ก็ยังมีพลังครับ
กัดฟันให้แน่นครับ เกมชีวิตมันไม่ได้จบแค่วันนี้หรือพรุ่งนี้ครับ ชีวิตเรายังต้องก้าวเดินไปอีกยาวไกล
ด้วยความเคารพ
ผมไม่มีบ้าน ผมไม่มีรถ ไม่มีเงินเก็บ (พึ่งมามีเอาช่วงทำงานหาเงินเองเนี่ยล่ะ)
ทรัพย์สินปลอดภาระหนี้ของผมก็มีแค่พอร์ทหุ้นเล็กๆ โน๊ตบุ๊คตัวนึง และมือถือ
แถมมีหนี้ของครอบครัวที่ผมต้องใช้ให้หมดราวๆ2ล้านกว่าบาทภายในปีนี้ ไม่งั้นบ้านของแม่จะโดนยึด
เพื่อนผมมีรถขับ คิดแค่ว่าเสาร์อาทิตย์ไปเที่ยวไหนดี เรียนจบโท (พ่อแม่ส่ง)
เคยถามตัวเองว่าเจ็บใจมั้ย? ก็เจ็บใจ ก่อนแม่ผมจะล้มป่วยแบบทุกวันนี้
ท่านบอกกับผมว่า
สิ่งที่แม่จะให้ลูกได้ก็มีแค่วิชาความรู้เท่านั้น อย่างอื่นแม่คงไม่มีให้
ทุกวันนี้เวลาไปเจอเพื่อน นัดกันไปจิบไวน์
ผมก็ไม่ไป บอกแค่ว่า ไม่มีตังอ่ะ ผมจน
อย่างเจ้าของกระทู้ยังมีบ้าน ยังมีรถ ยังคิดแบบนี้
แล้วถ้าเป็นอย่างผมหรือแย่กว่าผม ไม่ฆ่าตัวตายเลยหรือ?
ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีผลตอบแทนทั้งนั้น
ผมไม่อยากให้ จขกท โกหกตัวเองหรอกนะครับว่า ให้พอใจในสิ่งที่มี
เพราะผมก็ไม่เคยพอใจในสิ่งที่ผมมี
และความรู้สึกแบบนี้ ถึงทำให้หัวใจผมยังเต้นอยู่ได้
ยังเยาว์ ยังอยากได้ ยังอยากมี ยังมีความฝัน ก็ยังมีพลังครับ
กัดฟันให้แน่นครับ เกมชีวิตมันไม่ได้จบแค่วันนี้หรือพรุ่งนี้ครับ ชีวิตเรายังต้องก้าวเดินไปอีกยาวไกล
ด้วยความเคารพ
ความคิดเห็นที่ 57
พ่อของผมเป็นคนหาเงินเก่ง แต่ท่านเสียไปตอนที่ผมอายุ 4ขวบ ช่วงนั้นแม่ไม่ได้ทำงาน เพราะแค่เงินพ่อก้อมากพอแล้ว
หลังจากพ่อเสีย แม่ต้องเริ่มต้นทำงาน เลี้ยงลูกสองคน การหางานสำหรับคนจบม.6 ไม่ได้ง่ายดังคิด
โชคดีที่ผมมีครอบครัว ตายาย คอยรองรับ แม่ย้ายตัวเองและลูกๆ มาบ้านตายาย
บ้านตัวเองให้เขาเช่า เงินที่มีเอาไว้ส่งให้ลูกได้เรียน
ผมมีเงินไปโรงเรียนแค่ติดตัว เพราะไม่ได้ใช้ เหลือกลับบ้านเต็มกระเป๋าทุกวัน เงินที่เหลือ หยอดกระปุกเป็นทุน
พอเข้าเรียน ม.1 อยากได้ของเล่น ก็รวมหัวกับเพื่อนๆ เก็บขยะเอาไปขาย ของที่ได้มา เป็นของห้อง จะเล่น เล่นด้วยกันเอากลับบ้านไม่ได้
พอเข้าเรียน มหาวิทยาลัย เวลาว่าง ขี่จักรยานสอนพิเศษ เก็บเงิน ไว้ซื้อของที่อยากได้
ผมจบ ปริญญาด้วยเงินเก็บ 0 บาท เริ่มต้นชีวิตการทำงานใหม่ทั้งหมด
ทำงาน 5ปี มีเงินเก็บ ราว 3แสน ส่งตัวเองเรียน ปริญญาโท
จบปริญญาโท เงินเก็บ เป็น 0 อีกครั้ง
ตอนนี้ ผมอยากได้รถดีดี ผมจะซื้อรุ่นที่ดี แต่เป็นมือสอง ดาวน์น้อยแทบไม่ต้องผ่อน
ผมเรียนทาง IT ผมชอบมือถือระดับเยี่ยม ผมจะซื้อมือสองของรุ่นที่ล้าไปแล้ว มาเล่น
อย่างเช่นตอนนี้ sony experia S มือสองดีดีราคาไม่เกิน 8000 เทียบกับตอนออกใหม่ 2หมื่นกว่า
ซึ่งใช้งานได้เหมือนกัน ได้สัมผัสได้ลองเล่นตามใจใฝ่ฝัน
ถามว่าผมมีทุนชีวิตที่ดีไหม คงตอบว่าไม่มาก แต่ผมเชื่อว่า นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด ที่ผมได้รับ ...ประสบการณ์ชีวิต
ทุกวันนี้ สิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดคือ เวลาที่ลูกถามอะไร ผมแทบจะบอกได้ว่า ทำมาหมดแล้ว
สิ่งที่ผมกังวลคือ จากรุ่นผม สู่รุ่นลูก จะเป็นอย่างไร
เพราะคนที่ได้ทุนจากพ่อแม่มาเยอะ เขาจะขาดประสบการณ์การใช้มัน แต่คนที่หามาเอง จะรู้ว่าใช้เงินอย่างไรให้มีเหลือ
หลังจากพ่อเสีย แม่ต้องเริ่มต้นทำงาน เลี้ยงลูกสองคน การหางานสำหรับคนจบม.6 ไม่ได้ง่ายดังคิด
โชคดีที่ผมมีครอบครัว ตายาย คอยรองรับ แม่ย้ายตัวเองและลูกๆ มาบ้านตายาย
บ้านตัวเองให้เขาเช่า เงินที่มีเอาไว้ส่งให้ลูกได้เรียน
ผมมีเงินไปโรงเรียนแค่ติดตัว เพราะไม่ได้ใช้ เหลือกลับบ้านเต็มกระเป๋าทุกวัน เงินที่เหลือ หยอดกระปุกเป็นทุน
พอเข้าเรียน ม.1 อยากได้ของเล่น ก็รวมหัวกับเพื่อนๆ เก็บขยะเอาไปขาย ของที่ได้มา เป็นของห้อง จะเล่น เล่นด้วยกันเอากลับบ้านไม่ได้
พอเข้าเรียน มหาวิทยาลัย เวลาว่าง ขี่จักรยานสอนพิเศษ เก็บเงิน ไว้ซื้อของที่อยากได้
ผมจบ ปริญญาด้วยเงินเก็บ 0 บาท เริ่มต้นชีวิตการทำงานใหม่ทั้งหมด
ทำงาน 5ปี มีเงินเก็บ ราว 3แสน ส่งตัวเองเรียน ปริญญาโท
จบปริญญาโท เงินเก็บ เป็น 0 อีกครั้ง
ตอนนี้ ผมอยากได้รถดีดี ผมจะซื้อรุ่นที่ดี แต่เป็นมือสอง ดาวน์น้อยแทบไม่ต้องผ่อน
ผมเรียนทาง IT ผมชอบมือถือระดับเยี่ยม ผมจะซื้อมือสองของรุ่นที่ล้าไปแล้ว มาเล่น
อย่างเช่นตอนนี้ sony experia S มือสองดีดีราคาไม่เกิน 8000 เทียบกับตอนออกใหม่ 2หมื่นกว่า
ซึ่งใช้งานได้เหมือนกัน ได้สัมผัสได้ลองเล่นตามใจใฝ่ฝัน
ถามว่าผมมีทุนชีวิตที่ดีไหม คงตอบว่าไม่มาก แต่ผมเชื่อว่า นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด ที่ผมได้รับ ...ประสบการณ์ชีวิต
ทุกวันนี้ สิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดคือ เวลาที่ลูกถามอะไร ผมแทบจะบอกได้ว่า ทำมาหมดแล้ว
สิ่งที่ผมกังวลคือ จากรุ่นผม สู่รุ่นลูก จะเป็นอย่างไร
เพราะคนที่ได้ทุนจากพ่อแม่มาเยอะ เขาจะขาดประสบการณ์การใช้มัน แต่คนที่หามาเอง จะรู้ว่าใช้เงินอย่างไรให้มีเหลือ
แสดงความคิดเห็น
เคยรู้สึกผิดหวัง น้อยใจ อิจฉา คนที่มีทุนชีวิตดีกว่าเรามั๊ยครับ
เกือบจะจนก็ว่าได้ พ่อก็ไม่รู้หายไปไหนตั้งแต่เด็กๆ รู้แต่ว่า มีเมียใหม่นั่นแหละ แม่คนเดียว เลี้ยงลูก4คน ไม่มีสมบัติให้
มีแต่การศึกษา ที่แม่ให้ได้ เรียนจบมา อยากได้อะไรต้องขวนขวาย นับ1 เก็บเงินเอง อยากมีรถซักคัน เก็บเงินดาวน์อยู่
2-3ปี ยังไม่นับที่ต้องผ่อนอีก พอหันมองดูเพื่อนๆ กรูเรียนจบ พ่อกรูจะซื้อรถให้ว่ะ ไปดูเป็นเพื่อนกรูหน่อย แคมรี่บ้าง
บีเอ็มบ้าง พอมองกลับมาที่ตัวเองแล้วก็อิจฉานิดๆ แค่ของกรู วีออส หรือ ยาริส หาเงินดาวน์ก็รากเลือดแล้ว อยากมีบ้าน
ก็ต้องเก็บเงิน เริ่มทำสเตทเมนท์ เพื่อกู้ธนาคาร พอมองไปที่เพื่อน เฮ้ยเด๋วพ่อแม่กรูจะซื้อบ้านให้ว่ะ หรือบางคนก็อาจมีที่ดิน
มีบ้านหลายหลังของพ่อแม่อยู่แล้ว ซื้อทีหลังละ 5-6ล้านไปถึง 10ล้าน ไอเราหรอ แค่ทาวเฮาส์2ชั้น ราคา 1ล้านนิดๆ ก็ ไม่รู้จะผ่อนหมดรึเปล่า บางครั้งมันก็รู้สึกน้อยใจนิดๆนะครับ มองดูเพื่อนทุกคน ทุนชีวิตดีๆทั้งนั้น ตอนเรียนมาด้วยกัน ไอเราก็ตั้งใจเรียน
3บ้าง4บ้าง แต่กับเพื่อน เรียนๆตกๆ จะโดนไทร์บ้าง แต่สุดท้าย ชีวิตมันก็สุขสบายกว่า เพราะ ทุนชีวิตมันดีกว่า เวลานัดกันไปกิน
ไปเที่ยว เราก็เริ่มไม่อยากไป สำหรับเพื่อน เงิน4พัน5พัน เหมือนหามาได้ง่ายๆ แต่สำหรับเรา มันอยู่ได้เป็นครึ่งเดือนเลยนะ
ก็ไม่มีไรครับ มาบ่นๆ ระบายนิดหน่อย เพราะรู้สึกว่า ต่อให้เราพยายามแค่ไหน ทำงานให้มากกว่าแค่ไหน ก็ไม่สามารถแซง
คนที่มีทุนชีวิตดีกว่าเราได้เลย ถึงแม้ว่า ณ ตอนนี้จะมีบ้าน มีรถ ของตัวเองก็เถอะ [ยังผ่อนอยู่นะ]