ผมรู้สึกว่าพรรคการเมืองที่ย่ำอยู่กับที่ หวาดกลัวศัตรูมากที่สุดก็คือพรรคที่เรียกตัวเองว่าพรรคคนดี แต่มันไม่ได้เป็นความจริงเลย...
....หลังจากมีการรวบรัดตัดความในด้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ก่อให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา พร้อมกับการก้าวลงสู่อำนาจของกลุ่มผู้มีอำนาจจากการรัฐประหาร แต่อำนาจเหล่านั้นก็มิได้อาจสิ้นไปแต่อย่างใด เพราะเหล่าลูกสมุนก็ยังอยูาครบ ในนาม ส.ว. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กกต. ปปช. คตส. ที่พยายามจัดตั้งเพื่อกำจัดกลุ่มขั้วอำนาจเก่าอย่างถอนรากถอนโคน เริ่มจากการจัดการเลือกตั้งแบบวิธีใหม่ ที่เป็นวิธีที่งงมากมาย ปาร์ตี้ลิสต์ >>> สัดส่วน 8 กลุ่ม , 1 เขต 1 เบอร์ >>> เป็นพวง แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มอำนาจเก่าก็สามารถกลับมาเป็นรัฐบาลได้ แม้จะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ก็ตามแต่ โดยมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ "สมัคร สุนทรเวช" หลังจากนั้นก็มีการกลับมาเป็นครั้งแรกของ"คนแดนไำกล" และได้มีการพบเจอกันครั้งแรกของคนแดนไกลกับคนที่เรียกว่า "มือที่มองไม่เห็น" ซึ่งเป็นคำที่กลุ่ม นปช. ใช้เรียกคนๆนี้ในช่วงหลังรัฐประหาร นั้นคือ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" สาระสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนี้ สาระสำคัญอยู่ที่อดีตนายกโดนคดีเซนชื่อให้เมียซื้อที่ รู่จักกันดีในแวดวงข่าวสาร "คดีซื้อที่ดินรัชดา" ( ซึ่งรายละเอียดก็คงมากมาย ถ้ามีโอกาสอาจจะได้เขียนสรุปกันให้เห็นในรูปคดี ) และวันนึงอดีตนายกก็ออกนอกประเทศเพราะเริ่มเห็นสัญญาณทางการเมืองในด้านคดีของตนเอง พร้อมกับการออกมาเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลนายกสมัคร และมีการยึดสนามบิน พร้อมกับการลงจากตำแหน่งอย่างประหลาดจากตุลาการภิวัฒน์คือตีความคำว่า "ลูกจ้าง"จากพจนานุกรม เลือกนายกคนใหม่มาก็ได้ชื่อว่า "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" แต่ก็มิได้เข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาลแม้แต่วันเดียว พร้อมกับการเคลื่อนไหวยึดสนามบิน ยึดทำเนียบรัฐบาลที่เลื่อนนัดอัยารมา 18 ครั้ง รู้จักกันดีในนาม "ม็อบมีเส้น" "กลุ่มพันธมิตรฯ" พร้อมกับมีคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัณชิมา และในที่สุดก็เป็นอย่างที่คาดเดาของหลายๆคน มีการยุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชชิมา ตามระเบียบ พร้อมตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 5 ปี ก่อนวันพ่อไม่กี่วัน ทำให้เกิดกลุ่มก้อนทางการเมืองในนาม "งูเห่าภาค 2" กลุ่มเพื่อนเนวินที่เคยอยู่พรรคพลังประชาชนกลับไปจับมือกับฝ่ายพรรคที่ชื่อประชาธิปไตยแต่ทำตัวเป็นอนุรักษ์นิยม อย่าง"พรรคประชาธิปัตย์" แม้พรรคเพื่อไทยที่ ส.ส.ส่วนใหญ่ย้ายมาสวมเสื้อจากพรรคพลังประชาชน จะเสนอชื่อคนที่ไมไ่ด้อยู่ในพรรค อย่าง "พล.ตร.อ.ประชา พรหมนอก" แต่ก็ไม่สามารถโหวดชนะได้ การเมืองจึงสลับขั้วไปสู่ฝ่ายอนุรักษ์นิยม พร้อมกับการกลับมามีบทบาททางการเมืองอีกครั้งของกลุ่ม "นปช." ผมอาจข้ามรายละเอียดของเหตุการณ์ทางการเมืองไปบ้างต้องขออภัยพี่ๆน้าๆอาๆด้วย ตอนต่อไปจะชี้ให้้เห็นเหตุบ้านการเมืองที่ชัดเจนมากกว่านี้นะครับ
- คำถามก็คือ เนื่องด้วยประเทศไทยบอกว่ามีการคลานอำนาจสามฝ่ายก็คือ บริหาร ตุลาการ นิติบัญญํติ เข้่าใจได้ว่าอำนาจบริหารและอำนาจนิติบัญญัติสามารถตรวจสอบด้วยกลไกลทางรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นกระทู้ถามสด อภิปรายไม่ไว้วางใจโดยการลงมติ อภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมิต หรือแม้แต่อำนาจของประชาชนที่ร่วมลงชื่อเพื่อเสนอถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ แต่ทำไมไม่มีใครสามารถถ่วงดุลอำนาจของตุลาการได้ ไม่สามารถตรวจสอบการทำงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ได้อานิสงมาจากการรัฐประหาร อย่าอ้างว่าเป็นกลางทางการเมือง เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาตุลาการเหล่านี้ก็ตีความตามธงที่มีมาโดยล่าสุดก็ออกจากประธานวสันต์ แม้ภายหลังจะออกมาแก้ข่าวว่าผิดแค่ลำดับการเชียน แต่เค้าอาจจะลืมไปว่าประเทศนี้มีเครื่องบันทึกเสียง มีคลิปย้อนหลัง
ทั้งหมดทั้งมวลใ่นช่วงเริ่มต่นของการเขียนกระทู้ชองผมก็จะแสดงให้เห็นผลจากการรัฐประหารที่ยังสืบเนื่องมานับปัจจุบัน และสถาบันหลักอย่างศาล ก็กลายเป็นเครื่องมืิอทางการเมืองเพื่อกำจัดขั้วอำนาจเสรีนิยิม จึงเป็นที่มาของ "ตุลาการภิวัฒน์"
คำถามจากเด็กอายุ 19 ตอน 3
....หลังจากมีการรวบรัดตัดความในด้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ก่อให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา พร้อมกับการก้าวลงสู่อำนาจของกลุ่มผู้มีอำนาจจากการรัฐประหาร แต่อำนาจเหล่านั้นก็มิได้อาจสิ้นไปแต่อย่างใด เพราะเหล่าลูกสมุนก็ยังอยูาครบ ในนาม ส.ว. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กกต. ปปช. คตส. ที่พยายามจัดตั้งเพื่อกำจัดกลุ่มขั้วอำนาจเก่าอย่างถอนรากถอนโคน เริ่มจากการจัดการเลือกตั้งแบบวิธีใหม่ ที่เป็นวิธีที่งงมากมาย ปาร์ตี้ลิสต์ >>> สัดส่วน 8 กลุ่ม , 1 เขต 1 เบอร์ >>> เป็นพวง แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มอำนาจเก่าก็สามารถกลับมาเป็นรัฐบาลได้ แม้จะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ก็ตามแต่ โดยมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ "สมัคร สุนทรเวช" หลังจากนั้นก็มีการกลับมาเป็นครั้งแรกของ"คนแดนไำกล" และได้มีการพบเจอกันครั้งแรกของคนแดนไกลกับคนที่เรียกว่า "มือที่มองไม่เห็น" ซึ่งเป็นคำที่กลุ่ม นปช. ใช้เรียกคนๆนี้ในช่วงหลังรัฐประหาร นั้นคือ "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" สาระสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนี้ สาระสำคัญอยู่ที่อดีตนายกโดนคดีเซนชื่อให้เมียซื้อที่ รู่จักกันดีในแวดวงข่าวสาร "คดีซื้อที่ดินรัชดา" ( ซึ่งรายละเอียดก็คงมากมาย ถ้ามีโอกาสอาจจะได้เขียนสรุปกันให้เห็นในรูปคดี ) และวันนึงอดีตนายกก็ออกนอกประเทศเพราะเริ่มเห็นสัญญาณทางการเมืองในด้านคดีของตนเอง พร้อมกับการออกมาเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลนายกสมัคร และมีการยึดสนามบิน พร้อมกับการลงจากตำแหน่งอย่างประหลาดจากตุลาการภิวัฒน์คือตีความคำว่า "ลูกจ้าง"จากพจนานุกรม เลือกนายกคนใหม่มาก็ได้ชื่อว่า "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" แต่ก็มิได้เข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาลแม้แต่วันเดียว พร้อมกับการเคลื่อนไหวยึดสนามบิน ยึดทำเนียบรัฐบาลที่เลื่อนนัดอัยารมา 18 ครั้ง รู้จักกันดีในนาม "ม็อบมีเส้น" "กลุ่มพันธมิตรฯ" พร้อมกับมีคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัณชิมา และในที่สุดก็เป็นอย่างที่คาดเดาของหลายๆคน มีการยุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชชิมา ตามระเบียบ พร้อมตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 5 ปี ก่อนวันพ่อไม่กี่วัน ทำให้เกิดกลุ่มก้อนทางการเมืองในนาม "งูเห่าภาค 2" กลุ่มเพื่อนเนวินที่เคยอยู่พรรคพลังประชาชนกลับไปจับมือกับฝ่ายพรรคที่ชื่อประชาธิปไตยแต่ทำตัวเป็นอนุรักษ์นิยม อย่าง"พรรคประชาธิปัตย์" แม้พรรคเพื่อไทยที่ ส.ส.ส่วนใหญ่ย้ายมาสวมเสื้อจากพรรคพลังประชาชน จะเสนอชื่อคนที่ไมไ่ด้อยู่ในพรรค อย่าง "พล.ตร.อ.ประชา พรหมนอก" แต่ก็ไม่สามารถโหวดชนะได้ การเมืองจึงสลับขั้วไปสู่ฝ่ายอนุรักษ์นิยม พร้อมกับการกลับมามีบทบาททางการเมืองอีกครั้งของกลุ่ม "นปช." ผมอาจข้ามรายละเอียดของเหตุการณ์ทางการเมืองไปบ้างต้องขออภัยพี่ๆน้าๆอาๆด้วย ตอนต่อไปจะชี้ให้้เห็นเหตุบ้านการเมืองที่ชัดเจนมากกว่านี้นะครับ
- คำถามก็คือ เนื่องด้วยประเทศไทยบอกว่ามีการคลานอำนาจสามฝ่ายก็คือ บริหาร ตุลาการ นิติบัญญํติ เข้่าใจได้ว่าอำนาจบริหารและอำนาจนิติบัญญัติสามารถตรวจสอบด้วยกลไกลทางรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นกระทู้ถามสด อภิปรายไม่ไว้วางใจโดยการลงมติ อภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมิต หรือแม้แต่อำนาจของประชาชนที่ร่วมลงชื่อเพื่อเสนอถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ แต่ทำไมไม่มีใครสามารถถ่วงดุลอำนาจของตุลาการได้ ไม่สามารถตรวจสอบการทำงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ได้อานิสงมาจากการรัฐประหาร อย่าอ้างว่าเป็นกลางทางการเมือง เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาตุลาการเหล่านี้ก็ตีความตามธงที่มีมาโดยล่าสุดก็ออกจากประธานวสันต์ แม้ภายหลังจะออกมาแก้ข่าวว่าผิดแค่ลำดับการเชียน แต่เค้าอาจจะลืมไปว่าประเทศนี้มีเครื่องบันทึกเสียง มีคลิปย้อนหลัง
ทั้งหมดทั้งมวลใ่นช่วงเริ่มต่นของการเขียนกระทู้ชองผมก็จะแสดงให้เห็นผลจากการรัฐประหารที่ยังสืบเนื่องมานับปัจจุบัน และสถาบันหลักอย่างศาล ก็กลายเป็นเครื่องมืิอทางการเมืองเพื่อกำจัดขั้วอำนาจเสรีนิยิม จึงเป็นที่มาของ "ตุลาการภิวัฒน์"