ขอขอบพระคุณบล.ทิสโก้ ครับ ที่พาผมไปทัวร์ดอยหน้าร้อน
QH : ปรับมูลค่าที่เหมาะสมเพิ่มจากการดำเนินงาน แนะนำให้ “ซื้อ”
ปรับมูลค่าที่เหมาะสมขึ้นจาก 2.7 บาท เป็น 6 บาท
ปรับประมาณการปี 2556-2557F เพิ่มขึ้น 34% และ 40% ตามลำดับ เพื่อสะท้อน
ยอดจองโครงการแนวราบและคอนโด, จาก Market Cap ของ QH (ไม่รวมหุ้นที่ QH ถือ) คิด
เป็น PER เพียง 7 เท่า สำหรับปี 2556F เท่านั้น เราจึงปรับมูลค่าที่เหมาะสมเพิ่มขึ้นจาก 1)
การปรับประมาณการขึ้น 2) การปรับลดส่วนลด 3) การปรับ PER ขึ้น โดยเราเชื่อว่าธุรกิจหลัก
ของ QH สมควรซื้อขายที่ PER 14.1 เท่า (+1STD จากค่าเฉลี่ย 5 ปี) เราแนะนำให้ “ซื้อ”
เราคาดรายได้และยอดจองเพิ่มขึ้น 34% และ 22% สำหรับผลประกอบการปี 2556
เราปรับประมาณการรายได้สำหรับปี 2556-2557F ขึ้น 40% และ 39% ตามลำดับ
เนื่องจาก 1) การรับรู้รายได้ปี 2555 ที่สูงกว่าคาด 2) งานในมือที่สูงถึง 7.4 พันล้านบาท และคาด
ยอดจอง 2 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบัน QH ทำยอดจองได้แลวกว่า 20% สำหรับปี 2556
ปรับการประเมินมูลค่าสินทรัพย์
หลังจากที่เราเริ่ม Cover หุ้น QH ในเดือน ธ.ค. ในขณะนั้น Market Cap ของหุ้นที่
QH ถือคือ HMPRO, LHBANK, QHPF นั้นสูงกว่า Market Cap ของ QH ซึ่งในขณะนั้นเรา
ใช้การ Discount 20% สำหรับการประเมินด้วย SOTP แต่ในปัจจุบัน QH ไม่ได้ซื้อขายที่ส่วน
ลด 20% อีกต่อไป เราจึงนำส่วนลดออกเพื่อให้สะท้อนราคาตลาด
มูลค่าที่เหมาะสมใหม่ 6 บาท คิดเป็นอัพไซด์ 35%
มูลค่าที่เหมาะสม 6 บาท สะท้อนการดำเนินงานสำหรับปี 2556F ที่ PER 14.1 เท่า
อ้างอิงค่าเฉลี่ยของกลุ่ม (โดยมูลค่าของสินทรัพย์ในตลาดหุ้นและสินทรัพย์ปล่อยเช่าคิดเป็น
57% และ 10% ของมูลค่าที่เหมาะสม) โดยมีความเสี่ยงคือ 1) ยอดจองที่ลดลง 2) ความล่าช้า
ในการก่อสร้าง 3) โครงการใหม่ที่ลดลง 4) ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ดีและค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
คาด
เรียบเรียง โดย ปุณณภา นาเมืองรักษ์
อีเมล์แสดงความคิดเห็น commentnews@efinancethai.com
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย วันที่ 20/03/13 เวลา 9:38:21
บล.ทิสโก้ : QH แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 6 บาท
QH : ปรับมูลค่าที่เหมาะสมเพิ่มจากการดำเนินงาน แนะนำให้ “ซื้อ”
ปรับมูลค่าที่เหมาะสมขึ้นจาก 2.7 บาท เป็น 6 บาท
ปรับประมาณการปี 2556-2557F เพิ่มขึ้น 34% และ 40% ตามลำดับ เพื่อสะท้อน
ยอดจองโครงการแนวราบและคอนโด, จาก Market Cap ของ QH (ไม่รวมหุ้นที่ QH ถือ) คิด
เป็น PER เพียง 7 เท่า สำหรับปี 2556F เท่านั้น เราจึงปรับมูลค่าที่เหมาะสมเพิ่มขึ้นจาก 1)
การปรับประมาณการขึ้น 2) การปรับลดส่วนลด 3) การปรับ PER ขึ้น โดยเราเชื่อว่าธุรกิจหลัก
ของ QH สมควรซื้อขายที่ PER 14.1 เท่า (+1STD จากค่าเฉลี่ย 5 ปี) เราแนะนำให้ “ซื้อ”
เราคาดรายได้และยอดจองเพิ่มขึ้น 34% และ 22% สำหรับผลประกอบการปี 2556
เราปรับประมาณการรายได้สำหรับปี 2556-2557F ขึ้น 40% และ 39% ตามลำดับ
เนื่องจาก 1) การรับรู้รายได้ปี 2555 ที่สูงกว่าคาด 2) งานในมือที่สูงถึง 7.4 พันล้านบาท และคาด
ยอดจอง 2 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบัน QH ทำยอดจองได้แลวกว่า 20% สำหรับปี 2556
ปรับการประเมินมูลค่าสินทรัพย์
หลังจากที่เราเริ่ม Cover หุ้น QH ในเดือน ธ.ค. ในขณะนั้น Market Cap ของหุ้นที่
QH ถือคือ HMPRO, LHBANK, QHPF นั้นสูงกว่า Market Cap ของ QH ซึ่งในขณะนั้นเรา
ใช้การ Discount 20% สำหรับการประเมินด้วย SOTP แต่ในปัจจุบัน QH ไม่ได้ซื้อขายที่ส่วน
ลด 20% อีกต่อไป เราจึงนำส่วนลดออกเพื่อให้สะท้อนราคาตลาด
มูลค่าที่เหมาะสมใหม่ 6 บาท คิดเป็นอัพไซด์ 35%
มูลค่าที่เหมาะสม 6 บาท สะท้อนการดำเนินงานสำหรับปี 2556F ที่ PER 14.1 เท่า
อ้างอิงค่าเฉลี่ยของกลุ่ม (โดยมูลค่าของสินทรัพย์ในตลาดหุ้นและสินทรัพย์ปล่อยเช่าคิดเป็น
57% และ 10% ของมูลค่าที่เหมาะสม) โดยมีความเสี่ยงคือ 1) ยอดจองที่ลดลง 2) ความล่าช้า
ในการก่อสร้าง 3) โครงการใหม่ที่ลดลง 4) ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ดีและค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
คาด
เรียบเรียง โดย ปุณณภา นาเมืองรักษ์
อีเมล์แสดงความคิดเห็น commentnews@efinancethai.com
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย วันที่ 20/03/13 เวลา 9:38:21