เฮ้ออออออออออออออออออออออออออออ
ขอเฮ้ออดังๆ ยาวๆสักทีเถอะค่ะ
ตอนนี้ท้อใจนิดหน่อยกับธุรกิจของตัวเอง
อยากรู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ ในห้องนี้ที่กำลังทำธุรกิจส่วนตัว
จะเล็กหรือใหญ่ มาคุยกันดีกว่าค่ะ
แลกเปลี่ยนเรื่องราวที่พบเจอกัน ทั้งเรื่องขำ หรือเศร้า เรื่องซึ้ง
ให้มีรสชาดชีวิตกันสักนิดนึงก่อนออกไปเจอโลกภายนอกของเราต่อไป
เริ่มที่เราก่อนเลยละกัน( ก็ต้องอย่างนั้นแหละ)
ตอนนี้เราเพิ่งเริ่มเป็น "นักหัดเดิน" กับธุรกิจส่วนตัวเล็กๆๆๆๆ(จะเล็กไปไหน)
ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเรียน ไม่เคยคิด จะทำธุรกิจใดๆมาก่อนเลยในชีวิต
เริ่มแรกก็ขายของเล็กๆน้อยๆ ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
พอเบื่อ ก็เลิก
ล่าสุดไปช่วยพี่ที่ทำงานขายลูกชิ้นปิ้ง ขายดีมากกกกกกกก
กำไรไม่รู้กี่เท่า จะรวยแล้วค่ะ แต่เราไปช่วยเค้าขายฟรีๆ เพราะเค้าไม่มีคนช่วย
ลูกเค้ายังเล็กและซนมากๆ เค้าก็เลยชอบใจที่เราไปช่วยขายเพราะไม่เอาเงินเขาเลย
เห้นเขาขายดี ก็เลยมีไฟขึ้นมาอีกครั้ง
กลับบ้านมานั่งคิด นอนคิด หลายตลบ บางทีไฟปิ๊งอะไรขึ้นมา
คนอื่นก็ชอบมากดปิดอยู่เรื่อยเลย
ในที่สุดก็มาลงตัวที่ "ของกิน" ซึ่งความคิดเบสิคมากๆ
"ใครๆ ก็ต้องกิน" บางครั้งราคาสูงแค่ไหน แต่ถ้าชอบแล้วละก็ ยอมจ่ายได้ง่ายกว่าอย่างอื่น
สังเกตุดู ตลาดนัดแถวบ้าน ตรงไหน โซนไหน ที่มีของกิน คนจะเยอะ และคึกคักมากกกที่สุด
โซนแถวนั้น ค้าขายร้านอื่นๆจะคึกคักตามไปด้วย อย่างน้อยๆสุด คนจะผ่านตาสินค้าเราเยอะ
จนวันนึงอาจจำเราได้และกลับมาอุดหนุนเรา นี่คือสิ่งที่เราคิด
เอาก็เอาล่ะนะ แต่ด้วยความที่เราทำงานประจำอยู่แล้ว เลิกงานก็เย็น เหนื่อยด้วย
หาอะไรที่ไม่เหนื่อยในการขายมาก ไม่จุกจิกมาก มาขายดีกว่า
ไอเดียได้จากคนใกล้ตัวคือ คุณแม่ ท่านชอบทาน เผือกฉาบมากๆ
เลยลองหาเจ้าอร่อยที่ท่านชอบมาขาย รอบแรกติดต่อไป ได้ราคาส่งมาก็พอใจพอสมควร
แต่เสียอย่างที่ เราต้องเสียค่าขนส่งด้วย เพราะขนมที่เราจะนำมาขาย
อยู่คนละจังหวัดกัน แต่ไม่ไกลมาก จึงขอลองดูก่อนสักครั้ง
เมื่อได้่ขนมมาแล้ว จะขายที่ไหนดีละ เพราะตลาดนัดที่ว่านั้น มีแค่อาทิตย์ละวัน
ที่สำคัญหาล๊อกยากกกกกมาก เต็มหมดแล้ว ต้องรอเสียบอย่างเดียว
อ่ะไม่เป็นไร เสาร์นี้ไปเสนอหน้าขายกะพี่ที่ขายลูกชิ้นปิ้งก็ได้
ปิ้งลูกชิ้นไป ก็วางขนมไว้ใกล้ๆ ขายไปด้วยกันได้ อืมมมดูจะเป็นความคิดที่ดี
แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว ขนมเราไม่ค่อยได้รับการตอบรับเท่าไหร่
ลูกชิ้นเขายังขายดีเหมือนแจกฟรีเหมือนเดิม -*-
ย้อนกลับมาคิดใหม่ หรือของเราจะแพงไปนะ จะทำไงดี
หาแพคเกจใหม่ดีกว่าที่คุ้มทุนกว่าเดิม อย่าลืมว่าของกินนั้นเสียได้ มีเวลาจำกัดของมัน
เราจึงต้องแข่งกะเวลาพอสมควร ลองผิดลองถูก หมดค่าถุงไปเยอะอยู่
จนถึง ณ ตอนนี้ก็ยังไม่เป๊ะ อย่างที่จะวางใจได้ ยังล้มลุกคลุกคลานอยู่
จากที่ขายเองไม่ทันใจละ ลองเปลี่ยนกลยุทธ์ ไปส่งตามร้านดีกว่า
คิดแต่เพียงว่าเป็นการกระจายสินค้าและเปิดแบรนด์ให้คนรู้จักมากขึ้น
แต่กำไรน้อยยยยยยเหลือทน หวังแต่เพียงว่า สักวันเราจะไม่ต้องขายเองแล้ว
เมื่อสินค้าเราติดตลาด เราจะมีหน้าที่เพียงแค่ส่งของตามร้านเท่านั้น
สิ่งที่เราค้นพบ
-ขนมเรา ไปกันไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่กะร้านกาแฟ
-แต่เข้ากันได้ดีกะร้านอาหาร ขายดีมาก แต่ตอนนี้ยังไม่ได้หาเพิ่มเติม กำลังดุๆอยู่
-ตลาดส่วนใหญ่ คนจะซื้อเฉพาะของที่ทานเป็นจริงเป็นจัง ขนม ของท่านเล่น จะขายยากกว่า
-แพคเกจมีส่วนเฉพาะของมัน แต่ละที่ไม่เหมือนกัน ทีแรกแพคเกจเราสวยเชียว ไปขายตลาดนัดชุมชนกลางๆ ยังขายไม่ออกเลย
คนแห่มาซึ้อลูกชิ้นปิ้งหมด ไม่แลตามาทางขนมเราเล้ยยย ฝั่งตรงข้าม เอาทองม้วนหน้าตาธรรมดา ใส่ถุงมัดยางขาย 20 บาท
ถุงพองๆหน่อย ก็ยังพอขายได้เรื่อยๆ อันนี้ต้องระวังด้วย ให้ดูตลาดและความต้องการดีๆค่ะ
-ขายตั้งโต๊ะที่ตลาดนัด ต้องมีไฟสว่างๆ แต่ไม่ต้องมากเกินไป เอาพอให้เห็นชัดเชน ร้านที่มืดๆ ลูกค้าก็อาจจะมองข้ามไปได้
อย่างเรา ตั้งติดกะร้านลูกชิ้นปิ้งพี่เขา สว่างมากกกกกเลยอาศัยไฟเขาได้ แต่ลูกค้าเดินมาแล้วเลยไปมองลูกชิ้นเลยอ่ะ-*-
นี่เป็นแค่ประสบการณ์เล็กๆ ไม่กี่อาทิตย์เองกับการขายของ เป็นความเห็นส่วนตัวของเรา
อยากเล่าให้ใครสักคนฟัง เพราะคนรอบข้างมีแต่บอกให้ "เลิกเถอะ" กำไรไม่คุ้มเล้ยยย
ดูอย่างพี่สาวเรา ขายตุ๊กตา กระเป๋า กำไรนี่ขอบอกว่า 200%-300%เลยทีเดียว
หันกลับมาดุเราแล้วกำไรแค่ประมาณ10-15% แหมคิดแล้วหมดกำลังใจ
ของเพื่อนๆ พี่ๆ ในห้องนี้ล่ะค่ะ ธุรกิจเป็นอย่างไรบ้าง เล่าสู่กันฟังได้นะคะ
เราอยากฟังค่ะ รบกวนแนะนำ เสนอแนะทีค่ะ
ใครที่ท้อๆอยู่ ขอเสียงบ้างนะคะ ว่าเราจะไม่ถอย เราจะสู้เพื่ออาชีพของเราไปด้วยกันค่ะ
มาแชร์ประสบการณ์งานขาย ธุรกิจกันดีกว่าค่ะ
ขอเฮ้ออดังๆ ยาวๆสักทีเถอะค่ะ
ตอนนี้ท้อใจนิดหน่อยกับธุรกิจของตัวเอง
อยากรู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ ในห้องนี้ที่กำลังทำธุรกิจส่วนตัว
จะเล็กหรือใหญ่ มาคุยกันดีกว่าค่ะ
แลกเปลี่ยนเรื่องราวที่พบเจอกัน ทั้งเรื่องขำ หรือเศร้า เรื่องซึ้ง
ให้มีรสชาดชีวิตกันสักนิดนึงก่อนออกไปเจอโลกภายนอกของเราต่อไป
เริ่มที่เราก่อนเลยละกัน( ก็ต้องอย่างนั้นแหละ)
ตอนนี้เราเพิ่งเริ่มเป็น "นักหัดเดิน" กับธุรกิจส่วนตัวเล็กๆๆๆๆ(จะเล็กไปไหน)
ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเรียน ไม่เคยคิด จะทำธุรกิจใดๆมาก่อนเลยในชีวิต
เริ่มแรกก็ขายของเล็กๆน้อยๆ ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
พอเบื่อ ก็เลิก
ล่าสุดไปช่วยพี่ที่ทำงานขายลูกชิ้นปิ้ง ขายดีมากกกกกกกก
กำไรไม่รู้กี่เท่า จะรวยแล้วค่ะ แต่เราไปช่วยเค้าขายฟรีๆ เพราะเค้าไม่มีคนช่วย
ลูกเค้ายังเล็กและซนมากๆ เค้าก็เลยชอบใจที่เราไปช่วยขายเพราะไม่เอาเงินเขาเลย
เห้นเขาขายดี ก็เลยมีไฟขึ้นมาอีกครั้ง
กลับบ้านมานั่งคิด นอนคิด หลายตลบ บางทีไฟปิ๊งอะไรขึ้นมา
คนอื่นก็ชอบมากดปิดอยู่เรื่อยเลย
ในที่สุดก็มาลงตัวที่ "ของกิน" ซึ่งความคิดเบสิคมากๆ
"ใครๆ ก็ต้องกิน" บางครั้งราคาสูงแค่ไหน แต่ถ้าชอบแล้วละก็ ยอมจ่ายได้ง่ายกว่าอย่างอื่น
สังเกตุดู ตลาดนัดแถวบ้าน ตรงไหน โซนไหน ที่มีของกิน คนจะเยอะ และคึกคักมากกกที่สุด
โซนแถวนั้น ค้าขายร้านอื่นๆจะคึกคักตามไปด้วย อย่างน้อยๆสุด คนจะผ่านตาสินค้าเราเยอะ
จนวันนึงอาจจำเราได้และกลับมาอุดหนุนเรา นี่คือสิ่งที่เราคิด
เอาก็เอาล่ะนะ แต่ด้วยความที่เราทำงานประจำอยู่แล้ว เลิกงานก็เย็น เหนื่อยด้วย
หาอะไรที่ไม่เหนื่อยในการขายมาก ไม่จุกจิกมาก มาขายดีกว่า
ไอเดียได้จากคนใกล้ตัวคือ คุณแม่ ท่านชอบทาน เผือกฉาบมากๆ
เลยลองหาเจ้าอร่อยที่ท่านชอบมาขาย รอบแรกติดต่อไป ได้ราคาส่งมาก็พอใจพอสมควร
แต่เสียอย่างที่ เราต้องเสียค่าขนส่งด้วย เพราะขนมที่เราจะนำมาขาย
อยู่คนละจังหวัดกัน แต่ไม่ไกลมาก จึงขอลองดูก่อนสักครั้ง
เมื่อได้่ขนมมาแล้ว จะขายที่ไหนดีละ เพราะตลาดนัดที่ว่านั้น มีแค่อาทิตย์ละวัน
ที่สำคัญหาล๊อกยากกกกกมาก เต็มหมดแล้ว ต้องรอเสียบอย่างเดียว
อ่ะไม่เป็นไร เสาร์นี้ไปเสนอหน้าขายกะพี่ที่ขายลูกชิ้นปิ้งก็ได้
ปิ้งลูกชิ้นไป ก็วางขนมไว้ใกล้ๆ ขายไปด้วยกันได้ อืมมมดูจะเป็นความคิดที่ดี
แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว ขนมเราไม่ค่อยได้รับการตอบรับเท่าไหร่
ลูกชิ้นเขายังขายดีเหมือนแจกฟรีเหมือนเดิม -*-
ย้อนกลับมาคิดใหม่ หรือของเราจะแพงไปนะ จะทำไงดี
หาแพคเกจใหม่ดีกว่าที่คุ้มทุนกว่าเดิม อย่าลืมว่าของกินนั้นเสียได้ มีเวลาจำกัดของมัน
เราจึงต้องแข่งกะเวลาพอสมควร ลองผิดลองถูก หมดค่าถุงไปเยอะอยู่
จนถึง ณ ตอนนี้ก็ยังไม่เป๊ะ อย่างที่จะวางใจได้ ยังล้มลุกคลุกคลานอยู่
จากที่ขายเองไม่ทันใจละ ลองเปลี่ยนกลยุทธ์ ไปส่งตามร้านดีกว่า
คิดแต่เพียงว่าเป็นการกระจายสินค้าและเปิดแบรนด์ให้คนรู้จักมากขึ้น
แต่กำไรน้อยยยยยยเหลือทน หวังแต่เพียงว่า สักวันเราจะไม่ต้องขายเองแล้ว
เมื่อสินค้าเราติดตลาด เราจะมีหน้าที่เพียงแค่ส่งของตามร้านเท่านั้น
สิ่งที่เราค้นพบ
-ขนมเรา ไปกันไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่กะร้านกาแฟ
-แต่เข้ากันได้ดีกะร้านอาหาร ขายดีมาก แต่ตอนนี้ยังไม่ได้หาเพิ่มเติม กำลังดุๆอยู่
-ตลาดส่วนใหญ่ คนจะซื้อเฉพาะของที่ทานเป็นจริงเป็นจัง ขนม ของท่านเล่น จะขายยากกว่า
-แพคเกจมีส่วนเฉพาะของมัน แต่ละที่ไม่เหมือนกัน ทีแรกแพคเกจเราสวยเชียว ไปขายตลาดนัดชุมชนกลางๆ ยังขายไม่ออกเลย
คนแห่มาซึ้อลูกชิ้นปิ้งหมด ไม่แลตามาทางขนมเราเล้ยยย ฝั่งตรงข้าม เอาทองม้วนหน้าตาธรรมดา ใส่ถุงมัดยางขาย 20 บาท
ถุงพองๆหน่อย ก็ยังพอขายได้เรื่อยๆ อันนี้ต้องระวังด้วย ให้ดูตลาดและความต้องการดีๆค่ะ
-ขายตั้งโต๊ะที่ตลาดนัด ต้องมีไฟสว่างๆ แต่ไม่ต้องมากเกินไป เอาพอให้เห็นชัดเชน ร้านที่มืดๆ ลูกค้าก็อาจจะมองข้ามไปได้
อย่างเรา ตั้งติดกะร้านลูกชิ้นปิ้งพี่เขา สว่างมากกกกกเลยอาศัยไฟเขาได้ แต่ลูกค้าเดินมาแล้วเลยไปมองลูกชิ้นเลยอ่ะ-*-
นี่เป็นแค่ประสบการณ์เล็กๆ ไม่กี่อาทิตย์เองกับการขายของ เป็นความเห็นส่วนตัวของเรา
อยากเล่าให้ใครสักคนฟัง เพราะคนรอบข้างมีแต่บอกให้ "เลิกเถอะ" กำไรไม่คุ้มเล้ยยย
ดูอย่างพี่สาวเรา ขายตุ๊กตา กระเป๋า กำไรนี่ขอบอกว่า 200%-300%เลยทีเดียว
หันกลับมาดุเราแล้วกำไรแค่ประมาณ10-15% แหมคิดแล้วหมดกำลังใจ
ของเพื่อนๆ พี่ๆ ในห้องนี้ล่ะค่ะ ธุรกิจเป็นอย่างไรบ้าง เล่าสู่กันฟังได้นะคะ
เราอยากฟังค่ะ รบกวนแนะนำ เสนอแนะทีค่ะ
ใครที่ท้อๆอยู่ ขอเสียงบ้างนะคะ ว่าเราจะไม่ถอย เราจะสู้เพื่ออาชีพของเราไปด้วยกันค่ะ