เป็นการ รวบรวม การโกงอย่างมโหฬาร ในโครงการ "ไทยเข้มแข็ง" ยุครัฐบาล ประชาธิปัตย์
โดยนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ..... นี่เป็นการโกง เพียงบางส่วนเท่านั้น
ขอย้ำว่า .. เป็นการโกง เพียงบางส่วนเท่านั้น ...!!!
ถ้าสาวกแมงสาบ มีข้อมูล หลักฐาน มาหักล้าง มหกรรมการโกงเหล่านี้ได้ ก็ยินดีรับฟัง...!!!
มหกรรมค่าหัวคิวเขย่าไทยเข้มแข็ง
ดูเหมือนว่าข่าวคาวการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างในโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาล จะ ดัง ขึ้นทุกขณะ
ไล่ตั้งแต่การที่ชมรมแพทย์ชนบทออกมาเปิดโปงการยัดเยียดให้ซื้อเครื่องมือแพทย์ให้แก่สถานีอนามัยและโรงพยาบาลในต่างจังหวัด
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำลายเชื้อโรคด้วยระบบแสงอัลตราไวโอเลตระบบปิด หรือ ยูวี แฟน ราคาเครื่องละ 4 หมื่นบาท จำนวน 800 ตัว
ตามมาด้วยกลิ่นตุๆ ของการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา มูลค่ากว่า 710 ล้านบาท ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการล็อกสเปกเอื้อบริษัทรับเหมา
แต่ที่ซัดตรงๆ แบบ ชัดเจน ไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา แถมโพล่งกลางวงสัมมนา
นั่นคือกรณี นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า ผู้รับเหมาก่อสร้างตอนนี้กำลังเดือดร้อนหนัก
เพราะมีการกิน ค่าหัวคิว ในโครงการต่างๆ ภายใต้งบประมาณไทยเข้มแข็งสูงถึง 2025%
ถ้ากินแค่ 5% ก็คงไม่เป็นไร ถือว่าธรรมดา นายสันติ ระบุ
งานนี้ถือเป็นการแฉข้อมูล ใต้โต๊ะ ขึ้นมาวางให้เห็นกัน บนโต๊ะ
ถือว่าน้ำหนักไม่ธรรมดา เพราะเป็นการบอกเล่าของนักธุรกิจรุ่นใหญ่ในสภาอุตสาหกรรม ที่เป็นตัวแทนของบริษัทเอกชนทั่วประเทศ
จากเสียงสะท้อนครั้งนี้ ประเมินสัญญาณได้ว่า ภาคเอกชนเริ่มทนไม่ไหวกับ ธุรกิจการเมือง ที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบัน
หลังจากที่เคยเจ็บปวดกับ ธนกิจ การเมือง ในรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาก่อน
ความรู้สึกของสังคมตอนนี้ คือเหมือนหนีเสือปะจระเข้หรือไม่??
ทั้งที่ปัญหาการชักหัวคิวอาจไม่ได้พุ่งเป้าไปที่เครือข่ายพรรคประชาธิปัตย์อย่างเดียว
แต่ยังหมายรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีข่าวด้านลบกระเส็นกระสายออกมาไม่เว้นแต่ละวัน
ค่าหัวคิว รับเหมาก่อสร้าง ยังทำให้กระทรวงคมนาคมนั่งไม่ติด ต้องออกมาชี้แจงแบบฉับพลันทันใด
โดยนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ตอบโต้ประธานส.อ.ท. ว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะจากเอกชน หรือหากมีจริง เอกชนที่รายงานต่อนายกรัฐมนตรีก็ต้องมีหลักฐานมาแสดง
เพราะโครงการที่คมนาคมรับผิดชอบ โดยเฉพาะกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ส่วนใหญ่เป็นโครงการก่อสร้างกว่า 2,000 โครงการ
รวมเป็นเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท กระจายไปยังผู้รับเหมาหลายเจ้า ไม่ได้เจาะจงที่รายใดรายเดียว
มีหลักฐานก็ให้นำมาแสดง เพราะไม่อยากให้พูดอ้างขึ้นมาลอยๆ เพราะทำให้หลายคนเสียหาย นายสุพจน์ กล่าว
สำหรับโครงการที่ถูกจับตามองมากที่สุด คือ โครงการถนนไร้ฝุ่น ที่พรรคภูมิใจไทยภูมิใจนำเสนอนั้น
ก่อนหน้านี้ มีข่าววงในออกมาว่า ได้มีการแบ่งเค้กให้สส.แต่ละจังหวัด แต่ละพรรคไปคนละเส้นสองเส้น
เรียกได้ว่าแบ่งกันกินแบ่งกันใช้ เพราะเรื่องผลประโยชน์ไม่มีฝักฝ่าย มีแต่พรรค พวก และเพื่อน
โดยนายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ยืนยันว่า การเก็บค่าหัวคิวไม่น่าจะเกิดขึ้นกับโครงการถนนไร้ฝุ่น เพราะเป็นโครงการขนาดเล็ก วงเงินก่อสร้างแต่ละโครงการไม่มาก อยู่ที่ 2030 ล้านบาท
อีกทั้งกำไรแต่ละโครงการก็ไม่มาก คือโครงการที่ไม่เกิน 20 ล้านบาท จะอยู่ที่ 12.5% เกิน 100 ล้านบาท จะอยู่ที่ 9% เท่านั้น
หมายความว่าผู้รับเหมาก็กำไรน้อยอยู่แล้ว จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าหัวคิวให้ข้าราชการและนักการเมือง
ปัญหาก็คือถ้าไม่ใช่เรื่องจริง แล้วคนอย่างประธานส.อ.ท.จะกล้าออกมาชนฉะกับรัฐบาลชุดนี้หรือไม่??
มันเสียเครดิต...
เคาะตัวเลขกันให้เห็นจะจะ คือโครงการไทยเข้มแข็ง วงเงินเต็มๆ 1.43 ล้านล้านบาท
หัวคิว 10% เท่ากับเงินตกหล่นระหว่างทาง 1.43 แสนล้านบาท
หัวคิว 20% เงินเข้ากระเป๋าเหลือบไรทางการเมือง 2.86 แสนล้านบาท
ถือเป็นการกระจายรายได้ที่ค่อนข้างกระจุกตัว และจะเขย่าโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลชุดนี้ไปอีกนาน
ถ้าประชาธิปัตย์คุมเกมไม่ดีมีสิทธิไป!!!
http://www.posttoday.com/news.php?id=70973
รวมมหกรรม สารพัดกลโกง "โครงการ ไทยเข้มแข็ง" ยุค ปชป ครองเมือง...!!!
โดยนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ..... นี่เป็นการโกง เพียงบางส่วนเท่านั้น
ขอย้ำว่า .. เป็นการโกง เพียงบางส่วนเท่านั้น ...!!!
ถ้าสาวกแมงสาบ มีข้อมูล หลักฐาน มาหักล้าง มหกรรมการโกงเหล่านี้ได้ ก็ยินดีรับฟัง...!!!
มหกรรมค่าหัวคิวเขย่าไทยเข้มแข็ง
ดูเหมือนว่าข่าวคาวการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างในโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาล จะ ดัง ขึ้นทุกขณะ
ไล่ตั้งแต่การที่ชมรมแพทย์ชนบทออกมาเปิดโปงการยัดเยียดให้ซื้อเครื่องมือแพทย์ให้แก่สถานีอนามัยและโรงพยาบาลในต่างจังหวัด
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำลายเชื้อโรคด้วยระบบแสงอัลตราไวโอเลตระบบปิด หรือ ยูวี แฟน ราคาเครื่องละ 4 หมื่นบาท จำนวน 800 ตัว
ตามมาด้วยกลิ่นตุๆ ของการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา มูลค่ากว่า 710 ล้านบาท ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการล็อกสเปกเอื้อบริษัทรับเหมา
แต่ที่ซัดตรงๆ แบบ ชัดเจน ไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา แถมโพล่งกลางวงสัมมนา
นั่นคือกรณี นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า ผู้รับเหมาก่อสร้างตอนนี้กำลังเดือดร้อนหนัก
เพราะมีการกิน ค่าหัวคิว ในโครงการต่างๆ ภายใต้งบประมาณไทยเข้มแข็งสูงถึง 2025%
ถ้ากินแค่ 5% ก็คงไม่เป็นไร ถือว่าธรรมดา นายสันติ ระบุ
งานนี้ถือเป็นการแฉข้อมูล ใต้โต๊ะ ขึ้นมาวางให้เห็นกัน บนโต๊ะ
ถือว่าน้ำหนักไม่ธรรมดา เพราะเป็นการบอกเล่าของนักธุรกิจรุ่นใหญ่ในสภาอุตสาหกรรม ที่เป็นตัวแทนของบริษัทเอกชนทั่วประเทศ
จากเสียงสะท้อนครั้งนี้ ประเมินสัญญาณได้ว่า ภาคเอกชนเริ่มทนไม่ไหวกับ ธุรกิจการเมือง ที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบัน
หลังจากที่เคยเจ็บปวดกับ ธนกิจ การเมือง ในรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาก่อน
ความรู้สึกของสังคมตอนนี้ คือเหมือนหนีเสือปะจระเข้หรือไม่??
ทั้งที่ปัญหาการชักหัวคิวอาจไม่ได้พุ่งเป้าไปที่เครือข่ายพรรคประชาธิปัตย์อย่างเดียว
แต่ยังหมายรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีข่าวด้านลบกระเส็นกระสายออกมาไม่เว้นแต่ละวัน
ค่าหัวคิว รับเหมาก่อสร้าง ยังทำให้กระทรวงคมนาคมนั่งไม่ติด ต้องออกมาชี้แจงแบบฉับพลันทันใด
โดยนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ตอบโต้ประธานส.อ.ท. ว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะจากเอกชน หรือหากมีจริง เอกชนที่รายงานต่อนายกรัฐมนตรีก็ต้องมีหลักฐานมาแสดง
เพราะโครงการที่คมนาคมรับผิดชอบ โดยเฉพาะกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ส่วนใหญ่เป็นโครงการก่อสร้างกว่า 2,000 โครงการ
รวมเป็นเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท กระจายไปยังผู้รับเหมาหลายเจ้า ไม่ได้เจาะจงที่รายใดรายเดียว
มีหลักฐานก็ให้นำมาแสดง เพราะไม่อยากให้พูดอ้างขึ้นมาลอยๆ เพราะทำให้หลายคนเสียหาย นายสุพจน์ กล่าว
สำหรับโครงการที่ถูกจับตามองมากที่สุด คือ โครงการถนนไร้ฝุ่น ที่พรรคภูมิใจไทยภูมิใจนำเสนอนั้น
ก่อนหน้านี้ มีข่าววงในออกมาว่า ได้มีการแบ่งเค้กให้สส.แต่ละจังหวัด แต่ละพรรคไปคนละเส้นสองเส้น
เรียกได้ว่าแบ่งกันกินแบ่งกันใช้ เพราะเรื่องผลประโยชน์ไม่มีฝักฝ่าย มีแต่พรรค พวก และเพื่อน
โดยนายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ยืนยันว่า การเก็บค่าหัวคิวไม่น่าจะเกิดขึ้นกับโครงการถนนไร้ฝุ่น เพราะเป็นโครงการขนาดเล็ก วงเงินก่อสร้างแต่ละโครงการไม่มาก อยู่ที่ 2030 ล้านบาท
อีกทั้งกำไรแต่ละโครงการก็ไม่มาก คือโครงการที่ไม่เกิน 20 ล้านบาท จะอยู่ที่ 12.5% เกิน 100 ล้านบาท จะอยู่ที่ 9% เท่านั้น
หมายความว่าผู้รับเหมาก็กำไรน้อยอยู่แล้ว จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าหัวคิวให้ข้าราชการและนักการเมือง
ปัญหาก็คือถ้าไม่ใช่เรื่องจริง แล้วคนอย่างประธานส.อ.ท.จะกล้าออกมาชนฉะกับรัฐบาลชุดนี้หรือไม่??
มันเสียเครดิต...
เคาะตัวเลขกันให้เห็นจะจะ คือโครงการไทยเข้มแข็ง วงเงินเต็มๆ 1.43 ล้านล้านบาท
หัวคิว 10% เท่ากับเงินตกหล่นระหว่างทาง 1.43 แสนล้านบาท
หัวคิว 20% เงินเข้ากระเป๋าเหลือบไรทางการเมือง 2.86 แสนล้านบาท
ถือเป็นการกระจายรายได้ที่ค่อนข้างกระจุกตัว และจะเขย่าโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลชุดนี้ไปอีกนาน
ถ้าประชาธิปัตย์คุมเกมไม่ดีมีสิทธิไป!!!
http://www.posttoday.com/news.php?id=70973