เรื่องนี้ต้องเกริ่นสักนิดนิงย้อนไปประมาณ 3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเรียนอยู่ปี2 ก็มีเรียนวิชา cost analysis ซึ้งมีสอนการคำนวน Asset Liability P/E ratio etc. และวิชา stat (ดูกราฟต่างๆ) เพื่อนๆบางคนก็ได้ใช้โอกาสนั้น ลงสนามหุ้นทดสอบความรู้กันเลย ตอนนั้นมีเพื่อนมาชวนหลายคนเหมือนกันแต่ผมไม่มีเงินเก็บเลย แล้วจะเอาอะไรไปลง เงินที่ได้จากพ่อแม่ทุกเดือนก็ใช้แบบพอดีไม่ค่อยมีเก็บ (เพราะพอมีนิดหน่อยก็จะจัดทริปไปเที่ยวกับเพื่อนๆเสมอ) เรียกว่าใช้ก่อนเก็บทีหลัง
จนเมื่อปีที่แล้วได้จบ ป ตรี ออกมาทำงานเป็นพนักงานบริษัทป้ายแดง อะไรๆก็เปลี่ยนไป พ่อแม่ยื่นคำขาดว่าจะไม่ช่วยเหลือด้านการเงินใดๆทั้งสิ้น "โตแล้ว เราต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเอง" โดยส่วนตัวผมก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ (เพราะมีพี่สาวเป็นแบบมาแล้ว) ทีนี้เอาละสิ เงินเก็บก็ไม่มี เงินเดือนเงินเป็นเพียง Income อย่างเดียวของเรา อย่างแรกเลยที่ผมทำก็คือ จดรายละเอียดค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ลดส่วนที่ไม่จำเป็นให้หมด ทำงานไปได้สัก3เดือนทุกอย่างเรึ่มลงตัว มีเงินเก็บประมาณ 30% ของเงินเดือน แต่เราก็ได้แค่เก็บฝากธนาคาร ต้องเอาไปทำอะไรให้งอกเงยแล้วละ
(LFT, RMF ไม่ได้คิดเลยเพราะมีประกันชีวิตที่ทำไว้แล้วลดภาษีได้หมดพอดี)
เมือประมาณเดือนตุลา 2555 (6เดือนที่แล้ว) พ่อก็เอาหนังสือพิมพ์ให้อ่าน เป็นคอลัมน์เกี่ยวกับการลงทุน (ผลตอบแทนVSความเสี่ยงVSเงินเฟ้อ) ผมเลยตัดสินใจจะเอาเงินเก็บทั้งหมดลงในการลงทุน โดยแบ่งเป็น กองทุน50%และหุ้น50% โดยที่ในหุ้นจะแบ่งเป็น2 กลุ่ม ได้แก่ หุ้นที่ถือยาว VI และหุ้นเพื่อการเล่นรอบ
ผมใช้เวลาหาข้อมูลเดือนกว่าๆ แล้วก็ไปเปิด port จำลองใน settrade.com เป็นเวลาช่วงต้นธันวาพอดี ซึ้งทุกคนคงรู้ดีกว่าตลาดตอนนั้นไม่ปกติ ซื้ออะไรก็ขึ้น 1 เดือนที่ผมลองซื้อๆขายๆใน port จำลอง ปรากฏว่าผมได้กำไรประมาณ40% ภายในเดือนเดียว
ตอนนั้นคิดว่าเล่นหุ้นมันไม่ได้ยากเลยนิ (ตอนนี้ไม่คิดแบบนั้นแล้วครับ เงินจริงอารมณ์จริงกดดันจริง ต่างกันเยอะ)
เลยตัดสินใจเปิด port ต้นเดือนมกราคม (จากนี้ไปจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเงินเก็บของผมทั้งหมด)
จากนักศึกษาที่ไม่สนใจการออมและการลงทุน วันนี้กลายเป็นเม่าในสนามรบ
จนเมื่อปีที่แล้วได้จบ ป ตรี ออกมาทำงานเป็นพนักงานบริษัทป้ายแดง อะไรๆก็เปลี่ยนไป พ่อแม่ยื่นคำขาดว่าจะไม่ช่วยเหลือด้านการเงินใดๆทั้งสิ้น "โตแล้ว เราต้องรู้จักรับผิดชอบตัวเอง" โดยส่วนตัวผมก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ (เพราะมีพี่สาวเป็นแบบมาแล้ว) ทีนี้เอาละสิ เงินเก็บก็ไม่มี เงินเดือนเงินเป็นเพียง Income อย่างเดียวของเรา อย่างแรกเลยที่ผมทำก็คือ จดรายละเอียดค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ลดส่วนที่ไม่จำเป็นให้หมด ทำงานไปได้สัก3เดือนทุกอย่างเรึ่มลงตัว มีเงินเก็บประมาณ 30% ของเงินเดือน แต่เราก็ได้แค่เก็บฝากธนาคาร ต้องเอาไปทำอะไรให้งอกเงยแล้วละ
(LFT, RMF ไม่ได้คิดเลยเพราะมีประกันชีวิตที่ทำไว้แล้วลดภาษีได้หมดพอดี)
เมือประมาณเดือนตุลา 2555 (6เดือนที่แล้ว) พ่อก็เอาหนังสือพิมพ์ให้อ่าน เป็นคอลัมน์เกี่ยวกับการลงทุน (ผลตอบแทนVSความเสี่ยงVSเงินเฟ้อ) ผมเลยตัดสินใจจะเอาเงินเก็บทั้งหมดลงในการลงทุน โดยแบ่งเป็น กองทุน50%และหุ้น50% โดยที่ในหุ้นจะแบ่งเป็น2 กลุ่ม ได้แก่ หุ้นที่ถือยาว VI และหุ้นเพื่อการเล่นรอบ
ผมใช้เวลาหาข้อมูลเดือนกว่าๆ แล้วก็ไปเปิด port จำลองใน settrade.com เป็นเวลาช่วงต้นธันวาพอดี ซึ้งทุกคนคงรู้ดีกว่าตลาดตอนนั้นไม่ปกติ ซื้ออะไรก็ขึ้น 1 เดือนที่ผมลองซื้อๆขายๆใน port จำลอง ปรากฏว่าผมได้กำไรประมาณ40% ภายในเดือนเดียว
ตอนนั้นคิดว่าเล่นหุ้นมันไม่ได้ยากเลยนิ (ตอนนี้ไม่คิดแบบนั้นแล้วครับ เงินจริงอารมณ์จริงกดดันจริง ต่างกันเยอะ)
เลยตัดสินใจเปิด port ต้นเดือนมกราคม (จากนี้ไปจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเงินเก็บของผมทั้งหมด)