ที่มาเปิดประเด็นในเรื่องนี้...เพราะในเรื่องราบการ "ตอบโจทย์"ของช่อง ไทยพีบีเอส ที่เป็นข่าวอื้อฉาวอยู่ในขณะนี้...เขาเลยเอาตอนห้า..ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงการอยู่นั้น...มาออกอากาศให้มันรู้แล้วรู้รอดว่า..ไม่มีอะไรมากีดกัน หรือ กดดันสื่อ...
ในรายการเป็นการดีเบทระหว่าง ดร. สมศักดิ์ เจียมฯ (หัวหอกกลุ่มไม่เอาเจ้า) และ
อาจารย์ ส. ศิวรักษ์ (เนติบัณฑิตจากอังกฤษ ที่คิดจะเปลี่ยนแปลงจัดระบบให้กับเจ้า)
ดูไปดูมา..มันไม่ใช่การดีเบทอะไรเลย...แต่เป็นการมาวิพากษ์วิจารณ์เจ้าว่าควรจะอย่างนั้น อย่างนี้...และต่างก็อวยในความคิดของแต่ละฝ่าย ประมาณว่า...ถูกครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน...
แต่ในฐานะผู้ชมที่พอมีความรู้ในเรื่องของประวัติศาสตร์อังกฤษ ที่อาจารย์ ส.
ยกขึ้นมาเปรียบเปรยบ่อยๆนั้น...ต้องขอบอกว่า...อาจารย์ยกขึ้นมาเพียงบางส่วน ที่เราจะเอามาเปรยกับเมืองไทยไม่ได้เลย...เพราะพื้นฐานทางด้านความคิดและความรู้นั้นต่างกันอย่างกู่ไม่กลับ...
และส่วนที่อาจารย์ยกมาเล่า..ก็ไม่ใช่ประเด็นที่ถูกต้องนัก..เช่น...บอกว่า
"King Edward VIII ที่สละบัลลังก์นั้น ไม่ใช่เพราะจะไปแต่งงานกับแม่ม่ายอเมริกัน ที่ผ่านการหย่าร้างมาถึงสองครั้ง
แต่เป็นเพราะพระองค์ไปร่วมกับฮิตเล่อร์ต่างหาก..." ใจความประมาณนั้น...
VIDEO
ขอย้อนหลังกลับไปถึงเรื่องนี้..ว่า...
Edward VIII (1894-1972) หรือพระนามเล่น David พระโอรสองค์โตของพระเจ้า จอร์จ ที่ห้า กับพระราชินี แมรี่ แห่ง เทค (อดีตคือเจ้าหญิงเยอรมัน)
ที่เติบโตมาในช่วงที่อังกฤษและเยอรมันเป็นญาติดีกันอยู่...พระราชวงค์ยังใช้พระนามว่า..
Saxe-Coburg and Gotha ยังไม่ได้เปลี่ยนมาเป็น Windsor
ดังนั้นการไปมาหาสู่กับพระญาติฝ่ายเยอรมัน จึงสนิทสนมแน่นแฟ้น อีกทั้งทรงตรัสเป็นภาษาเยอรมันได้ดีเท่าๆกับภาษาอังกฤษ เพราะถือว่าเป็น ภาษาของแม่...
เจ้าชายเดวิด ชื่นชอบและฝักใฝ่เยอรมันมาตั้งแต่วัยเยาว์
จวบจนการเกิดขึ้นของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (1914-1919) ที่อังกฤษและเยอรมันต้องมากลายเป็นศัตรูห้ำหั่นกันถึงตัดญาติขาดมิตร...
เจ้าชายมกุฏราชกุมารเดวิดที่กลายมาเป็นเจ้าชายวัยรุ่นที่ทรงพระสิริโฉม ในช่วงของวิกฤติบ้านเมืองนั้น กลับไม่แสดงอาการรู้ร้อนรู้หนาว ทรงทำพระองค์ป๊อปปูล่าร์ในหมู่สาวแก่แม่ม่ายอย่างเปิดเผย...ไม่สนพระทัยว่าเหล่าสามีของพวกหล่อนจะเป็นใคร...เพราะไม่ว่าหญิงรุ่นไหน..ต่างก็ทอดสะพานให้พระองค์ทั้งนั้น...
แม้กระทั่งในวันที่พระบิดาทรงประชวรหนัก (1936) พระองค์ก็มิได้ใส่พระทัย กลับไปเที่ยวโลดแล่นสนุกสนาน ซึ่งตอนนั้น พระองค์ได้ทรงติดบ่วงสวาทของ นาง Wallis Simpson เข้าไปอย่างจังแล้ว...
ก่อนพระเจ้าจอร์จที่ห้า จะสิ้นพระชนม์ ได้ทรงเปรยทำนายไว้ว่า...
"เมื่อเดวิด ขึ้นมาเป็นพระเจ้าแผ่นดินละก้อ...เพียงปีเดียวเท่านั้นแหละ ทุกอย่างจะต้องพังพินาศลงไปแน่ๆ..."
หลังจากการรับชม รายการตอบโจทย์ ตอนห้า...
ในรายการเป็นการดีเบทระหว่าง ดร. สมศักดิ์ เจียมฯ (หัวหอกกลุ่มไม่เอาเจ้า) และ
อาจารย์ ส. ศิวรักษ์ (เนติบัณฑิตจากอังกฤษ ที่คิดจะเปลี่ยนแปลงจัดระบบให้กับเจ้า)
ดูไปดูมา..มันไม่ใช่การดีเบทอะไรเลย...แต่เป็นการมาวิพากษ์วิจารณ์เจ้าว่าควรจะอย่างนั้น อย่างนี้...และต่างก็อวยในความคิดของแต่ละฝ่าย ประมาณว่า...ถูกครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน...
แต่ในฐานะผู้ชมที่พอมีความรู้ในเรื่องของประวัติศาสตร์อังกฤษ ที่อาจารย์ ส.
ยกขึ้นมาเปรียบเปรยบ่อยๆนั้น...ต้องขอบอกว่า...อาจารย์ยกขึ้นมาเพียงบางส่วน ที่เราจะเอามาเปรยกับเมืองไทยไม่ได้เลย...เพราะพื้นฐานทางด้านความคิดและความรู้นั้นต่างกันอย่างกู่ไม่กลับ...
และส่วนที่อาจารย์ยกมาเล่า..ก็ไม่ใช่ประเด็นที่ถูกต้องนัก..เช่น...บอกว่า
"King Edward VIII ที่สละบัลลังก์นั้น ไม่ใช่เพราะจะไปแต่งงานกับแม่ม่ายอเมริกัน ที่ผ่านการหย่าร้างมาถึงสองครั้ง
แต่เป็นเพราะพระองค์ไปร่วมกับฮิตเล่อร์ต่างหาก..." ใจความประมาณนั้น...
ขอย้อนหลังกลับไปถึงเรื่องนี้..ว่า...
Edward VIII (1894-1972) หรือพระนามเล่น David พระโอรสองค์โตของพระเจ้า จอร์จ ที่ห้า กับพระราชินี แมรี่ แห่ง เทค (อดีตคือเจ้าหญิงเยอรมัน)
ที่เติบโตมาในช่วงที่อังกฤษและเยอรมันเป็นญาติดีกันอยู่...พระราชวงค์ยังใช้พระนามว่า..
Saxe-Coburg and Gotha ยังไม่ได้เปลี่ยนมาเป็น Windsor
ดังนั้นการไปมาหาสู่กับพระญาติฝ่ายเยอรมัน จึงสนิทสนมแน่นแฟ้น อีกทั้งทรงตรัสเป็นภาษาเยอรมันได้ดีเท่าๆกับภาษาอังกฤษ เพราะถือว่าเป็น ภาษาของแม่...
เจ้าชายเดวิด ชื่นชอบและฝักใฝ่เยอรมันมาตั้งแต่วัยเยาว์
จวบจนการเกิดขึ้นของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (1914-1919) ที่อังกฤษและเยอรมันต้องมากลายเป็นศัตรูห้ำหั่นกันถึงตัดญาติขาดมิตร...
เจ้าชายมกุฏราชกุมารเดวิดที่กลายมาเป็นเจ้าชายวัยรุ่นที่ทรงพระสิริโฉม ในช่วงของวิกฤติบ้านเมืองนั้น กลับไม่แสดงอาการรู้ร้อนรู้หนาว ทรงทำพระองค์ป๊อปปูล่าร์ในหมู่สาวแก่แม่ม่ายอย่างเปิดเผย...ไม่สนพระทัยว่าเหล่าสามีของพวกหล่อนจะเป็นใคร...เพราะไม่ว่าหญิงรุ่นไหน..ต่างก็ทอดสะพานให้พระองค์ทั้งนั้น...
แม้กระทั่งในวันที่พระบิดาทรงประชวรหนัก (1936) พระองค์ก็มิได้ใส่พระทัย กลับไปเที่ยวโลดแล่นสนุกสนาน ซึ่งตอนนั้น พระองค์ได้ทรงติดบ่วงสวาทของ นาง Wallis Simpson เข้าไปอย่างจังแล้ว...
ก่อนพระเจ้าจอร์จที่ห้า จะสิ้นพระชนม์ ได้ทรงเปรยทำนายไว้ว่า...
"เมื่อเดวิด ขึ้นมาเป็นพระเจ้าแผ่นดินละก้อ...เพียงปีเดียวเท่านั้นแหละ ทุกอย่างจะต้องพังพินาศลงไปแน่ๆ..."