คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
ผมก็เคยรู้สึกเช่นคุณ มีอยู่วันนึงผมเดินทางกลับบ้านไปหาแม่
ระหว่างขึ้นรถทัวร์เดินทางกลับ ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ของผู้หญิงคนนึง
ที่นั่งข้างหลังผม เหมือนพูดให้กำลังใจใครสักคนในสาย
ตอนนั้นผมก็กำลังคิดอะไรเพลินๆ คิดถึงชีวิตวันข้างหน้า
คิดถึงวันที่ต้องกลับมาทำงาน มาต่อสู้กับความคิดคนอื่น มาต่อสู้กับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้
มันท้อแท้ สิ้นหวัง ชิงชัง ทุรนทุราย กับวันพรุ่งนี้
แล้วประโยคของผู้หญิงคนนั้น ก็ลอยเข้ามาในหูผม ว่า
" หากวันพรุ่งนี้ เราตื่นขึ้นมา แล้วพบว่ายังหายใจอยู่.....
ความฝันครั้งใหม่ มันจะตื่นขึ้นพร้อมๆ กับลมหายใจของเราเสมอ "
และประโยคสุดท้าย ในจดหมายเก่าๆ ที่ยังตราตรึงอยู่ในหัวใจผมเสมอ
ระหว่างขึ้นรถทัวร์เดินทางกลับ ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ของผู้หญิงคนนึง
ที่นั่งข้างหลังผม เหมือนพูดให้กำลังใจใครสักคนในสาย
ตอนนั้นผมก็กำลังคิดอะไรเพลินๆ คิดถึงชีวิตวันข้างหน้า
คิดถึงวันที่ต้องกลับมาทำงาน มาต่อสู้กับความคิดคนอื่น มาต่อสู้กับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้
มันท้อแท้ สิ้นหวัง ชิงชัง ทุรนทุราย กับวันพรุ่งนี้
แล้วประโยคของผู้หญิงคนนั้น ก็ลอยเข้ามาในหูผม ว่า
" หากวันพรุ่งนี้ เราตื่นขึ้นมา แล้วพบว่ายังหายใจอยู่.....
ความฝันครั้งใหม่ มันจะตื่นขึ้นพร้อมๆ กับลมหายใจของเราเสมอ "
และประโยคสุดท้าย ในจดหมายเก่าๆ ที่ยังตราตรึงอยู่ในหัวใจผมเสมอ

แสดงความคิดเห็น
มีวิธีคิดกันอย่างไรครับ ให้ชีวิตสดใส ไม่หมองหม่น
หลังจากที่ไปฝึกงานมา ทำให้ผมเห็นปัญหาหลายๆอย่าง อย่างเช่น เรื่องของสถาบันที่ศึกษา(โดนข่ม),เพื่อนร่วมงานที่เห็นแก่ตัว และ ต้องอยู่ในสภาวะที่กดดัน
เหตุการเหล่านั้นทำให้รู้สึกไม่ดีเลย แต่ชีวิตไม่มีทางเลือกแล้ว เลือกเรียน เลือกเดินทางนี้มาแล้ว
ผมก็เคยสงสัยพี่ๆบางคนที่ทำงานอยุ่ด้วยกัน เขาทำงานมาตั้งแต่ สิบ ถึง ยี่สิบ ปี
เขาจะรู้สึกอย่างผมบ้างรึเปล่า? ที่อยุ่กับงานที่หนักในสภาวะที่กดดัน
และ....มีวิธีคิดกันอย่างไรครับ?
ให้ชีวิตสดใส ไม่หมองหม่น
อยากจะตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตในวันถัดไป
มีความกระปี้กระเปร่า
มีความฝันที่สวยงาม
อยากจะทำสิ่งนั้น
อยากจะนำอันนี้
ไม่เดินคอตก
กล้าที่จะสบตาผู้คนภายนอก
มีความมั่นใจในการใช้ชีวิต มั่นใจในสิ่งที่ทำอยู่
ไม่กลัวโลกความจริง
ไม่กลัวการผิดหวัง
ไม่กลัวการเริ่มต้น