รู้ผลกันไปแล้วสำหรับทั้ง 2 คู่เมื่อวานนี้เมืองทองบุกไปพ่าย Urawa Reds ยอดทีมจาก ญี่ปุ่น 4-1 ส่วนบุรีรัมย์ เปิดบ้านยันเสมอ แชมป์ K-League อย่าง FC Seoul ไปได้ 0-0
รูปเกมส์ของทั้ง 2 ทีมตัวแทนจากไทยต้องบอกว่าก็เป็นรองทั้งคู่ แต่บุรีรัมย์เป็นรองในแบบที่มีวินัยและสู้ได้
ฉะนั้น ขอพูดถึงเมืองทองก่อนแล้วกัน เมืองทองยังคงเป็นปัญหาต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่พรีซีซั่น จนมาถึงถ้วย ก , ACL ในนัดแรกที่แบ่งแต้มจาก Jeonbuk Hyundai รองแชมป์ K-League มาได้ในแบบที่โชคดีสุดๆ ทั้งๆที่ทางฝั่งทีมเยือนเองก็ไม่ได้มาดีเลยด้วยซ้ำ แต่ทางเมืองทองก็อยู่ในสภาพที่ไม่ดีเช่นกัน แต่เพราะดีกรีของ Jeonbuk Hyundai ที่ติดตัวมา ถึงแม้เมืองทองจะยังคงแสดงถึงปัญหาของทีม แต่หลายๆคนเลือกที่จะมองผ่านไป เพียงเพราะดีกรีของคู่แข่งที่เหนือกว่าพอสมควร และมองว่า เสมอกับ รองแชมป์ K-League ได้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว ทั้งๆที่รายละเอียดภายในกลับเละเทะมาก อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า เค้าเหนือกว่าแน่ๆ แต่นั่นก็หมายความว่าหากเค้าอยู่ในฟอร์มที่ดี แต่ในเมื่อฝั่งตรงข้าม โดยเฉพาะทีมที่เหนือกว่าเราเกิดอาการฟอร์มแกว่ง สิ่งที่ควรจะทำให้ได้คือพยายามทำให้ตัวเองอยู่ในฟอร์มที่ดีให้ได้เพื่อฉกฉวยโอกาส แต่ในเมื่อทำไม่ได้ และสกอร์ที่ออกมาแบบน่าพอใจมาบังตา จึงทำให้แผลที่เป็นอยู่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ
พอเข้ามาสู่การแข่งขันบอลไทยลีก เมือทองยังคงเหมือนเดิม กับเกมส์ทั้ง 2 นัด ถึงแม้จะเก็บได้ 6 แต้มเต็มจากทั้ง 2 นัด แต่ก็เหมือนเดิม รายละเอียดภายในยังคงแย่ และผลยังคงเป็นภาพลวงตา อย่างที่ทุกคนรู้กันว่า มาตรฐานของเมืองทองดีกว่าหลายๆทีมในไทยลีก ฉะนั้นการมีแผลซ่อนไว้ หากไม่เจอทีมที่แกร่งพอ หรือจับจุดได้ แผลนั้นคงไม่เปิดออกอย่างเต็มที่ และไม่ได้รับการรักษาอย่างจริงจัง จนถึงเกมส์ที่ได้เจอกับ Urawa Reds สกอร์ 4-1 อาจจะดูเกินไป จริงๆแล้วถ้าให้มองจริงๆ ทั้ง 4 ลูก อาจจะไม่ใช่ลูกที่เกิดจากความจงใจของฝ่ายรุกจริงๆเลยซักลูก (เอาง่ายๆคือมีโชคเข้ามาเอี่ยวพอสมควร) มันอาจจะยังไม่ใช่การตีเข้าที่แผลแบบจังๆ แต่เหมือนสร้างความบอบช้ำรอบปากแผลมากกว่า แต่มันก็รุนแรงพอที่จะทำให้คนที่เกี่ยวข้องต้องหันมาสนใจอย่างจริงจังถึงปัญหาแล้ว
การแพ้ทีมจาก J-League ด้วยสกอร์ 4-1 แถมมาจากลูกที่กึ่งๆจะเหนือความคาดหมายนั้นอาจจะเหมือนหาเหตุผลมารองรับได้ แต่ความจริงเราจะมองเห็นหลายๆจุดที่เมืองทองทำตกหล่นและหายไปจากเมื่อฤดูกาลก่อน วีระ เกิดพุทรา ผู้รักษาประตู อาจจะถูกตำหนิมากจากทั้ง 4 ลูกที่เสียประตูที่ไม่แสดงถึงปฏิกริยาให้เห็นว่ามีความพยายามที่จะเซฟ แต่จากการพยายามดูภาพรีเพลย์หลายๆครั้ง ทั้งตำแหน่งการยืนของกองหลัง ผู้รักษาประตู จังหวะในการยิงของผู้เล่น Urawa Reds การขยับของผู้รักษาประตูในจังหวะที่ฝั่งตรงข้ามสัมผัสลูก ความผิดของ วีระ หายไปกว่าครึ่ง เราอย่าเพิ่งเอาความคิดหรือความรู้สึกในความเหมือนกันทั้ง 4 ลูกว่าทำไมไม่ขยับ ทำไมไม่เซฟ มาเพิ่มความผิดให้กับผู้รักษาประตู แน่นอนว่าผู้รักษาประตูผิดแน่ๆ แต่ไม่ใช่ทุกลูก (อย่างลูก 3 เนี่ย ผิดชัวร์ๆ ที่ไม่พยายามพุ่งไปปัด แต่ถึงพุ่งก็ไม่ได้หมายความว่าจะเซฟได้ แต่ผิดที่ไม่เลือกที่จะพยายามพุ่ง)
แต่สิ่งที่อยากพูดถึงมากกว่าความผิดของวีระคือ 3 จาก 4 ลูก การมาร์คตัวของกองหลัง และเทคตัวขึ้นโหม่งสกัดของกองหลัง ทำได้ติดลบมากๆ แทบจะพูดได้เลยว่าเข้าขั้นโคม่า นี่ยังไม่รวมลูกที่วีระช่วยเซฟไว้อีกหลายครั้งจากการที่แผงหลังปล่อยให้ผู้เล่น Urawa Reds วิ่งตัดหลังมาเล่นได้แบบชิลล์ๆ ในหลายๆครั้งกองหลังแต่ละคนแบ่งหน้าที่กันได้เข้าขั้นแย่มากถึงแย่ที่สุด ธฤติ ดีพอที่จะเป็นอะไหล่ แต่ไม่ดีพอที่จะเป็นตัวหลัก โดยเฉพาะในระดับเอเชีย และความเร็วเป็นปัญหาอย่างหนัก อาทิตย์ ยังใหม่ในตำแหน่งเซนเตอร์ถึงแม้จะดูมีแวว แต่ก็ถูกโยกมาจากตำแหน่งแบ็กขวา เพราะความเสียดายในความสูง ซึ่งก็ปั้นได้ แต่ยังไม่ดีพอในเวลานี้ Kim Yoo Jin มีความมุ่งมั่นทุ่มเท ขยันวิ่งตลอด แต่ข้อเสียคือเกิดการทิ้งตำแหน่ง โอเคเมื่อเล่นกับทีมในไทยมันยังไม่เป็นปัญหานักการกับการที่จะกลับมาให้ทัน แต่กับการที่ไปเจอผู้เล่นที่ฟิตกว่าทางบอลดีกว่า การทิ้งตำแหน่งแบบนั้นในบางครั้งมันจะเกิดช่องให้โจมตีง่ายๆเช่นกัน
พูดถึงในส่วนของเกมส์รุก การเข้ามาของ Linz ทำให้เกิดปัญหาครั้งใหญ่ของทีม เมืองทองแบบที่เคยเป็นหายไป เมืองทองต้องเปลี่ยนทีมเพื่อให้รองรับการเข้ามาของ Linz แต่กลายเป็นว่าไม่สามารถแสดงผลงานออกมาได้อย่างหวัง สำหรับ Linz เอง ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งทำให้เสียความมั่นใจ และการเล่นแบบนี้ มันทำให้นักเตะของทีมหลายๆคนสับสน ธีรศิลป์ , Gjurovski เกิดการสับสนในการเล่นเต็มๆ การสอดประสานหายไป เพราะการมีอยู่ของ Linz ตอนนี้เมืองทองควรจะต้องเลือกแล้วหล่ะว่าจะทำอย่างไรกับระบบของทีมที่กำลังจะล้มเหลวไปพร้อมกับเงินที่ลงทุนไปกับศูนย์หน้าทีมชาติ ออสเตรียรายนี้ จะยอมให้ขาดทุนไปกับการลงทุนแล้วเริ่มใหม่เสียตั้งแต่ตอนนี้ หรือจะดันทุรังจนเสียไปพร้อมๆกันหมดทั้งการลงทุนและระบบของทีม
ปล.1 จบพาร์ทแรกก่อน ตอนแรกเขียนไม่คิดว่ามันจะยาวขนาดนี้ เดี๋ยวดูก่อนว่ามีคนตอบรับยังไง ค่อยเขียนถึงบุรีรัมย์บ้าง
ปล.2 อาจจะไม่ได้พูดถึงบางจุด เพราะกลัวยาวไป (นี่ก็ยาวแล้วหล่ะ) เดี๋ยวไม่มีคนมาอ่าน
พูดถึง 2 ทีมจากไทย ใน ACL ซักหน่อย Part.1 (เมืองทอง)
รูปเกมส์ของทั้ง 2 ทีมตัวแทนจากไทยต้องบอกว่าก็เป็นรองทั้งคู่ แต่บุรีรัมย์เป็นรองในแบบที่มีวินัยและสู้ได้
ฉะนั้น ขอพูดถึงเมืองทองก่อนแล้วกัน เมืองทองยังคงเป็นปัญหาต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่พรีซีซั่น จนมาถึงถ้วย ก , ACL ในนัดแรกที่แบ่งแต้มจาก Jeonbuk Hyundai รองแชมป์ K-League มาได้ในแบบที่โชคดีสุดๆ ทั้งๆที่ทางฝั่งทีมเยือนเองก็ไม่ได้มาดีเลยด้วยซ้ำ แต่ทางเมืองทองก็อยู่ในสภาพที่ไม่ดีเช่นกัน แต่เพราะดีกรีของ Jeonbuk Hyundai ที่ติดตัวมา ถึงแม้เมืองทองจะยังคงแสดงถึงปัญหาของทีม แต่หลายๆคนเลือกที่จะมองผ่านไป เพียงเพราะดีกรีของคู่แข่งที่เหนือกว่าพอสมควร และมองว่า เสมอกับ รองแชมป์ K-League ได้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว ทั้งๆที่รายละเอียดภายในกลับเละเทะมาก อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า เค้าเหนือกว่าแน่ๆ แต่นั่นก็หมายความว่าหากเค้าอยู่ในฟอร์มที่ดี แต่ในเมื่อฝั่งตรงข้าม โดยเฉพาะทีมที่เหนือกว่าเราเกิดอาการฟอร์มแกว่ง สิ่งที่ควรจะทำให้ได้คือพยายามทำให้ตัวเองอยู่ในฟอร์มที่ดีให้ได้เพื่อฉกฉวยโอกาส แต่ในเมื่อทำไม่ได้ และสกอร์ที่ออกมาแบบน่าพอใจมาบังตา จึงทำให้แผลที่เป็นอยู่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ
พอเข้ามาสู่การแข่งขันบอลไทยลีก เมือทองยังคงเหมือนเดิม กับเกมส์ทั้ง 2 นัด ถึงแม้จะเก็บได้ 6 แต้มเต็มจากทั้ง 2 นัด แต่ก็เหมือนเดิม รายละเอียดภายในยังคงแย่ และผลยังคงเป็นภาพลวงตา อย่างที่ทุกคนรู้กันว่า มาตรฐานของเมืองทองดีกว่าหลายๆทีมในไทยลีก ฉะนั้นการมีแผลซ่อนไว้ หากไม่เจอทีมที่แกร่งพอ หรือจับจุดได้ แผลนั้นคงไม่เปิดออกอย่างเต็มที่ และไม่ได้รับการรักษาอย่างจริงจัง จนถึงเกมส์ที่ได้เจอกับ Urawa Reds สกอร์ 4-1 อาจจะดูเกินไป จริงๆแล้วถ้าให้มองจริงๆ ทั้ง 4 ลูก อาจจะไม่ใช่ลูกที่เกิดจากความจงใจของฝ่ายรุกจริงๆเลยซักลูก (เอาง่ายๆคือมีโชคเข้ามาเอี่ยวพอสมควร) มันอาจจะยังไม่ใช่การตีเข้าที่แผลแบบจังๆ แต่เหมือนสร้างความบอบช้ำรอบปากแผลมากกว่า แต่มันก็รุนแรงพอที่จะทำให้คนที่เกี่ยวข้องต้องหันมาสนใจอย่างจริงจังถึงปัญหาแล้ว
การแพ้ทีมจาก J-League ด้วยสกอร์ 4-1 แถมมาจากลูกที่กึ่งๆจะเหนือความคาดหมายนั้นอาจจะเหมือนหาเหตุผลมารองรับได้ แต่ความจริงเราจะมองเห็นหลายๆจุดที่เมืองทองทำตกหล่นและหายไปจากเมื่อฤดูกาลก่อน วีระ เกิดพุทรา ผู้รักษาประตู อาจจะถูกตำหนิมากจากทั้ง 4 ลูกที่เสียประตูที่ไม่แสดงถึงปฏิกริยาให้เห็นว่ามีความพยายามที่จะเซฟ แต่จากการพยายามดูภาพรีเพลย์หลายๆครั้ง ทั้งตำแหน่งการยืนของกองหลัง ผู้รักษาประตู จังหวะในการยิงของผู้เล่น Urawa Reds การขยับของผู้รักษาประตูในจังหวะที่ฝั่งตรงข้ามสัมผัสลูก ความผิดของ วีระ หายไปกว่าครึ่ง เราอย่าเพิ่งเอาความคิดหรือความรู้สึกในความเหมือนกันทั้ง 4 ลูกว่าทำไมไม่ขยับ ทำไมไม่เซฟ มาเพิ่มความผิดให้กับผู้รักษาประตู แน่นอนว่าผู้รักษาประตูผิดแน่ๆ แต่ไม่ใช่ทุกลูก (อย่างลูก 3 เนี่ย ผิดชัวร์ๆ ที่ไม่พยายามพุ่งไปปัด แต่ถึงพุ่งก็ไม่ได้หมายความว่าจะเซฟได้ แต่ผิดที่ไม่เลือกที่จะพยายามพุ่ง)
แต่สิ่งที่อยากพูดถึงมากกว่าความผิดของวีระคือ 3 จาก 4 ลูก การมาร์คตัวของกองหลัง และเทคตัวขึ้นโหม่งสกัดของกองหลัง ทำได้ติดลบมากๆ แทบจะพูดได้เลยว่าเข้าขั้นโคม่า นี่ยังไม่รวมลูกที่วีระช่วยเซฟไว้อีกหลายครั้งจากการที่แผงหลังปล่อยให้ผู้เล่น Urawa Reds วิ่งตัดหลังมาเล่นได้แบบชิลล์ๆ ในหลายๆครั้งกองหลังแต่ละคนแบ่งหน้าที่กันได้เข้าขั้นแย่มากถึงแย่ที่สุด ธฤติ ดีพอที่จะเป็นอะไหล่ แต่ไม่ดีพอที่จะเป็นตัวหลัก โดยเฉพาะในระดับเอเชีย และความเร็วเป็นปัญหาอย่างหนัก อาทิตย์ ยังใหม่ในตำแหน่งเซนเตอร์ถึงแม้จะดูมีแวว แต่ก็ถูกโยกมาจากตำแหน่งแบ็กขวา เพราะความเสียดายในความสูง ซึ่งก็ปั้นได้ แต่ยังไม่ดีพอในเวลานี้ Kim Yoo Jin มีความมุ่งมั่นทุ่มเท ขยันวิ่งตลอด แต่ข้อเสียคือเกิดการทิ้งตำแหน่ง โอเคเมื่อเล่นกับทีมในไทยมันยังไม่เป็นปัญหานักการกับการที่จะกลับมาให้ทัน แต่กับการที่ไปเจอผู้เล่นที่ฟิตกว่าทางบอลดีกว่า การทิ้งตำแหน่งแบบนั้นในบางครั้งมันจะเกิดช่องให้โจมตีง่ายๆเช่นกัน
พูดถึงในส่วนของเกมส์รุก การเข้ามาของ Linz ทำให้เกิดปัญหาครั้งใหญ่ของทีม เมืองทองแบบที่เคยเป็นหายไป เมืองทองต้องเปลี่ยนทีมเพื่อให้รองรับการเข้ามาของ Linz แต่กลายเป็นว่าไม่สามารถแสดงผลงานออกมาได้อย่างหวัง สำหรับ Linz เอง ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งทำให้เสียความมั่นใจ และการเล่นแบบนี้ มันทำให้นักเตะของทีมหลายๆคนสับสน ธีรศิลป์ , Gjurovski เกิดการสับสนในการเล่นเต็มๆ การสอดประสานหายไป เพราะการมีอยู่ของ Linz ตอนนี้เมืองทองควรจะต้องเลือกแล้วหล่ะว่าจะทำอย่างไรกับระบบของทีมที่กำลังจะล้มเหลวไปพร้อมกับเงินที่ลงทุนไปกับศูนย์หน้าทีมชาติ ออสเตรียรายนี้ จะยอมให้ขาดทุนไปกับการลงทุนแล้วเริ่มใหม่เสียตั้งแต่ตอนนี้ หรือจะดันทุรังจนเสียไปพร้อมๆกันหมดทั้งการลงทุนและระบบของทีม
ปล.1 จบพาร์ทแรกก่อน ตอนแรกเขียนไม่คิดว่ามันจะยาวขนาดนี้ เดี๋ยวดูก่อนว่ามีคนตอบรับยังไง ค่อยเขียนถึงบุรีรัมย์บ้าง
ปล.2 อาจจะไม่ได้พูดถึงบางจุด เพราะกลัวยาวไป (นี่ก็ยาวแล้วหล่ะ) เดี๋ยวไม่มีคนมาอ่าน