ซาอุฯยันไม่รับ 'คนงานไทย' ความสัมพันธ์กับประเทศไทยยังคงบาดหมาง สืบเนื่องจากกรณีเพชรบลูไดมอน

กระทรวงมหาดไทยของซาอุดีอาระเบียยันไม่เปิดรับคนงานชาวไทยเข้าประเทศ ขณะความสัมพันธ์กับประเทศไทยยังคงบาดหมาง สืบเนื่องจากกรณีเพชรบลูไดมอน และคดีสังหารนักการทูตซาอุฯ

ในวันจันทร์ ซาอุดีกาเซต หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษชั้นนำในซาอุดีอาระเบีย อ้างรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ภาษาอาหรับ อัลวะตัน ฉบับวันอาทิตย์ ระบุว่า กระทรวงแรงงานของซาอุดีอาระเบียได้ร้องขอที่จะนำเข้าคนทำงานบ้านจากประเทศไทย แต่กระทรวงมหาดไทยได้ปฏิเสธที่จะยกเลิกคำสั่งห้ามนี้

ข่าวแจ้งว่า ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับซาอุดีอาระเบียได้เกิดความร้าวฉานนับแต่กรณี "เพชรบลูไดมอน" เมื่อปี 2532 ซึ่งคนงานชาวไทยผู้หนึ่งในวังของเจ้าชายไฟซาลในกรุงริยาดห์ได้ขโมยอัญมณีเกือบ 100 กิโลกรัม รวมทั้งเพชรบลูไดมอนด์

ความสัมพันธ์ยิ่งตกต่ำลงหลังเหตุการณ์ฆาตกรรมนักการทูตชาวซาอุดี 4 คนในปี 2532 และปี 2533 และกรณีการสูญหายของพลเมืองชาวซาอุดี นายโมฮัมหมัด อัลรุไวลี ซึ่งพำนักในประเทศไทยในเวลานั้น

ซาอุดีอาระเบียกำลังขาดแคลนคนทำงานบ้าน เพราะรัฐบาลของหลายประเทศได้ตั้งข้อจำกัดในการส่งแม่บ้านไปยังประเทศนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานของซาอุดีอาระเบียเสนอให้เปิดรับสมัครคนทำงานบ้านจากประเทศไทย เพราะเห็นว่าแม่บ้านชาวไทยมีทักษะสูง ได้รับการฝึกอบรมอย่างดี  และทำงานดี

ซาอุดีอาระเบียได้สั่งห้ามแรงงานจากประเทศไทยโดยสิ้นเชิง และไม่อนุญาตให้พลเมืองของตนเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยเมื่อเดือนมิถุนายน 2533 แม้ยังคงอนุญาตการเดินทางมาทำธุรกิจและการท่องเที่ยวทางการแพทย์

นักท่องเที่ยวชาวซาอุดีจำนวนมากได้เข้าประเทศไทยโดยใช้วิธีขอวีซ่าและเดินทางจากประเทศที่สามในตะวันออกกลาง เมื่อปีที่แล้ว ชาวซาอุดีเดินทางมายังไทยประมาณ 80,000 คน.

Bangkok Post