19 ต.ค.66 หลังจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เสร็จสิ้นการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ครั้งที่ 3 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนในวันนี้ และมีกำหนดการประชุมสุดยอดอาเซียนคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ครั้งที่ 1 ที่ซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 19-21 ตุลาคม เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ โดยมีกำหนดเข้าเฝ้า เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียด้วย รวมไปถึงหารือกับภาคเอกชน จำนวน 3 บริษัทด้วย
โดยก่อนออกเดินทาง นายเศรษฐา ได้รีทวีตข้อความของ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ทวีตข้อความว่า "ลุงตู่ปูทางไว้ ฟื้นฟูความสัมพันธ์ไทย-ซาอุ…การช่วยเหลือคนไทยกลับบ้านจากอิสราเอลต้องใช้ความสัมพันธ์กับหลายประเทศ ซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศสำคัญที่จะมีบทบาทในการช่วยคลี่คลาย และนายกรัฐมนตรีจะได้เข้าพบมกุฎราชกุมารฯ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศอ่าวในวันศุกร์นี้"
โดยนายกฯระบุสั้นๆ ว่า "ถูกต้องครับ ขอบคุณครับ"
ล่าสุดเพจ สติค่ะลูกกกก ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ทำไมประยุทธ์ หรือ ลุงตู่ และรัฐบาลชุดที่แล้วถึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการฟื้นความสัมพันธ์ ไทย-ซาอุฯ ในรอบหลายสิบปี
มาลองไล่ Timeline กัน
1. เมื่อวันที่ 9-10 ตุลาคม 2559 : จุดเริ่มต้นฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างเป็นรูปธรรมภายหลังการหารือ 3 ฝ่าย ระหว่าง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เจ้าชายเคาะลีฟะฮ์ บิน ซัลมาน อัลเคาะลีฟะฮ์ นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรบาห์เรน ในขณะนั้น และ นายอาดิล บิน อะหมัด อัลณูบีร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในขณะนั้น ในช่วงการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue: ACD) ครั้งที่ 2 ที่กรุงเทพฯ
2. เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2562 จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในช่วงการประชุมผู้นำ G20 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น
3. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่าย ยังมีการพบหารือกันเป็นระยะๆ เพื่อหารือรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน โดยมีการเยือนที่สำคัญ คือ การเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตามคำเชิญของเจ้าชายฟัยศ็อล บิน ฟัรฮาน อัลซะอูด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เมื่อเดือนมกราคม 2563
4. เมื่อ 25-26 มกราคม 2565 นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย จนมีผลการเยือนที่สำคัญ คือ การประกาศการปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียให้เป็นปกติ และพัฒนาความสัมพันธ์ด้านต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และแรงงาน
.... ดังนั้น ความสำเร็จนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และเหตุผลว่าทำไมประยุทธ์ถึงสามารถมีบทบาทได้ในการเจรจากับซาอุฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวานนี้ นายสนธิญา สวัสดี ไปยื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขอให้ไปเชิญพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ไปเจรจากับประเทศซาอุฯ เรื่องขอเปิดให้มีการบินผ่านลดระยะเวลาการเดินทางไปรับแรงงานไทยหนีภัยสงครามอิสราเอล-ฮามาสด้วย

ที่มา.
https://www.naewna.com/politic/764011
ย้อนไทม์ไลน์ 4 เหตุผลว่าทำไม'ลุงตู่'ถึงสามารถมีบทบาทได้ในการเจรจากับซาอุฯ
โดยก่อนออกเดินทาง นายเศรษฐา ได้รีทวีตข้อความของ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ทวีตข้อความว่า "ลุงตู่ปูทางไว้ ฟื้นฟูความสัมพันธ์ไทย-ซาอุ…การช่วยเหลือคนไทยกลับบ้านจากอิสราเอลต้องใช้ความสัมพันธ์กับหลายประเทศ ซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศสำคัญที่จะมีบทบาทในการช่วยคลี่คลาย และนายกรัฐมนตรีจะได้เข้าพบมกุฎราชกุมารฯ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศอ่าวในวันศุกร์นี้"
โดยนายกฯระบุสั้นๆ ว่า "ถูกต้องครับ ขอบคุณครับ"
ล่าสุดเพจ สติค่ะลูกกกก ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ทำไมประยุทธ์ หรือ ลุงตู่ และรัฐบาลชุดที่แล้วถึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการฟื้นความสัมพันธ์ ไทย-ซาอุฯ ในรอบหลายสิบปี
มาลองไล่ Timeline กัน
1. เมื่อวันที่ 9-10 ตุลาคม 2559 : จุดเริ่มต้นฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างเป็นรูปธรรมภายหลังการหารือ 3 ฝ่าย ระหว่าง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เจ้าชายเคาะลีฟะฮ์ บิน ซัลมาน อัลเคาะลีฟะฮ์ นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรบาห์เรน ในขณะนั้น และ นายอาดิล บิน อะหมัด อัลณูบีร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในขณะนั้น ในช่วงการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue: ACD) ครั้งที่ 2 ที่กรุงเทพฯ
2. เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2562 จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้าฯ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในช่วงการประชุมผู้นำ G20 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น
3. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่าย ยังมีการพบหารือกันเป็นระยะๆ เพื่อหารือรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน โดยมีการเยือนที่สำคัญ คือ การเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตามคำเชิญของเจ้าชายฟัยศ็อล บิน ฟัรฮาน อัลซะอูด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เมื่อเดือนมกราคม 2563
4. เมื่อ 25-26 มกราคม 2565 นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย จนมีผลการเยือนที่สำคัญ คือ การประกาศการปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียให้เป็นปกติ และพัฒนาความสัมพันธ์ด้านต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และแรงงาน
.... ดังนั้น ความสำเร็จนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และเหตุผลว่าทำไมประยุทธ์ถึงสามารถมีบทบาทได้ในการเจรจากับซาอุฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวานนี้ นายสนธิญา สวัสดี ไปยื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขอให้ไปเชิญพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ไปเจรจากับประเทศซาอุฯ เรื่องขอเปิดให้มีการบินผ่านลดระยะเวลาการเดินทางไปรับแรงงานไทยหนีภัยสงครามอิสราเอล-ฮามาสด้วย
ที่มา. https://www.naewna.com/politic/764011