ประสบการณ์ผู้หญิงทำงานรับเงินเดือนมา18ปี เก็บเงินโดยการผ่อนมาตลอด

กระทู้สนทนา
ออกตัวนิดนึงค่ะ ว่าอยากเล่าให้ฟัง แต่ไม่รู้ว่าวิธีการนี้มันจะใช่สำหรับท่านอื่นๆหรือเปล่า เริ่มเลยนะคะ
(มีแก้ไขข้อความที่สะกดผิดนะคะ)

เกริ่นนิดนึง ว่าจบ ป.ตรี เมื่อนานมาแล้ว ก็เกือบ 18 ปี แล้วนี่นา สาขา บัญชีจากมหาวิทยาลัยรัฐ แล้วก็เข้าทำงานเลย ที่ทำงานมั่นคงมากๆ และก็เป็นที่รู้จัก แต่ขอไม่เอ่ยนามนะคะ อิอิ เป็นคนต่างจังหวัดโดยกำเนิด ตอนเรียนก็มาอยู่หอพัก ใกล้ๆมหาวิทยาลัยค่ะ

เริ่มทำงานปี 2538 เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 8พันห้า ยังอยู่หอพักเดิมตั้งแต่ตอนเรียน แล้วนั่งรถเมลล์ไปทำงาน  ระหว่างนั้นก็เริ่มหาข้อมูลคอนโด ที่อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงาน เพราะคิดว่าจะได้ประหยัดค่าเวลาเดินทาง แล้วก็ตัดสินใจ เลือกแล้วก็ไปจอง ตอนนั้นคอนโดสร้างยังไม่เสร็จ ทั้งบ้านก็กังวลนิดๆ และก็เป็นเรื่องใหญ่ด้วย เพราะถ้าจะซื้อ พ่อต้องมากู้ร่วมด้วย ลำพังเงินเดือนตัวเองไม่ผ่านแน่นอน แต่ก็ตัดสินใจร่วมกันว่า ซื้อ

ตอนผ่อนดาน์วเอาเงินเดือนผ่อน เพราะยังไม่มาก แต่ตอนเสร็จแล้วต้องจ่ายเป็นเงินก้อนที่บ้านช่วย แล้วก็เข้าแบงค์ไป เริ่มต้นหนี้ก้อนแรก จำได้เลยเก้าแสนบาท

ได้หนี้มาแระก็นั่งรถเมลล์ต่อไป สบายใจ  จากนั้นก็ผ่อนทางบ้านช่วยสบทบ ด้วย 30%  ของยอดผ่อน ปอลอ คุณพ่อคุณแม่เป็นข้าราชการบำนาญทั้ง2ท่าน
โบนัสก้อนแรกออกพาท่านขึ้นเครื่องไปเที่ยวภูเก็ต เพราะคุณแม่บอกว่ายังไม่เคยนั่งเครื่องบิน ตอนทำงานก็ไม่มีเวลา และรู้สึกว่าเสียดายเงิน

ปี2540 เกิดต้มยำกุ้ง ดอกเบี้ยเงินกู้พุ่งกระฉูด เกือบต้องโดนเพิ่มยอดผ่อนต่อเดือน แต่ทางบ้านมาช่วยเอาเงินมาโปะหนี้ให้บางส่วน  จึงไม่โดนเรียกไปแก้ไขสัญญาเงินกู้
ความจริงคุณพ่อคุณแม่ท่านไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร แต่ท่านใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย ใช้น้อยกว่ารายรับ ทำให้มีเงินเก็บ รถก็ใช้เกิน10ปีกว่าจะเปลี่ยน
แต่ท่านก็ไม่รู้จักการลงทุน จึงได้แต่เก็บฝากประจำไว้

ผ่อนไปได้2ปี เริ่มเรียมเรียนป. โท ภาคค่ำ ยังดีที่เป็นมหาวิทยาลัยรัฐ แต่ก็แพงอยู่ ระหว่างเรียนโท สาหัสมาก ที่ทำงานเริ่มมีโครงการให้พนักงานที่อาวุโสสมัครใจลาออกก่อนเกษียญ โดยมีเงินรับเป็นก้อนๆจูงใจ  ที่เหลือทำแทนโดยไม่รับคนเพิ่ม ทั้งเรียนทั้งทำงานโทรมมากๆ แต่ก็กัดฟันเรียนจบมาได้
พร้อมกับข่าวดีว่าผ่อนคอนโดหมดแล้ววววววว แต่ยังเหลือหนี้ที่ต้องผ่อนคืนทางบ้านก็ทยอยผ่อนคืนทุกเดือน

แล้วก็แบ่งส่วนนึงลงทุนในหุ้น ซื้อๆขายๆ ไม่มาก ประสาเม่า แต่ก็พอมีกำไร เพราะซื้อหุ้นที่พื้นฐานดี ตอนนั้นหุ้นพลังงาน พวกปตท. มาแรง (ไม่เหมือนตอนนี้ อิอิ)


ปี43 เริ่มมีแฟน คบกันไปได้หลายปีอยู่ ที่บ้าน2ฝ่ายรับทราบ วางแผนครอบครัวโดยจะซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้าน ช่วงนั้นเสาร์อาทิตย์ แฟนขับรถพาไปตระเวนดูที่ดินในทำเลเป้าหมาย ดูข้อมูลในเน็ตด้วย หาข้อมูลกับตระเวนดูที่ดินอยู่นาน จนสามารถบอกได้เลยว่า ที่ดินถนนนี้ ซอยนี้ ราคาขายเท่าไร่  แปลงไหนราคาเท่าไร่ ประมาณไปเป็นนายหน้าได้เลย

แล้วก็เริ่มไปติดต่อธนาคารเพื่อจะกู้ซื้อที่เพื่อปลูกบ้าน ได้ข้อมูลมาพร้อม หลักฐานพร้อม ก็ไปติดต่อเจ้าของที่ดินทำสัญญา วางเงินไป1แสน มาจากเงินเก็บของ จขกท. กะแฟน
แต่ผลคือ แบงค์ไม่อนุมัติ ด้วยเหตุผลว่า ยังไม่ได้แต่งงาน ตอนนั้นช็อคเลย เพราะวางเงินไปแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินที่เหลือจากไหน
ลืมบอก ที่ดิน99วา ราคาซื้อตอนนั้น 28500 ต่อวา ราคาประเมินวาละ 2หมื่นนิดๆ
สรุปแฟนพาไปกู้จากญาติเค้า ตกลงจะผ่อนเค้าเหมือนเรากู้แบงค์ ให้ดอกเบี้ยเท่าดอกเบี้ยกู้แบงค์ โชคดีที่ญาติเค้าโอเค เลยได้ทีีดินมา แต่ยังไม่สามารถสร้างบ้านได้ เพราะยังไม่มีตังค์ เลยชะลอโครงการบ้านในฝันไปก่อน ทั้งๆที่ดอกเบี้ยช่วงนั้นถูกมาก MOR ประมาณ 5 เปอร์เซนต์กว่าๆเอง

ทางบ้านให้รถคันเดิมของพ่อมาใช้ แล้วเค้าซื้อคันใหม่ เพราะเค้าเห็นว่าเลิกงานกลับดึกๆตลอด เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย

ผ่อนกับญาติแฟนมาเรื่อยๆ โบนัสออก พาพ่อกับแม่ไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง  แฟนก็ให้ จขกท. เริ่มจัดการด้านการเงินให้เค้าด้วย เพราะจะได้ดู. Cashflow ง่ายๆ
แฟนทำงานด้านการตลาด เลยให้สิทธิขาดเติมที่ในการบริหารเงิน แต่ช่วงนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยใดๆ ของทั้ง2คน เราะอยากผ่อนกับญาติให้หมดเร็วๆ

ผ่อนมาประมาณ2ปี ดอกเบี้ยเริ่มทะยอยขึ้นแบบถี่มาก เราก็จ่ายดอกเบี้ยให้เค้าตามอัตราที่เพิ่มขึ้น จนญาติเห็นใจ บอกว่าถ้าดอกเบี้ยปรับขึ้นอีก ก็ให้คงอัตราดอกเบี้ยเดิมไว้ก็ได้ โชคดีมากๆ ที่เค้าช่วย

ในที่สุดก็ผ่อนสำเร็จได้มาอีก 1 อย่าง ที่ดิน99ตารางวา  

ผ่านมา อีกนานนนน ก็เตรียมแต่งงาน แต่ตกลงว่า แฟนจะมาอยู่ที่คอนโดกับ จขกท. หลังแต่ง ทางบ้านเค้าโอเค สรุปว่าได้แต่งงานปี 2550

อยู่คอนโดไปได้ซักพัก เริ่มไม่มีที่เก็บของ พื้นที่40 ตารางเมตร เริ่มแน่น เลยวางแผนกันว่าจะไปดูบ้านเดี่ยว
สงสัยใช่มั๊ยคะ ว่าทำไมไม่ปลูกบ้าน ไม่ต้องสงสัยค่ะ พอดีว่าคุณสามี เปลี่ยนงานต้องออกตจว. ด้วย คงไม่สามารถควบคุมการสร้างบ้านได้
จขกท. ก็ไม่ถนัด สามารถจัดการเรื่องวางแผนเงินได้อย่างเดียว ผลเลยออกมาว่าไปดูบ้านเดี่ยวกัน ต้องเป็นบ้านเดี่ยวด้วยนะคะ ประมาณทดแทนที่อญู่คอนโดมานาน อิอิ

กลับสู่ขั้นตอนเดิมอีกแล้วค่ะ ตระเวนดูบ้านกัน

ทุกเสาร์ อาทิตย์ ขับรถไปดูทุกหมู่บ้านในทำเลที่สนใจค่ะ ย้ำว่าทุกหมู่บ้าน ไม่สนค่ะว่าราคาจะเท่าไร่ เพราะต้องเอาข้อมูลมาให้ได้มากที่สุด ทำเลที่สนใจก็ทำเลเดิมๆ ตอนดูที่ดิน ซึ่งเราก็ได้เห็นพัฒนาการของราคาที่ดินว่ามันขยับขึ้นมาจากตอนที่เราดูไว้ ถนนก็เพิ่มขึ้น หมู่บ้านก็เพิ่มขึ้นมาก ป่ากกหายไปแยะเลย 555
เห็นนิสัยเซลล์แต่ละโครงการค่ะ จขกท. กับแฟน อ้อ ตอนนี้ต้องเรียนกคุณสามีแล้ว แต่งตัวบ้านๆมาก เสนอหน้าเข้าไปดูบ้านราคา40 ล้าน บ้าง 20 ล้านบ้าง 10 กว่าบ้าง
บางคนต้อนรับดีค่ะ แต่บางที่นี่ มองแบบเหยียดมาก แต่จะไปว่าเค้าก็ไม่ได่ค่ะ เราก็ทำตัวให้เค้ามองแบบนั้น อิอิ สรุปน่าจะดูโครงการไปเกิน60  โครงการเลยค่ะ

แต่บ้านที่สนใจอย่างจริงจังอยู่ที่ช่วงราคา 4-7ล้านบาทค่ะ เพราะจขกท. ลองคำนวณจากรายได้ของ2คนแล้ว ช่วงนีี้คือ เป็นไปได้ ผ่อนไหว ลองคำนวผณกับโปรแกรมของแบงค์ที่มีให้บนเวป ก็ได้อยู่

หาบ้านอยู่ประมาณครึ่งปี ก็ตกลงเลือกได้มาแล้ว 64.5 ตารางวา บนถนนเกษตรนวมินทร์ ราคา 6.95ล้าน จ้า
ไม่ได้โชว์พอร์ต เอ๊ยโชว์ตัวเลขนะคะ แต่จะบอกว่า หนี้ก้อนใหม่ใหญ่หลวงนักค่ะ อัตราผ่อน 46500 บาทต่อเดือน จ๊าคคคคค ว่งเงินดาวน์บ้านไป 3แสน มาจากการขายหุ้นในพอร์ตออกมาค่ะ
ครั้งนี้ไม่มีปัญหาการกู้แบงค์เลยค่ะ เนื่องจากแต่งงานแล้ว 555

กลับสู่แบบเดิมค่ะ ทางบ้านให้ยืมมาโปะเป็นระยะๆ ค่ะ จขกท. ให้ดอกเบี้ยท่านเท่ากับอัตราฝากประจำ แล้วพี่ชายของ จขกท. ให้เงินยืมมาโปะด้วย แต่ก็ให้คิดดอกเบี้ยต่ำมาก ไม่ถึง3% ซึ่งจขกท. ก็ทะยอยคืนพี่ชายด้วยค่ะ ผ่อนแบงค์ด้วย ผ่อนพี่ชายด้วย ทั้ง2ทางพร้อมกัน แต่พี่ชายผ่อนน้อยหน่อย แต่ไม่เคยขาดการผ่อนค่ะ

ปัจจุบันหนี้แบงค์ 1.9 ล้าน หนี้พี่ชาย เหลือ 2แสน
มีลูกสาวเล็ก 2ขวบกว่า เตรียมจะต้องไปรร. พค. นี้แล้ว

ที่ดินที่ซื้อไว้ ราคาประเมินล่าสุด ปรับขึ้นมาเป็นตารางวาละ 5หมื่นแล้ว เห็นมีคนติดป้ายขายแปลงใกล้ๆกันโทร. ไปถามเค้าบอกตอนแรกจะขายวาละ 6หมื่นแปด แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วจะเก็บไว้ให้ราคาขึ้นไปอีก

เมื่อปีใหม่กับวันมาฆบูชา พาลูกสาวกับ คุณพ่อคุณแม่ ไปเที่ยวหัวหิน ลูกสาวชอบมากๆๆ โดยส่วนตัวก็ แอบติดใจคอนโดที่ไปเช่าพัก เลยหาข้อมูลเพิ่มเติม

อีกแระ มีคนประกาศขายห้องหลายขนาด ราคาช่วง5-10ล้าน  เลยลองเข้าไปดูห้องเล่นๆกัน
กลับมาบ้านคุณสามีเริ่มสนใจ ลองโทรไปคุยกับคนที่ประกาศขายดูว่าลดราคาได้มั๊ย ตอนนี้อยู่ระหว่างารเจรจา ส่วนจขกท. ศึกษาข้อมูลดอกเบี้ยอยู่อิอิ

หรือมีแววว่าจะต้องผ่อนอะไรเพิ่มอีกแล้ว

มีใครจะใจดีบอกหุ้นแม่นๆมั๊ยคะ จะได้มีเงินไปผ่อนเพิ่ม อิอิ ที่ผ่านมาโอเคค่ะ แต่ยังไม่เคยมีเด้งเลยอ่ะค่ะ อิอิ ตัวเลขในพอร์ตไม่เยอะค่ะ
เล่ามายาวมากๆ ขอแชร์เผื่อจะลองเก็บเงินแบบ จขกท. ดูบ้างนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่