นายชณิกร เด่นแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าแม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ในฐานะประธานโครงการกิจกรรม “รวมใจไร้พุง ปี 2556”ของ กฟผ.แม่เมาะ เปิดเผยว่า ทางโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ได้จัดโครงการดังกล่าว โดยเป็นกิจกรรม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งเป็นพนักงานทั้งฝ่ายอำนวยการ และฝ่ายปฎิบัติงานโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ได้เกิดความตะหนัก ในเรื่องสัดส่วน สุขภาพ และโรคภัยที่จะตามมา โดยเฉพาะในเรื่องความอ้วน ที่จะส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย ที่จะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา และอาจจะทำให้กระทบต่อการทำงานได้ ดังนั้น โครงการนี้ จึงให้พนักงานของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ที่มีรอบเอวเกินมาตรฐาน ซึ่งเพศชาย มากกว่า 36 นิ้ว และเพศหญิง มากกว่า 32 นิ้ว มาเข้าร่วมโครงการ ซึ่งมีมากเกือบ 100 คน
โดยจะมอบเครื่องนับก้าวแก่ทุกคน เพื่อบันทึกจำนวนก้าวในแต่ละวันไว้ และกำหนดให้ทุกคน ต้องมีเป้าหมายเดินสะสมให้ได้อย่างน้อย 10,000 ก้าวต่อวัน ภายในระยะเวลา 100 วัน ซึ่งผลดี หากครบกำหนด คือ จะทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการ ได้เริ่มออกกำลังกาย ด้วยการก้าวเดิน และแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกาย สามารถทำได้ทุกที่ทุกโอกาส ทั้งที่ยังคงทำงานอยู่ในแต่ละวัน ที่สำคัญ หากเดินสะสมครบ 10,000 ก้าวต่อวัน ผลดีทางสุขภาพ จะทำให้หลอดเลือด และหัวใจแข็งแรง ดังนั้น หากพนักงาน มีธุระที่จะต้องประสานงานกัน หากอาคาร หรือห้องไม่ไกลกันมาก ก็จะให้ผู้เข้าร่วมโครงการเดินเร็ว ไปหากัน แทนที่จะใช้โทรศัพท์ภายใน หรือใช้รถ เดินทางไปติดต่อ
ด้าน นายกมลชาติ จิตรรักชาติ พนักงานขับเครื่องจักรกลระดับ 4 แผนกเดินอุปกรณ์สายพาน และจัดหาน้ำ 2 กองเชื้อเพลิงถ่าน และน้ำ ฝ่ายการผลิตโรงไฟฟ้าแม่เมาะ หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า เดิมที่ตนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอโดยการวิ่งมาราธอนและปั่นจักรยาน ในช่วงเวลาหลังเลิกงาน แต่ระยะหลังไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย จึงทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และมีรอบเอวเกินมาตรฐาน การได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เริ่มออกกำลังกายอีกครั้ง และถือว่า เป็นการออกกำลังกาย ได้ดีมาก ทดแทนเวลาที่ขาดหายไป ที่ตนเองไม่ได้ไปออกกำลังกาย และหลังเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็เกิดผลดีต่อตนเองอย่างมาก ที่ได้กลับมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออีกครั้ง จึงได้นำเรื่องดี ๆ ในโครงการนี้ ไปใช้ที่บ้าน และบอกต่อเพื่อนบ้าน เพื่อให้เกิดผลดีโดยตรงต่อสุขภาพกับผู้ที่รัก และผู้ที่รู้จัก ได้หันมาสนใจในเรื่องสุขภาพร่างกาย แทนที่จะชักชวนกันไปรับประทานอาหาร และดื่มสุรา
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1361607673&grpid=&catid=19&subcatid=1904
ย่าผม 80 กว่าจะแข็งแรงทั้งที่เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ว่างแกก็ไปถางหญ้าพรวนดินสวนมะม่วงของแกอย่างมีความสุข ผมเคยถามย่าว่าทำไมยังแข็งแรง ย่าบอกว่าตอนสาวๆ ทำนา
ทุกวันนี้เช้าๆ ผมยังวิ่งออกกำลังกาย 3-4 กิโล ได้สบาย เพราะผมเป็นนักกีฬาแต่เด็ก แต่เห็นหลายคนรุ่นเดียวกัน (วัยกลางคน) ได้แต่เดินออกกำลังกาย ให้วิ่งบอกไม่ไหวกัน
จากโครงการนี้ของ กฟผ. เป็นสิ่งดี เราอาจจะไม่จำเป็นถึงต้องออกำลังกายมาก เพียงแต่พยายามเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ ให้มากที่สุดก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้ ทุกวันนี้คนเคลื่อนไหวร่างกายกันน้อยโดยเฉพาะคนทำงานออฟฟิศและการที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกมากเกินไป ยิ่งมีการแจกเครื่องนับก้าวด้วยยิ่งเป็นการดี เราได้รู้ว่วันนี้เราเดินไปมากน้อยแค่ไหนถ้าน้อยไป เลิกงานได้หาเวลาเดินให้ครบ 10,000 ก้าว แต่สำหรับคนไม่มีเวลาออกกำลังกายได้ใช้เครื่องนี้ตรวจสอบจำนวนการเดินในระหว่างการทำงานได้
กฟผ. มอบเครื่องนักก้าวตามโครงการเดิน 10,000 ก้าวต่อวันเพื่อลดพุง
โดยจะมอบเครื่องนับก้าวแก่ทุกคน เพื่อบันทึกจำนวนก้าวในแต่ละวันไว้ และกำหนดให้ทุกคน ต้องมีเป้าหมายเดินสะสมให้ได้อย่างน้อย 10,000 ก้าวต่อวัน ภายในระยะเวลา 100 วัน ซึ่งผลดี หากครบกำหนด คือ จะทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการ ได้เริ่มออกกำลังกาย ด้วยการก้าวเดิน และแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกาย สามารถทำได้ทุกที่ทุกโอกาส ทั้งที่ยังคงทำงานอยู่ในแต่ละวัน ที่สำคัญ หากเดินสะสมครบ 10,000 ก้าวต่อวัน ผลดีทางสุขภาพ จะทำให้หลอดเลือด และหัวใจแข็งแรง ดังนั้น หากพนักงาน มีธุระที่จะต้องประสานงานกัน หากอาคาร หรือห้องไม่ไกลกันมาก ก็จะให้ผู้เข้าร่วมโครงการเดินเร็ว ไปหากัน แทนที่จะใช้โทรศัพท์ภายใน หรือใช้รถ เดินทางไปติดต่อ
ด้าน นายกมลชาติ จิตรรักชาติ พนักงานขับเครื่องจักรกลระดับ 4 แผนกเดินอุปกรณ์สายพาน และจัดหาน้ำ 2 กองเชื้อเพลิงถ่าน และน้ำ ฝ่ายการผลิตโรงไฟฟ้าแม่เมาะ หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า เดิมที่ตนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอโดยการวิ่งมาราธอนและปั่นจักรยาน ในช่วงเวลาหลังเลิกงาน แต่ระยะหลังไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย จึงทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และมีรอบเอวเกินมาตรฐาน การได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เริ่มออกกำลังกายอีกครั้ง และถือว่า เป็นการออกกำลังกาย ได้ดีมาก ทดแทนเวลาที่ขาดหายไป ที่ตนเองไม่ได้ไปออกกำลังกาย และหลังเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็เกิดผลดีต่อตนเองอย่างมาก ที่ได้กลับมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออีกครั้ง จึงได้นำเรื่องดี ๆ ในโครงการนี้ ไปใช้ที่บ้าน และบอกต่อเพื่อนบ้าน เพื่อให้เกิดผลดีโดยตรงต่อสุขภาพกับผู้ที่รัก และผู้ที่รู้จัก ได้หันมาสนใจในเรื่องสุขภาพร่างกาย แทนที่จะชักชวนกันไปรับประทานอาหาร และดื่มสุรา
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1361607673&grpid=&catid=19&subcatid=1904
ย่าผม 80 กว่าจะแข็งแรงทั้งที่เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ว่างแกก็ไปถางหญ้าพรวนดินสวนมะม่วงของแกอย่างมีความสุข ผมเคยถามย่าว่าทำไมยังแข็งแรง ย่าบอกว่าตอนสาวๆ ทำนา
ทุกวันนี้เช้าๆ ผมยังวิ่งออกกำลังกาย 3-4 กิโล ได้สบาย เพราะผมเป็นนักกีฬาแต่เด็ก แต่เห็นหลายคนรุ่นเดียวกัน (วัยกลางคน) ได้แต่เดินออกกำลังกาย ให้วิ่งบอกไม่ไหวกัน
จากโครงการนี้ของ กฟผ. เป็นสิ่งดี เราอาจจะไม่จำเป็นถึงต้องออกำลังกายมาก เพียงแต่พยายามเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ ให้มากที่สุดก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้ ทุกวันนี้คนเคลื่อนไหวร่างกายกันน้อยโดยเฉพาะคนทำงานออฟฟิศและการที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกมากเกินไป ยิ่งมีการแจกเครื่องนับก้าวด้วยยิ่งเป็นการดี เราได้รู้ว่วันนี้เราเดินไปมากน้อยแค่ไหนถ้าน้อยไป เลิกงานได้หาเวลาเดินให้ครบ 10,000 ก้าว แต่สำหรับคนไม่มีเวลาออกกำลังกายได้ใช้เครื่องนี้ตรวจสอบจำนวนการเดินในระหว่างการทำงานได้