“วันชัย เหลืองวิริยะ” ประธานกรรมการบริหาร AKP ส่งสัญญาณปี 55 AKP ยังปั๊มรายได้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน หลังปริมาณขยะอุตสาหกรรมอันตรายเพิ่ม และภาครัฐหนุนกำจัดด้วยวิธีที่ถูกต้องเข้มข้นขึ้น มั่นใจไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง ส่วนปี 56 เชื่อสร้างรายได้โตต่อเนื่องในอัตรา 30-40% ตามเป้าหมายได้
นายวันชัย เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) หรือ AKP
ผู้ประกอบธุรกิจบริหารศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จ.สมุทรปราการ เตากำจัดกากอุตสาหกรรมอันตรายที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมแห่งเดียวในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2555 ว่า คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ซึ่งในปี 2555 บริษัทฯได้วางเป้าหมายรายได้จะเติบโตในอัตราร้อยละ 30-40 จากปี 2554 ที่มีรายได้ 282 ล้านบาท จากปริมาณกากอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจและโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ความต้องการเผาทำลายกากอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกันภาครัฐได้ออกกฎหมายควบคุมให้โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศหันมาจำกัดกากอุตสาหกรรมด้วยกระบวนการที่ถูกต้องอย่างเข้มข้นมากขึ้น ประกอบกับบริษัทฯได้ใช้นโยบายเชิงรุกขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มธุรกิจเดิมและกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ จึงทำให้มีกากอุตสาหกรรมเข้ามาเผาทำลายกับเตาของอัคคีปราการเพิ่มมากขึ้น สะท้อนให้ผลประกอบการเติบโตในทิศทางเดียวกัน
“มั่นใจว่าปี 2555 อัคคีปราการ ยังทำผลงานได้ดี โดยมีผลประกอบการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามทิศทางการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม การสนับสนุนของภาครัฐและการใช้นโยบายขยายธุรกิจแบบเชิงรุกของบริษัทฯ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ทำให้ผู้ลงทุนผิดหวัง โดยAKP มีนโยบายปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ”นายวันชัย กล่าว
เขากล่าวต่อถึงการขยายธุรกิจในปี 2556 ว่า ได้วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ร้อยละ 30-40 จากรายได้ในปี 2555 เนื่องจากปริมาณกากอุตสาหกรรมอันตรายยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปีในอัตราร้อยละ 10-15 ประกอบกับโรงงานอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มเข้ามากำจัดกากตามกระบวนการที่ถูกต้องเพิ่มขึ้น และปัจจุบันเตาเผาทำลายกากอุตสาหกรรมอันตรายที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมมีเพียงเตาอัคคีปราการเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ทั้งในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน จึงยิ่งมั่นใจว่าธุรกิจจะเติบโตในอัตราที่โดดเด่น สะท้อนให้ผลประกอบการขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ดังกล่าว
“ปัจจุบันมีโรงงานทั่วประเทศที่ถูกกรมโรงงานกำหนดให้กำจัดกากอุตสาหกรรมด้วยวิธีเผาทำลายมากกว่า 8,000 โรงงาน จากโรงงานกว่า 70,000 โรงทั่วประเทศ แต่มีลูกค้าที่ใช้บริการเผาทำลายกากอุตสาหกรรมอันตรายด้วยเตาความร้อนสูงกับอัคคีปราการเพียง 700 กว่าโรงงานเท่านั้น จะเห็นว่ายังมีโรงงานกลุ่มเป้าหมายอยู่ในตลาดอีกมาก ซึ่งหลังจากนี้อัคคีปราการ จะมุ่งขยายฐานไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น ควบคู่กับการเพิ่มจำนวนลูกค้าในกลุ่มธุรกิจเดิมให้มีจำนวนมากขึ้น ในขณะที่เราสามารถรับลูกค้าได้ทั้งประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน โอกาสการเติบโตทางธุรกิจจึงยังมีอีกมาก เนื่องจากอัคคีปราการเพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจอย่างเต็มตัวได้เพียง 4 ปีเศษเท่านั้น" นายวันชัย กล่าว
AKP อย่าหลอกเค๊าน้าาาา
นายวันชัย เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) หรือ AKP
ผู้ประกอบธุรกิจบริหารศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จ.สมุทรปราการ เตากำจัดกากอุตสาหกรรมอันตรายที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมแห่งเดียวในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2555 ว่า คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ซึ่งในปี 2555 บริษัทฯได้วางเป้าหมายรายได้จะเติบโตในอัตราร้อยละ 30-40 จากปี 2554 ที่มีรายได้ 282 ล้านบาท จากปริมาณกากอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจและโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ความต้องการเผาทำลายกากอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกันภาครัฐได้ออกกฎหมายควบคุมให้โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศหันมาจำกัดกากอุตสาหกรรมด้วยกระบวนการที่ถูกต้องอย่างเข้มข้นมากขึ้น ประกอบกับบริษัทฯได้ใช้นโยบายเชิงรุกขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มธุรกิจเดิมและกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ จึงทำให้มีกากอุตสาหกรรมเข้ามาเผาทำลายกับเตาของอัคคีปราการเพิ่มมากขึ้น สะท้อนให้ผลประกอบการเติบโตในทิศทางเดียวกัน
“มั่นใจว่าปี 2555 อัคคีปราการ ยังทำผลงานได้ดี โดยมีผลประกอบการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามทิศทางการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม การสนับสนุนของภาครัฐและการใช้นโยบายขยายธุรกิจแบบเชิงรุกของบริษัทฯ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ทำให้ผู้ลงทุนผิดหวัง โดยAKP มีนโยบายปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ”นายวันชัย กล่าว
เขากล่าวต่อถึงการขยายธุรกิจในปี 2556 ว่า ได้วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ร้อยละ 30-40 จากรายได้ในปี 2555 เนื่องจากปริมาณกากอุตสาหกรรมอันตรายยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปีในอัตราร้อยละ 10-15 ประกอบกับโรงงานอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มเข้ามากำจัดกากตามกระบวนการที่ถูกต้องเพิ่มขึ้น และปัจจุบันเตาเผาทำลายกากอุตสาหกรรมอันตรายที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมมีเพียงเตาอัคคีปราการเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ทั้งในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน จึงยิ่งมั่นใจว่าธุรกิจจะเติบโตในอัตราที่โดดเด่น สะท้อนให้ผลประกอบการขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ดังกล่าว
“ปัจจุบันมีโรงงานทั่วประเทศที่ถูกกรมโรงงานกำหนดให้กำจัดกากอุตสาหกรรมด้วยวิธีเผาทำลายมากกว่า 8,000 โรงงาน จากโรงงานกว่า 70,000 โรงทั่วประเทศ แต่มีลูกค้าที่ใช้บริการเผาทำลายกากอุตสาหกรรมอันตรายด้วยเตาความร้อนสูงกับอัคคีปราการเพียง 700 กว่าโรงงานเท่านั้น จะเห็นว่ายังมีโรงงานกลุ่มเป้าหมายอยู่ในตลาดอีกมาก ซึ่งหลังจากนี้อัคคีปราการ จะมุ่งขยายฐานไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น ควบคู่กับการเพิ่มจำนวนลูกค้าในกลุ่มธุรกิจเดิมให้มีจำนวนมากขึ้น ในขณะที่เราสามารถรับลูกค้าได้ทั้งประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน โอกาสการเติบโตทางธุรกิจจึงยังมีอีกมาก เนื่องจากอัคคีปราการเพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจอย่างเต็มตัวได้เพียง 4 ปีเศษเท่านั้น" นายวันชัย กล่าว