AOTใช้อินฟราระดมทุนแสนลบ.ขยายสุวรรณภูมิ-ปรับเป้า150บ.

กระทู้สนทนา
วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 11:16:03 น.
ข่าวหุ้นออนไลน์

             

บล.เอเซีย พลัส แนะนำ “ซื้อ” AOT ปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 150 บาท หลังหาทางออกเรื่องการขยายสนามบินสุวรรณภูมิได้ โดยไม่ต้องก่อหนี้จำนวนมาก ผ่านการจัดตั้ง Infrastructure Fund คาดหากนำโครงการรายได้จากสุวรรณภูมิ (เฟส 1) ขายเข้ากองทุนที่จัดตั้งขึ้น AOT จะได้รับเงินสดจากการขายสูงเกินระดับ 1.0 แสนล้านบาท โดยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้

กำไรเดินหน้าโต 2 เท่าตัวจากไตรมาสก่อน ตามปริมาณผู้ใช้บริการที่พุ่งสูงโดดเด่น

ช่วงพีคของฤดูท่องเที่ยวหนุนให้ปริมาณผู้โดยสาร และ จำนวนเที่ยวบินของ AOT ในงวด 1Q56 (สิ้นสุด ธ.ค. 55) เติบโตเด่นถึง 13.6%จากไตรมาสก่อนหน้า และ 9.2%จากไตรมาสก่อนหน้า ตามลำดับ ช่วยให้รายได้หลักค่าธรรมเนียมโดยรวม (58% ของรายได้) เติบโต 8%จากไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ อานิสงส์จากการกลับมาเปิดพื้นที่ดิวตี้ – ฟรี ในสนามบินดอนเมืองเป็นไตรมาสแรกหนุนให้ รายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์เพิ่ม 10%จากไตรมาสก่อนหน้า และช่วยหนุนให้รายได้รวมปรับตัวขึ้นถึง 8.9%จากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 8.6 พันล้านบาท ผลทั้งยังได้รับผลบวกจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ลดลงมากถึง 14.6%จากไตรมาสก่อนหน้า เพราะสำรองโบนัสจ่ายพนักงานน้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้า 1 เดือน และต้นทุนค่าซ่อมแซ่มยังลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าราว 400 ล้านบาท เป็นผลให้กำไรปกติงวด 4Q55 เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นถึง 36%จากไตรมาสก่อนหน้า อยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท นอกจากนี้ ผลบวกจากค่าเงินเยน / บาทที่อ่อนค่าจากไตรมาสก่อนหน้า 9% ช่วยทำให้เงินกู้ยืมสกุลเยนที่เทียบค่าในรูปเงินบาทลดลงจาก 4Q55 และทำให้มีกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยนถึง 1.27 พันล้านบาท กำไรสุทธิงวด 1Q56 จึงเติบโตจาก 4Q55 ถึงกว่า 2 เท่าตัว

แผนจัดตั้ง Infrastructure Fund หนุน AOT มีศักยภาพรองรับการเติบโตในระยะยาว

ปัจจุบันสนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้ราว 45 ล้านรายต่อปี ขณะที่ในปีบัญชี 2555 ปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบินดังกล่าวสูงถึง 52 ล้านราย เกินกำลังการให้บริการแล้ว และทำให้รัฐบาลตัดสินใจย้ายสายการบินต้นทุนต่ำมายังสนามบินดอนเมือง ช่วยให้ปริมาณผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิลดลงได้ราว 10 ล้านรายต่อปี อย่างไรก็ตามการเติบโตอย่างต่อเนื่องของปริมาณผู้ใช้สารคาดว่าจะทำให้ปริมาณผู้โดยสารสุวรรณภูมิกลับมาสูงเกิน 45 ล้านรายต่อปีในสิ้นปีนี้ ทางเดียวที่จะแก้ไขปัญหาพื้นที่ให้บริการไม่เพียงพอรองรับการเติบโตของปริมาณผู้โดยสาร คือ การดำเนินการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2, 3 และ 4 อย่างเร่งด่วน ซึ่งต้องใช้งบลงทุนรวมกันถึง 2 แสนล้านบาทโดยปัจจุบัน AOT มีศักยภาพในการลงทุนผ่านแหล่งเงินกู้ยืมได้เฉพาะเพียงเฟส 2 ซึ่งใช้งบลงทุน 6.2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หนทางการลงทุนต่อเนื่องในเฟส 3-4 เริ่มเห็นแสงสว่าง จากการศึกษาแผนการนำรายได้โครงการปัจจุบันขายเข้ากองทุน Infrastructure Fund (IFF) โดยทางเลือกที่เป็นไปได้สุดคือ นำโครงการรายได้จากสุวรรณภูมิ (เฟส 1) ขายเข้ากองทุนที่จัดตั้งขึ้น ซึ่งฝ่ายวิจัยประเมินว่า AOT จะได้รับเงินสดจากการขายสูงเกินระดับ 1.0 แสนล้านบาท ทำให้มีศักยภาพเพียงพอที่จะดำเนินการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 3 - 4 ได้ต่อเนื่องจากเฟส 2 ซึ่งคาดจะช่วยลดการแบกภาระหนี้จำนวนมาก และจะช่วยให้ AOT สามารถเพิ่มกำลังการให้บริการจากปัจจุบันที่ 45 ล้านคนสู่ 90 ล้านคนอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตในระยะ 5-10 ปีข้างหน้า ด้วยแผนการรองรับผู้โดยสารที่มีแนวโน้มสดใสขึ้น ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปีบัญชี 2556 และ 2557 ขยับขึ้นจากเดิม 6% และ 3.8% ภายใต้สมมติฐานปรับเพิ่มขึ้นคาดการณ์การเติบโตของปริมาณผู้โดยสารและจำนวนบินเที่ยวบิน ส่งผลให้กำไรปกติในปี ภายใต้ประมาณการใหม่ กำไรปกติในปีนี้จะอยู่ที่ 9.0 พันล้านบาท เติบโตสูง 29.9% ก่อนขยับขึ้นโดดเด่นต่อเนื่องในปีหน้า 23%

มูลค่าพื้นฐานใหม่สะท้อนการเติบโตระยะยาวอยู่ที่ 155 บาท ปรับเพิ่มเป็น “ซื้อ”

ด้วยแผนการรองรับการเติบโตของ AOT ในระยะยาวที่ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานหุ้นด้วยวิธี DCF กำหนด Terminal Growth Rate เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 1.0% มาเป็น 3.5% แทนได้ Fair Value ใหม่ที่ 155 บาท มี Upside 33% ฝ่ายวิจัยจึงขอปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่