มีวันนี้เพราะพี่(เดเนี่ยล เลวี่)ให้ บทความสำหรับแฟนๆ ท็อตแน่มครับ

วันก่อน มีเพื่อนๆ ในสเปอร์เว็บบอร์ดคุยกันว่า ซีอีโอของเราช่วยอะไรสโมสรบ้าง
แม้ว่าหลายๆ ครั้งเลวี่อาจจะไม่ได้ทำะไรที่ถูกใจแฟนบอลเสมอไป  คู่ค้า คู่เจรจาของเลวี่เองก็คงเข็ดขยาดไปตามๆกันกับความเขี้ยวลากดินของเลวี่


แต่คงไม่เกินไปถ้าจะบอกว่า ผู้ชายที่ชื่อ เดเนี่ยล เลวี่เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันสเปอร์ที่อยู่ค่อนไปทางล่างของตารางขึ้นมาเป็นทีมครึ่งบนของตารางในปัจจุบัน  ผมเลยขอสรุปสิ่งที่เลวี่ได้ทำให้กับสโมสรท็อตแน่มฮอตสเปอร์ ดังนี้ครับ

เลวี่ เป็นนักธุรกิจ นักบริหารเต็มตัว มีความสามารถที่ไม่ธรรมดา ไม่ใช่ว่าจะมีผู้บริหารหลายๆ คนนะครับที่จะสามารถจัดการสมดุลระหว่างเรื่องเงินกับเรื่องฟุตบอลได้อย่างเหมาะสม

1. เรื่องโค้ช ได้นำมาร์ติน โยลเข้ามาเพื่อปูพื้นฐานเรื่องเกมรุกชั้นยอด แต่เนื่องจากปัญหาเรื่องการกองหลังและโกลสมัยนั้น จึงได้นำฆวนเด้ รามอสที่เป็นเจ้าบอลถ้วยจากเซบีย่าเข้ามาเพื่อติมเข้มเรื่องแทคติค แต่ด้วยปัญหาเรื่องการสื่อสารกับนักกีฬาสุดท้ายเลยไปกันไม่รอด จนต้องส่งไม้ต่อให้แฮร์รี่ เร้ดแน้ป มาสานงานต่อจนพาสเปอร์ขึ้นไปสู่เวที UCL ที่เป็นเหมือนความฝันของเราได้ แต่แล้วยุคของเร้ดแน้ปก็มาสิ้นสุดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าเร้ดแน้ปจะแสดงผลงานการเป็นโค้ชของสเปอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อพิจารณาถึงทั้งปัจจัยเรื่องอายุ การทำงาน แทคติก การโค้ชชิ่งต่างๆ สเปอร์และเร้ดแน้ปก้อตัดสินใจแยกทางกันด้วยดี ก่อนที่จะหมดสัญญา 1 ปี เพื่อวางเดิมพันกับบอสคนใหม่ ซึ่งนับเป็นการเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่มาก ที่ตัดสินนำกุนซือที่เพิ่งล้มเหลวจากเชลซีเข้ามา เพื่อสานงานต่อจากแฮร์รี่ เร้ดแน้ปที่เป็นขวัญใจของแฟนบอลสเปอร์ แต่เลวี่มองการณ์ไกลแล้วว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะนำการพัฒนามาสู่สเปอร์

เมื่อมองดูแล้วจะเห็นเลยว่า เลวี่ไม่ได้มองแต่เรื่องเงิน หากมองแต่เรื่องเงิน การรั้งตัวเร้ดแน้ปไว้จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่ต้องเสี่ยง ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยค่ายกเลิกสัญญาด้วย แต่เลวี่มองเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องพัฒนาทีมเลยตัดสินใจวางเดิมพันครั้งใหญ่ ประหลาดใจ

2. เลวี่มองการณ์ไกลถึงการเรื่องความจำเป็นที่ต้องสร้างสนามใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการเงินของสเปอร์ เพราะอย่างไรก้อตามทีมของเราไม่มีนายทุนอาหรับ ดังนั้นเงินที่เราใช้ คือเงินจริงทั้งหมด
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร จำนวนที่นั่งของแฟนบอลก้อเป็นตัวแปรสำคัญ

แผนแรกสุดของ เลวี่คือการขอยืมสนามโอลิปิกใช้ ซึ่งจะมีที่นั่งเพิ่มขึ้นมาเป็น 60,000 ที่นั่งแบบไม่ต้องลงทุนสร้างสนามใหม่ แต่เราเสนอแผนที่จะเอาลู่กรีฑาออกไป เพราะว่าไม่เหมาะสำหรับการชมฟุตบอลที่ต้องมีลู่กรีฑากั้น เลยแพ้ให้กับเวสแฮมที่่ยอมใช้สนามแบบเดิมๆ

เลวี่รู้ว่าแผนแรกเองแฟนๆ ก้อไม่ได้ชอบมากเพราะต้องย้ายไปอีกที่ แต่เลวี่ก้อต้องลองดูเพราะมูลค่าของสนามที่ต้องลงทุนอย่างน้อยที่สุดก้อคือ ประมาณ 300ล้าน ยังไงเลวี่ก้อต้องลองเลือกแผนที่ไม่ต้องลงทุนก่อน

แต่สุดท้ายเมื่อไม่มีทางเลือก ต้องก่อสร้างสนามที่ที่ตั้งเดิม เลวี่ก้อคิดแผนที่ชาญฉลาดขึ้นมาได้ คือสามารถสร้างสเตเดี้ยมใหม่ ขึ้นมา3/4 ก่อนแล้วค่อยยุบสนามเก่ามารวมเพื่อสร้างอีก 1/4 ที่เหลือ ดังนั้นเราไม่ต้องย้ายไปไหน แฟนๆ สามารถเดินทางมาดูที่เดิมได้เสมอ และไม่ต้องปิดสนามไปยื้มสนามที่อื่นใช้

ตอนแรกแผนนี้ถูกปฏิเสธโดยสภาเมือง แต่เลวี่ก้อยังไฟต์ต่ออย่างไม่ท้อถอย โดยนำเสนอโครงการปฏิรูปเมืองโดยมีสนาม WHL เป็นศูนนย์กลางในการสร้างงาน เพราะว่างานท็อตแน่มเองนับเป็นย่านที่อัตรการว่างงานและอาชญากรรมสูงสุดเมื่อเทียบกับเขตอื่นๆ ดังนั้นการสร้าง WHL นี้จะไม่เป็นเพียงแค่สเตเดี้ยม แต่จะเป็นเหมือนชุมชนใหม่โดยสิ้นเชิง เพราะจะมีการสร้างสาธารณูปโภค ที่พักโรงแรมขึ้นมาด้วย จะเกิดการสร้างงานจำนวนมากขึ้นเพื่อยกระดับชุมชนขึ้นด้วย สุดท้ายสภาเมือง รวมถึงนายกเทศมนตรีของลอนดอนเองก็ยังออกมาร่วมผลักดันโครงการนี้เต็มที่ รวมถึงมีการสนับสนุนเงินจากทางภาครัฐด้วย ทำให้การก่อสร้างเริ่มเป็นรูปเป็นร่างอย่างรวดเร็ว นี่นับว่าเป็นตัวอย่างของนักบริหารอย่างแท้จริง สามารถบริหารผลประโยชน์ของทั้งสโมสร กำไร สังคมได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างผลประโยชน์แบบ WIN-WIN ซึ่งคนที่ทำงานบริหารจะรู้ว่า ยากแค่ไหนที่จะบริหารงานแบบนี้
  เยี่ยม

3. เรื่องนักเตะ ถ้าเลวี่เป็นคนที่คิดถึงแต่เรื่องผลกำไร คงคิดแค่ว่าจะขายนักเตะฟอร์มดีออกไปทุกปี แต่โลกฟุุตบอลก้อโหดร้าย มีคนที่ย้ายออกไป เข้ามาเสมอ เลวี่พยายามอยู่เสมอที่จะให้ทีมมีสิ่งที่ดีสุด บางคนอาจจะอาจจะขัดใจที่ทำไมไม่ทุ่มซื้อคนนั้น คนนี้ แต่ในความเป็นจริงการซื้อขายไม่ง่ายอย่างนั้น เมื่อมีทีมอีกมากมายอยู่ในม้องตลาดที่พร้อมจะทุ่มอย่างบ้าคลั่งแย่งชิงผู้เล่นกับเรา

แถมเราเองยังมีที่นั่งของสเตเดี้ยมเพียง 35,000 คน ทำให้การเงินของเราเสียเปรียบหลายๆทีมอย่างมาก เมื่อเทียบกับทีมอื่นๆ เรายังมีเพดานเงินค่าเหนื่อยที่จำกัด สุดท้ายแล้วเมื่อมาถึงจุดๆ หนึ่งการดึงตัวผู้เล่นระดับท็อปก้อต้องมีการเงินที่สมน้ำสมเนื้อเช่นกัน การสร้างสเตเดี้ยมใหม่จึงเป็นเรื่องจำเป็น ในขณะเดียวกันเราเองก็ยังพัฒนาชุดอเคเดมี่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หากใครติดตามชุดเล็กจะรู้เลยว่า ผลงานของทีมลูกเจี๊ยบเราโดดเด่นมากๆ ในทุกรายการ ลูกเจี๊ยบเราบุกไปถล่มบาซ่า ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นอะเคเดมี่ที่ดีที่สุดในโลกถึงลามาเซีย

เมื่อสองแมตซืที่ผ่านมา เราก็ชนะทั้งลิเวอร์พูล และแมนยูติดๆ กัน เรียกว่าชุดเล็กเรานี่ฮอตสุดๆเลยช่วงนี้

มียุคสมัยหนึ่งเราเคยขายผู้เล่นให้แมนยู (เบอร์บาตอฟ 30.5 ล้าน) และิลิเวอร์พูล(คีน 20ล้าน)เพื่อนำเงินมาสร้างทีม สำหรับกรณีนี้แฟนๆ หลายคนอาจจะขัดใจ แต่เมื่อมาคิดดูดีๆ แล้วนี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุเที่จะนำเงินมาสร้างทีม เพราะนั่นคือช่วงพีคที่สุดของทั้งสองคน เบอร์บาเองก้องอแง ส่วนคีนก้อขอทำตามความฝัน สุดท้ายเราจึงตัดสินใจขายทั้งสองออกไป แต่เมื่อผ่านยุคสมัยนั้นมาจะเห็นได้เลยว่าเลวี่ยอมที่ได้เงินน้อยลง ดีกว่าหยิบยื่นผู้เล่นที่เป็นคีย์แมนอย่างโมดริชในตอนนั้นให้ทีมร่วมลีกอย่างเชลซี ในราคา 40 ล้าน ไปขายให้มาดริดในราคาประมาณ 34 ล้าน ดีกว่าให้มายิงเรา อย่างเช่นกรณีที่อาเซน่อลที่ยื่นดาบที่ลับมา8ปีจนคมกริบอย่างฟาน เพอร์ซี่ให้แมนยู ซึ่งในสายตาแฟนหลายๆคนเหมือนยอมมอบแชมป์ให้ทีมคู่แข่งไปแล้ว

เลวี่เองนั้นเมื่อถึงดีลที่ต้องเอามาให้ได้ เลวี่ก้อพร้อมที่จะกระโจนเข้าไปเต็มตัว ไม่เหมือนอย่างที่ผู้บริหารระดับ CEO ทำกัน เช่นในกรณีของ แยน แฟทองเก้น ที่เลวี่บุกไปเจรจาปิดดีลด้วยตัวเองถึงอัมสเตอดัม(ประเทศฮอลแลนด์นะ ไม่ใช่อัมสเตอดัม ประเทศไทย ๕๕๕๕) จนสามารถปิดดีลผู้เล่นระดับเทพได้ในราคาย่อมเยาว์ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกรณีของฟรายเออร์นักเตะดาวรุ่งของแมนยูที่เราเสนอเงินเพื่อซื้อตัวจากแมนยู 2 ล้านปอนด์ แต่แมนยูดันราคาเป็น 6 ล้านปอนด์  เราเลยไม่เอา แล้วเป็นสตองดาดลีแอจที่มาค้าตัวไปฟรีๆ ตามกฏแล้วหากหมดสัญญาแต่เป็นทีมร่วมลีกสามารถเรียกค่าตัวได้ แต่กฏนี้ใช้กับทีมต่างลีกไม่ได้

สุดท้ายเมื่อเปิดตลาดรอบใหม่ เราก้อไปซิวมาในราคา 2 ล้านปอนด์ โดยจ่ายให้ลีแอจไป กรณีนี้ท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอกูสันออกมาจวกเลวี่กันใหญ่ว่าเป็นดีลจัดฉาก แต่อย่างไรก็ดี ไม่มีหลักฐานอะไรที่ชัดเจน จึงไม่สามารถทำอะไรเลวี่ได้

4. การสร้างเสริมคุณภาพของนักเตะเยาวชนและอะแคเดมี่
เราได้เปิดสนามซ้อมใหม่ โดยสนามซ้อมใหม่นี้มีสนามถึง 11 สนามรวมถึงสนามในร่มด้วย 1 สนามทำให้สามารถซ้อมได้ทุกเวลาไม่เกี่ยงสภาพอากาศ คุณภาพของสนามซ้อมเราเรียกได้เลยว่าเป็นระดับต้นๆ ของโลก จากปากคำของนักข่าว นักกีฬา และผู้เชี่ยวชาญทางด้านกีฬาหลายๆ คน กล่าวได้เลยว่าทุกคนยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า คุณภาพของสนามซ้อมเราทัดทัดเทียมกับทีมระดับบาซ่าและมาดริด รวมถึงทีมกีฬาชั้นนำอื่นๆ สนามซ้อมไม่ได้คำนึงถึงแค่นักเตะเท่านั้น แต่ยังเป็นสนามที่ยังขึ้นชื่อว่า สนามเพื่อนสิ่งแวดล้อมด้วยเพราะมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด คำนึงถึงใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ได้รับการรับรองจากสภาเมือง ซึ่งสำหรับคนไทยอาจจะไม่คุ้น แต่ว่าในประเทศอย่างอังกฤษนั้นการก่อสร้างสิ่งก่อนสร้าง ไม่ว่าใหญ่หรือเล็กจะต้องมีการยื่นเรื่อง เอกสาร ชี้แจงต่อกรมผังเมือง ไม่ใช่ว่าจะสร้างก้อสร้างได้ กรมผังเมืองจะพิจารณาทั้งเรื่องการใช้งาน รวมไปถึงเรื่องทัศนียภาพโดยรวม ซึ่งเราผ่านหมดแล้วทั้งหมด

ในด้านการใช้งาน ศูนย์ซ้อมของเรา สร้างให้นักเตะสามารถมาพักผ่อนหย่นใจได้เสมอ เรียกว่าเป็นมิตรกับนักเตะเองด้วย

เรายังเสริมสร้างอะเคเดมีของเราด้วยการนำเข้าโค้ชใหม่ไฟแรงอย่าง AVB และทีมงาน ซึ่งนำการฝึกซ้อมและแทคติกใหม่เข้ามา ตัอวย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ การเพิ่มเซ็สชั่นการฝึกซ้อมจาก 1 เพิ่มเป็น 2 เซ็สชั่นจากยุคของแฮร์รี่ เร้ดแน้ป เพื่อพัฒนาให้นักเตะสามารถเล่นเกมเพรซซิ่งได้ตลอด 90 นาที จนถึงสร้างเสริมคุณภาพ และสมรรถภาพร่างกายขั้นพื้นฐานของนักเตะทุกคน โดยมีพื้นฐานว่านักเตะทุกคนต้องสามารถมีส่วนร่วมในเกมได้ตลอด 90 นาที ซึ่งจากการเล่นจะเห็นได้ว่า เราเสียประตูยากขึ้น เพราะว่าผู้เล่นทุกคนสามารถช่วยกันวิ่งสกรีนให้บอลไปถึงหลังได้ยากขึ้น ซึ่งเมื่อก่อนเรามักจะพึ่งพาผู้เล่นการตัดเกมเป็นหลักในการป้องกัน แต่ตอนนี้ผู้เล่นของเราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ทั้งรุกและรับตลอดเกม

ในด้านผู้เล่นเยาวชน สำหรับคนที่มีศักยภาพ มากพอที่จะขึ้นชุดใหญ่เราจะใช้วิธีให้ยืมไปยังทีมต่างๆ ที่เจ้าตัวจะได้มีโอกาสลับคมในสนามให้มากที่สุด

ส่วนคนที่กำลังโต เราก็จัดให้ลูกเจี๊ยบของเราได้ลงเล่นในทุกรายการทั้งระดับในประเทศ(U21) และภาคพื้นยุโรป(รายการ NextGen Series) เพื่อให้นักเตะทุกคนได้ลงเล่นให้มากที่สุด

ผลลัพธ์ของทั้งทีมชุดเล็กและชุดใหญ่กำลังเริ่มผลิบานแล้วครับ   ลูกฟุตบอล


5. เลวี่มีความเด็ดขาดในการบริหาร และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสโมสรเสมอ
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือการถอน กลุ่ม ENIC ที่เป็นเจ้าของสเปอร์ออกจากตลาดหุ้นเมื่อเริ่มโครงการสร้างสนามเต็มตัว

จริงอยู่การอยู่ตลาดหุ้น จะทำให้มีการระดมทุนมากขึ้น มีงบประมาณมากขึ้น แต่ก็จะทำให้การตัดสินใจ หรือความเด็ดขาดในการลงทุนลดลง เพราะว่าต้องมีการชี้แจง แจกแจงการลงทุนต่างๆ ให้ผู้ถือหุ้นรับรู้  แต่ภารกิจใหญ่อย่างการสร้างสนาม จะรอไม่ได้เด็ดขาด เลวี่จะตัดสินที่จะออกจากตลาดหุ้น เพื่อให้ได้สิทธิ์เต็มในการบริหารและจัดการเงินเพื่อการสร้างสนาม  เท่เท่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่