เพิ่งจะเคยมาเขียนครั้งแรกค่ะ ปกติซุ่มอ่าน ซุ่มหาข้อมูล ตั้งกระทู้ถามบ้างTwT ปกติไม่ค่อยได้เข้ามาที่พันทิปเท่าไหร่นัก แต่ก่อนที่จะออกเดินทาง ได้รับความช่วยเหลือจากห้องบลูเป็นอย่างดีเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
การเดินทางในครั้งนี้ เป็นการเดินทางครั้งแรก แบ็คแพคครั้งแรก ออกนอกประเทศครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้ไปมาหกปี หาข้อมูลเยอะจนมึนเลย
เดินทางไปกับน้องชาย 2 คน
ออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 5 พย 55 ตอน เที่ยงคืน ด้วย JAL ถึง คันไซ เวลา 7.10 น.
พอลงเครื่องก็รีบเดินตามคนอื่นๆไป กลัวหลง พอไปถึง ต.ม. ใจสั่นเลย อ่านมาเยอะเขาว่า ตม โหดมาก น้องชายก็พูด อังกฤษ ไม่เป็น ไอ้เราก็ งูๆปลาๆ แต่น่าจะพอไหว เลย บอกน้องชายว่า "เดียวตัวเองอยู่ด้านหน้านะ เค้าจะอยู่ด้านหลัง ถ้า ตม ถามอะไร โบ้ยมาให้เค้าก็ได้"
น้องชายรับปาก พอถึงเวลาจริงๆ มี ผู้หญิงคนนึง น่าจะเป็นผู้ดูแลล่ะมั้งคะ เขาขอดูพาส แล้วให้น้องชายเราไปต่ออีกแถวนึง เพราะเป็นครั้งแรกที่มาคนเดียว ใจนี้เต้น ตึกๆๆๆๆๆๆๆ มองน้องชายตลอดเวลา แล้ว น้องชายก็ผ่านมาได้ ยืนรออยู่อีกฝั่ง ตัวเรายังต่อคิวอยู่เลย พอถึงคิวปุ๊บ
เราก็ยื่น พาสให้ ตม เปิดๆดู แล้วพูดว่า "สวัสดีครับ" หะ....พูดไทยได้ด้วย เราก็ยกมือไหว้ บอกว่าสวัสดีค่ะ แล้วเค้าก็ให้ถ่ายรูป แสกนนิ้วมือ ปั้มให้เราผ่านมาได้
เพราะรีบแล้วก็เพราะไม่รุ้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน เลยไม่ยกกล้องออกมาถ่ายรูปในขณะที่อยู่ในสนามบินเลยสักรูป พอได้ประเป๋าเดินทางปุ๊บ ก็ไปยืนมึนอยู่ระหว่าง ทางออก และ บันไดเลื่อนที่จะนั่งรถไฟเข้าเมือง อาจจะเป็นเพราะยืนมึนๆ จู่ๆก็มี ตำรวจเดินเข้ามาหา (อะไรอีกอ๊าT^T)
เค้าเดินเข้ามาพูดภาษาญี่ปุ่นด้วย มองหน้ากับน้องมึนๆ แล้วบอกไปว่า "อะ อะ อิงลิช พลีส สึ" ตำรวจนายนั้นก็บอกโอเค
เขาถามเยอะมาก มากับใคร มีญาติอยู่ที่นี่เหรอ มาทำอะไร มาเที่ยวที่ไหน พักที่ไหน จะไปไหนบ้าง ขอดูพาสหน่อย เราก็ตอบๆไป แล้วเขาก็ จดๆๆๆไว้ พอเสร็จ เขาก็บอกว่า มีอะไรให้ผมช่วยไหม เลยบอกว่า อยากจะไปที่โรงแรม อิล แกรนด์ อูเมดะ ไปทางไหน คุณตำรวจใจดีบอกว่า หนูต้องไปขึ้นรถตรงนั้นนะ พอได้คำตอบจากนายตำรวจ เรากับน้องชายก็โค้งให้ แล้ว ลากกระเป๋าไปยืน งงๆ หน้าตู้กดตั๋ว
สักพักก็มีคุณลุงคนนึง อาสามากดให้ แล้วบอกให้เราไปยืนรอตรงนั้น แล้วเอากระเป๋ามาไว้กับลุง (ลู๊งงง ลุงจะเอากระเป๋าหนูไปทำไมT[]T) พอเดินตามกระเป๋าตัวเอง ลุงแกก็บอกว่า "ไม่ต้องตามมา ยืนรอตรงนั้นแหละ! ลุงจะเอากระเป๋าขึ้นรถให้" (อ้อ โอเคคะ)
ไปสถานี โอซาก้า! ยืนรอสักพัก รถก็มา ตรงเวลามาก! ตรงเวลาแบบเป๊ะๆ แล้วเราก็ขึ้นรถกับน้องไป
ชมวิวไปเรื่อย แต่ไม่กล้าถ่ายรูปเยอะ เพราะในรถ เงียบ เงียบมากๆ ได้ยินแต่เสียงชัตเตอร์เรา แชะ แชะ แชะ เลยรู้สึกเกรงใจ หยุดถ่ายแล้วนั่งมองวิวเงียบๆ
พอมาถึงสถานีโอซาก้า ก็ งง อีกรอบ กางแผนที่ กับ ใบจองโรงแรมออกมา เดินถามคนนู้นคนนี่ไปทั่ว เขาก็บอกให้ไปในสถานีไปขึ้นรถไฟ เราก็กลัวว่าเขาจะรีบ เลยโค้งบอกขอบคุณ แต่ที่จริง ยัง งงอยู่ (ไปขึ้นตรงไหน=[]=!) และเพราะ งง เลยไม่ควักกล้องออกมาถ่ายรูป ขอให้ถึงที่พักก่อนTwT
เดินแบบ มึนๆ ลงไปจนถึง ถ้าตู้กดตั๋วรถไฟ สาย M งง อีกรอบ ยืนดูป้ายภาษาญี่ปุ่น "อ่านไม่ออก.." รำพึงกับตัวเองเบาๆ
ส่วนน้องชายก็เริ่มบ่นว่า เมื่อไหร่จะถึงโรงแรม โรงแรมอยู่ไหน นี่เราหลงทางแล้วใช่ไหม "อย่าบ่นเซ่! กำลังหาทางอยู่นี่ไง"
แล้วนายสถานีก็เดินมาถามว่า "ให้ช่วยอะไรไหมครับ" ............น้ำตาแทบไหลเลยT^T รีบยื่น ใบจองโรงแรมให้เขาดูว่าอยากไปตรงนี้
นายสถานีก้ไปกดตั๋วให้ แล้วบอกให้เราเข้าไปตรงนั้นนะ (ชี้ไปที่ทางเข้า) เรากับน้องก็โค้งขอบคุณ สอดตั๋วแล้วเข้าไป.......เข้าไปมึนอีกรอบ...
มันมีสองทางแยก....เราก็ต้องไปทางไหนอ่ะ......แล้วบนป้ายที่ยืนอยู่ ก็มีชื่อสถานีบอกเยอะ แต่ไม่มีชื่อสถานีที่เราต้องการจะไป เลยเสี่ยงดวง เอ้า ไปก็ไป! เลือกไปด้านซ้าย พอเข้าไป มันมีที่ให้สอดตั๋วอีก พอสอดไป ก็ไม่ผ่าน! เอาแล้วไงล่ะ
พอนายสถานีผู้หญิงเห็นว่าเราไม่ผ่าน เขาก็เดินมาหา "ถามว่าจะไปไหน ขอดูตั๋วหน่อย" เราก็ยื่นตั๋วให้ พร้อมกับบอกว่า "หนูจะไป มินามิโมริมาชิ คะ" นายสถานีใจดีก็เอาตั๋วเราไปปรับราคา ให้ถูกลง คืนเงินให้ แล้วก็ เอาแผนที่ซับเวย์เป็นภาษาอังกฤษยื่นให้ พร้อมกับบอก ให้เราเดินไปขึ้นตรงไหน พอรู้แล้วก็รีบวิ่งลากกระเป๋าไปตามที่นายสถานีบอก
ไปถึงปุ๊บ ก็เห็น รางรถไฟ เห็นชื่อสถานีที่ต้องการจะไป ถัดไปแค่สถานีเดียว ดีใจมาก แต่ก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี เดินไปถามผู้ชายคนนึงที่ยืนอ่านหนังสืออยู่ว่า ตรงนี้ไป มินามิโมริมาชิ ใช่ไหมคะ (ชื่อสถานียาวไปนะบางที..) ผู้ชายคนนั้นก็บอกว่า "ใช่ครับ" พอรถไฟมาเราก็รีบขึ้นไป พอรถไฟออก ผู้ชายคนเดิมก็เดินมาหาแล้วบอกว่า "พอจอดปุ๊บ คุณลงได้เลยนะครับ" มีน้ำใจอะไรแบบนี้TwT
ถึงแล้ว ตามที่จดมา โรงแรมของเราต้องออกที่ประตู 2 เลี้ยวซ้าย เดินไปอีกนิดนึงก็ถึง (น้องชายยิ้มหน้าบาน พอรู้ว่าจะได้เจอโรงแรม)
ถึงโรงแรมก็ฝากกระเป๋า เพราะเชคอินตอน บ่าย3 จากนั้นก็ เริ่ม ออกสำรวจรอบๆโรงแรม!!
เห็นคนปั่นจักรยานผ่านไปมา ปั่นแบบมืออาชีพมากๆ เห็นอะไรก็กรีีดกร๊าด เพราะไม่เคยมา ไม่เคยเห็น ตู้กดตั๋วก็ไม่เคยกด รถไฟก็ไม่เคยนั่ง
เจออะไรก็ถ่ายไปหมด แต่ถ่ายไม่สวยเลยสักภาพ TwT
ตู้ไปรษณีย์ เหมือน คนใส่หมวกมากๆ
เดินไปไม่ทันไร น้องชายบ่น หิวๆๆๆๆ เดินไปเจอร้านแกงกระหรี่เลย แวะหน่อย อันนี้ของน้องชาย ดูเหมือนจะเป็นแกงกระหรี่ แต่ด้านหน้ามันราดด้วยชีส
อันนี้ของเรา ธรรมดาๆ ชามใหญ่มาก กินไม่หมด
กินเสร็จก็ เดินไปเรื่อยๆ เจออะไรก็ถ่ายๆ พอถึงเวลาเชคอินก็รีบกลับโรงแรม เข้าไปพักเอาแรง
พอตกดึก ก็ออกไปที่ มินามิทาวน์ อยากถ่ายรูปกูลิโกะ แต่หาไม่เจอ.... ดึกแล้วด้วย เดิน งงอยู่ตั้งนาน
เห็นว่า ถ้ามาที่นี่ต้องกินปูยักษ์ แต่เราสู้ราคาไม่ไหว.....เลยกินซูชิแทน
อร่อยน้ำตาไหล อาการญี่ปุ่น มันก็ต้องกินที่ญี่ปุ่นสินะ >_<!
พอกินอิ่มเสร็จ ออกมาจากร้าน อยากกินของหวาน อยากรีบกินแล้วรีบกลับ เพราะกลัวว่าจะไม่ทันรถไฟ แต่เดินไปไม่ถึงไหน น้องชายก็ดึงคอเสื้อ แทบหงายหลัง มันชี้เข้าไปในร้านเกม
"ไปตรงนี้กันก่อนนะ!" มันบอกแล้วกระตุกคอเสื้อสองสามที
"ม่ายย มันเปลือง"
"ป่ะ ไปกันเถอะ!!" น้องชายไม่ได้ฟังที่พูดแล้ว ลากคอเสื้อเราเข้าร้านเกมไปในทันที (น้องอายุ 17 สูง 180 เรา 21 สูง 156) ขัดขืนไม่ได้เลยT^T
เข้าไปปุ๊บ ก็ ยืนสั่นๆกับน้อง ฟิกเกอร์ การ์ตูนเต็มไปหมดเลย! (โอตาคุเล็กน้อย)
อยากทุบตู้แล้วเอาออกมาให้หมด จากตอนแรกที่บอกว่ามันเปลือง กลายเป็นว่า 2000 เยน หมดไปได้ยังไงก็ไม่รู้ T^T
เดินกลับโรงแรม แต่ก่อนกลับ แวะซื้อของกินตุนไว้สักหน่อย ไอ้นั่นก็ไม่เคยเจอ ไอ้นี่ก็ไม่เคยเจอ น่ากินไปหมด!! ซื้อมาเก็บไว้
พอถึงโรงแรม ล้มตัวนอน นวดเท้าตัวเอง 1 วันหมดไปแบบ งงๆ แต่รู้สึกว่าได้เจออะไรใหม่ๆ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เหมือนเจอโลกใหม่
แค่วันเดียวก็ร่ายยาวจนเหมือนนิยายแบบนี้-0-! รีวิวครั้งแรกนะคะ หากยาวไป จะปรับปรุง รูปน้อยมากด้วย
ขอบคุณค่า
[CR] [CR]เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกแบบมึนๆ โอซาก้า 6 วัน 5 คืน
การเดินทางในครั้งนี้ เป็นการเดินทางครั้งแรก แบ็คแพคครั้งแรก ออกนอกประเทศครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้ไปมาหกปี หาข้อมูลเยอะจนมึนเลย
เดินทางไปกับน้องชาย 2 คน
ออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 5 พย 55 ตอน เที่ยงคืน ด้วย JAL ถึง คันไซ เวลา 7.10 น.
พอลงเครื่องก็รีบเดินตามคนอื่นๆไป กลัวหลง พอไปถึง ต.ม. ใจสั่นเลย อ่านมาเยอะเขาว่า ตม โหดมาก น้องชายก็พูด อังกฤษ ไม่เป็น ไอ้เราก็ งูๆปลาๆ แต่น่าจะพอไหว เลย บอกน้องชายว่า "เดียวตัวเองอยู่ด้านหน้านะ เค้าจะอยู่ด้านหลัง ถ้า ตม ถามอะไร โบ้ยมาให้เค้าก็ได้"
น้องชายรับปาก พอถึงเวลาจริงๆ มี ผู้หญิงคนนึง น่าจะเป็นผู้ดูแลล่ะมั้งคะ เขาขอดูพาส แล้วให้น้องชายเราไปต่ออีกแถวนึง เพราะเป็นครั้งแรกที่มาคนเดียว ใจนี้เต้น ตึกๆๆๆๆๆๆๆ มองน้องชายตลอดเวลา แล้ว น้องชายก็ผ่านมาได้ ยืนรออยู่อีกฝั่ง ตัวเรายังต่อคิวอยู่เลย พอถึงคิวปุ๊บ
เราก็ยื่น พาสให้ ตม เปิดๆดู แล้วพูดว่า "สวัสดีครับ" หะ....พูดไทยได้ด้วย เราก็ยกมือไหว้ บอกว่าสวัสดีค่ะ แล้วเค้าก็ให้ถ่ายรูป แสกนนิ้วมือ ปั้มให้เราผ่านมาได้
เพราะรีบแล้วก็เพราะไม่รุ้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน เลยไม่ยกกล้องออกมาถ่ายรูปในขณะที่อยู่ในสนามบินเลยสักรูป พอได้ประเป๋าเดินทางปุ๊บ ก็ไปยืนมึนอยู่ระหว่าง ทางออก และ บันไดเลื่อนที่จะนั่งรถไฟเข้าเมือง อาจจะเป็นเพราะยืนมึนๆ จู่ๆก็มี ตำรวจเดินเข้ามาหา (อะไรอีกอ๊าT^T)
เค้าเดินเข้ามาพูดภาษาญี่ปุ่นด้วย มองหน้ากับน้องมึนๆ แล้วบอกไปว่า "อะ อะ อิงลิช พลีส สึ" ตำรวจนายนั้นก็บอกโอเค
เขาถามเยอะมาก มากับใคร มีญาติอยู่ที่นี่เหรอ มาทำอะไร มาเที่ยวที่ไหน พักที่ไหน จะไปไหนบ้าง ขอดูพาสหน่อย เราก็ตอบๆไป แล้วเขาก็ จดๆๆๆไว้ พอเสร็จ เขาก็บอกว่า มีอะไรให้ผมช่วยไหม เลยบอกว่า อยากจะไปที่โรงแรม อิล แกรนด์ อูเมดะ ไปทางไหน คุณตำรวจใจดีบอกว่า หนูต้องไปขึ้นรถตรงนั้นนะ พอได้คำตอบจากนายตำรวจ เรากับน้องชายก็โค้งให้ แล้ว ลากกระเป๋าไปยืน งงๆ หน้าตู้กดตั๋ว
สักพักก็มีคุณลุงคนนึง อาสามากดให้ แล้วบอกให้เราไปยืนรอตรงนั้น แล้วเอากระเป๋ามาไว้กับลุง (ลู๊งงง ลุงจะเอากระเป๋าหนูไปทำไมT[]T) พอเดินตามกระเป๋าตัวเอง ลุงแกก็บอกว่า "ไม่ต้องตามมา ยืนรอตรงนั้นแหละ! ลุงจะเอากระเป๋าขึ้นรถให้" (อ้อ โอเคคะ)
ไปสถานี โอซาก้า! ยืนรอสักพัก รถก็มา ตรงเวลามาก! ตรงเวลาแบบเป๊ะๆ แล้วเราก็ขึ้นรถกับน้องไป
ชมวิวไปเรื่อย แต่ไม่กล้าถ่ายรูปเยอะ เพราะในรถ เงียบ เงียบมากๆ ได้ยินแต่เสียงชัตเตอร์เรา แชะ แชะ แชะ เลยรู้สึกเกรงใจ หยุดถ่ายแล้วนั่งมองวิวเงียบๆ
พอมาถึงสถานีโอซาก้า ก็ งง อีกรอบ กางแผนที่ กับ ใบจองโรงแรมออกมา เดินถามคนนู้นคนนี่ไปทั่ว เขาก็บอกให้ไปในสถานีไปขึ้นรถไฟ เราก็กลัวว่าเขาจะรีบ เลยโค้งบอกขอบคุณ แต่ที่จริง ยัง งงอยู่ (ไปขึ้นตรงไหน=[]=!) และเพราะ งง เลยไม่ควักกล้องออกมาถ่ายรูป ขอให้ถึงที่พักก่อนTwT
เดินแบบ มึนๆ ลงไปจนถึง ถ้าตู้กดตั๋วรถไฟ สาย M งง อีกรอบ ยืนดูป้ายภาษาญี่ปุ่น "อ่านไม่ออก.." รำพึงกับตัวเองเบาๆ
ส่วนน้องชายก็เริ่มบ่นว่า เมื่อไหร่จะถึงโรงแรม โรงแรมอยู่ไหน นี่เราหลงทางแล้วใช่ไหม "อย่าบ่นเซ่! กำลังหาทางอยู่นี่ไง"
แล้วนายสถานีก็เดินมาถามว่า "ให้ช่วยอะไรไหมครับ" ............น้ำตาแทบไหลเลยT^T รีบยื่น ใบจองโรงแรมให้เขาดูว่าอยากไปตรงนี้
นายสถานีก้ไปกดตั๋วให้ แล้วบอกให้เราเข้าไปตรงนั้นนะ (ชี้ไปที่ทางเข้า) เรากับน้องก็โค้งขอบคุณ สอดตั๋วแล้วเข้าไป.......เข้าไปมึนอีกรอบ...
มันมีสองทางแยก....เราก็ต้องไปทางไหนอ่ะ......แล้วบนป้ายที่ยืนอยู่ ก็มีชื่อสถานีบอกเยอะ แต่ไม่มีชื่อสถานีที่เราต้องการจะไป เลยเสี่ยงดวง เอ้า ไปก็ไป! เลือกไปด้านซ้าย พอเข้าไป มันมีที่ให้สอดตั๋วอีก พอสอดไป ก็ไม่ผ่าน! เอาแล้วไงล่ะ
พอนายสถานีผู้หญิงเห็นว่าเราไม่ผ่าน เขาก็เดินมาหา "ถามว่าจะไปไหน ขอดูตั๋วหน่อย" เราก็ยื่นตั๋วให้ พร้อมกับบอกว่า "หนูจะไป มินามิโมริมาชิ คะ" นายสถานีใจดีก็เอาตั๋วเราไปปรับราคา ให้ถูกลง คืนเงินให้ แล้วก็ เอาแผนที่ซับเวย์เป็นภาษาอังกฤษยื่นให้ พร้อมกับบอก ให้เราเดินไปขึ้นตรงไหน พอรู้แล้วก็รีบวิ่งลากกระเป๋าไปตามที่นายสถานีบอก
ไปถึงปุ๊บ ก็เห็น รางรถไฟ เห็นชื่อสถานีที่ต้องการจะไป ถัดไปแค่สถานีเดียว ดีใจมาก แต่ก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี เดินไปถามผู้ชายคนนึงที่ยืนอ่านหนังสืออยู่ว่า ตรงนี้ไป มินามิโมริมาชิ ใช่ไหมคะ (ชื่อสถานียาวไปนะบางที..) ผู้ชายคนนั้นก็บอกว่า "ใช่ครับ" พอรถไฟมาเราก็รีบขึ้นไป พอรถไฟออก ผู้ชายคนเดิมก็เดินมาหาแล้วบอกว่า "พอจอดปุ๊บ คุณลงได้เลยนะครับ" มีน้ำใจอะไรแบบนี้TwT
ถึงแล้ว ตามที่จดมา โรงแรมของเราต้องออกที่ประตู 2 เลี้ยวซ้าย เดินไปอีกนิดนึงก็ถึง (น้องชายยิ้มหน้าบาน พอรู้ว่าจะได้เจอโรงแรม)
ถึงโรงแรมก็ฝากกระเป๋า เพราะเชคอินตอน บ่าย3 จากนั้นก็ เริ่ม ออกสำรวจรอบๆโรงแรม!!
เห็นคนปั่นจักรยานผ่านไปมา ปั่นแบบมืออาชีพมากๆ เห็นอะไรก็กรีีดกร๊าด เพราะไม่เคยมา ไม่เคยเห็น ตู้กดตั๋วก็ไม่เคยกด รถไฟก็ไม่เคยนั่ง
เจออะไรก็ถ่ายไปหมด แต่ถ่ายไม่สวยเลยสักภาพ TwT
ตู้ไปรษณีย์ เหมือน คนใส่หมวกมากๆ
เดินไปไม่ทันไร น้องชายบ่น หิวๆๆๆๆ เดินไปเจอร้านแกงกระหรี่เลย แวะหน่อย อันนี้ของน้องชาย ดูเหมือนจะเป็นแกงกระหรี่ แต่ด้านหน้ามันราดด้วยชีส
อันนี้ของเรา ธรรมดาๆ ชามใหญ่มาก กินไม่หมด
กินเสร็จก็ เดินไปเรื่อยๆ เจออะไรก็ถ่ายๆ พอถึงเวลาเชคอินก็รีบกลับโรงแรม เข้าไปพักเอาแรง
พอตกดึก ก็ออกไปที่ มินามิทาวน์ อยากถ่ายรูปกูลิโกะ แต่หาไม่เจอ.... ดึกแล้วด้วย เดิน งงอยู่ตั้งนาน
เห็นว่า ถ้ามาที่นี่ต้องกินปูยักษ์ แต่เราสู้ราคาไม่ไหว.....เลยกินซูชิแทน
อร่อยน้ำตาไหล อาการญี่ปุ่น มันก็ต้องกินที่ญี่ปุ่นสินะ >_<!
พอกินอิ่มเสร็จ ออกมาจากร้าน อยากกินของหวาน อยากรีบกินแล้วรีบกลับ เพราะกลัวว่าจะไม่ทันรถไฟ แต่เดินไปไม่ถึงไหน น้องชายก็ดึงคอเสื้อ แทบหงายหลัง มันชี้เข้าไปในร้านเกม
"ไปตรงนี้กันก่อนนะ!" มันบอกแล้วกระตุกคอเสื้อสองสามที
"ม่ายย มันเปลือง"
"ป่ะ ไปกันเถอะ!!" น้องชายไม่ได้ฟังที่พูดแล้ว ลากคอเสื้อเราเข้าร้านเกมไปในทันที (น้องอายุ 17 สูง 180 เรา 21 สูง 156) ขัดขืนไม่ได้เลยT^T
เข้าไปปุ๊บ ก็ ยืนสั่นๆกับน้อง ฟิกเกอร์ การ์ตูนเต็มไปหมดเลย! (โอตาคุเล็กน้อย)
อยากทุบตู้แล้วเอาออกมาให้หมด จากตอนแรกที่บอกว่ามันเปลือง กลายเป็นว่า 2000 เยน หมดไปได้ยังไงก็ไม่รู้ T^T
เดินกลับโรงแรม แต่ก่อนกลับ แวะซื้อของกินตุนไว้สักหน่อย ไอ้นั่นก็ไม่เคยเจอ ไอ้นี่ก็ไม่เคยเจอ น่ากินไปหมด!! ซื้อมาเก็บไว้
พอถึงโรงแรม ล้มตัวนอน นวดเท้าตัวเอง 1 วันหมดไปแบบ งงๆ แต่รู้สึกว่าได้เจออะไรใหม่ๆ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เหมือนเจอโลกใหม่
แค่วันเดียวก็ร่ายยาวจนเหมือนนิยายแบบนี้-0-! รีวิวครั้งแรกนะคะ หากยาวไป จะปรับปรุง รูปน้อยมากด้วย
ขอบคุณค่า