“ใครไม่มีเฟอร์บี้ตอนนี้มันจะไม่ทันสมัยไง? ถ้าเราชอบตอนนี้แพงไม่แพงมันไม่ใช่สาระ ปรากฏการณ์ของกระแสที่น่ากลัวคือ พอทุกคนซื้อแล้วมันบีบให้คนที่ไม่มีต้องซื้อต้องอยากได้ เราจึงได้ยินข่าวนักศึกษาโกหกพ่อที่เป็นวินมอเตอร์ไซค์เพื่อให้พ่อกู้เงินซื้อไอโฟนให้”
สิ่งที่อ.ธันยวัชร์บอกถึงบทเรียนที่หลายคนควรเรียนรู้จากเฟอร์บี้ฟีเวอร์ครั้งนี้ว่า คนไทยนั้นควรอ่านกระแสให้ออกและอยู่เหนือกระแส
“สังคมไทยเป็นสังคมวัตถุนิยม คนรุ่นใหม่บางทีอยู่กับวัตถุของเล่นแก็ดเจ็ต (Gadget) มากกว่าคน คุยกับคนออนไลน์มากกว่าคนจริงๆ เปิดแอปฯเปิดอะไรเล่น มันก็มีของใหม่ๆ มาให้ตื่นตาตื่นใจตลอด วอดแอป(what'app)กับไลน์(line) ไลน์แทบไม่ได้ทำอะไรแค่มีสติ๊กเกอร์ก็ล่อคนเข้ามาได้”
นอกจากมีกระแสใหม่ๆ เข้ามาไม่เว้นวันแล้ว อุปนิสัยอย่างหนึ่งคือคนไทยคือการเป็นคนขี้อวดจึงไม่แปลกที่จะยิ่งเป็นไปตามกระแสของการบริโภคมากขึ้น
“บทเรียนคือเราอย่าไปเต้นตามกระแสให้มาก เมื่อตกอยู่ในวงวนของกระแสเราจะอยากได้อยากมีทุกอย่าง เออีซีไม่ใช่กระแสมันเป็นเทรนด์ที่จะมา เราจะทำตัวเองอย่างไรให้แข่งกับต่างชาติได้ ถ้าเราไม่หลงกระแส เราดูอันไหนเทรนด์ อันไหนกระแส จับเทรนด์ให้ได้มากกว่ากระแส ถ้าเป็นนักการตลาดเราต้องทันกระแสอยู่เหนือกระแสหรือสร้างกระแส”
ที่มา :
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000017783
---------------------------------
Scoop ข้างบน ตัดคำพูดของ
อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ปรมาจารย์ด้านการตลาดชื่อดัง (หลายคนคงรู้จักดีจาก SME ตีแตก) เกี่ยวกับเจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้ ที่กำลังฮิตอยู่วันนี้มาลง
ทำให้นึกได้ว่า ตัวเองอายุใกล้ขึ้นเลข 3 มองเห็น Trend แบบนี้ มาเป็นระยะๆ ซึ่งเคยเขียนไปแล้วว่าแต่ละยุค มีอะไรให้คนเราเอามาอวดกันบ้าง ( ตาม link นี้
http://pantip.com/topic/30088209 )
ถามว่าเคยซื้อไหม ไม่เคยครับ เพราะไม่รู้ว่าจะซื้อมาทำไม ของที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ แต่ถามว่ารู้จักไหม Trend แต่ละยุค ผมต้องรู้หมด เพราะกลัวว่าจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง แล้วจะกลายเป็น "คนนอก" ไปโดยปริยาย
เห็นข่าวแก๊งต้มตุ๋นเฟอร์บี้ ก่อนหน้านี้มีตุ๊กตาบลายธ์ มี Iphone-Ipad มี Krispy-Kreme มี Rotiboy มีจตุคาม และ...บลาๆๆ มาเป็นระยะๆ
ถามว่่าในชีวิตคุณ เคยซื้ออะไรแบบนี้ โดยที่ตัวเองก็ไม่อยากได้ แต่ต้องมีไว้ เพราะกลัว "ตกกระแส" ไหมครับ?
----------------------------
Siam Shinsengumi
[เฟอร์บี้ฟีเวอร์] คุณกลัวตกกระแส จนต้องไปซื้อของที่ "ไม่อยากได้แต่ต้องมี" มาติดตัวบ้างไหมครับ?
สิ่งที่อ.ธันยวัชร์บอกถึงบทเรียนที่หลายคนควรเรียนรู้จากเฟอร์บี้ฟีเวอร์ครั้งนี้ว่า คนไทยนั้นควรอ่านกระแสให้ออกและอยู่เหนือกระแส
“สังคมไทยเป็นสังคมวัตถุนิยม คนรุ่นใหม่บางทีอยู่กับวัตถุของเล่นแก็ดเจ็ต (Gadget) มากกว่าคน คุยกับคนออนไลน์มากกว่าคนจริงๆ เปิดแอปฯเปิดอะไรเล่น มันก็มีของใหม่ๆ มาให้ตื่นตาตื่นใจตลอด วอดแอป(what'app)กับไลน์(line) ไลน์แทบไม่ได้ทำอะไรแค่มีสติ๊กเกอร์ก็ล่อคนเข้ามาได้”
นอกจากมีกระแสใหม่ๆ เข้ามาไม่เว้นวันแล้ว อุปนิสัยอย่างหนึ่งคือคนไทยคือการเป็นคนขี้อวดจึงไม่แปลกที่จะยิ่งเป็นไปตามกระแสของการบริโภคมากขึ้น
“บทเรียนคือเราอย่าไปเต้นตามกระแสให้มาก เมื่อตกอยู่ในวงวนของกระแสเราจะอยากได้อยากมีทุกอย่าง เออีซีไม่ใช่กระแสมันเป็นเทรนด์ที่จะมา เราจะทำตัวเองอย่างไรให้แข่งกับต่างชาติได้ ถ้าเราไม่หลงกระแส เราดูอันไหนเทรนด์ อันไหนกระแส จับเทรนด์ให้ได้มากกว่ากระแส ถ้าเป็นนักการตลาดเราต้องทันกระแสอยู่เหนือกระแสหรือสร้างกระแส”
ที่มา :
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000017783
---------------------------------
Scoop ข้างบน ตัดคำพูดของ อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ปรมาจารย์ด้านการตลาดชื่อดัง (หลายคนคงรู้จักดีจาก SME ตีแตก) เกี่ยวกับเจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้ ที่กำลังฮิตอยู่วันนี้มาลง
ทำให้นึกได้ว่า ตัวเองอายุใกล้ขึ้นเลข 3 มองเห็น Trend แบบนี้ มาเป็นระยะๆ ซึ่งเคยเขียนไปแล้วว่าแต่ละยุค มีอะไรให้คนเราเอามาอวดกันบ้าง ( ตาม link นี้ http://pantip.com/topic/30088209 )
ถามว่าเคยซื้อไหม ไม่เคยครับ เพราะไม่รู้ว่าจะซื้อมาทำไม ของที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ แต่ถามว่ารู้จักไหม Trend แต่ละยุค ผมต้องรู้หมด เพราะกลัวว่าจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง แล้วจะกลายเป็น "คนนอก" ไปโดยปริยาย
เห็นข่าวแก๊งต้มตุ๋นเฟอร์บี้ ก่อนหน้านี้มีตุ๊กตาบลายธ์ มี Iphone-Ipad มี Krispy-Kreme มี Rotiboy มีจตุคาม และ...บลาๆๆ มาเป็นระยะๆ
ถามว่่าในชีวิตคุณ เคยซื้ออะไรแบบนี้ โดยที่ตัวเองก็ไม่อยากได้ แต่ต้องมีไว้ เพราะกลัว "ตกกระแส" ไหมครับ?
----------------------------
Siam Shinsengumi