บรรดาบทเหล่านั้น พระสัทธรรม เป็นไฉน สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน
๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้เรียกว่า
พระสัทธรรม
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๒
วิภังคปกรณ์
บรรดาบทเหล่านั้น พระสัทธรรม เป็นไฉน
สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน
๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้เรียกว่า
พระสัทธรรม ความไม่ต้องการจะฟัง ความไม่ต้องการจะสดับ ความไม่ต้องการจะ
เรียน ความไม่ต้องการจะทรงจำซึ่งพระสัทธรรมนี้ อันใด นี้เรียกว่า สัทธัมม-
*อโสตุกัมยตา ความไม่อยากฟังพระสัทธรรม
อุปารัมภจิตตตา ความเป็นผู้มีจิตคิดแข่งดี เป็นไฉน
บรรดาบทเหล่านั้น ความคิดแข่งดี เป็นไฉน ความคิดแข่งดี ความคิด
แข่งดีเนืองๆ กิริยาที่คิดแข่งดี กิริยาที่คิดแข่งดีเนืองๆ สภาพที่คิดแข่งดีเนืองๆ
ความดูถูก ความดูหมิ่น ความดูแคลน ความคอยแสวงหาโทษ อันใด นี้เรียกว่า
อุปารัมภจิตตตา ความเป็นผู้มีจิตคิดแข่งดี
[๙๕๙] มุฏฐสัจจะ ความเป็นผู้ไม่มีสติ เป็นไฉน
ความระลึกไม่ได้ ความตามระลึกไม่ได้ ความหวนระลึกไม่ได้ ความ
ระลึกไม่ได้ สภาพที่ระลึกไม่ได้ ความทรงจำไม่ได้ ความเลื่อนลอย ความหลงลืม
อันใด นี้เรียกว่า มุฏฐสัจจะ ความเป็นผู้ไม่มีสติ
อสัมปชัญญะ ความเป็นผู้ไม่มีสัมปชัญญะ เป็นไฉน
ความไม่รู้ ความไม่เห็น ฯลฯ ลิ่มคืออวิชชา อกุศลมูลคือ โมหะ
อันใด นี้เรียกว่า อสัมปชัญญะ ความเป็นผู้ไม่มีสัมปชัญญะ
เจตโสวิกเขปะ ความฟุ้งซ่านแห่งจิต เป็นไฉน
ความฟุ้งซ่านแห่งจิต ความไม่สงบแห่งจิต ความกวัดแกว่งแห่งจิต ความ
พล่านแห่งจิต อันใด นี้เรียกว่า เจตโสวิกเขปะ ความฟุ้งซ่านแห่งจิต
[๙๖๐] อโยนิโสมนสิการ ความทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย
เป็นไฉน
ความทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายในสิ่งที่ไม่เที่ยง ว่าเที่ยง ความทำไว้ในใจ
โดยไม่แยบคาย ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ว่าเป็นสุข ความทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย
ในสิ่งที่ไม่ใช่อัตตาตัวตนว่าเป็นอัตตาตัวตน ความทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย ใน
สิ่งที่ไม่งาม ว่างาม หรือความนึก ความนึกเนืองๆ ความคิด ความพิจารณา
ความทำไว้ในใจ แห่งจิต โดยผิดจากความจริง นี้เรียกว่า อโยนิโสมนสิการ
ความทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย
กุมมัคคเสวนา การเสพทางชั่ว เป็นไฉน
บรรดาบทเหล่านั้น ทางชั่ว เป็นไฉน มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ
มิจฉาวาจา มิจฉากัมมันตะ มิจฉาอาชีวะ มิจฉาวายามะ มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ
นี้เรียกว่า ทางชั่ว การเสพ การเสพเป็นนิตย์ การเสพด้วยดี การคบ การคบด้วยดี
การชอบใจ ความชอบใจ ซึ่งทางชั่วนี้ ความเป็นผู้โน้มน้าวไปตามทางชั่วนี้ อันใด
นี้เรียกว่า กุมมัคคเสวนา การเสพทางชั่ว
เจตโสลีนัตตะ ความย่อหย่อนแห่งจิต เป็นไฉน
ความไม่สมประกอบแห่งจิต ความไม่ควรแก่การงานแห่งจิต ความท้อแท้
ความถดถอย ความย่อหย่อน กิริยาที่ย่อหย่อน สภาพที่ย่อหย่อน ความซบเซา
กิริยาที่ซบเซา สภาพที่ซบเซาแห่งจิต อันใด นี้เรียกว่า เจตโสลีนัตตะ ความ
ย่อหย่อนแห่งจิต
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕ บรรทัดที่ ๑๒๗๕๔ - ๑๒๗๙๒. หน้าที่ ๕๔๘ - ๕๔๙.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=35&A=12754&Z=12792&pagebreak=0
พระสัทธรรม เป็นไฉน?
๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้เรียกว่า
พระสัทธรรม
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๒
วิภังคปกรณ์
บรรดาบทเหล่านั้น พระสัทธรรม เป็นไฉน สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน
๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้เรียกว่า
พระสัทธรรม ความไม่ต้องการจะฟัง ความไม่ต้องการจะสดับ ความไม่ต้องการจะ
เรียน ความไม่ต้องการจะทรงจำซึ่งพระสัทธรรมนี้ อันใด นี้เรียกว่า สัทธัมม-
*อโสตุกัมยตา ความไม่อยากฟังพระสัทธรรม
อุปารัมภจิตตตา ความเป็นผู้มีจิตคิดแข่งดี เป็นไฉน
บรรดาบทเหล่านั้น ความคิดแข่งดี เป็นไฉน ความคิดแข่งดี ความคิด
แข่งดีเนืองๆ กิริยาที่คิดแข่งดี กิริยาที่คิดแข่งดีเนืองๆ สภาพที่คิดแข่งดีเนืองๆ
ความดูถูก ความดูหมิ่น ความดูแคลน ความคอยแสวงหาโทษ อันใด นี้เรียกว่า
อุปารัมภจิตตตา ความเป็นผู้มีจิตคิดแข่งดี
[๙๕๙] มุฏฐสัจจะ ความเป็นผู้ไม่มีสติ เป็นไฉน
ความระลึกไม่ได้ ความตามระลึกไม่ได้ ความหวนระลึกไม่ได้ ความ
ระลึกไม่ได้ สภาพที่ระลึกไม่ได้ ความทรงจำไม่ได้ ความเลื่อนลอย ความหลงลืม
อันใด นี้เรียกว่า มุฏฐสัจจะ ความเป็นผู้ไม่มีสติ
อสัมปชัญญะ ความเป็นผู้ไม่มีสัมปชัญญะ เป็นไฉน
ความไม่รู้ ความไม่เห็น ฯลฯ ลิ่มคืออวิชชา อกุศลมูลคือ โมหะ
อันใด นี้เรียกว่า อสัมปชัญญะ ความเป็นผู้ไม่มีสัมปชัญญะ
เจตโสวิกเขปะ ความฟุ้งซ่านแห่งจิต เป็นไฉน
ความฟุ้งซ่านแห่งจิต ความไม่สงบแห่งจิต ความกวัดแกว่งแห่งจิต ความ
พล่านแห่งจิต อันใด นี้เรียกว่า เจตโสวิกเขปะ ความฟุ้งซ่านแห่งจิต
[๙๖๐] อโยนิโสมนสิการ ความทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย
เป็นไฉน
ความทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายในสิ่งที่ไม่เที่ยง ว่าเที่ยง ความทำไว้ในใจ
โดยไม่แยบคาย ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ว่าเป็นสุข ความทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย
ในสิ่งที่ไม่ใช่อัตตาตัวตนว่าเป็นอัตตาตัวตน ความทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย ใน
สิ่งที่ไม่งาม ว่างาม หรือความนึก ความนึกเนืองๆ ความคิด ความพิจารณา
ความทำไว้ในใจ แห่งจิต โดยผิดจากความจริง นี้เรียกว่า อโยนิโสมนสิการ
ความทำไว้ในใจโดยไม่แยบคาย
กุมมัคคเสวนา การเสพทางชั่ว เป็นไฉน
บรรดาบทเหล่านั้น ทางชั่ว เป็นไฉน มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ
มิจฉาวาจา มิจฉากัมมันตะ มิจฉาอาชีวะ มิจฉาวายามะ มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ
นี้เรียกว่า ทางชั่ว การเสพ การเสพเป็นนิตย์ การเสพด้วยดี การคบ การคบด้วยดี
การชอบใจ ความชอบใจ ซึ่งทางชั่วนี้ ความเป็นผู้โน้มน้าวไปตามทางชั่วนี้ อันใด
นี้เรียกว่า กุมมัคคเสวนา การเสพทางชั่ว
เจตโสลีนัตตะ ความย่อหย่อนแห่งจิต เป็นไฉน
ความไม่สมประกอบแห่งจิต ความไม่ควรแก่การงานแห่งจิต ความท้อแท้
ความถดถอย ความย่อหย่อน กิริยาที่ย่อหย่อน สภาพที่ย่อหย่อน ความซบเซา
กิริยาที่ซบเซา สภาพที่ซบเซาแห่งจิต อันใด นี้เรียกว่า เจตโสลีนัตตะ ความ
ย่อหย่อนแห่งจิต
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕ บรรทัดที่ ๑๒๗๕๔ - ๑๒๗๙๒. หน้าที่ ๕๔๘ - ๕๔๙.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=35&A=12754&Z=12792&pagebreak=0