คำเตือน : เรื่องนี้ดราม่านะคะ
บทนำ
ร่างเล็กบางที่กำลังเอื้อมมือไปหยิบห่อผ้ามาจากพานทองที่นารา แม่นมที่เป็นที่พึ่งแห่งเดียวในยามนี้ยื่นให้ แววตานั้นเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย ไม่เหลือเค้าลางของความเริงร่าอยู่ในนั้นเลยแม้แต่น้อย น้ำตาหยดหนึ่งร่วงเผลาะลงมา ขณะที่แกะห่อผ้าแล้วค่อยๆปล่อยให้ผงวัตถุสีขาวขุ่นค่อยๆปลิวไปกับสายลม บางส่วนก็ลอยไปตามสายน้ำ แล้วจึงปล่อยให้ผ้าสีขาวลอยหลุดมือไปตกในสายนทีอันเชี่ยวกราก
สิ้นแล้วมารดาผู้เป็นร่มเงาให้เธอมาตลอดยี่สิบปี และสิ้นแล้วกับความสุขที่กำลังจะค่อยๆเลือนหายไปด้วยน้ำมือของคนใจร้ายผู้นั้น
ก่อนที่เธอจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ จำเนียรก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อนว่า
“คุณหนูจะกลับบ้านเลยไหมคะ เดี๋ยวป้าจะไปบอกวิชัยให้” หญิงสาวส่ายหน้า ก่อนที่จะเอ่ยตอบกลับไปว่า
“ยังหรอกค่ะป้าเนียน เดี๋ยวลดาจะต้องไปสะสางธุระต่อที่อื่นอีก” ลดาวัลย์เอ่ยจบแล้วก็เดินผละไปยังรถส่วนตัวที่จอดอยู่ พร้อมกับเอ่ยสั่งแม่นมคนเดิมว่า
“ป้าเนียรกลับไปก่อนเลยนะคะ เสร็จธุระแล้วลดาจะโทรกลับไปให้ป้าเนียนเปิดประตูรอค่ะ” เมื่อนารารับคำแล้ว หญิงสาวจึงเข้าไปนั่งในรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูคูเป้สีแดงสดสุดหรู แล้วจึงขับเคลื่อนมันไปเพื่อไปพบกับใครคนหนึ่ง
ภาสกร มนัสปกรณ์ เขากำลังทำให้ทุกอย่างของเธอสูญสิ้น...
มือบางที่กุมไว้บนพวงมาลัยรถค่อยๆกำแน่นขึ้นเมื่อนึกถึงสาเหตุที่ทำให้มัลลิกา ผู้เป็นมารดาต้องจากไปอย่างกะทันหัน ผู้ชายคนนั้น เขาทำให้ทุกอย่างของเธอพังพินาศย่อยยับลงไปด้วยมือของเขาเอง และเลือดเนื้อเชื้อไขที่อาจจะเรียกได้ว่ามารหัวขนที่ก่อกำเนิดในร่างของเธอนั้นก็ล้วนเป็นเพราะเขาทั้งสิ้น
ใจเธอเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น วันที่เขาทำให้เธอรู้ซึ้งถึงคำว่า
ทั้งรักทั้งแค้น...
รถเก๋งบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีแดงสดขับเคลื่อนไปบนท้องถนนด้วยความเร็วที่มากถึงร้อยแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งนับว่าอันตรายมากสำหรับการขับในเส้นทางบนถนนพหลโยธินที่เคลื่อนจากจังหวัดนครสวรรค์อันเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยาที่เธอเดินทางมาโปรยอัฐิของผู้เป็นมารดานั้นมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ หากแต่คนขับกลับมิได้สนใจที่จะลดความเร็วมันลงเลยด้วยซ้ำ มีแต่จะเร่งความเร็วให้มากขึ้นไปอีก ในขณะที่อีกมือหนึ่งก็เอาแต่กดโทรศัพท์หาใครคนหนึ่งอยู่ตลอดเวลา โดยที่ลืมไปเลยว่ามีอีกชีวิตหนึ่งในกายที่จะต้องระมัดระวัง แต่เมื่อนึกได้ก็สายเกินไปเสียแล้ว เมื่อมีรถเก๋งโตโยต้าวีออสสีบลอนด์อีกคันหนึ่งที่ขับฝ่าไฟแดงมาประสานงากับรถเข้าอย่างจังจนรถของลดาวัลย์พลิกคว่ำไปหลายตลบ ก่อนที่จะไปจบอยู่ที่ต้นไม้ข้างทาง สำนึกสุดท้ายเธอเห็นบิดากับมารดายืนร้องไห้อยู่ข้างหน้า มือน้อยๆพยายามไขว่คว้าหาพวกท่าน หากแต่ไม่สำเร็จ ริมฝีปากบางพึมพำออกมาเพียงเบาๆก่อนที่จะหมดสติไปว่า
“คุณพ่อคุณแม่ขา มารับลดากับลูกไปอยู่ด้วยนะคะ”
โทรศัพท์มือถือภาสกรดังขึ้นมาหลายรอบติดๆกัน จนเขาอดใจไม่ไหวต้องรับ แต่ก็ต้องเผลอปล่อยมือถือให้ร่วงตกลงไปบนพื้นพรมพร้อมๆกับหัวใจที่หล่นไปกองอยู่กับพื้น เมื่อได้ยินคำพูดของปลายสาย
“สวัสดีครับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนะครับ ขณะนี้เราพบรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู รุ่นซีรี่ส์ 3 คูเป้ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำบนถนนพหลโยธินในจังหวัดนครสวรรค์ เราตรวจสอบพบว่าคุณลดาวัลย์ซึ่งเป็นคนขับรถ อาการสาหัสมาก ขณะนี้เราได้ส่งตัวมาทำการรักษายังโรงพยาบาลค่ายจิรประวัติเรียบร้อยแล้ว ผมต้องการให้คุณติดต่อญาติของเธอให้ด้วยเพราะเราพบเพียงเบอร์คุณเป็นหมายเลขสุดท้ายที่โทรออกก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ”
ภาสกรไม่รีรออะไรอีกแล้ว เขารีบหยิบกุญแจรถและกระเป๋าเงิน เดินออกไปสั่งงานดารกาทันที
“ดารกา คุณช่วยเคลียร์นัดทั้งหมดให้ผมด้วย ลดาวัลย์รถคว่ำที่นครสวรรค์ ผมจะรีบไปดูอาการเธอ” เขาสั่งงานเสร็จแล้วรีบเดินไปโดยที่ไม่รอให้เลขาตกปากรับคำเลยด้วยซ้ำ ในใจพะว้าพะวงเป็นห่วงแต่เธอ ในหัวสมองมีแต่ภาพของลดาวัลย์ซ้อนทับอยู่เต็มไปหมด
ดารกาส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ เมื่อเห็นอาการของเจ้านายที่พะว้าพะวงเป็นห่วงผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นศัตรูของเขาอย่างสังเกตได้ชัดเจน
เกลียดขนาดนี้ยังต้องรีบไปดูอาการเขา อย่างนี้เขาเรียกว่ารักแล้วค่ะเจ้านาย...
เพียงสามชั่วโมงหลังได้รับแจ้งอุบัติเหตุของลดาวัลย์ ทันทีที่รถเก๋งเมอร์เซเดสเบนซ์เคลื่อนมาจอดยังหน้าโรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ ร่างสูงก็ก้าวลงมาจากรถ เดินมุ่งหน้าไปยังห้องฉุกเฉินทันที เป็นจังหวะเดียวกันกับที่มีนายแพทย์สวมชุดกาวน์เดินออกมา ชายหนุ่มจึงไม่รีรอที่จะเข้าไปสอบถามอาการของลดาวัลย์จากนายแพทย์ท่านนั้นทันที
“คุณหมอครับ ลดาวัลย์เป็นยังไงบ้างครับ” แต่คำตอบที่ภาสกรได้ยินนั้นกลับทำให้เขาแทบล้มทั้งยืนไปเลย
“คุณลดาวัลย์มีอาการฟกช้ำตามลำตัวหลายแห่ง แขนข้างขวาหักต้องดามไว้ ไม่มีอาการทางสมอง แต่เธอจะเกิดอาการตาบอดที่เกิดจากการที่กระจกแทงตา ซึ่งหมอก็ไม่อาจพูดได้ว่ามันจะนานเท่าไร และที่สำคัญที่สุดที่หมออยากให้ญาติคนไข้ทำใจดีๆไว้คือหมอช่วยเด็กในท้องไว้ไม่ได้ครับ หมอเสียใจด้วยนะครับ” หมอพูดจบก็เดินจากไป ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนบื้อใบ้อยู่ตรงนั้น
‘หมอช่วยเด็กในท้องไว้ไม่ได้...’
เธอแท้งลูกของเขาอย่างนั้นหรือ...
ทันทีที่นึกได้ ร่างทั้งร่างของภาสกรก็ทรุดงอก่อลงไปกองกับพื้นด้วยความเจ็บปวดใจอย่างที่สุด น้ำตาลูกผู้ชายค่อยๆไหลรินออกมาอย่างสุดกลั้น เมื่อได้รับรู้ว่าลูกที่เขาเพิ่งได้รับรู้ว่ามีตัวตนอยู่นั้นได้จากเขาไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ แต่ร่างสูงก็อยู่ในสภาพนั้นไม่นานนักก็ลุกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลรินออกมา เมื่อนึกได้ว่ายังต้องคำนึงถึงสภาพจิตใจของคนอีกคนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องฉุกเฉินก็พบร่างเล็กในสภาพที่มีสายห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด ที่ดวงตามีผ้าก๊อซพันแผลไว้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และที่แขนก็ถูกดามเอาไว้ด้วยเฝือก มือหนาค่อยๆเลื่อนไปกุมมือบางเอาไว้แล้วค่อยๆบีบเบาๆเพื่อเรียกขวัญ พอเขาเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้หมายจะจูบหน้าผากก็ได้ยินเสียงที่อีกฝ่ายเพ้อออกมาได้อย่างชัดเจน และมันทำให้น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินออกมาอีกรอบอย่างห้ามไม่อยู่
“คุณพ่อขา คุณแม่ขา อย่าทิ้งลดาไว้แบบนี้ อย่าเอาลูกลดาไป ลดาไม่อยากอยู่แล้ว เขาใจร้ายกับลดาเหลือเกิน”
ภาสกรต้องกัดริมฝีปากตนเองเอาไว้เพื่อกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดออกมา พยายามนึกอ้อนวอนไม่ให้มัจจุราชมาปลิดชีวิตเธอไปอีกคน แค่เสียลูกไปเขาก็แทบบ้าแล้ว หากเสียเธอไปอีกคนเขาก็คงขาดใจตาย เขาสัญญากับตัวเองแล้วว่านับแต่นี้ต่อไป ไม่ว่าเธอจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร เขาจะเป็นคนที่ดูแลเธอเอง...
มายารักลดาวัลย์ บทนำ
คำเตือน : เรื่องนี้ดราม่านะคะ
บทนำ
ร่างเล็กบางที่กำลังเอื้อมมือไปหยิบห่อผ้ามาจากพานทองที่นารา แม่นมที่เป็นที่พึ่งแห่งเดียวในยามนี้ยื่นให้ แววตานั้นเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย ไม่เหลือเค้าลางของความเริงร่าอยู่ในนั้นเลยแม้แต่น้อย น้ำตาหยดหนึ่งร่วงเผลาะลงมา ขณะที่แกะห่อผ้าแล้วค่อยๆปล่อยให้ผงวัตถุสีขาวขุ่นค่อยๆปลิวไปกับสายลม บางส่วนก็ลอยไปตามสายน้ำ แล้วจึงปล่อยให้ผ้าสีขาวลอยหลุดมือไปตกในสายนทีอันเชี่ยวกราก
สิ้นแล้วมารดาผู้เป็นร่มเงาให้เธอมาตลอดยี่สิบปี และสิ้นแล้วกับความสุขที่กำลังจะค่อยๆเลือนหายไปด้วยน้ำมือของคนใจร้ายผู้นั้น
ก่อนที่เธอจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ จำเนียรก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อนว่า
“คุณหนูจะกลับบ้านเลยไหมคะ เดี๋ยวป้าจะไปบอกวิชัยให้” หญิงสาวส่ายหน้า ก่อนที่จะเอ่ยตอบกลับไปว่า
“ยังหรอกค่ะป้าเนียน เดี๋ยวลดาจะต้องไปสะสางธุระต่อที่อื่นอีก” ลดาวัลย์เอ่ยจบแล้วก็เดินผละไปยังรถส่วนตัวที่จอดอยู่ พร้อมกับเอ่ยสั่งแม่นมคนเดิมว่า
“ป้าเนียรกลับไปก่อนเลยนะคะ เสร็จธุระแล้วลดาจะโทรกลับไปให้ป้าเนียนเปิดประตูรอค่ะ” เมื่อนารารับคำแล้ว หญิงสาวจึงเข้าไปนั่งในรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูคูเป้สีแดงสดสุดหรู แล้วจึงขับเคลื่อนมันไปเพื่อไปพบกับใครคนหนึ่ง
ภาสกร มนัสปกรณ์ เขากำลังทำให้ทุกอย่างของเธอสูญสิ้น...
มือบางที่กุมไว้บนพวงมาลัยรถค่อยๆกำแน่นขึ้นเมื่อนึกถึงสาเหตุที่ทำให้มัลลิกา ผู้เป็นมารดาต้องจากไปอย่างกะทันหัน ผู้ชายคนนั้น เขาทำให้ทุกอย่างของเธอพังพินาศย่อยยับลงไปด้วยมือของเขาเอง และเลือดเนื้อเชื้อไขที่อาจจะเรียกได้ว่ามารหัวขนที่ก่อกำเนิดในร่างของเธอนั้นก็ล้วนเป็นเพราะเขาทั้งสิ้น
ใจเธอเจ็บแปลบขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น วันที่เขาทำให้เธอรู้ซึ้งถึงคำว่า
ทั้งรักทั้งแค้น...
รถเก๋งบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีแดงสดขับเคลื่อนไปบนท้องถนนด้วยความเร็วที่มากถึงร้อยแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งนับว่าอันตรายมากสำหรับการขับในเส้นทางบนถนนพหลโยธินที่เคลื่อนจากจังหวัดนครสวรรค์อันเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยาที่เธอเดินทางมาโปรยอัฐิของผู้เป็นมารดานั้นมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ หากแต่คนขับกลับมิได้สนใจที่จะลดความเร็วมันลงเลยด้วยซ้ำ มีแต่จะเร่งความเร็วให้มากขึ้นไปอีก ในขณะที่อีกมือหนึ่งก็เอาแต่กดโทรศัพท์หาใครคนหนึ่งอยู่ตลอดเวลา โดยที่ลืมไปเลยว่ามีอีกชีวิตหนึ่งในกายที่จะต้องระมัดระวัง แต่เมื่อนึกได้ก็สายเกินไปเสียแล้ว เมื่อมีรถเก๋งโตโยต้าวีออสสีบลอนด์อีกคันหนึ่งที่ขับฝ่าไฟแดงมาประสานงากับรถเข้าอย่างจังจนรถของลดาวัลย์พลิกคว่ำไปหลายตลบ ก่อนที่จะไปจบอยู่ที่ต้นไม้ข้างทาง สำนึกสุดท้ายเธอเห็นบิดากับมารดายืนร้องไห้อยู่ข้างหน้า มือน้อยๆพยายามไขว่คว้าหาพวกท่าน หากแต่ไม่สำเร็จ ริมฝีปากบางพึมพำออกมาเพียงเบาๆก่อนที่จะหมดสติไปว่า
“คุณพ่อคุณแม่ขา มารับลดากับลูกไปอยู่ด้วยนะคะ”
โทรศัพท์มือถือภาสกรดังขึ้นมาหลายรอบติดๆกัน จนเขาอดใจไม่ไหวต้องรับ แต่ก็ต้องเผลอปล่อยมือถือให้ร่วงตกลงไปบนพื้นพรมพร้อมๆกับหัวใจที่หล่นไปกองอยู่กับพื้น เมื่อได้ยินคำพูดของปลายสาย
“สวัสดีครับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนะครับ ขณะนี้เราพบรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู รุ่นซีรี่ส์ 3 คูเป้ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำบนถนนพหลโยธินในจังหวัดนครสวรรค์ เราตรวจสอบพบว่าคุณลดาวัลย์ซึ่งเป็นคนขับรถ อาการสาหัสมาก ขณะนี้เราได้ส่งตัวมาทำการรักษายังโรงพยาบาลค่ายจิรประวัติเรียบร้อยแล้ว ผมต้องการให้คุณติดต่อญาติของเธอให้ด้วยเพราะเราพบเพียงเบอร์คุณเป็นหมายเลขสุดท้ายที่โทรออกก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ”
ภาสกรไม่รีรออะไรอีกแล้ว เขารีบหยิบกุญแจรถและกระเป๋าเงิน เดินออกไปสั่งงานดารกาทันที
“ดารกา คุณช่วยเคลียร์นัดทั้งหมดให้ผมด้วย ลดาวัลย์รถคว่ำที่นครสวรรค์ ผมจะรีบไปดูอาการเธอ” เขาสั่งงานเสร็จแล้วรีบเดินไปโดยที่ไม่รอให้เลขาตกปากรับคำเลยด้วยซ้ำ ในใจพะว้าพะวงเป็นห่วงแต่เธอ ในหัวสมองมีแต่ภาพของลดาวัลย์ซ้อนทับอยู่เต็มไปหมด
ดารกาส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ เมื่อเห็นอาการของเจ้านายที่พะว้าพะวงเป็นห่วงผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นศัตรูของเขาอย่างสังเกตได้ชัดเจน
เกลียดขนาดนี้ยังต้องรีบไปดูอาการเขา อย่างนี้เขาเรียกว่ารักแล้วค่ะเจ้านาย...
เพียงสามชั่วโมงหลังได้รับแจ้งอุบัติเหตุของลดาวัลย์ ทันทีที่รถเก๋งเมอร์เซเดสเบนซ์เคลื่อนมาจอดยังหน้าโรงพยาบาลค่ายจิรประวัติ ร่างสูงก็ก้าวลงมาจากรถ เดินมุ่งหน้าไปยังห้องฉุกเฉินทันที เป็นจังหวะเดียวกันกับที่มีนายแพทย์สวมชุดกาวน์เดินออกมา ชายหนุ่มจึงไม่รีรอที่จะเข้าไปสอบถามอาการของลดาวัลย์จากนายแพทย์ท่านนั้นทันที
“คุณหมอครับ ลดาวัลย์เป็นยังไงบ้างครับ” แต่คำตอบที่ภาสกรได้ยินนั้นกลับทำให้เขาแทบล้มทั้งยืนไปเลย
“คุณลดาวัลย์มีอาการฟกช้ำตามลำตัวหลายแห่ง แขนข้างขวาหักต้องดามไว้ ไม่มีอาการทางสมอง แต่เธอจะเกิดอาการตาบอดที่เกิดจากการที่กระจกแทงตา ซึ่งหมอก็ไม่อาจพูดได้ว่ามันจะนานเท่าไร และที่สำคัญที่สุดที่หมออยากให้ญาติคนไข้ทำใจดีๆไว้คือหมอช่วยเด็กในท้องไว้ไม่ได้ครับ หมอเสียใจด้วยนะครับ” หมอพูดจบก็เดินจากไป ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนบื้อใบ้อยู่ตรงนั้น
‘หมอช่วยเด็กในท้องไว้ไม่ได้...’
เธอแท้งลูกของเขาอย่างนั้นหรือ...
ทันทีที่นึกได้ ร่างทั้งร่างของภาสกรก็ทรุดงอก่อลงไปกองกับพื้นด้วยความเจ็บปวดใจอย่างที่สุด น้ำตาลูกผู้ชายค่อยๆไหลรินออกมาอย่างสุดกลั้น เมื่อได้รับรู้ว่าลูกที่เขาเพิ่งได้รับรู้ว่ามีตัวตนอยู่นั้นได้จากเขาไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ แต่ร่างสูงก็อยู่ในสภาพนั้นไม่นานนักก็ลุกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลรินออกมา เมื่อนึกได้ว่ายังต้องคำนึงถึงสภาพจิตใจของคนอีกคนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องฉุกเฉินก็พบร่างเล็กในสภาพที่มีสายห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด ที่ดวงตามีผ้าก๊อซพันแผลไว้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และที่แขนก็ถูกดามเอาไว้ด้วยเฝือก มือหนาค่อยๆเลื่อนไปกุมมือบางเอาไว้แล้วค่อยๆบีบเบาๆเพื่อเรียกขวัญ พอเขาเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้หมายจะจูบหน้าผากก็ได้ยินเสียงที่อีกฝ่ายเพ้อออกมาได้อย่างชัดเจน และมันทำให้น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินออกมาอีกรอบอย่างห้ามไม่อยู่
“คุณพ่อขา คุณแม่ขา อย่าทิ้งลดาไว้แบบนี้ อย่าเอาลูกลดาไป ลดาไม่อยากอยู่แล้ว เขาใจร้ายกับลดาเหลือเกิน”
ภาสกรต้องกัดริมฝีปากตนเองเอาไว้เพื่อกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดออกมา พยายามนึกอ้อนวอนไม่ให้มัจจุราชมาปลิดชีวิตเธอไปอีกคน แค่เสียลูกไปเขาก็แทบบ้าแล้ว หากเสียเธอไปอีกคนเขาก็คงขาดใจตาย เขาสัญญากับตัวเองแล้วว่านับแต่นี้ต่อไป ไม่ว่าเธอจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร เขาจะเป็นคนที่ดูแลเธอเอง...