มายารักลดาวัลย์ บทที่ 1 By Charine

กระทู้สนทนา


http://pantip.com/topic/30127799 ตอนที่แล้วค่ะ   ปล.ตอนนี้ติดเรทนะคะ

“อา...คุณภัทร” ร่างเล็กที่กำลังตกอยู่ในห้วงพิศวาสนั้นครางเสียงหวานออกมาเมื่อใกล้จะถึงจุดหมายเต็มทน เล็บสวยจิกลงไปบนหลังอย่างลืมกายลืมใจด้วยกำลังจะไขว่คว้าจุดสูงสุดของเกมกามารมณ์ ร่างสูงที่ทาบทับอยู่บนร่างจึงเร่งจังหวะการกระแทกกระทั้นเพื่อก้าวตามหญิงสาวให้ถึงจุดหมายไปพร้อมกัน จนกระทั่ง...
“คุณ...ภัทร กรี๊ดดด !!” ใบหน้าหวานตามแบบฉบับลูกคนจีนหลับตาพริ้ม เสียงร้องครวญยาวเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากที่แดงฉ่ำด้วยแรงปราถนา ช่างเป็นภาพที่น่าพึงใจยิ่งนักต่อชายหนุ่มบนร่างพร้อมๆกับแรงกระแทกเฮือกสุดท้ายในทันทีที่ปลดปล่อยสายธาราแห่งตัณหาเข้าไปในกายของหญิงสาว ร่างสูงทาบทับลงมาซุกซบใบหน้าลงบนหน้าอกอวบอิ่มขาวผ่อง ลมหายใจหอบถี่ปนเสียงครางค่อยๆลดลงมาตามลำดับ ทันทีที่สติสัมปะชัญญะที่หายไปเริ่มกลับเข้าที่แล้ว หัวสมองของสาวน้อยก็พลันคิดเอื้อนเอ่ยเพียงในใจว่า
กี่ครั้งแล้วหนอ ที่เขาเอาแต่สาดซัดความปราถนาอันร้อนเร่าเข้าสู่กายเธอ...
หัวใจของลดาวัลย์เฝ้าถามแต่สิ่งนี้ทุกครั้งที่เขาสาดซัดแรงปรารถนาเข้าสู่กายเธอ ตักตวงความหอมรัญจวนจากดอกลดาวัลย์สีขาวบริสุทธิ์ดอกนี้ โดยเหตุผลที่เธอยอมเขาก็เป็นเพราะต้องการชดใช้ที่ได้ทำให้บุคคลสุดท้ายในครอบคัวเพียงคนเดียวของเขาต้องตายลงไป
“สนุกเหมือนครั้งก่อนๆดีไหม ?” เสียงของคนบนร่างเอ่ยขึ้นมาหยุดความคิดของเธอ คนถามแสยะยิ้มน้อยๆพลางใช้สายตาอันแทะโลมกวาดมองไปทั่วเรือนร่างของเธอ
“หรือถ้าไม่สนุก จะขออีกรอบก็ไม่ว่ากันนะ รับรองว่าฉันเอาเธอมันส์ถึงใจกว่าครั้งนี้แน่” ดวงตากลมโตวาววับมองเขา ฉายแววหม่นแสงชัดเจน หากแต่มือบางคู่นั้นกลับข่วนไปยังหน้าอกของเขาจนเกิดเป็นรอยเลือดซิบๆ นั่นยิ่งทำให้เขาโมโหมากขึ้นจนต้องคว้ามือเธอมากดลงกับเตียงเอาไว้
“ปล่อย..ฉัน..นะ” ลดาวัลย์ร้องขออิสรภาพด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว มันยิ่งทำให้เขาสะสาแก่ใจยิ่งนัก
“ฉันจะปล่อยเธอไปก็ต่อเมื่อฉันฟัดเธอเสร็จแล้วเท่านั้น !” พูดจบภาสกรก็โน้มใบหน้าลงไปบดริมฝีปากเพื่อระบายอารมณ์กับริมฝีปากเล็กนั่นทันที ตามมาด้วยบทรักอันดิบเถื่อนที่ลงทัณฑ์ร่างเล็กไม่รู้จักจบสิ้น ยิ่งเธอเจ็บช้ำมากเท่าไร เขายิ่งเป็นสุขใจมากเท่านั้น
ทันทีที่เกมสวาทลุล่วงลงไปแล้ว ภาสกรก็สวมเสื้อคลุมอาบน้ำพลางเดินผิวปากออกจากห้องไปอย่างสบายใจเฉิบ บ่งบอกให้รู้ว่าภารกิจของนางบำเรอชั่วคราวเสร็จแล้วสำหรับคืนนี้ ลดาวัลย์เองก็คว้าผ้าห่มมาคลุมกายเอาไว้ ดวงตาสวยนั้นแดงก่ำ น้ำตาเม็ดสวยค่อยๆหลั่งรินลงมาช้าๆจนเปื้อนแก้มทั้งสองข้าง หากแต่เธอก็รีบเช็ดมันออกไปด้วยไม่อยากให้เขาเห็นน้ำตาแล้วสะใจเล่น
มันเจ็บ...หลากอารมณ์ที่ถาโถมเข้ามาทั้งขมขื่น อดสู ละอายใจผสมปนเปกันไปหมด
ราวสิบนาทีผ่านไปเธอจึงลุกลงจากเตียง เตรียมจะใส่เสื้อผ้า ก็ประจวบเหมาะกันกับที่ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องพอดิบพอดี
“นั่นเธอจะไปไหน ?” เสียงทุ้มห้าวดังขึ้นมาก่อนที่มือสวยจะคว้าเสื้อผ้ามาสวมเสียด้วยซ้ำ
“กลับบ้านค่ะคุณภัทร”
“อ๋อ จะไปหาลูกค้าใหม่ล่ะสิ” เขาถามโดยที่ไม่คิดจะเอาคำตอบ มีเพียงสีหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยวเท่านั้นเป็นคำตอบ
ครั้นเห็นเธอเอาแต่เงียบเขาก็ยิ้มวตัวไปหยิบกระเป๋าเงินบนหัวเตียง หยิบธนบัตรสีเทาขึ้นมาใบหนึ่ง แล้วจึงยื่นให้หญิงสาว
“นี่ค่าตัว‘นางบำเรอ’ของเธอ ถือว่าเป็นค่าขนมเล็กๆน้อยๆให้สาวไซด์ไลน์ก็แล้วกันนะ” ริมฝีปากบางเม้มแน่น ก่อนที่ธนบัตรจะถูกฉีกจนไม่เหลือชิ้นดีแล้วจึงลอยว่อนไปกระทบกับซีกหน้าส่วนขวาของเขาพร้อมกับฝ่ามือบางของเธอที่ตามไปในทันใด
“เพียะ ! ฉันเกลียดคุณ เกลียดที่สุดเลย คุณภาสกร” ใบหน้าคมแสยะยิ้มมุมปากน้อยๆด้วยความรู้สึกที่เรียกได้ว่าสาแก่ใจมาก
“ดี ! เกลียดฉันให้มากๆยิ่งดี แบบนี้สิ เกมบำเรอแค้นถึงจะสนุกขึ้นมาหน่อย” ชายหนุ่มหัวเราะไล่หลังร่างบางที่เดินออกจากห้องไป สีหน้าเขายิ่งระรื่นด้วยความสะใจ
ลดาวัลย์ในชุดนักศึกษาที่เพิ่งลงจากแท็กซี่เดินเข้าบ้านมาได้ไม่กี่ก้าวก็เจอกับมัลลิกาดักรออยู่ในห้องนั่งเล่น
“ลดา ทำไมวันนี้กลับดึกนักล่ะลูก”
“เอ่อ...” เธออึกอัก หลบตาอ้อมแอ้มบอก “วันนี้ลดามีนัดกับเพื่อนน่ะค่ะ ขอโทษนะคะที่ไม่ได้โทรบอกคุณแม่ก่อน”
ดวงตารูปอัลมอนด์คู่สวยฉ่ำวาวรื้นไปด้วยอัสสุชลที่เจิ่งนองเต็มเบ้าตาทั้งสอง หากแต่ไม่ไหลรินด้วยเพราะเจ้าของเงยหน้าขึ้นเพื่อสกัดกั้นน้ำตาให้ไหลย้อนกลับไป ตั้งแต่จำความได้เธอไม่คิดเลยที่จะทำผิดศีลข้อมุสาวาทกับมารดาเช่นนี้เลย แต่เพราะเขาคนนั้นทำให้เธอจำต้องผิดศีลข้อนั้นกับมารดาครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างน่าละอายแก่ใจยิ่งนัก
“ลดาขอตัวขึ้นห้องก่อนนะคะคุณแม่ ลดาเหนื่อยน่ะค่ะ ราตรีสวัสดิ์นะคะ” พูดจบก็เดินผ่านหน้ามารดาไปโดยไม่หันมามองเลยสักนิด มัลลิกาได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วง แต่ก็พยายามคิดว่ามันคงไม่มีอะไรหรอก ในเมื่อลดาวัลย์ทำตัวอยู่ในโอวาทมาตลอด มิเคยทำให้ผู้เป็นแม่อย่างนางต้องเดือดเนื้อร้อนใจเลยแม้สักนิดเดียว...
ลดาวัลย์ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ทันทีที่หัวถึงหมอน ใบหน้าหวานก็ซุกซบกับหมอนใบใหญ่แล้วปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมา ปล่อยเสียงสะอื้นฮักออกมาอย่างอัดอั้นตันใจเป็นที่สุด รอจนกว่าเธอจะร้องไห้จนเหนื่อยหลับไปกับรอยน้ำตานั่น ดังเช่นทุกๆคืน...
เมื่อลดาวัลย์เดินเข้ามาในห้องอาหาร ก็พบกับมารดานั่งรออยู่ก่อนแล้ว ท่านแต่งกายในชุดสูททำงานสำหรับผู้หญิงพร้อมออกไปทำงาน พอท่านเห็นเธอเดินมาจึงทักขึ้น
“อ้าว ลดา ตื่นแล้วเหรอลูก”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับ ทันทีที่นั่งลงบนเก้าอี้ จำเนียรก็ยกกาแฟดำที่หญิงสาวมักจะดื่มเป็นประจำมาเสิร์ฟอย่างรู้หน้าที่
“แล้วที่มหา’ลัยเป็นยังไงบ้างล่ะลูก เรียนหนักมากไหม” ผู้เป็นแม่ปิดหนังสือพิมพ์เงยหน้าขึ้นถาม ลดาวัลย์จึงตอบด้วยน้ำเสียงสดใสว่า
“เรียนง่ายมากเลยค่ะคุณแม่ เพื่อนก็ดีกับลดามากด้วย”
“ดีแล้วจ้ะ ตั้งใจเรียนเข้าไว้นะลูก จบแล้วเดี๋ยวแม่จะมีของขวัญสุดพิเศษให้ รับรองว่าหนูต้องชอบมันมากๆเลยนะจ๊ะ”
“อะไรหรือคะ ?” หญิงสาวทำตาโต ดีใจที่จะได้ของขวัญจากคุณแม่หลังจากที่ร้างลาจากมันมานาน
มัลลิกาเบิกยิ้มกว้างให้บุตรสาวสุดที่รัก แม้อายุของนางจะย่างเข้าปีที่ห้าสิบหกแล้วก็ตาม หากแต่บุคลิกและรูปร่างผิวพรรณที่ได้รับการดูแลด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงชั้นเยี่ยมอย่างดีก็ไม่ได้ทำให้ดูแก่ไปตามอายุเลยแม้แต่น้อย
“เอาไว้หนูเรียนจบแล้วจะรู้เองจ้ะ แม่ไปก่อนนะ วันนี้มีนัดกับลูกค้าใหญ่แต่เช้า”  มัลลิกาเอ่ยจบก็ลุกขึ้นโน้มตัวลงมาหอมแก้มบุตรสาว พร้อมกับคว้ากระเป๋าเอกสารแล้วผละจากไปในทันที ปล่อยให้สาวน้อยนั่งหงอยอยู่ตรงแก้วกาแฟเพียงลำพัง
นารารู้สึกสงสารคุณหนูน้อยของนางยิ่งนัก เด็กสาวหงอยเหงาอย่างนี้มานับตั้งแต่คุณกฤตย์ คุณพ่อของลดาวัลย์เสียชีวิตลงไปเมื่อเด็กสาวอายุได้เพียงสิบปีแล้ว เพราะนายหญิงของนางนั้นต้องก้าวขึ้นมาทำหน้าที่ประธานบริษัทลินด้ากรุ๊ปที่คุมบังเหียนบริษัทในเครือถึงสามสิบสาขาในไทยไว้ในกุมมือนั่นเอง...
ในห้องทำงานของประธานบริษัทผู้เป็นเจ้าของบริษัทขุดเจาะและจำหน่ายเชื้อเพลิงรายใหญ่ของไทยซึ่งตั้งอยู่บนชั้นที่สามสิบของอาคารนั้น เจ้าของห้องกำลังยืนชมวิวนอกหน้าต่างอยู่นั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ จากนั้นไม่นานมันก็ถูกเปิดออกโดยดารกา เลขาสาวคู่ใจ หล่อนเดินมายังจุดที่เขายืนอยู่แล้วจึงยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลยื่นส่งให้เขา
“รูปที่ผมให้นักสืบไปแอบถ่ายมา จัดการทั้งหมดเรียบร้อยแล้วใช่ไหม ?”
“ค่ะ ท่านประธาน ในรูปจะเห็นชัดเจนที่สุดเพียงคุณลดาวัลย์ แต่จะเซ็นเซอร์ใบหน้าผู้ชายในรูปไว้ค่ะ” ดารกาตอบพลางพยักหน้าน้อยๆ
“ก็ดี คุณออกไปได้แล้ว เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการเอง” เมื่อเลขาสาวออกไปจากห้องแล้ว เขาจึงเดินมานั่งตรงตำแหน่งโต๊ะทำงานแล้วจึงหยิบบางอย่างขึ้นมาจากซองเอกสารสีน้ำตาลนั้น
“พรุ่งนี้เธอเตรียมตัวชดใช้ให้น้องชายฉันได้เลย ลดาวัลย์...” เขาเอ่ยจบแล้วโทรหาใครคนหนึ่ง รอจนปลายสายตอรับมาแล้วเขาจึงเริ่มแผนการที่วางไว้ในทันที
“คุณประพันธ์ ผมอยากให้คุณเอารูปลงข่าวหนังสือพิมพ์ให้หน่อย เดี๋ยวผมจะส่งไปให้ที่บ้าน เอาให้รู้กันทั่วประเทศไปเลยนะ” เมื่อพูดสิ่งที่ต้องการสมใจไปแล้ว ร่างสูงก็เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ หลับตาลงชั่วครู่เพื่อพักสายตา มุมปากแสยะยิ้มอย่างสะใจเมื่อนึกถึงผลของการกระทำเมื่อสักครู่ หากแต่ในมโนสำนึกก็พลันมีใบหน้าหวานเศร้าของลดาวัลย์ซ้อนทับขึ้นมา หัวใจก็พลันเกิดอาการโหวงๆในใจขึ้นมาอย่างที่ไม่รู้สาเหตุ หากแต่ยังไม่ทันหาที่มาของความรู้สึกที่เกิดขึ้น เขาก็รีบสลัดมันทิ้ง แล้วเติมเชื้อไฟแค้นเข้าไปแทนที่มันจนหมดสิ้น มุมปากของชายหนุ่มกลับมาเหยียดยิ้มอีกครั้ง
พี่กำลังชดใช้ให้นายแล้วนะ ภากร...
ลดาวัลย์กำลังเดินลงจากตึกเรียน ขณะที่มีเสียงโทรศัพท์คู่ใจร้องเตือนขึ้น แต่เมื่อเธอหยิบขึ้นมาดูเห็นเบอร์ที่โชว์อยู่ใบหน้าหวานใสก็พลันเปลี่ยนเป็นสีซีดลงไปถนัดตา มือบางนั้นสั่นขณะที่ควบคุมให้กดรับ
“สวัสดีค่ะ คุณภัทร”
“ฉันรออยู่หน้ามหา’ลัยนะ” ปลายสายเมื่อได้ยินดังนั้นก็ถึงกับหน้าซีดลงไปกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ เธอหมดชั่วโมงเรียนแล้วไม่ใช่หรือไงกัน ฉันให้เวลาเธอสามนาที ถ้านานกว่านั้นแล้วเธอยังไม่ออกมาฉันจะเข้าไปตามเธอเอง แล้วไม่ตามธรรมดาด้วย”
“แต่พี่วิชัยมารับลดาแล้วนะคะ” ลดาวัลย์รีบพูดจนเผลอเรียกสรรพนามที่ใช้กับที่บ้านไป ภาสกรได้ยินแล้วก็รู้สึกดีขึ้นมา แต่ก็นิดหนึ่ง หากแต่คำร้องขอของเธอกลับไม่เป็นผล เมื่อเขาตอบมาเพียงแค่ว่า
“ลดาวัลย์ เธอก็รู้ไม่ใช่หรือไงว่าคนอย่างเธอไม่มีวันขัดใจฉันได้ อ้อ แล้ววันหลังน่ะ เรียกแทนตัวเองว่าลดานะ แค่นี้ล่ะ” พลันนั้นลดาวัลย์ได้ยินเสียงสายถูกตัด เธอจึงคร้านจะไปขัดอะไรเขาอีก ระหว่างที่ออกก้าวเดินไปยังรถของเขานั้น เธอก็กดโทรศัพท์โทรหาวิชัย
“พี่วิชัย วันนี้ไม่ต้องมารับลดานะคะ วันนี้ลดามีนัดติวหนังสือกับเพื่อนค่ะ อาจจะกลับดึก เดี๋ยวลดานั่งแท็กซี่กลับเองได้ค่ะ” เมื่อปลายสายตอบรับมาแล้ว เธอก็กดวางสาย พอดีกับที่เดินมาถึงรถเบนซ์เปิดประทุนสีน้ำเงิน เธอจึงเดินไปทางประตูหลังแล้วจึงเปิดประตูรถเข้าไปนั่งฝั่งคนขับ แล้วรถคันนั้นก็เคลื่อนทะยานไปทันที
ไม่กี่นาทีต่อมา รถเมอร์เซเดสเบนซ์ก็เคลื่อนมาจอดในลานจอดรถชั้นสามของคอนโด ลดาวัลย์รีบเปิดประตูรถ หมายจะเดินตรงไปยังลิฟต์ หากแต่ช้ากว่าเขาไปก้าวหนึ่ง เมื่อภาสกรคว้าข้อมือของเธอไว้ได้ทันท่วงที
“จะรีบไปไหนกัน”
“เอ่อ ลดาจะรีบขึ้นไปเตรียมน้ำอุ่นให้คุณภัทรอาบไงคะ” ลดาวัลย์ตะกุกตะกักตอบ
ทันทีที่ทั้งสองเข้ามาในลิฟต์ตามลำพังแล้ว ภาสกรก็คว้าเอวบางมากอดไว้หลวมๆ จากนั้นก็หันใบหน้าของเธอมาประทับจุมพิตเร่าร้อนให้ ลดาวัลย์ขัดขืนในคราแรกเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ก็ต้องยอมจำนนต่อคนที่เหนือกว่าในเวลาต่อมา
“เธอนี่หอมหวานไปทั้งเนื้อทั้งตัวจนฉันอดใจไม่ไหวเลยนะ ให้ตายสิ” แล้วเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเธออีก จนประตูลิฟต์เปิดและทั้งสองเดินเข้ามาถึงในห้องเรียบร้อยแล้ว ภาสกรก็ไม่รีรอที่จะสานต่อสิ่งที่ค้างคาในทันที
“คุณภัทร...” หญิงสาวเอ่ยประท้วงเขาเมื่อจุมพิตนั้นช่างรุนแรงนัก เขาจึงผละออกแล้วเอ่ยชิดติดริมใบหูของเธอด้วยน้ำเสียงกระเส่าว่า
“ไปอาบน้ำด้วยกันนะ” ยังไม่ทันที่เธอจะได้ตอบรับ เขาก็ลงมือจัดการลอกคราบเธอและเขาแล้วช้อนร่างบางเข้าสู่อ้อมแขน พาเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยกัน
“อา..คุณพี” ร่างเล็กถูกจับให้นั่งคร่อมเขาในอ่างอาบน้ำหรูหรา เธอรู้หน้าที่ดีจึงเริ่มบังคับจังหวะให้ส่งสะโพกสวยทิ้งตัวลงมาถี่กระชั้น มือนุ่มจับไหล่หนาไว้แน่น ขณะที่ออกแรงขย่มให้ถี่กระชั้นมากขึ้น เมื่อชายหนุ่มจวนจะถึงจุดหมาย เขากลับกระชากตนเองและคนบนร่างลงมาจากสวรรค์
    “อ๊าย...คุณภัทร” สาวน้อยร้องครางอย่างขัดใจ เมื่อเขาถอดถอนแก่นกายออกจากดอกไม้งาม แต่สักพักก็ร้องครางอย่างถูกใจ เมื่อชายหนุ่มสอดส่ายแก่นกายเข้ามาอีกครั้ง แล้วพาโอบอุ้มยกขึ้นพาเดินไป สอยสะโพกถี่กระชั้นไปอย่างไม่รู้จบ...
ภาสกรยืนสูบบุหรี่อยู่ริมหน้าต่าง ทอดสายตามองไปบนท้องนภายามสายัณห์ ความรู้สึกของเขายามนี้คือสบายกายและสบายใจไปพร้อมๆกัน
แรงแค้นที่สุมอยู่ในอกกำลังจะถูกล้างผลาญลงอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่