Osozaki No Himawari สำนึกรักบ้านเกิด (ชื่อไทยแอบตั้งเอง 55 ความจริงแปลว่า ดอกทานตะวันที่บานช้า)
เรื่องย่อ - โคไดระ โจทาโร่ ชายหนุ่มวัย 28 ปี ที่ตกงานและถูกแฟนทิ้งในช่วงเวลาเดียวกัน เขาเป็นคนสบายๆ กับชีวิต และไม่มีเป้าหมายหรือความฝันที่แน่นอน กระทั่งเขาตัดสินใจย้ายจากกรุงโตเกียวสู่ชิมมันโต เพื่อเป็นเจ้าหน้าที่คอยดูแลและให้ความช่วยเหลือคนในชุมชน และที่นี่เองที่เขาได้รู้จักกับ นิไคโด คาโฮริ แพทย์สาวที่มีเป้าหมายคือการวิจัยมะเร็ง แต่เธอกลับถูกส่งมารักษาคนไข้ที่บ้านเกิดโดยไม่เต็มใจ...
...ที่ชิมมันโตนี้เอง หนุ่มสาวทั้ง 7 และชายวัยกลางคนอีก 1 ได้มาพบ รู้จัก และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงและความผิดหวัง แต่ทุกๆ ย่างก้าวในชิมมันโต คือการก้าวไปสู่อนาคตและความสุขในชีวิต...
ความเห็นของเจ้าของกระทู้หลังจากดูจบ
"เป็นละครที่ดีมากค่ะ" ... ขออนุญาตอมยิ้มเล็กๆ เมื่อนึกถึงหนังเรื่องนี้ อย่างแรกคือภาพสวยมาก ได้เห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองชิมมันโตแล้วอยากไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง มุมกล้อง การถ่ายภาพ แต่ละฉากดูพิถีพิถันและชวนให้ติดตาตรึงใจจริงๆ (เหมือนดูภาพยนตร์) นักแสดงนำแต่ละคนไม่ต้องพูดถึง ทุกคนแสดงได้ดีจนเราเชื่อและอินไปกับทุกๆ ฉาก
...ที่สำคัญคือการเล่าเรื่องค่ะ ที่ทำให้เราชอบละครเรื่องนี้ ตัวละครแต่ละคนต่างก็มีปมในใจที่แตกต่างกันออกไป แต่ละครก็ค่อยๆ เล่า ค่อยๆ คลายปมของแต่ละคนออกโดยไม่เร่งรีบ ระหว่างนั้นก็จะให้โจทาโร่เป็นตัวดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ เป็นคนที่คอยประสานและเป็นส่วนหนึ่งในการคลายปมในใจของแต่ละคนออกมา ในขณะที่เขาเองก็มีเรื่องต้องคิดต้องทำเหมือนกัน ... ตรงนี้แหละที่รู้สึกอินและน่าจะตรงกับชีวิตของใครหลายๆ คน ไม่ใช่แค่เราที่มีปัญหา ไม่ใช่แค่เราที่โชคร้าย ไม่ใช่แค่เราที่ถูกกระทำ ไม่ใช่แค่เราที่จะสุขหรือทุกข์ไปตลอด ทุกคนที่โชคชะตาพาให้มาเจอกัน ต่างก็มีเรื่องราว มีความสุข มีความทุกข์ และมีมุมมองต่อโลกที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่าความแตกต่างนี้มันก็เหมือนจิ๊กซอว์ที่ต้องนำมาต่อกัน เพื่อให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันได้โดยสมบูรณ์ ...
...อีกอย่างที่เราชอบคือความสัมพันธ์ของพระนางที่เป็นเหมือนดอกทานตะวันที่บานช้า ทั้งคู่เป็นเหมือนเพื่อนที่คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน คอยบอกคอยสอนเมื่ออีกคนมีเรื่องทุกข์ใจ ...เพราะมันช้า มันเลยสวยงามและน่าประทับใจ...
ทุกครั้งที่โจทาโร่โทรศัพท์ไปหาคาโฮริ พวกเขาจะคุยกันแบบนี้
"โอ้! ฉันเองนะ ฉันเองนะ"
"...ฉันเอง ฉันเอง นี่ใครกันล่ะ"
อารมณ์ของละครเรื่องนี้จะออกแนวการให้กำลังใจ การเริ่มต้นทำสิ่งดีๆ มีฉากเศร้าเรียกน้ำตา มีฉากลุ้นระทึกไปกับตัวละคร มีฉากกุ๊กกิ๊กและสนุกสนานเล็กๆ น้อยๆ คอยสอดแทรกและไม่ทำให้เรื่องราวหนักหนาจนเกินไป ใครที่มองหาละครดีๆ ที่ไม่หวือหวาเร้าใจแต่กินใจและสร้างสรรค์ แนะนำละครเรื่องนี้เลยนะคะ มี 10 ตอนจบค่ะ
ถ้าจะให้คะแนน...เราให้ 10/10 เพราะส่วนตัวแล้วหาข้อเสียไม่เจอเลยค่ะ
"หากคุณอยากหยุดพักเพราะวิ่งมาทั้งชีวิต ลองนั่งลงและดูละครเรื่องนี้ อาจได้อะไรดีๆ กลับมาบ้าง"
(มือใหม่หัดรีวิว) สำนึกรักบ้านเกิด Osozaki No Himawari - ละครดีๆ ที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า
Osozaki No Himawari สำนึกรักบ้านเกิด (ชื่อไทยแอบตั้งเอง 55 ความจริงแปลว่า ดอกทานตะวันที่บานช้า)
เรื่องย่อ - โคไดระ โจทาโร่ ชายหนุ่มวัย 28 ปี ที่ตกงานและถูกแฟนทิ้งในช่วงเวลาเดียวกัน เขาเป็นคนสบายๆ กับชีวิต และไม่มีเป้าหมายหรือความฝันที่แน่นอน กระทั่งเขาตัดสินใจย้ายจากกรุงโตเกียวสู่ชิมมันโต เพื่อเป็นเจ้าหน้าที่คอยดูแลและให้ความช่วยเหลือคนในชุมชน และที่นี่เองที่เขาได้รู้จักกับ นิไคโด คาโฮริ แพทย์สาวที่มีเป้าหมายคือการวิจัยมะเร็ง แต่เธอกลับถูกส่งมารักษาคนไข้ที่บ้านเกิดโดยไม่เต็มใจ...
...ที่ชิมมันโตนี้เอง หนุ่มสาวทั้ง 7 และชายวัยกลางคนอีก 1 ได้มาพบ รู้จัก และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงและความผิดหวัง แต่ทุกๆ ย่างก้าวในชิมมันโต คือการก้าวไปสู่อนาคตและความสุขในชีวิต...
ความเห็นของเจ้าของกระทู้หลังจากดูจบ
"เป็นละครที่ดีมากค่ะ" ... ขออนุญาตอมยิ้มเล็กๆ เมื่อนึกถึงหนังเรื่องนี้ อย่างแรกคือภาพสวยมาก ได้เห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองชิมมันโตแล้วอยากไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง มุมกล้อง การถ่ายภาพ แต่ละฉากดูพิถีพิถันและชวนให้ติดตาตรึงใจจริงๆ (เหมือนดูภาพยนตร์) นักแสดงนำแต่ละคนไม่ต้องพูดถึง ทุกคนแสดงได้ดีจนเราเชื่อและอินไปกับทุกๆ ฉาก
...ที่สำคัญคือการเล่าเรื่องค่ะ ที่ทำให้เราชอบละครเรื่องนี้ ตัวละครแต่ละคนต่างก็มีปมในใจที่แตกต่างกันออกไป แต่ละครก็ค่อยๆ เล่า ค่อยๆ คลายปมของแต่ละคนออกโดยไม่เร่งรีบ ระหว่างนั้นก็จะให้โจทาโร่เป็นตัวดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ เป็นคนที่คอยประสานและเป็นส่วนหนึ่งในการคลายปมในใจของแต่ละคนออกมา ในขณะที่เขาเองก็มีเรื่องต้องคิดต้องทำเหมือนกัน ... ตรงนี้แหละที่รู้สึกอินและน่าจะตรงกับชีวิตของใครหลายๆ คน ไม่ใช่แค่เราที่มีปัญหา ไม่ใช่แค่เราที่โชคร้าย ไม่ใช่แค่เราที่ถูกกระทำ ไม่ใช่แค่เราที่จะสุขหรือทุกข์ไปตลอด ทุกคนที่โชคชะตาพาให้มาเจอกัน ต่างก็มีเรื่องราว มีความสุข มีความทุกข์ และมีมุมมองต่อโลกที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่าความแตกต่างนี้มันก็เหมือนจิ๊กซอว์ที่ต้องนำมาต่อกัน เพื่อให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันได้โดยสมบูรณ์ ...
...อีกอย่างที่เราชอบคือความสัมพันธ์ของพระนางที่เป็นเหมือนดอกทานตะวันที่บานช้า ทั้งคู่เป็นเหมือนเพื่อนที่คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน คอยบอกคอยสอนเมื่ออีกคนมีเรื่องทุกข์ใจ ...เพราะมันช้า มันเลยสวยงามและน่าประทับใจ...
ทุกครั้งที่โจทาโร่โทรศัพท์ไปหาคาโฮริ พวกเขาจะคุยกันแบบนี้
"โอ้! ฉันเองนะ ฉันเองนะ"
"...ฉันเอง ฉันเอง นี่ใครกันล่ะ"
อารมณ์ของละครเรื่องนี้จะออกแนวการให้กำลังใจ การเริ่มต้นทำสิ่งดีๆ มีฉากเศร้าเรียกน้ำตา มีฉากลุ้นระทึกไปกับตัวละคร มีฉากกุ๊กกิ๊กและสนุกสนานเล็กๆ น้อยๆ คอยสอดแทรกและไม่ทำให้เรื่องราวหนักหนาจนเกินไป ใครที่มองหาละครดีๆ ที่ไม่หวือหวาเร้าใจแต่กินใจและสร้างสรรค์ แนะนำละครเรื่องนี้เลยนะคะ มี 10 ตอนจบค่ะ
ถ้าจะให้คะแนน...เราให้ 10/10 เพราะส่วนตัวแล้วหาข้อเสียไม่เจอเลยค่ะ
"หากคุณอยากหยุดพักเพราะวิ่งมาทั้งชีวิต ลองนั่งลงและดูละครเรื่องนี้ อาจได้อะไรดีๆ กลับมาบ้าง"