เริ่มเรื่องเลยแล้วกัน (รบกวนอ่านนิดหนึ่งนะจ๊ะ)
เราผ่อนบ้านอยู่กับแบงค์เขียวผ่อนมา 5 ปีกว่า แล้วปลายปี 2554 น้ำ่่ท่วม(บ้านอยู่ดอนเมือง) ทางรัฐบาลมีนโยบายให้พักชำระหนี้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมทางธนาคารโทรมาถามว่าจะพักชำระหนี้ไหมเราก็เลยทำเรื่องพักชำระหนี้ไป 3 เดือน หลังจากพักชำระหนี้ไป 3 เดือน เราก็ส่งค่างวดปกติ พอประมาณเมษายน 2555 รัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในเขตพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ โดยลด 3% เป็นเวลา 5 ปี เราก็ทำเรื่องขอลดตามสิทธิที่ควรจะได้รับส่งเรื่องไปที่ธนาคารประมาณเดือนมิถุนายน 2555 เราโทรไปหาเจ้าหน้าที่ธนาคารถามว่าเราได้สิทธิปรับลดอัตราดอกเบี้ยไหมเจ้าหน้าที่บอกว่าได้สิทธิปรับลดอัตราดอกเบี้ยเราก็ถามไปว่าแล้วต้องทำสัญญาใหม่หรือเปล่า เจ้าหน้าที่บอกต้องทำสัญญาใหม่ แล้วเราก็ถามเจ้าหน้าที่ว่าให้ไปเซ็นสัญญาวันไหน เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าเดี๋ยวจะโทรไปบอกอีกที เราก็เลยถามเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าระหว่างรอสัญญาใหม่เราต้องจ่ายค่างวดผ่อนชำระเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าจ่ายเท่าเดิมไปก่อนเพราะสัญญายังไม่เสร็จถ้าเสร็จแล้วจะโทรตามให้ไปเซ็นสัญญาอีกทีเราก็จ่ายค่างวดปกติ เดือนกรกฎาคม 2555 เราโทรไปถามเจ้าหน้าที่เขาไม่รับสาย แล้ววันรุ่งขึ้นเขาโทรกลับมาบอกว่าเราได้ส่วนลดตามนโยบาย 3%แล้วนะ เราเลยถามว่าแล้วเซ็นสัญญาใหม่วันไหนเขาบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวอาทิตย์หน้าผมจะนัดวันอีกทีพออาทิตย์ต่อมาเราก็โทรไปเขาไม่รับสายเราก็ไม่รู้ทำไง เราก็โทรตามอีกเขาบอกไม่เป็นไรปรับลดดอกเบี้ยหน้าจอให้แล้วเข้าค่างวดตามปกตินะไม่ต้องห่วงได้ลด 3% แล้ว เราก็งงว่าลดได้ยังไงเรายังไม่ได้ไปเซ็นสัญญาเลยหลังจากนั้นก็พยามติดต่อเจ้าหน้าที่คนนี้อยู่ตลอดเขาก็บอกยังไม่ว่างให้เข้าไปเซ็นสัญญาเราพอวันที่ 9 กรกฎาคม 255 เราเอาเงินไปเข้าค่างวดปรากฎว่ายอดเงินกู้เราลดลง เราก็เลยถามเจ้าหน้าที่ที่เคาท์เตอร์ที่เอาเิงินไปเข้าเขาบอกให้ติดต่อสาขาที่ดูแลเรา เราก็เลยโทรไปหาเจ้าหน้าที่คนเดิมที่บอกว่าจะเรียกเราไปทำสัญญาแต่เขาไม่รับโทรศัพท์ เราเลยคิดว่าคงไม่มีอะไรก็เราเข้าค่างวดปกติทุกเดือน(ตามความคิดเรา) แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ประมาณวันที่ 28 มกราคม 2556 ทางธนาคารโทรมาแจ้งว่าเราติด NPL จะยื่นฟ้องเราให้เข้าไปพบเจ้าหน้าที่ที่ธนาคารหลังจากนั้นเราก็เข้าไปพบเจ้าหน้าที่วันที่ 30 มกราคม 2556 เรางงเหมือนกันว่าเราติด NPL เรื่องอะไรเพราะเราไม่ได้ขาดส่ง พอเราไปพบกลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่คนเดิมที่เคยติดต่อเราได้ย้ายแผนกแล้วอีกคนมาดูแลบัญชีของเราแทนคนเดิม เจ้าหน้าที่ธนาคารคนใหม่แจ้งว่าเราไม่ได้นำเงินเข้าบัญชีที่ 3 (ปกติเรามี 2 บัญชีคือบัญชีกู้ซื้อบ้านกับบัญชีประกันชีวิต) เราเลยงงว่าบัญชีที่ 3 คือบัญชีไหนเจ้าหน้าธนาคารบอกว่าบัญชีที่ 3 คือบัญชีที่ลดดอกเบี้ย 3% เราก็เลยแย้งไปว่าเราไม่รู้เพราะเราไม่ได้ไปเซ็นสัญญาเจ้าหน้าที่คนก่อนก็ไม่ได้แจ้งเราว่ามี 3 บัญชีเจ้าหน้าที่คนก่อนก็บอกให้เราเข้าค่างวดเท่าเดิมไปก่อนจนกว่าจะเรียกเซ็นสัญญา จนถึงทุกวันนี้เราก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญาอะไรกับธนาคารเลย แล้วเราก็ไม่ได้รับการแจ้งจากทางธนาคารเลยว่าเรามีบัญชีที่ 3 เจ้าหน้าที่คนใหม่ที่ดูเรื่องแทนเลยบอกเราว่าเรามีทั้งหมด 4 บัญชี เราเลยงงไปกันใหญ่ว่าทำไมทางธนาคารไม่แจ้งเราแล้วไปแก้ไขบัญชีเราได้ยังไงในเมื่อไม่มีการเซ็นอะำไรเป็นลายลักษณ์อักษร เจ้าหน้าที่ธนาคารคนใหม่่บอกว่าคนเดิมทำไว้ผิดโดยไม่แจ้งเราแล้วทางธนาคารก็บอกว่าเราไม่ได้อัตรดอกเบี้ย 3% เนื่องจากขาดส่งผิดสัญญาและติด NPL ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่าธนาคารจะดำเนินการกับเรายังไงเราเสียสิทธิ์ที่ควรจะได้รับแล้วยังติด NPL โดยที่เป็นความผิดของทางเจ้าหน้าที่ธนาคารเอง (สรุปเป็นความประมาทของเจ้าหน้าที่ธนาคารเอง) อย่างนี้แล้วเพื่อนๆชาวพันทิปว่าเราควรจะทำยังไงดีเพราะไม่รู้ว่าจะโดนฟ้องหรือเปล่า สิทธิที่ควรจะได้ก็ไม่ได้เงินก็ส่งค่างวดทุกเดือน ใครมีคำแนะนำอะไรแนะนำเราด้วย
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและทุกคำแนะนำ
ช่วยเราด้วย อยู่ดีๆ ก็ติด NPL(ขอคำปรึษาด้วย)
เราผ่อนบ้านอยู่กับแบงค์เขียวผ่อนมา 5 ปีกว่า แล้วปลายปี 2554 น้ำ่่ท่วม(บ้านอยู่ดอนเมือง) ทางรัฐบาลมีนโยบายให้พักชำระหนี้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมทางธนาคารโทรมาถามว่าจะพักชำระหนี้ไหมเราก็เลยทำเรื่องพักชำระหนี้ไป 3 เดือน หลังจากพักชำระหนี้ไป 3 เดือน เราก็ส่งค่างวดปกติ พอประมาณเมษายน 2555 รัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในเขตพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ โดยลด 3% เป็นเวลา 5 ปี เราก็ทำเรื่องขอลดตามสิทธิที่ควรจะได้รับส่งเรื่องไปที่ธนาคารประมาณเดือนมิถุนายน 2555 เราโทรไปหาเจ้าหน้าที่ธนาคารถามว่าเราได้สิทธิปรับลดอัตราดอกเบี้ยไหมเจ้าหน้าที่บอกว่าได้สิทธิปรับลดอัตราดอกเบี้ยเราก็ถามไปว่าแล้วต้องทำสัญญาใหม่หรือเปล่า เจ้าหน้าที่บอกต้องทำสัญญาใหม่ แล้วเราก็ถามเจ้าหน้าที่ว่าให้ไปเซ็นสัญญาวันไหน เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าเดี๋ยวจะโทรไปบอกอีกที เราก็เลยถามเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าระหว่างรอสัญญาใหม่เราต้องจ่ายค่างวดผ่อนชำระเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าจ่ายเท่าเดิมไปก่อนเพราะสัญญายังไม่เสร็จถ้าเสร็จแล้วจะโทรตามให้ไปเซ็นสัญญาอีกทีเราก็จ่ายค่างวดปกติ เดือนกรกฎาคม 2555 เราโทรไปถามเจ้าหน้าที่เขาไม่รับสาย แล้ววันรุ่งขึ้นเขาโทรกลับมาบอกว่าเราได้ส่วนลดตามนโยบาย 3%แล้วนะ เราเลยถามว่าแล้วเซ็นสัญญาใหม่วันไหนเขาบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวอาทิตย์หน้าผมจะนัดวันอีกทีพออาทิตย์ต่อมาเราก็โทรไปเขาไม่รับสายเราก็ไม่รู้ทำไง เราก็โทรตามอีกเขาบอกไม่เป็นไรปรับลดดอกเบี้ยหน้าจอให้แล้วเข้าค่างวดตามปกตินะไม่ต้องห่วงได้ลด 3% แล้ว เราก็งงว่าลดได้ยังไงเรายังไม่ได้ไปเซ็นสัญญาเลยหลังจากนั้นก็พยามติดต่อเจ้าหน้าที่คนนี้อยู่ตลอดเขาก็บอกยังไม่ว่างให้เข้าไปเซ็นสัญญาเราพอวันที่ 9 กรกฎาคม 255 เราเอาเงินไปเข้าค่างวดปรากฎว่ายอดเงินกู้เราลดลง เราก็เลยถามเจ้าหน้าที่ที่เคาท์เตอร์ที่เอาเิงินไปเข้าเขาบอกให้ติดต่อสาขาที่ดูแลเรา เราก็เลยโทรไปหาเจ้าหน้าที่คนเดิมที่บอกว่าจะเรียกเราไปทำสัญญาแต่เขาไม่รับโทรศัพท์ เราเลยคิดว่าคงไม่มีอะไรก็เราเข้าค่างวดปกติทุกเดือน(ตามความคิดเรา) แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ประมาณวันที่ 28 มกราคม 2556 ทางธนาคารโทรมาแจ้งว่าเราติด NPL จะยื่นฟ้องเราให้เข้าไปพบเจ้าหน้าที่ที่ธนาคารหลังจากนั้นเราก็เข้าไปพบเจ้าหน้าที่วันที่ 30 มกราคม 2556 เรางงเหมือนกันว่าเราติด NPL เรื่องอะไรเพราะเราไม่ได้ขาดส่ง พอเราไปพบกลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่คนเดิมที่เคยติดต่อเราได้ย้ายแผนกแล้วอีกคนมาดูแลบัญชีของเราแทนคนเดิม เจ้าหน้าที่ธนาคารคนใหม่แจ้งว่าเราไม่ได้นำเงินเข้าบัญชีที่ 3 (ปกติเรามี 2 บัญชีคือบัญชีกู้ซื้อบ้านกับบัญชีประกันชีวิต) เราเลยงงว่าบัญชีที่ 3 คือบัญชีไหนเจ้าหน้าธนาคารบอกว่าบัญชีที่ 3 คือบัญชีที่ลดดอกเบี้ย 3% เราก็เลยแย้งไปว่าเราไม่รู้เพราะเราไม่ได้ไปเซ็นสัญญาเจ้าหน้าที่คนก่อนก็ไม่ได้แจ้งเราว่ามี 3 บัญชีเจ้าหน้าที่คนก่อนก็บอกให้เราเข้าค่างวดเท่าเดิมไปก่อนจนกว่าจะเรียกเซ็นสัญญา จนถึงทุกวันนี้เราก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญาอะไรกับธนาคารเลย แล้วเราก็ไม่ได้รับการแจ้งจากทางธนาคารเลยว่าเรามีบัญชีที่ 3 เจ้าหน้าที่คนใหม่ที่ดูเรื่องแทนเลยบอกเราว่าเรามีทั้งหมด 4 บัญชี เราเลยงงไปกันใหญ่ว่าทำไมทางธนาคารไม่แจ้งเราแล้วไปแก้ไขบัญชีเราได้ยังไงในเมื่อไม่มีการเซ็นอะำไรเป็นลายลักษณ์อักษร เจ้าหน้าที่ธนาคารคนใหม่่บอกว่าคนเดิมทำไว้ผิดโดยไม่แจ้งเราแล้วทางธนาคารก็บอกว่าเราไม่ได้อัตรดอกเบี้ย 3% เนื่องจากขาดส่งผิดสัญญาและติด NPL ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่าธนาคารจะดำเนินการกับเรายังไงเราเสียสิทธิ์ที่ควรจะได้รับแล้วยังติด NPL โดยที่เป็นความผิดของทางเจ้าหน้าที่ธนาคารเอง (สรุปเป็นความประมาทของเจ้าหน้าที่ธนาคารเอง) อย่างนี้แล้วเพื่อนๆชาวพันทิปว่าเราควรจะทำยังไงดีเพราะไม่รู้ว่าจะโดนฟ้องหรือเปล่า สิทธิที่ควรจะได้ก็ไม่ได้เงินก็ส่งค่างวดทุกเดือน ใครมีคำแนะนำอะไรแนะนำเราด้วย
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและทุกคำแนะนำ