อัตราการเพิ่มของประชากรทั่วโลกโดยเฉลี่ยทุกวันนี้คือ 2 คนในทุก ๆ วินาที
ในระยะไม่กี่ร้อยปี ประชาการทั่วโลกเพิ่มเป็นสามเท่าของที่เคยมี และมัน "เยอะเกินไป" แล้ว
คนเยอะขึ้น ---> ต้องการอาหารเยอะขึ้น ---> ใช้พื้นที่ปลูกเยอะขึ้น ---> ถางป่า ---> x
---> ใช้พื้นที่ทำฟาร์มเยอะขึ้น ---> ถางป่า ---> x
---> จับปลาเยอะขึ้น ---> Over fishing
---> ต้องการที่อยู่เยอะขึ้น ---> เมืองขยายตัว ---> ถางป่า ---> x
---> ต้องการพลังงานมากขึ้น ---> แหล่งพลังงานที่หาง่ายหมดไปแล้ว ที่เหลืออยู่ใต้ป่า ---> ถางป่า
---> ระบบเศรษฐกิจรับไม่ไหว (ไม่มีงาน ไม่มีบ้าน ไม่มีอาหาร) ---> คนจนเยอะขึ้น ---> โจรผู้ร้ายเยอะขึ้น ---> ฆ่ากันเอง
x ---> ถางป่าเยอะขึ้น ---> ระบบอากาศผันแปร ---> คนตายเยอะขึ้น
ยังมีอีกเยอะ และในท้ายที่สุด มันก็จะวกกลับมาหาตัวเราเอง
รากเหง้าของปัญหาทั้งมวลมาจากประชากรที่เยอะขึ้นทั้งสิ้น
ถ้าเราลดการบริโภคไม่ได้
ก็ต้องลดจำนวนของเราลง
หลายประเทศเริ่มมีนโยบายชั้นเลิศอย่างการออกกฎหมายให้มีลูกคนเดียว และคนโง่มากมายก็จะออกมาต่อต้าน
และ "โดยส่วนตัว" ไม่มีวิธีประหยัดทรัพยากรวิธีไหนดีไปกว่าการไม่มีลูกอีกแล้ว มนุษย์คนนึงตั้งแต่เกิดจนตาย เผาผลาญทรัพยากรไปตั้งเท่าไหร่ คนที่เกิดมาแล้วก็อยู่ไป ที่ควรระวังคืออย่าให้เกิดเพิ่ม หรือถ้า แค่คนเดียวก็เกินพอ
สารคดีนี้สะท้อนผลกระทบของปรากฎการณ์ที่ว่า ประเด็นคือ คนเมืองอย่างเรา ๆ ไม่ค่อยรู้สึกรู้สา และผลส่วนใหญ่ไปตกกับพื้นที่ยากจน
หันมามองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัว
การที่ผู้หญิงหันไปชอบผู้หญิง หรือชายหันไปชอบชาย มากขึ้นทุกที เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ เพราะยังไงก็มีลูกไม่ได้อยู่แล้ว ธรรมชาติกำลังเข้ามาดลใจอย่างเงียบ ๆ หึหึหึหึหึหึ
อ้อ เผื่อว่าถาม
ผมยังโสด และคิดว่าจะโสดตลอดไป
ไม่ใช่ด้วยจิตรักษ์โลกหรือะไรเลิศหรู แต่เห็นเพื่อนร่วมงาน มีแฟน มีเมีย/ผัว มีลูก แล้วโคตรจะปวดกะโหลกเลย 555
ทำประกันวัยเกษียณ อยู่สงบ ๆ คนเดียวดีกว่า
[Eng] ประชากรกำลังล้นโลก
ในระยะไม่กี่ร้อยปี ประชาการทั่วโลกเพิ่มเป็นสามเท่าของที่เคยมี และมัน "เยอะเกินไป" แล้ว
คนเยอะขึ้น ---> ต้องการอาหารเยอะขึ้น ---> ใช้พื้นที่ปลูกเยอะขึ้น ---> ถางป่า ---> x
---> ใช้พื้นที่ทำฟาร์มเยอะขึ้น ---> ถางป่า ---> x
---> จับปลาเยอะขึ้น ---> Over fishing
---> ต้องการที่อยู่เยอะขึ้น ---> เมืองขยายตัว ---> ถางป่า ---> x
---> ต้องการพลังงานมากขึ้น ---> แหล่งพลังงานที่หาง่ายหมดไปแล้ว ที่เหลืออยู่ใต้ป่า ---> ถางป่า
---> ระบบเศรษฐกิจรับไม่ไหว (ไม่มีงาน ไม่มีบ้าน ไม่มีอาหาร) ---> คนจนเยอะขึ้น ---> โจรผู้ร้ายเยอะขึ้น ---> ฆ่ากันเอง
x ---> ถางป่าเยอะขึ้น ---> ระบบอากาศผันแปร ---> คนตายเยอะขึ้น
ยังมีอีกเยอะ และในท้ายที่สุด มันก็จะวกกลับมาหาตัวเราเอง
รากเหง้าของปัญหาทั้งมวลมาจากประชากรที่เยอะขึ้นทั้งสิ้น
ถ้าเราลดการบริโภคไม่ได้
ก็ต้องลดจำนวนของเราลง
หลายประเทศเริ่มมีนโยบายชั้นเลิศอย่างการออกกฎหมายให้มีลูกคนเดียว และคนโง่มากมายก็จะออกมาต่อต้าน
และ "โดยส่วนตัว" ไม่มีวิธีประหยัดทรัพยากรวิธีไหนดีไปกว่าการไม่มีลูกอีกแล้ว มนุษย์คนนึงตั้งแต่เกิดจนตาย เผาผลาญทรัพยากรไปตั้งเท่าไหร่ คนที่เกิดมาแล้วก็อยู่ไป ที่ควรระวังคืออย่าให้เกิดเพิ่ม หรือถ้า แค่คนเดียวก็เกินพอ
สารคดีนี้สะท้อนผลกระทบของปรากฎการณ์ที่ว่า ประเด็นคือ คนเมืองอย่างเรา ๆ ไม่ค่อยรู้สึกรู้สา และผลส่วนใหญ่ไปตกกับพื้นที่ยากจน
หันมามองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัว
การที่ผู้หญิงหันไปชอบผู้หญิง หรือชายหันไปชอบชาย มากขึ้นทุกที เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ เพราะยังไงก็มีลูกไม่ได้อยู่แล้ว ธรรมชาติกำลังเข้ามาดลใจอย่างเงียบ ๆ หึหึหึหึหึหึ
อ้อ เผื่อว่าถาม
ผมยังโสด และคิดว่าจะโสดตลอดไป
ไม่ใช่ด้วยจิตรักษ์โลกหรือะไรเลิศหรู แต่เห็นเพื่อนร่วมงาน มีแฟน มีเมีย/ผัว มีลูก แล้วโคตรจะปวดกะโหลกเลย 555
ทำประกันวัยเกษียณ อยู่สงบ ๆ คนเดียวดีกว่า