'ไร้รอยต่อ' แนวคิดถอยหลังเข้าคลอง...บทบรรณาธิการ ...แนวหน้าออนไลน์

รัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมทั้ง
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ในนาม
พรรคเพื่อไทย ชูหนึ่งในประเด็นการหาเสียงโดยเรียกร้องให้ชาวเมืองหลวง
เลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครคนใหม่
สังกัดพรรคเดียวกับรัฐบาลภายใต้คำขวัญที่ว่า “ไร้รอยต่อ” โดยอ้างว่าเพื่อ
ให้การประสานงานระหว่างรัฐบาลกับกรุงเทพมหานคร เป็นไปด้วยความ
ราบรื่นไร้อุปสรรคเหมือนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยยังกล่าวในเชิงข่มขู่กดดันทางการเมืองว่า
หากผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ไม่ใช่ฝ่ายเดียวกับรัฐบาลก็อาจไม่ได้การสนับสนุน
ด้านงบประมาณจากรัฐบาลอย่างที่ควรจะเป็นแนวคิดของพรรคเพื่อไทยดังกล่าว
ดูจะไม่ถูกต้องนักเพราะตามหลักการที่ถูกต้องแล้วรัฐพึงส่งเสริมการกระจาย
อำนาจ ซึ่งกรุงเทพมหานครเป็นการปกครองส่วนท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน จึงควรมีความเป็นอิสระปราศจาก
การแซงทางการเมืองในเหตุการณ์มหาอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศเมื่อ
ปี 2554 ได้เกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างรัฐบาลกับกรุงเทพมหานคร
ในแนวทางคลี่คลายสถานการณ์มหาอุทกภัย จนเป็นข้ออ้างของพรรคเพื่อไทย
ในการชูประเด็นหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ครั้งนี้โดยพยายามหว่าน
ล้อมให้ชาวเมืองหลวงคล้อยตามว่าผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ควรจะสังกัดพรรค
การเมืองฝ่ายรัฐบาลเพื่อให้การบริหารงานไร้ปัญหาอุปสรรค

อย่างไรก็ตาม มีผู้โต้แย้งว่า ที่ผ่านมาผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครที่ไม่ได้สังกัดพรรค
หลายต่อหลายคน หรือแม้แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร
คนล่าสุดจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็สามารถทำงานร่วมกับรัฐบาลจากหลายพรรค
แม้แต่พรรคเพื่อไทยได้อย่างราบรื่นตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี ในการบริหาร
กรุงเทพมหานคร จะมีปัญหาบ้างก็ช่วงวิกฤติมหาอุทกภัยเมื่อปี 2554 ท่ามกลาง
การตั้งข้อสังเกตว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมีเบื้องหลังทางการเมือง โดยมีการวางแผน
ล่วงหน้าหวังใช้ข้อขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและกรุงเทพมหานครเป็นประเด็นในการ
หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครครั้งต่อไป

การที่พรรคเพื่อไทยชูประเด็นหาเสียง“ไร้รอยต่อ” นอกจากเป็นการไม่ยอมรับ
หลักการกระจายอำนาจแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นแนวคิดผูกขาดรวบอำนาจซึ่งถือ
เป็นสัญญาณอันตรายอย่างยิ่ง ต่อระบอบการปกครองของประเทศและเปิดช่อง
ให้ฝ่ายการเมืองลุแก่อำนาจ รวมทั้งเปิดช่องให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นได้สะดวก
ง่ายดายขึ้นเพราะรัฐบาลและกรุงเทพมหานครเป็นพวกเดียวกันที่สำคัญยัง
สะท้อนแนวคิดและปลูกฝังค่านิยมส่งเสริมให้ประชาชนเลือกข้าง แบ่งพรรคแบ่ง
พวกซึ่งขัดแย้งกับบรรยากาศการสร้างความปรองดองในชาติอย่างสิ้นเชิง ทั้งๆ
ที่ความจริงรัฐบาลที่ดีซึ่งเป็นมืออาชีพ จะต้องทำงานได้กับทุกฝ่าย โดยยึดถือ
ผลประโยชน์ของส่วนรวมและประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่อาศัยกลไกอำนาจรัฐมา
เป็นเครื่องมือแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง

http://www.naewna.com/politic/columnist/5066

เมื่ออยู่ฝ่ายตรงกันข้าม  ก็ต้องหามุมมองมาโจมตีให้ได้  ....
เหมือนหาเสียงให้ไหม ?  วิจารณ์แบบ ...อีกฝ่ายหาดีไม่ได้เลย
สื่อแบบนี้  เลือกข้างสุดๆ ไปเลย ....
คุณร้อนหนาว ....คิดยังไง  ...  แต่มอตโต้  เขาบอก
แนวหน้า  มั่นคง ตรงไป  ตรงมา  ...  ก็จริงนะ ...ไม่เสแสร้ง
สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่