คุณเคยสังเกตหรือตั้งคำถามในใจหรือไม่ ...
ทำไมบางครั้งพวกเราจึงตัดสินใจผิดพลาดทั้งที่รู้สึกว่ามีข้อมูลและกระบวนการคิดที่ดีแล้ว?
ทำไมนักศึกษาปริญญาเอกทางด้านการเงินหรืออัจฉริยะทางด้านคณิตศาสตร์จึงมีโอกาสทำผิดพลาดในตลาดหุ้น?
ทำไมจำนวนผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านการลงทุนจึงมักเป็นคนส่วนน้อย?
ทำไมเราจึงมักชอบซื้อหุ้นเมื่อราคามันตกลงมาแรงผิดปกติจากราคาที่เคลื่อนไหวก่อนหน้า?
ทำไมนักลงทุนแต่ละประเภทจึงต่างมองว่าแนวทางการลงทุนของตัวเองดีที่สุด?
หรือแม้แต่ทำไมธนาคารกลางสหรัฐและยุโรปจึงให้ความสำคัญกับการสร้างความเชื่อมั่นของตลาดเป็นอันดับแรก?
ความสำเร็จทางด้านการลงทุนไม่ได้แปรผันตามระดับการศึกษา ไอคิว หรือโอกาสเท่านั้น เพราะจากการศึกษาทางด้านจิตวิทยาและสังคมพบว่าการตัดสินใจของมนุษย์เราล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้อิทธิพลของอคติเชิงพฤติกรรมที่ซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึก อคติเหล่านี้ทำให้หลายครั้งมนุษย์ยอมตัดสินใจด้วยข้อมูลที่ไม่ดี หรือทำให้เกิดการไขว้เขวในการประมวลผล
มาทำความรู้จักกับมัน เพื่อรู้เท่าทันตัวเองกันครับ
ลงทุนอย่างไร้เหตุผลเพราะหลงกลอคติเชิงพฤติกรรม ตอนที่ 2 – Availability Heuristic
Availability Heuristic
ในสมองของมนุษย์มีกลไกหนึ่งที่ช่วยลดขั้นตอนการตัดสินใจ โดยกลไกเชิงพฤติกรรมนี้ก็คือการที่สมองจะพยายามประมวลผลผ่านการรับรู้ในอดีตและอาศัยผลลัพธ์ที่เชื่อมโยงกันกับหัวข้อที่กำลังตัดสินใจเป็นตัวช่วยให้สมองตอบสนองเร็วขึ้น เสมือนทำตัวเป็นทางลัดเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการประมวลผล แน่นอนว่าโดยทั่วไปแล้ววิธีสร้างทางลัดของสมองจะมีประโยชน์มากมายเพราะเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์เราจะไตร่ตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วนในทุกเรื่องผ่านข้อมูลที่เข้ามาในสมองอย่างมหาศาล แต่ก็มีเหมือนกันที่กลไกจากพฤติกรรมนี้กลายเป็นกับดักที่ทำให้เกิดอคติในกระบวนการตัดสินใจได้
การสร้างเส้นทางลัดแบบนี้ทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นเพราะบางการรับรู้จดจำในอดีตที่สมองใช้ในการสร้างเส้นทางลัดนั้นอาจไม่ได้มีความสำคัญมากพอต่อสิ่งที่เรากำลังต้องการประมวลผล
ยกตัวอย่างเช่น สมมติมีคนถามคุณว่า “นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีบ้านอยู่ในเขตพญาไทหรือเขตบางกะปิมากกว่ากัน?” ในชั่วขณะของความคิดสมองของคุณจะสั่งให้ประมวลผลผ่านการรับรู้และจดจำในอดีตถึงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องดังนั้นคุณจึงมีความโน้มเอียงที่จะตอบว่าเขตพญาไทเพราะสมองประมวลผลจากตรรกะที่ว่ามหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์นั้นตั้งอยู่ในเขตปทุมวันซึ่งใกล้กับพญาไทมากกว่า และยอมเดาจากข้อมูลที่ไม่เพียงพอ (ทั้งๆ ที่โดยปกติคุณเป็นคนรอบคอบกว่านั้น) โดยหลงคิดว่าข้อมูลที่มีอยู่ดีพอจะใช้วิเคราะห์คำตอบในกระบวนการตัดสินใจได้
สิ่งที่ถูกต้องจากตัวอย่างดังกล่าวจึงควรจะเป็นการตัดสินใจยอมรับว่า “ไม่รู้” เพราะไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ หลายครั้งเราจึงตัดสินใจผิดพลาดเพราะคิดว่า “รู้” ผ่านจุดอ่อนของทางลัดในสมองนี้เอง
ตัวอย่างในเรื่องของการลงทุนก็มีพบให้เห็นได้บ่อยๆ เช่น เวลาที่เราเปิดรายการที่มีนักวิเคราะห์หุ้นหรือนักวิเคราะห์เศรษฐกิจมาบรรยาย สมมติว่าขณะนั้นเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังไปได้ดี สมองเรามักจะคล้อยตามสิ่งที่นักวิเคราะห์พูดในแง่บวกมากกว่านักวิเคราะห์ที่พูดในแง่ลบจนอาจนำไปสู่การเสพข้อมูลและให้น้ำหนักข้อมูลที่ผิดพลาดตั้งแต่ต้นนั่นเอง หรือแม้แต่ในการประชาสัมพันธ์รายการ การเปิดตัวหนังสือ อันดับแรกที่เรามักจะเห็นพิธีกรรายการทำคือการพยายามพูดถึงความสำเร็จในอดีตของวิทยากรที่มาบรรยาย หรือหากไม่มีความสำเร็จส่วนตัวที่ชัดเจนพิธีกรก็จะพยายามชี้นำผ่านหลักฐานด้านอื่น เช่น การเกิดในตระกูลที่ประสบความสำเร็จ การมีการศึกษาสูง หรือการมีทรัพย์สมบัติจำนวนมากแทน เพื่อให้ผู้ชมรายการสร้างทางลัดในสมองให้คล้อยตามในสิ่งที่รายการอยากนำเสนอได้ง่ายขึ้น
นอกจากนั้น การศึกษาในแง่มุมของการตัดสินใจเรื่องศีลธรรมก็สามารถใช้องค์ความรู้เกี่ยวกับ Availability Heuristic มาอธิบายได้ เช่นเวลาที่เราเห็นคนในสังคมทำเรื่องฝ่าฝืนกฎหมายบ่อยๆ จะทำให้เกิดอคติในระดับจิตใต้สำนึกว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ยอมรับได้และทำให้มีแนวโน้มว่าเราอาจตัดสินใจกล้าฝ่าฝืนกฎหมายในอนาคต เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าในกระบวนการตัดสินใจของคนเรานั้นมีความซับซ้อนกว่าที่จะใช้กลไกเพียงไม่กี่อย่างมาอธิบาย
The Hekonomist
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=193291480810618&set=a.193291207477312.48022.187186628087770&type=1&theater
ทำไมนักลงทุนแต่ละประเภทจึงต่างมองว่าแนวทางการลงทุนของตัวเองดีที่สุด? มารู้จักการหลงกลอคติเชิงพฤติกรรมกัน
ทำไมบางครั้งพวกเราจึงตัดสินใจผิดพลาดทั้งที่รู้สึกว่ามีข้อมูลและกระบวนการคิดที่ดีแล้ว?
ทำไมนักศึกษาปริญญาเอกทางด้านการเงินหรืออัจฉริยะทางด้านคณิตศาสตร์จึงมีโอกาสทำผิดพลาดในตลาดหุ้น?
ทำไมจำนวนผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านการลงทุนจึงมักเป็นคนส่วนน้อย?
ทำไมเราจึงมักชอบซื้อหุ้นเมื่อราคามันตกลงมาแรงผิดปกติจากราคาที่เคลื่อนไหวก่อนหน้า?
ทำไมนักลงทุนแต่ละประเภทจึงต่างมองว่าแนวทางการลงทุนของตัวเองดีที่สุด?
หรือแม้แต่ทำไมธนาคารกลางสหรัฐและยุโรปจึงให้ความสำคัญกับการสร้างความเชื่อมั่นของตลาดเป็นอันดับแรก?
ความสำเร็จทางด้านการลงทุนไม่ได้แปรผันตามระดับการศึกษา ไอคิว หรือโอกาสเท่านั้น เพราะจากการศึกษาทางด้านจิตวิทยาและสังคมพบว่าการตัดสินใจของมนุษย์เราล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้อิทธิพลของอคติเชิงพฤติกรรมที่ซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึก อคติเหล่านี้ทำให้หลายครั้งมนุษย์ยอมตัดสินใจด้วยข้อมูลที่ไม่ดี หรือทำให้เกิดการไขว้เขวในการประมวลผล
มาทำความรู้จักกับมัน เพื่อรู้เท่าทันตัวเองกันครับ
ลงทุนอย่างไร้เหตุผลเพราะหลงกลอคติเชิงพฤติกรรม ตอนที่ 2 – Availability Heuristic
Availability Heuristic
ในสมองของมนุษย์มีกลไกหนึ่งที่ช่วยลดขั้นตอนการตัดสินใจ โดยกลไกเชิงพฤติกรรมนี้ก็คือการที่สมองจะพยายามประมวลผลผ่านการรับรู้ในอดีตและอาศัยผลลัพธ์ที่เชื่อมโยงกันกับหัวข้อที่กำลังตัดสินใจเป็นตัวช่วยให้สมองตอบสนองเร็วขึ้น เสมือนทำตัวเป็นทางลัดเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการประมวลผล แน่นอนว่าโดยทั่วไปแล้ววิธีสร้างทางลัดของสมองจะมีประโยชน์มากมายเพราะเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์เราจะไตร่ตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วนในทุกเรื่องผ่านข้อมูลที่เข้ามาในสมองอย่างมหาศาล แต่ก็มีเหมือนกันที่กลไกจากพฤติกรรมนี้กลายเป็นกับดักที่ทำให้เกิดอคติในกระบวนการตัดสินใจได้
การสร้างเส้นทางลัดแบบนี้ทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นเพราะบางการรับรู้จดจำในอดีตที่สมองใช้ในการสร้างเส้นทางลัดนั้นอาจไม่ได้มีความสำคัญมากพอต่อสิ่งที่เรากำลังต้องการประมวลผล
ยกตัวอย่างเช่น สมมติมีคนถามคุณว่า “นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีบ้านอยู่ในเขตพญาไทหรือเขตบางกะปิมากกว่ากัน?” ในชั่วขณะของความคิดสมองของคุณจะสั่งให้ประมวลผลผ่านการรับรู้และจดจำในอดีตถึงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องดังนั้นคุณจึงมีความโน้มเอียงที่จะตอบว่าเขตพญาไทเพราะสมองประมวลผลจากตรรกะที่ว่ามหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์นั้นตั้งอยู่ในเขตปทุมวันซึ่งใกล้กับพญาไทมากกว่า และยอมเดาจากข้อมูลที่ไม่เพียงพอ (ทั้งๆ ที่โดยปกติคุณเป็นคนรอบคอบกว่านั้น) โดยหลงคิดว่าข้อมูลที่มีอยู่ดีพอจะใช้วิเคราะห์คำตอบในกระบวนการตัดสินใจได้
สิ่งที่ถูกต้องจากตัวอย่างดังกล่าวจึงควรจะเป็นการตัดสินใจยอมรับว่า “ไม่รู้” เพราะไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ หลายครั้งเราจึงตัดสินใจผิดพลาดเพราะคิดว่า “รู้” ผ่านจุดอ่อนของทางลัดในสมองนี้เอง
ตัวอย่างในเรื่องของการลงทุนก็มีพบให้เห็นได้บ่อยๆ เช่น เวลาที่เราเปิดรายการที่มีนักวิเคราะห์หุ้นหรือนักวิเคราะห์เศรษฐกิจมาบรรยาย สมมติว่าขณะนั้นเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังไปได้ดี สมองเรามักจะคล้อยตามสิ่งที่นักวิเคราะห์พูดในแง่บวกมากกว่านักวิเคราะห์ที่พูดในแง่ลบจนอาจนำไปสู่การเสพข้อมูลและให้น้ำหนักข้อมูลที่ผิดพลาดตั้งแต่ต้นนั่นเอง หรือแม้แต่ในการประชาสัมพันธ์รายการ การเปิดตัวหนังสือ อันดับแรกที่เรามักจะเห็นพิธีกรรายการทำคือการพยายามพูดถึงความสำเร็จในอดีตของวิทยากรที่มาบรรยาย หรือหากไม่มีความสำเร็จส่วนตัวที่ชัดเจนพิธีกรก็จะพยายามชี้นำผ่านหลักฐานด้านอื่น เช่น การเกิดในตระกูลที่ประสบความสำเร็จ การมีการศึกษาสูง หรือการมีทรัพย์สมบัติจำนวนมากแทน เพื่อให้ผู้ชมรายการสร้างทางลัดในสมองให้คล้อยตามในสิ่งที่รายการอยากนำเสนอได้ง่ายขึ้น
นอกจากนั้น การศึกษาในแง่มุมของการตัดสินใจเรื่องศีลธรรมก็สามารถใช้องค์ความรู้เกี่ยวกับ Availability Heuristic มาอธิบายได้ เช่นเวลาที่เราเห็นคนในสังคมทำเรื่องฝ่าฝืนกฎหมายบ่อยๆ จะทำให้เกิดอคติในระดับจิตใต้สำนึกว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ยอมรับได้และทำให้มีแนวโน้มว่าเราอาจตัดสินใจกล้าฝ่าฝืนกฎหมายในอนาคต เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าในกระบวนการตัดสินใจของคนเรานั้นมีความซับซ้อนกว่าที่จะใช้กลไกเพียงไม่กี่อย่างมาอธิบาย
The Hekonomist
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=193291480810618&set=a.193291207477312.48022.187186628087770&type=1&theater