ดราม่าเขาพระวิหาร ความคิดแคบๆ ของพวก "ชาตินิยมสุดขั้ว" (ทำไมไม่เอาแบบสหภาพยุโรปบ้าง?)
เรื่องพื้นที่เขาพระวิหาร 4.6 ตร.กม สุดท้ายก็คงเป็นปัญหาทางการเมืองไทยอีก
เพราะมีคนบางกลุ่มพยายามที่จะให้มันเป็นปัญหาในทางการเมืองให้ได้
โดยมีความคิดว่า คนโน้นคนนี้ทรยศชาติ ทำให้เสียดินแดน อะไรวุ่นวายไปโน้น
สุดท้ายก็คงแก้ปัญหาอะไรไม่ได้หรอก เพราะพวกที่เคลื่อนไหวส่วนใหญ่ก็มี
Agenda ส่วนตัวทางการเมืองทั้งสิ้น
เรื่องเขาพระวิหาร หากใครไปดูคำตัดสินศาลโลก ไม่คิดเข้าข้างตนเอง
และหากไม่ใช่ "คนไทย" แล้วก็คงจะมองเห็นชัดเจนว่า ศาลโลกตัดสินชัดเจน
ไม่มีพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร./กม. แต่อย่างใด มีแต่คนไทยตั้งแต่ยุคสฤกดิ์มาแล้วที่ตั้งเรื่อง
"หลอกกันเอง" ว่ามีพื้นที่ทับซ้อน แต่ไม่กล้าเอาขึ้นศาลโลกอีก เพราะมันชัดยิ่งกว่าชัด
ตัดสินกี่ครั้งมันเป็นของเขมรอยู่นั่นแหละ
แต่ลัทธิชาตินิยมสุดขั้ว ทำให้เราไม่สามารถพูดอย่างอื่นที่มีเหตุมีผลได้
จะต้องออกมาเย้วๆ เอาแผ่นดินตรูคืนมา!!! เป็นบ้าเป็นหลัง อะไรอย่างนี้ได้อย่างเดียว
ก่อนส่งครามโลกครั้งที่ 2 ลัทธิชาตินิยมสุดขั้วนี้ก็ทำให้ยุโรปรบกันตายหลายสิบล้านคนมาแล้ว
ก็ทะเลาะกันเรื่องดินแดนนี่แหละ สงครามโลกครั้งที่ 1 ตาย 60 ล้านคน สงครามโลกครั้งที่ 2
ตายประมาณ 70 ล้านคน รบเพราะแย่งแผ่นดินกันตายเป็นเบื่อ
สุดท้าย ในวันนี้ ยุโรปก็รวมกันเป็น "สหภาพยุโรป EU" รุ่นลูกหลานเดินข้ามพรมแดนกัน
โดยไม่ต้องมีวีซ่า ทำงานกันในประเทศใดก็ได้ จนดินแดนไม่มีความหมายอะไรในทางภูมิศาสตร์
เป็นแต่เพียง เส้นแบ่งแยกว่าจะเก็บภาษีกันอย่างไรเท่านั้นเอง
คนยุโรปยุคใหม่นี้ "เป็นพวกขายชาติ" ทรยศชาติ ในสายตาของคนรุ่นปู่ย่าที่เอาเลือด
ทาแผ่นดินรบกันตายเป็นเบือ หรือเปล่า? อันที่จริงมันไม่ได้มีอะไรมากมายมากกว่า
"ความคิดความเชื่อทางอุดมการณ์" ในสมองของคนหรอก
คนยุโรปยุคใหม่มีความคิดแบบ "สหภาพ" หรือ Union หมายถึงความร่วมมือกัน
ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เรื่องดินแดนเป็นเรื่องสมมุติ เลยไม่มีประเทศยุโรปยุคนี้
ทะเลาะกันเรื่องพรมแดนอีก จนทำให้ สหภาพยุโรป ได้รับรางวัล "โนเบล"
สาขา สันติภาพ ปี 2012
ประเทศอาเซียนเราก็มีแนวคิดเรื่องสหภาพ ก็คือ ASEAN Economic Commumity
หรือ AEC ที่กำลังดังอยู่ในขณะนี้ ในขณะที่คนไทยอีกส่วนทวงดินแดน เขาพระวิหาร
"เอาของตรูคืนมา ๆ ๆ ๆ" แบบไม่ใช้สมอง อะไรประมาณนี้ ที่จริงถ้าเลิกคิดเรื่องชาตินิยม
ไม่ต้องคุยกันเรื่องนี้ ปล่อยมันให้คลุมเครืออยู่อย่างนั้น ไม่มีใครได้ใครเสีย
และพัฒนาร่วมกัน ก็เกิดสันติภาพ ได้ประโยชน์ทั้งสองประเทศ
แต่พวก "ชาตินิยมสุดขั้ว" มันไม่ยอม มันบ้า มันคลั่ง
ยังมีพื้นที่ทับซ้อนในทะเล 14,000 ตร.กม. ที่ไทยยังตกลงกับเขมรไม่ได้
(คงไม่มีทางตกลงได้อยู่แล้ว) แต่มีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมหาศาล
ใครก็ขุดเจาะไม่ได้ (เดี่ยวโดนกองทัพเรืออีกฝ่ายยิง ใครจะกล้าลงทุน)
หากพัฒนาร่วมกันแบบพื้นที่ทับซ้อนไทยมาเลเซีย เราก็คงได้ก๊าซธรรมชาติมาใช้
อีกมหาศาล แม้จะซื้อเอาก็ตาม แต่กำไรก็แบ่งกับเขมร แต่ก๊าซฯ เราได้ใช้ มาเพิ่ม
ความมั่นคงด้านพลังงานให้เราอีก 20-30 ปี ไม่ต้องมีนิวเคลียร์
แต่คุยกันไม่ได้ เพราะไอ่พวกคลั่งชาติมันก็ต้องปลุกกระแส ทักษิณซูเอี๋ยฮุนเซนอีก
พวกคลั่งชาติคือ พวกถ่วงความเจริญของชาติ ของมนุษย์ ของโลกอย่างแท้จริง
ทีภาคใต้มันจะให้กลืนชาติเขา ไม่ยอมให้คิดวิธีอื่นแก้ปัญหา ต้องฆ่ากันให้ตายหมดแผ่นดิน
เมื่อความคลั่งชาติเข้าครอบงำ สติเหตุผลและความเป็นมนุษย์ ก็หายไป เหลือแต่ชาติตรู
ชาติอื่นฆ่าทิ้งให้หมด เหลือแต่ประเทศของตรูดีเลิศเป็นเต้ยในปฐพี โดดเดี่ยว ไร้มิตรประเทศ
เช่นนั้นหรือ...ที่พวกเราต้องการ?????
ดราม่าเขาพระวิหาร ความคิดแคบๆ ของพวก "ชาตินิยมสุดขั้ว" (ทำไมไม่เอาแบบสหภาพยุโรปบ้าง?)
เรื่องพื้นที่เขาพระวิหาร 4.6 ตร.กม สุดท้ายก็คงเป็นปัญหาทางการเมืองไทยอีก
เพราะมีคนบางกลุ่มพยายามที่จะให้มันเป็นปัญหาในทางการเมืองให้ได้
โดยมีความคิดว่า คนโน้นคนนี้ทรยศชาติ ทำให้เสียดินแดน อะไรวุ่นวายไปโน้น
สุดท้ายก็คงแก้ปัญหาอะไรไม่ได้หรอก เพราะพวกที่เคลื่อนไหวส่วนใหญ่ก็มี
Agenda ส่วนตัวทางการเมืองทั้งสิ้น
เรื่องเขาพระวิหาร หากใครไปดูคำตัดสินศาลโลก ไม่คิดเข้าข้างตนเอง
และหากไม่ใช่ "คนไทย" แล้วก็คงจะมองเห็นชัดเจนว่า ศาลโลกตัดสินชัดเจน
ไม่มีพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร./กม. แต่อย่างใด มีแต่คนไทยตั้งแต่ยุคสฤกดิ์มาแล้วที่ตั้งเรื่อง
"หลอกกันเอง" ว่ามีพื้นที่ทับซ้อน แต่ไม่กล้าเอาขึ้นศาลโลกอีก เพราะมันชัดยิ่งกว่าชัด
ตัดสินกี่ครั้งมันเป็นของเขมรอยู่นั่นแหละ
แต่ลัทธิชาตินิยมสุดขั้ว ทำให้เราไม่สามารถพูดอย่างอื่นที่มีเหตุมีผลได้
จะต้องออกมาเย้วๆ เอาแผ่นดินตรูคืนมา!!! เป็นบ้าเป็นหลัง อะไรอย่างนี้ได้อย่างเดียว
ก่อนส่งครามโลกครั้งที่ 2 ลัทธิชาตินิยมสุดขั้วนี้ก็ทำให้ยุโรปรบกันตายหลายสิบล้านคนมาแล้ว
ก็ทะเลาะกันเรื่องดินแดนนี่แหละ สงครามโลกครั้งที่ 1 ตาย 60 ล้านคน สงครามโลกครั้งที่ 2
ตายประมาณ 70 ล้านคน รบเพราะแย่งแผ่นดินกันตายเป็นเบื่อ
สุดท้าย ในวันนี้ ยุโรปก็รวมกันเป็น "สหภาพยุโรป EU" รุ่นลูกหลานเดินข้ามพรมแดนกัน
โดยไม่ต้องมีวีซ่า ทำงานกันในประเทศใดก็ได้ จนดินแดนไม่มีความหมายอะไรในทางภูมิศาสตร์
เป็นแต่เพียง เส้นแบ่งแยกว่าจะเก็บภาษีกันอย่างไรเท่านั้นเอง
คนยุโรปยุคใหม่นี้ "เป็นพวกขายชาติ" ทรยศชาติ ในสายตาของคนรุ่นปู่ย่าที่เอาเลือด
ทาแผ่นดินรบกันตายเป็นเบือ หรือเปล่า? อันที่จริงมันไม่ได้มีอะไรมากมายมากกว่า
"ความคิดความเชื่อทางอุดมการณ์" ในสมองของคนหรอก
คนยุโรปยุคใหม่มีความคิดแบบ "สหภาพ" หรือ Union หมายถึงความร่วมมือกัน
ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เรื่องดินแดนเป็นเรื่องสมมุติ เลยไม่มีประเทศยุโรปยุคนี้
ทะเลาะกันเรื่องพรมแดนอีก จนทำให้ สหภาพยุโรป ได้รับรางวัล "โนเบล"
สาขา สันติภาพ ปี 2012
ประเทศอาเซียนเราก็มีแนวคิดเรื่องสหภาพ ก็คือ ASEAN Economic Commumity
หรือ AEC ที่กำลังดังอยู่ในขณะนี้ ในขณะที่คนไทยอีกส่วนทวงดินแดน เขาพระวิหาร
"เอาของตรูคืนมา ๆ ๆ ๆ" แบบไม่ใช้สมอง อะไรประมาณนี้ ที่จริงถ้าเลิกคิดเรื่องชาตินิยม
ไม่ต้องคุยกันเรื่องนี้ ปล่อยมันให้คลุมเครืออยู่อย่างนั้น ไม่มีใครได้ใครเสีย
และพัฒนาร่วมกัน ก็เกิดสันติภาพ ได้ประโยชน์ทั้งสองประเทศ
แต่พวก "ชาตินิยมสุดขั้ว" มันไม่ยอม มันบ้า มันคลั่ง
ยังมีพื้นที่ทับซ้อนในทะเล 14,000 ตร.กม. ที่ไทยยังตกลงกับเขมรไม่ได้
(คงไม่มีทางตกลงได้อยู่แล้ว) แต่มีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมหาศาล
ใครก็ขุดเจาะไม่ได้ (เดี่ยวโดนกองทัพเรืออีกฝ่ายยิง ใครจะกล้าลงทุน)
หากพัฒนาร่วมกันแบบพื้นที่ทับซ้อนไทยมาเลเซีย เราก็คงได้ก๊าซธรรมชาติมาใช้
อีกมหาศาล แม้จะซื้อเอาก็ตาม แต่กำไรก็แบ่งกับเขมร แต่ก๊าซฯ เราได้ใช้ มาเพิ่ม
ความมั่นคงด้านพลังงานให้เราอีก 20-30 ปี ไม่ต้องมีนิวเคลียร์
แต่คุยกันไม่ได้ เพราะไอ่พวกคลั่งชาติมันก็ต้องปลุกกระแส ทักษิณซูเอี๋ยฮุนเซนอีก
พวกคลั่งชาติคือ พวกถ่วงความเจริญของชาติ ของมนุษย์ ของโลกอย่างแท้จริง
ทีภาคใต้มันจะให้กลืนชาติเขา ไม่ยอมให้คิดวิธีอื่นแก้ปัญหา ต้องฆ่ากันให้ตายหมดแผ่นดิน
เมื่อความคลั่งชาติเข้าครอบงำ สติเหตุผลและความเป็นมนุษย์ ก็หายไป เหลือแต่ชาติตรู
ชาติอื่นฆ่าทิ้งให้หมด เหลือแต่ประเทศของตรูดีเลิศเป็นเต้ยในปฐพี โดดเดี่ยว ไร้มิตรประเทศ
เช่นนั้นหรือ...ที่พวกเราต้องการ?????