กรมการค้าภายในการันตี 3เดือน ไม่มีสินค้าปรับราคา เบรกปลากระป๋องห้ามขึ้นราคายันมีสต็อกเก่าถึง 3 เดือน เผยผลกระทบค่าแรง ส่งผลราคาสินค้ากลุ่มผักสดจากค่าขนส่งเพียง0.35-0.8% ย้ำอาหารจานด่วนไม่ควรปรับราคาเกินจานละ 1 บาท "บุญทรง"ถกกกร.วันนี้ ดึงผลปาล์มดิบสินค้าควบคุม เตรียมจับบริการบำรุงรักษารถยนต์เป็นบริการควบคุม คุ้มเข้มก่อนประชาชนถูกเอาเปรียบ หลังยอดรถคันแรกพุ่งกระฉูด
จากการติดตามผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทที่มีผลทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบเฉพาะอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก อาทิ อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ไม่ได้เป็นกลุ่มสินค้าที่กระทบกับค่าครองชีพเป็นหลัก
น.ส.วิบูลลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่าเท่าที่ได้หารือกับผู้ประกอบการในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ยืนยันตรงกันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพในช่วง 3 เดือนนี้เด็ดขาด เมื่อคำนวณการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกับต้นทุนในการผลิตสินค้าต่อหน่วย พบว่าสินค้ากลุ่มผักสดได้รับผลกระทบจากต้นทุนเพิ่มขึ้นสูงสุดจากค่าขนส่ง 0.35-0.8% ขณะที่สินค้ากลุ่มอื่นๆจะมีสัดส่วนต้นทุนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยตั้งแต่ 0.5-80 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น ส่วนสินค้ากลุ่มโปรตีนทั้ง ไก่สด หมู และไข่ไก่ ในปีนี้มีแนวโน้มราคาอ่อนตัว จากปริมาณผลผลิตมากกว่าความต้องการ ทำให้สินค้ากลุ่มอาหารโดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปไม่ควรจะปรับเพิ่มขึ้นเกินจานละ 1 บาท เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ปรับตัวเพื่อลดต้นทุนเรื่องอื่นๆ ทดแทนการปรับขึ้นค่าแรง
โดยวันนี้ (9ม.ค.)จะมีการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มีนายบุญทรง เตริยมภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อประชุมทบทวนและสรุปรายการสินค้าอุปโภคและบริโภครวมถึงธุรกิจบริการว่าในปีนี้จะกำหนดให้มีสินค้าควบคุมเพิ่มขึ้นหรือลดลง
กกร.หารือดึงผลปาล์มดิบสินค้าควบคุม
นอกจากนี้ จะมีการหารือเพื่อนำสินค้าผลปาล์มดิบมาเป็นสินค้าควบคุม เพื่อดูแลราคาให้มีเสถียรภาพในระยะยาว แต่ยังต้องรอมติของ กกร. ก่อนนำเสนอรายงานต่อที่ประชุมครม.เห็นชอบต่อไป
ไม่จำเป็นต้องนำประเด็นการปรับค่าแรง มาพิจารณาเพิ่ม เพราะมีหลักเกณฑ์การกำหนดรายการสินค้าควบคุมไว้อยู่แล้วคือ ต้องเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน มีโครงสร้างต้นทุนและความเสียงที่อาจมีการฉวยโอกาสปรับราคาหรือทำให้สินค้าขาดตลาด
ทั้งนี้กรมฯกำลังพิจารณาการนำบริการบำรุงรักษารถยนต์มาเป็นสินค้าควบคุม เพราะหลังจากมีนโยบายรถยนต์คันแรก ทำให้มีรถยนต์จำนวนมากขึ้น และหลังจากนี้ต้องมีความต้องการบริการดังกล่าวเพิ่มขึ้น จึงควรกำหนดแนวทางดูแลบริการนี้ไว้ให้ชัดเจนป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกเอาเปรียบ
“ตอนนี้มีกำหนดระเบียบการดูแลสินค้าบริการบำรุงรักษารถยนต์ ไว้แล้วแต่ด้วยสินค้านี้มีรายละเอียดมากจึงต้องศึกษากรอบการดูแลเพิ่มเติมอีกให้ชัดเจน คาดจากนี้ไปความต้องการจะเพิ่มขึ้นหลังประชาชนใช้สิทธิ์นโยบายรถคันแรกจำนวนมาก” นางสาววิบูลย์ลักษณ์ กล่าว
เบรกปลากระป๋องขึ้นราคายันสต็อก3เดือน
ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการปลากระป๋องเตรียมยื่นขอปรับขึ้นราคาจากผลกระทบค่าแรงนั้น จากการตรวจสอบพบว่ายังไม่มีผู้ประกอบการรายใดจะขอยื่นปรับราคาเข้ามา ที่สำคัญมองว่ากลุ่มผู้ประกอบการปลากระป๋องส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีการปรับขึ้นค่าแรงไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2555 ยังมีสต็อกสินค้าล่วงหน้าอีก 3 เดือน จึงมั่นใจว่าในช่วง 3 เดือนนี้จะยังไม่มีสินค้ารายใดยื่นขอปรับขึ้นราคา
อย่างไรก็ตาม วันที่ 11 ม.ค.นี้ นายบุญทรง จะเป็นประธานปล่อยคาราวานรถธงฟ้าไปยังจุดต่างๆ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะในเขตนิคมอุตสาหกรรมหรือในแหล่งชุมชน จะเน้นให้บริการรถโมบายเคลื่อนที่ 10 สาย/วัน เน้นจำหน่ายสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและอื่นๆ โครงการนี้มีระยะเวลา 3 เดือน หากสถานประกอบการใดต้องการให้ร้านค้าถูกใจเข้าไปให้บริการก็สามารถติดต่อมายังกรมการค้าภายในได้
ร้องรัฐหาแนวทางช่วยลดปัญหาค่าแรง
ด้านนายวีระพงษ์ เหล่าวานิช รองประธานกรรมการ บริษัท อุตสาหกรรมไทยปรีดา จำกัด ผู้ผลิตน้ำปลา-ซอสปรุงรส "ราชา" กล่าวว่าช่วงปีที่ผ่านมา ได้ปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานบางส่วนตามเปอร์เซ็นต์ของนโยบายภาครัฐมาแล้ว แต่ครั้งนี้ถือเป็นการปรับขึ้นค่าแรงเป็นครั้่งที่ 2 โดยปรับเพิ่มจากวันละ 260-280 บาท เป็น 300 บาท ซึ่งกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าทันที ประมาณ 20% เพราะต้องปรับขั้นค่าจ้างทั้งลูกจ้างประจำและรายวัน โดยเฉพาะต้นทุนค่าจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ปรับขึ้นสูงกว่าพนักงานทั่วไปในโรงงาน
ในส่วนของโรงงานผลิตปัจจุบันที่มีอยู่ 2 แห่ง ที่จังหวัดชลบุรีและอุบลราชธานี ยังคงผลิตเหมือนเดิม บริษัทไม่มีนโยบายปลดหรือลดพนักงาน แต่ได้เพิ่มเวลาและกะในกระบวนการผลิต แต่จะให้พนักงานระดับแรงงานมีฝีมือพัฒนาศักยภาพ และลดการสูญเสียต่างๆ ในกระบวนการผลิตให้น้อยที่สุด ขณะเดียวกันประชาชนไม่ต้องกังวลว่าจะมีการปรับราคาสินค้า เนื่องจากน้ำปลาเป็นสินค้าควบคุมราคา
"ภาครัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มากขึ้น ที่ผ่านมาต้องช่วยเหลือตัวเองมาตลอด ที่ผ่านมาได้ยื่นขอปรับขึ้นราคาสินค้าแต่ภาครัฐก็ไม่ให้ปรับราคา อ้างว่าน้ำปลาเป็นสินค้าสำหรับคนจน " นายวีระพงษ์ กล่าว
ค้าปลีกภูธรคาดไม่เกิน2เดือนสินค้าขยับราคา
คำยืนยันของผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ที่ออกมากล่าวว่าในช่วงนี้ราคาสินค้าจะไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น พร้อมระบุว่ายังไม่มีผู้ประกอบการขอปรับราคาสินค้าเข้ามา ค่อนข้างสวนทางกับผู้ค้าปลีกเอกชน เนื่องจาก กลุ่มค้าปลีกภูธร มองแนวโน้มราคาสินค้าจากนี้ไปว่าจะปรับราคาขึ้นอีกระลอกแน่นอนใน 2 เดือนข้างหน้า หลังจากบรรดาซัพพลายเออร์ผู้ผลิตสินค้าต่างเผชิญปัญหา 2 ทาง ทั้งการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาททัวประเทศ และการขึ้นค่าไฟ แต่รูปแบบการปรับราคา อาจมีการเลี่ยงใช้วิธีลดปริมาณลง และขยับราคาสินค้าไปพร้อมๆ กัน
นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตั้งงี่สุนซุปเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้ประกอบ การค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าอุปโภค-บริโภครายใหญ่ในจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่าต้นทุนจากค่าแรง 300 บาทที่เพิ่มขึ้น และค่าไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้ากลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภค เริ่มทะยอยปรับราคาขึ้นภายในเดือนก.พ.-มี.ค.นี้แน่นอน
“เริ่มมีสัญญาณปรับราคาสินค้ามาตั้งแต่ปลายปี ซัพพลายเออร์ได้ปรับลดงบการตลาดส่งเสริมการขายที่ให้กับร้านค้าส่งลง 2-3% เมื่อรัฐบาลไม่ให้ขึ้นราคา ทำให้หันมาใช้วิธีการกลไกตลาดต่อสู้กัน" นายมิลินทร์ กล่าว
สำหรับรายการสินค้าที่ทยอยปรับขึ้นราคาบ้างแล้ว เช่น น้ำยาล้างจาน ได้มีการปรับลดปริมาณบรรจุภัณฑ์จาก 700 ซีซี ลงเป็น 600 ซีซี และ 550 ซีซี แต่ขยับราคาขายจาก 16-17 บาท เป็น 26 บาท ส่วนการปรับราคาน้ำอัดลมบางยี่ห้อชนิดกระเป๋าขนาด 325 มล. จากราคา 12 บาทขึ้นเป็น 15 บาท ส่วนกาแฟทรีอินวัน ได้ปรับราคาขายและปริมาณ จากปีที่ผ่านมา 30 ซอง ขายในราคา 85 บาท ปรับลดเหลือ27ซอง ราคา 95 บาท
นายมิลินทร์ กล่าวว่าการปรับราคาครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นนี้ เพราะปีที่ผ่านมามีสัญญาณชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มราคาสินค้าที่จะปรับเพิ่มขึ้น โดยซัพพลายเออร์ที่เผชิญกับต้นทุนด้านขนส่ง ใช้วิธีการปรับปริมาณสินค้าลดลงแต่ขายในราคาเดิมรวมถึงทะยอยปรับราคาสินค้าขึ้น
กรุงเทพธุรกิจ
พาณิชย์ถกเพิ่มสินค้าควบคุม ยัน 3 เดือนไม่ปรับราคา
จากการติดตามผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทที่มีผลทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบเฉพาะอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก อาทิ อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้ไม่ได้เป็นกลุ่มสินค้าที่กระทบกับค่าครองชีพเป็นหลัก
น.ส.วิบูลลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่าเท่าที่ได้หารือกับผู้ประกอบการในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ยืนยันตรงกันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพในช่วง 3 เดือนนี้เด็ดขาด เมื่อคำนวณการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกับต้นทุนในการผลิตสินค้าต่อหน่วย พบว่าสินค้ากลุ่มผักสดได้รับผลกระทบจากต้นทุนเพิ่มขึ้นสูงสุดจากค่าขนส่ง 0.35-0.8% ขณะที่สินค้ากลุ่มอื่นๆจะมีสัดส่วนต้นทุนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยตั้งแต่ 0.5-80 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น ส่วนสินค้ากลุ่มโปรตีนทั้ง ไก่สด หมู และไข่ไก่ ในปีนี้มีแนวโน้มราคาอ่อนตัว จากปริมาณผลผลิตมากกว่าความต้องการ ทำให้สินค้ากลุ่มอาหารโดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปไม่ควรจะปรับเพิ่มขึ้นเกินจานละ 1 บาท เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ปรับตัวเพื่อลดต้นทุนเรื่องอื่นๆ ทดแทนการปรับขึ้นค่าแรง
โดยวันนี้ (9ม.ค.)จะมีการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มีนายบุญทรง เตริยมภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อประชุมทบทวนและสรุปรายการสินค้าอุปโภคและบริโภครวมถึงธุรกิจบริการว่าในปีนี้จะกำหนดให้มีสินค้าควบคุมเพิ่มขึ้นหรือลดลง
กกร.หารือดึงผลปาล์มดิบสินค้าควบคุม
นอกจากนี้ จะมีการหารือเพื่อนำสินค้าผลปาล์มดิบมาเป็นสินค้าควบคุม เพื่อดูแลราคาให้มีเสถียรภาพในระยะยาว แต่ยังต้องรอมติของ กกร. ก่อนนำเสนอรายงานต่อที่ประชุมครม.เห็นชอบต่อไป
ไม่จำเป็นต้องนำประเด็นการปรับค่าแรง มาพิจารณาเพิ่ม เพราะมีหลักเกณฑ์การกำหนดรายการสินค้าควบคุมไว้อยู่แล้วคือ ต้องเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน มีโครงสร้างต้นทุนและความเสียงที่อาจมีการฉวยโอกาสปรับราคาหรือทำให้สินค้าขาดตลาด
ทั้งนี้กรมฯกำลังพิจารณาการนำบริการบำรุงรักษารถยนต์มาเป็นสินค้าควบคุม เพราะหลังจากมีนโยบายรถยนต์คันแรก ทำให้มีรถยนต์จำนวนมากขึ้น และหลังจากนี้ต้องมีความต้องการบริการดังกล่าวเพิ่มขึ้น จึงควรกำหนดแนวทางดูแลบริการนี้ไว้ให้ชัดเจนป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกเอาเปรียบ
“ตอนนี้มีกำหนดระเบียบการดูแลสินค้าบริการบำรุงรักษารถยนต์ ไว้แล้วแต่ด้วยสินค้านี้มีรายละเอียดมากจึงต้องศึกษากรอบการดูแลเพิ่มเติมอีกให้ชัดเจน คาดจากนี้ไปความต้องการจะเพิ่มขึ้นหลังประชาชนใช้สิทธิ์นโยบายรถคันแรกจำนวนมาก” นางสาววิบูลย์ลักษณ์ กล่าว
เบรกปลากระป๋องขึ้นราคายันสต็อก3เดือน
ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการปลากระป๋องเตรียมยื่นขอปรับขึ้นราคาจากผลกระทบค่าแรงนั้น จากการตรวจสอบพบว่ายังไม่มีผู้ประกอบการรายใดจะขอยื่นปรับราคาเข้ามา ที่สำคัญมองว่ากลุ่มผู้ประกอบการปลากระป๋องส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีการปรับขึ้นค่าแรงไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2555 ยังมีสต็อกสินค้าล่วงหน้าอีก 3 เดือน จึงมั่นใจว่าในช่วง 3 เดือนนี้จะยังไม่มีสินค้ารายใดยื่นขอปรับขึ้นราคา
อย่างไรก็ตาม วันที่ 11 ม.ค.นี้ นายบุญทรง จะเป็นประธานปล่อยคาราวานรถธงฟ้าไปยังจุดต่างๆ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะในเขตนิคมอุตสาหกรรมหรือในแหล่งชุมชน จะเน้นให้บริการรถโมบายเคลื่อนที่ 10 สาย/วัน เน้นจำหน่ายสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและอื่นๆ โครงการนี้มีระยะเวลา 3 เดือน หากสถานประกอบการใดต้องการให้ร้านค้าถูกใจเข้าไปให้บริการก็สามารถติดต่อมายังกรมการค้าภายในได้
ร้องรัฐหาแนวทางช่วยลดปัญหาค่าแรง
ด้านนายวีระพงษ์ เหล่าวานิช รองประธานกรรมการ บริษัท อุตสาหกรรมไทยปรีดา จำกัด ผู้ผลิตน้ำปลา-ซอสปรุงรส "ราชา" กล่าวว่าช่วงปีที่ผ่านมา ได้ปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานบางส่วนตามเปอร์เซ็นต์ของนโยบายภาครัฐมาแล้ว แต่ครั้งนี้ถือเป็นการปรับขึ้นค่าแรงเป็นครั้่งที่ 2 โดยปรับเพิ่มจากวันละ 260-280 บาท เป็น 300 บาท ซึ่งกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าทันที ประมาณ 20% เพราะต้องปรับขั้นค่าจ้างทั้งลูกจ้างประจำและรายวัน โดยเฉพาะต้นทุนค่าจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ปรับขึ้นสูงกว่าพนักงานทั่วไปในโรงงาน
ในส่วนของโรงงานผลิตปัจจุบันที่มีอยู่ 2 แห่ง ที่จังหวัดชลบุรีและอุบลราชธานี ยังคงผลิตเหมือนเดิม บริษัทไม่มีนโยบายปลดหรือลดพนักงาน แต่ได้เพิ่มเวลาและกะในกระบวนการผลิต แต่จะให้พนักงานระดับแรงงานมีฝีมือพัฒนาศักยภาพ และลดการสูญเสียต่างๆ ในกระบวนการผลิตให้น้อยที่สุด ขณะเดียวกันประชาชนไม่ต้องกังวลว่าจะมีการปรับราคาสินค้า เนื่องจากน้ำปลาเป็นสินค้าควบคุมราคา
"ภาครัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มากขึ้น ที่ผ่านมาต้องช่วยเหลือตัวเองมาตลอด ที่ผ่านมาได้ยื่นขอปรับขึ้นราคาสินค้าแต่ภาครัฐก็ไม่ให้ปรับราคา อ้างว่าน้ำปลาเป็นสินค้าสำหรับคนจน " นายวีระพงษ์ กล่าว
ค้าปลีกภูธรคาดไม่เกิน2เดือนสินค้าขยับราคา
คำยืนยันของผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ที่ออกมากล่าวว่าในช่วงนี้ราคาสินค้าจะไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น พร้อมระบุว่ายังไม่มีผู้ประกอบการขอปรับราคาสินค้าเข้ามา ค่อนข้างสวนทางกับผู้ค้าปลีกเอกชน เนื่องจาก กลุ่มค้าปลีกภูธร มองแนวโน้มราคาสินค้าจากนี้ไปว่าจะปรับราคาขึ้นอีกระลอกแน่นอนใน 2 เดือนข้างหน้า หลังจากบรรดาซัพพลายเออร์ผู้ผลิตสินค้าต่างเผชิญปัญหา 2 ทาง ทั้งการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาททัวประเทศ และการขึ้นค่าไฟ แต่รูปแบบการปรับราคา อาจมีการเลี่ยงใช้วิธีลดปริมาณลง และขยับราคาสินค้าไปพร้อมๆ กัน
นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตั้งงี่สุนซุปเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้ประกอบ การค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าอุปโภค-บริโภครายใหญ่ในจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่าต้นทุนจากค่าแรง 300 บาทที่เพิ่มขึ้น และค่าไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้ากลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภค เริ่มทะยอยปรับราคาขึ้นภายในเดือนก.พ.-มี.ค.นี้แน่นอน
“เริ่มมีสัญญาณปรับราคาสินค้ามาตั้งแต่ปลายปี ซัพพลายเออร์ได้ปรับลดงบการตลาดส่งเสริมการขายที่ให้กับร้านค้าส่งลง 2-3% เมื่อรัฐบาลไม่ให้ขึ้นราคา ทำให้หันมาใช้วิธีการกลไกตลาดต่อสู้กัน" นายมิลินทร์ กล่าว
สำหรับรายการสินค้าที่ทยอยปรับขึ้นราคาบ้างแล้ว เช่น น้ำยาล้างจาน ได้มีการปรับลดปริมาณบรรจุภัณฑ์จาก 700 ซีซี ลงเป็น 600 ซีซี และ 550 ซีซี แต่ขยับราคาขายจาก 16-17 บาท เป็น 26 บาท ส่วนการปรับราคาน้ำอัดลมบางยี่ห้อชนิดกระเป๋าขนาด 325 มล. จากราคา 12 บาทขึ้นเป็น 15 บาท ส่วนกาแฟทรีอินวัน ได้ปรับราคาขายและปริมาณ จากปีที่ผ่านมา 30 ซอง ขายในราคา 85 บาท ปรับลดเหลือ27ซอง ราคา 95 บาท
นายมิลินทร์ กล่าวว่าการปรับราคาครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นนี้ เพราะปีที่ผ่านมามีสัญญาณชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มราคาสินค้าที่จะปรับเพิ่มขึ้น โดยซัพพลายเออร์ที่เผชิญกับต้นทุนด้านขนส่ง ใช้วิธีการปรับปริมาณสินค้าลดลงแต่ขายในราคาเดิมรวมถึงทะยอยปรับราคาสินค้าขึ้น
กรุงเทพธุรกิจ