ก่อนปีใหม่ปี 2556 สักสองสามเดือน ฉันก็เริ่มจะลดน้ำหนัก ทำทุกวิถีทางเหมือนกัน ทั้งไปวิ่งสวนลุมพินี ไปฟิตเนสของสวนลุมเขา แต่ก็ไปไม่กี่ครั้ง รวมถึงเล่นฮูลาฮูปที่บ้าน และก็ยังทานข้าวเหลือมื้อละทัพพี ก็ลดลงไปได้ประมาณ สามโลได้มั้ง ตอนแรกน้ำหนัก 85 ได้ ตอนนี้เหลือ 82 ใช้เวลาประมาณสามเดือนแนะ เฉลี่ยแล้วเดือนละ 1 กิโลเท่านั้นเอง บางครั้งก็ท้อนะ แต่ก็ต้องทำให้ได้ เหมือนกับที่เคยทำได้ เมื่อตอนอายุ 24 ตอนนั้นก็น้ำหนัก 80 กว่าเหมือนกัน และสามารถลดได้ภายในเดือนเดียว เหลือเพียง 50 กิโลกรัม คนเห็นตกใจเลย วิธีการลดตอนนั้นก็คือ วิ่งทุกวัน วันละประมาณ 10 กิโลเมตรได้ และก็ทานน้อย ตอนเย็นทานข้าวต้มกับปลาทูทอดเกือบทุกวัน พอไปวิ่งมาเสร็จ ก็ไปอบไอน้ำแบบโบราณ ทำเอง เอาผ้ามาทำเป็นกระโจม แล้วเอาหม้อต้มน้ำใส่สมุนไพรที่หาง่าย เช่น ตะไคร้ ผักบุ้ง ฯลฯ พอน้ำเดือด ก็ยกลง ต้องปิดฝาหม้อด้วยนะ เสร็จแล้วก็ยกไปในกระโจม เอาเก้าอี้ไปนั่งในกระโจมตัวนึง ตัวเล็ก ไม่ต้องสูงนัก และเอาตัวเราเข้าไปในกระโจม ระวังด้วยนะ น้ำมันร้อน เดี๋ยวมันจะลวกเอาได้ แล้วเราก็ต้องถอดเสื้อผ้าออกให้หมด แล้วนั่งบนเก้าอี้ ค่อย ๆ เปิดฝาหม้อ แล้วเอาการะบูน เพียงหยิบมือใส่ลงไปในหม้อ เพื่อทำให้ตาสว่าง อย่าเปิดฝาหม้อหมดนะ ค่อย ๆ แง้ม ช่วงแรกจะร้อนมาก ก็แง้มน้อยหน่อย แล้วค่อย ๆ เปิดออกให้กว้าง เมื่อระยะเวลาผ่านไป นั่งสักชั่วโมง แต่เดี๋ยวนี้ถ้าทันสมัยหน่อย ก็เข้าตู้อบไอน้ำ หรือห้องซาวน่า จะง่ายกว่า สำหรับคนมีเงิน แต่ถ้าไม่อยากเสียเงิน ก็ทำแบบที่ว่า ประหยัดเงินไปเยอะ เสร็จแล้วก็เอาน้ำที่เราอบนะ ไปผสมกับน้ำเย็น อาบต่อ เราทำอย่างนี้ทุกวัน เดือนหนึ่งลดเลย
แต่คงสัยสัยซิว่า อ้าวแล้วทำไมตอนนี้ลดไม่ได้ ก็มีหลายปัจจัย อายุมากแล้ว เกือบสี่สิบแล้ว สถานที่ไม่อำนวยสำหรับการออกกำลังกาย รวมถึงไม่มีความตั้งใจจริง และอายุมากขึ้น การเผาผลาญไม่สมบูรณ์ ลดยาก สรุปคือ ข้ออ้างเยอะ แต่ก็จะพยายามนะ อยากสวย อย่าได้ความมั่นใจกลับคืนมา อ้วนแล้วดูแก่ หาซื้อเสื้อผ้าก็ยาก เวลาไปซื้อเสื้อผ้านะ เขาบอกต้องเพิ่มเงิน เพราะไซส์พิเศษ 3x จะแพงมาก เอ้า อย่าท้อกันนะจ๊ะ มีประสบการณ์เกี่ยวกับการลดความอ้วน จะมาเขียนให้อ่านอีกนะค๋ะ สวัสดีค่ะ
เราก็กำลังลดน้ำหนักอยู่เหมือนกัน
ก่อนปีใหม่ปี 2556 สักสองสามเดือน ฉันก็เริ่มจะลดน้ำหนัก ทำทุกวิถีทางเหมือนกัน ทั้งไปวิ่งสวนลุมพินี ไปฟิตเนสของสวนลุมเขา แต่ก็ไปไม่กี่ครั้ง รวมถึงเล่นฮูลาฮูปที่บ้าน และก็ยังทานข้าวเหลือมื้อละทัพพี ก็ลดลงไปได้ประมาณ สามโลได้มั้ง ตอนแรกน้ำหนัก 85 ได้ ตอนนี้เหลือ 82 ใช้เวลาประมาณสามเดือนแนะ เฉลี่ยแล้วเดือนละ 1 กิโลเท่านั้นเอง บางครั้งก็ท้อนะ แต่ก็ต้องทำให้ได้ เหมือนกับที่เคยทำได้ เมื่อตอนอายุ 24 ตอนนั้นก็น้ำหนัก 80 กว่าเหมือนกัน และสามารถลดได้ภายในเดือนเดียว เหลือเพียง 50 กิโลกรัม คนเห็นตกใจเลย วิธีการลดตอนนั้นก็คือ วิ่งทุกวัน วันละประมาณ 10 กิโลเมตรได้ และก็ทานน้อย ตอนเย็นทานข้าวต้มกับปลาทูทอดเกือบทุกวัน พอไปวิ่งมาเสร็จ ก็ไปอบไอน้ำแบบโบราณ ทำเอง เอาผ้ามาทำเป็นกระโจม แล้วเอาหม้อต้มน้ำใส่สมุนไพรที่หาง่าย เช่น ตะไคร้ ผักบุ้ง ฯลฯ พอน้ำเดือด ก็ยกลง ต้องปิดฝาหม้อด้วยนะ เสร็จแล้วก็ยกไปในกระโจม เอาเก้าอี้ไปนั่งในกระโจมตัวนึง ตัวเล็ก ไม่ต้องสูงนัก และเอาตัวเราเข้าไปในกระโจม ระวังด้วยนะ น้ำมันร้อน เดี๋ยวมันจะลวกเอาได้ แล้วเราก็ต้องถอดเสื้อผ้าออกให้หมด แล้วนั่งบนเก้าอี้ ค่อย ๆ เปิดฝาหม้อ แล้วเอาการะบูน เพียงหยิบมือใส่ลงไปในหม้อ เพื่อทำให้ตาสว่าง อย่าเปิดฝาหม้อหมดนะ ค่อย ๆ แง้ม ช่วงแรกจะร้อนมาก ก็แง้มน้อยหน่อย แล้วค่อย ๆ เปิดออกให้กว้าง เมื่อระยะเวลาผ่านไป นั่งสักชั่วโมง แต่เดี๋ยวนี้ถ้าทันสมัยหน่อย ก็เข้าตู้อบไอน้ำ หรือห้องซาวน่า จะง่ายกว่า สำหรับคนมีเงิน แต่ถ้าไม่อยากเสียเงิน ก็ทำแบบที่ว่า ประหยัดเงินไปเยอะ เสร็จแล้วก็เอาน้ำที่เราอบนะ ไปผสมกับน้ำเย็น อาบต่อ เราทำอย่างนี้ทุกวัน เดือนหนึ่งลดเลย
แต่คงสัยสัยซิว่า อ้าวแล้วทำไมตอนนี้ลดไม่ได้ ก็มีหลายปัจจัย อายุมากแล้ว เกือบสี่สิบแล้ว สถานที่ไม่อำนวยสำหรับการออกกำลังกาย รวมถึงไม่มีความตั้งใจจริง และอายุมากขึ้น การเผาผลาญไม่สมบูรณ์ ลดยาก สรุปคือ ข้ออ้างเยอะ แต่ก็จะพยายามนะ อยากสวย อย่าได้ความมั่นใจกลับคืนมา อ้วนแล้วดูแก่ หาซื้อเสื้อผ้าก็ยาก เวลาไปซื้อเสื้อผ้านะ เขาบอกต้องเพิ่มเงิน เพราะไซส์พิเศษ 3x จะแพงมาก เอ้า อย่าท้อกันนะจ๊ะ มีประสบการณ์เกี่ยวกับการลดความอ้วน จะมาเขียนให้อ่านอีกนะค๋ะ สวัสดีค่ะ