ปัญหาเรื่องการให้บริการของรถ Taxi ในประเทศไทยน่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้ว ถึงจะมีหลายๆฝ่ายพยายามแก้ไขควบคุมแต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่นัก ผมคิดมาตลอดว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าผู้ให้บริการทุกคนรู้จักคำว่า "จิตสำนึก"
ยอมรับว่าผมเป็นค้นหนึ่งที่ค่อนข้างมีอคติกับคนขับรถ Taxi โดยเฉพาะตามย่านการค้าเช่น มาบุญครอง, สยาม, เซ็นทรัลเวิล คุณจะแทบไม่ได้รับการเหลียวแลจากคนขับเลยถ้าคุณเป็นคนไทย เพราะท่านๆคนขับเหล่านั้นจะยกมือดักควักมือเรียกแต่คนต่างชาติเท่านั้น ผมเคยสงสัยมาตลอดว่ารับแต่ต่างชาติแล้วได้อะไรไม่ได้จ่ายเงินเท่ากันหรือไง จนเมื่อวันก่อนผมก็ได้รู้คำตอบปนความอายนิดๆในฐานะที่เป็นคนไทยที่ได้รับฟังเรื่องราว
เมื่อวันที่ 1 มกราคม เวลาประมาณทุ่มกว่าๆ ผมไปถ่ายรูปไฟที่สยามพาราก้อน และก็เจอกับผู้ชายลักษณะคล้ายๆแขกคนนึงเรียกผมเป็นภาษาอังกฤษบอกว่าช่วยถ่ายรูปให้เค้าหน่อยได้ไหม (ออกตัวก่อนว่าภาษาอังกฤษผมก็ค่อนข้างงูๆปลาๆ) ผมหันกลับไปยิ้มและพยักหน้าตอบรับ เค้าก็ส่งโทรศัพท์ Black berry มาให้ผมถ่ายรูป แต่ก่อนที่ผมจะกดถ่าย BB ก็เตือนขึ้นมาว่าแบตอ่อน เค้าจึงเดินมาหยิบแบตฯสำรองในกระเป๋าเพื่อเปลี่ยนแบตฯใหม่ ถ้าคนที่เคยใช้ BB คงจะรู้ว่ามันใช้เวลาเปิดเครื่องใหม่นานมาก ประมาณ 5-10 นาที
ระหว่างรอนั่นเองเค้าก็เริ่มชวนผมคุยต่างๆนาๆ ก็พอจับใจความได้ว่า เค้าเป็นคนอินโดนีเซีย มาจากจากาต้าร์ มาเที่ยวไทยตั้งแต่วันคริสมาสกับครอบครัวตอนนี้ ลูกกับเมียเค้ากำลังช้อปปิ้งอยู่เค้าเบื่อเลยออกมาเดินดูไฟ บลาๆ (ส่วนใหญ่ผมจะฟังมากกว่า) เค้าบอกว่ากรุงเทพสวยนะ คล้ายๆกับจากาต้าร์แต่กรุงเทพสะอาดกว่า ของที่ไทยก็ถูกกว่าเยอะ แต่ !! ทำไมแท๊กซี่ไทยมีมิเตอร์แต่ไม่ยอมใช้ล่ะ ทำไมจะไปไหนต้องต่อราคา เค้าไม่เข้าใจพลันถามผมว่าเวลาผมขึ้นแท๊กซี่จ่ายตามมิเตอร์มั้ย ผมก็ตอบว่าใช่ เค้ายิ่งบ่นไปใหญ่ว่าที่ อินโดฯ แท๊กซี่เค้ากดมิเตอร์ทุกคันนะแต่ที่เมืองไทยเนี่ยไม่ว่าเค้าจะเรียกจากที่ไหนก็โดนต่อรองราคาตลอด เว้นแต่ให้โรงแรมโทรเรียกให้ถึงได้จ่ายตามมิเตอร์ เค้าเล่าต่อว่าวันก่อนเรียกจากสยามกลับไปโรงแรมดุสิตธานี Taxi บอกราคา 300 บาท !! (แม่จ้าว ผมแทบมุดแผ่นดินหนี - - ) เค้าบอกว่ามันแพงเกินไปวันนี้เค้าเลยเดินมาแค่ 20 นาทีเอง
ดูเค้าจะติดใจเรือง Taxi เพราะพูดเรื่องมิเตอร์หลายรอบมาก ผมจีงตัดสินใจอธิบายเค้าไปด้วยภาษาที่ไม่ค่อยจะแข็งแรง ประมาณว่า "เพราะเค้าเห็นว่าคุณเป็นคนต่างชาติเค้าจึงฉวยโอกาสชาร์จราคาคุณ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดี แต่มันก็ขึ้นอยู่กับคนขับนะบางคนก็ไม่เป็น" (ถ้าภาษาผมดีกว่านี้อยากจะเสริมไปว่า ตรูก็โดนเหมือนกันแถมหนักกว่ายูอีก มันไม่รับพวกตรูคนไทยเลยด้วยซ้ำ @#$@^$%) พอฟังจบผมเห็นเค้าทำหน้าแบบ โอ้ว~ (อารมณ์คงประมาณนี่หรือเมืองพุทธ) ไม่นาน BB ของเค้าก็พร้อมใช้งาน ผมถ่ายรูปให้เค้าเรียบร้อยแล้วเราก็แยกกัน ก่อนลาเค้าก็ยังพูดชมเมืองไทยให้ฟังและบอกว่ารถไฟฟ้าไทยดีมากเค้าชอบ ที่อินโดฯยังไม่มีเลย (เพิ่งรู้แฮะ)
หลังจากแยกมาผมก็คืดถึงเรื่องแท็กซี่ที่เค้าพูดตลอด มันไม่สมควรเลยจริงๆ คนขับบางคนที่มีนิสัยแบบนี้ คุณได้ทำลายความประทับใจดีๆต่อเมืองไทยไปแล้วด้วยความโลภของคุณ ความเห็นแก่ตัวของคุณ ชาวต่างชาติเค้าไม่ได้โง่นะที่ประเทศของเค้าก็มีแบบเราบางทีดีกว่าด้วยซ้ำ อยากฝากไปถึงคนขับ Taxi ที่ยังทำอยู่ให้หยุดพฤติกรรมแบบนี้เถอะครับ ก่อนนี้เรื่องนี้จะถูกชาวต่างชาติบอกต่อๆจนรู้กันไปทั่ว ว่า Taxi ไทยมันโก่งราคาอย่าไปขึ้นสุดท้ายคนที่เดือดร้อนก็จะเป็นตัวคุณและเพื่อนๆร่วมอาชีพที่เค้าขับรถดีๆมีจิตสำนึกจะได้รับผลกระทบไปด้วยครับ ถือโอกาสในปีใหม่นี้เลิกเถอะครับเพื่อภาพลักษณ์และการเป็นเจ้าบ้านที่ดีของเมืองไทย
อาจจะยาวไปหน่อย ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ สวัสดีปีใหม่ครับ ^^
เสียงสะท้อนจากชาวต่างชาติคนหนึ่ง ถึงการให้บริการของ Taxi ประเทศไทย
ยอมรับว่าผมเป็นค้นหนึ่งที่ค่อนข้างมีอคติกับคนขับรถ Taxi โดยเฉพาะตามย่านการค้าเช่น มาบุญครอง, สยาม, เซ็นทรัลเวิล คุณจะแทบไม่ได้รับการเหลียวแลจากคนขับเลยถ้าคุณเป็นคนไทย เพราะท่านๆคนขับเหล่านั้นจะยกมือดักควักมือเรียกแต่คนต่างชาติเท่านั้น ผมเคยสงสัยมาตลอดว่ารับแต่ต่างชาติแล้วได้อะไรไม่ได้จ่ายเงินเท่ากันหรือไง จนเมื่อวันก่อนผมก็ได้รู้คำตอบปนความอายนิดๆในฐานะที่เป็นคนไทยที่ได้รับฟังเรื่องราว
เมื่อวันที่ 1 มกราคม เวลาประมาณทุ่มกว่าๆ ผมไปถ่ายรูปไฟที่สยามพาราก้อน และก็เจอกับผู้ชายลักษณะคล้ายๆแขกคนนึงเรียกผมเป็นภาษาอังกฤษบอกว่าช่วยถ่ายรูปให้เค้าหน่อยได้ไหม (ออกตัวก่อนว่าภาษาอังกฤษผมก็ค่อนข้างงูๆปลาๆ) ผมหันกลับไปยิ้มและพยักหน้าตอบรับ เค้าก็ส่งโทรศัพท์ Black berry มาให้ผมถ่ายรูป แต่ก่อนที่ผมจะกดถ่าย BB ก็เตือนขึ้นมาว่าแบตอ่อน เค้าจึงเดินมาหยิบแบตฯสำรองในกระเป๋าเพื่อเปลี่ยนแบตฯใหม่ ถ้าคนที่เคยใช้ BB คงจะรู้ว่ามันใช้เวลาเปิดเครื่องใหม่นานมาก ประมาณ 5-10 นาที
ระหว่างรอนั่นเองเค้าก็เริ่มชวนผมคุยต่างๆนาๆ ก็พอจับใจความได้ว่า เค้าเป็นคนอินโดนีเซีย มาจากจากาต้าร์ มาเที่ยวไทยตั้งแต่วันคริสมาสกับครอบครัวตอนนี้ ลูกกับเมียเค้ากำลังช้อปปิ้งอยู่เค้าเบื่อเลยออกมาเดินดูไฟ บลาๆ (ส่วนใหญ่ผมจะฟังมากกว่า) เค้าบอกว่ากรุงเทพสวยนะ คล้ายๆกับจากาต้าร์แต่กรุงเทพสะอาดกว่า ของที่ไทยก็ถูกกว่าเยอะ แต่ !! ทำไมแท๊กซี่ไทยมีมิเตอร์แต่ไม่ยอมใช้ล่ะ ทำไมจะไปไหนต้องต่อราคา เค้าไม่เข้าใจพลันถามผมว่าเวลาผมขึ้นแท๊กซี่จ่ายตามมิเตอร์มั้ย ผมก็ตอบว่าใช่ เค้ายิ่งบ่นไปใหญ่ว่าที่ อินโดฯ แท๊กซี่เค้ากดมิเตอร์ทุกคันนะแต่ที่เมืองไทยเนี่ยไม่ว่าเค้าจะเรียกจากที่ไหนก็โดนต่อรองราคาตลอด เว้นแต่ให้โรงแรมโทรเรียกให้ถึงได้จ่ายตามมิเตอร์ เค้าเล่าต่อว่าวันก่อนเรียกจากสยามกลับไปโรงแรมดุสิตธานี Taxi บอกราคา 300 บาท !! (แม่จ้าว ผมแทบมุดแผ่นดินหนี - - ) เค้าบอกว่ามันแพงเกินไปวันนี้เค้าเลยเดินมาแค่ 20 นาทีเอง
ดูเค้าจะติดใจเรือง Taxi เพราะพูดเรื่องมิเตอร์หลายรอบมาก ผมจีงตัดสินใจอธิบายเค้าไปด้วยภาษาที่ไม่ค่อยจะแข็งแรง ประมาณว่า "เพราะเค้าเห็นว่าคุณเป็นคนต่างชาติเค้าจึงฉวยโอกาสชาร์จราคาคุณ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดี แต่มันก็ขึ้นอยู่กับคนขับนะบางคนก็ไม่เป็น" (ถ้าภาษาผมดีกว่านี้อยากจะเสริมไปว่า ตรูก็โดนเหมือนกันแถมหนักกว่ายูอีก มันไม่รับพวกตรูคนไทยเลยด้วยซ้ำ @#$@^$%) พอฟังจบผมเห็นเค้าทำหน้าแบบ โอ้ว~ (อารมณ์คงประมาณนี่หรือเมืองพุทธ) ไม่นาน BB ของเค้าก็พร้อมใช้งาน ผมถ่ายรูปให้เค้าเรียบร้อยแล้วเราก็แยกกัน ก่อนลาเค้าก็ยังพูดชมเมืองไทยให้ฟังและบอกว่ารถไฟฟ้าไทยดีมากเค้าชอบ ที่อินโดฯยังไม่มีเลย (เพิ่งรู้แฮะ)
หลังจากแยกมาผมก็คืดถึงเรื่องแท็กซี่ที่เค้าพูดตลอด มันไม่สมควรเลยจริงๆ คนขับบางคนที่มีนิสัยแบบนี้ คุณได้ทำลายความประทับใจดีๆต่อเมืองไทยไปแล้วด้วยความโลภของคุณ ความเห็นแก่ตัวของคุณ ชาวต่างชาติเค้าไม่ได้โง่นะที่ประเทศของเค้าก็มีแบบเราบางทีดีกว่าด้วยซ้ำ อยากฝากไปถึงคนขับ Taxi ที่ยังทำอยู่ให้หยุดพฤติกรรมแบบนี้เถอะครับ ก่อนนี้เรื่องนี้จะถูกชาวต่างชาติบอกต่อๆจนรู้กันไปทั่ว ว่า Taxi ไทยมันโก่งราคาอย่าไปขึ้นสุดท้ายคนที่เดือดร้อนก็จะเป็นตัวคุณและเพื่อนๆร่วมอาชีพที่เค้าขับรถดีๆมีจิตสำนึกจะได้รับผลกระทบไปด้วยครับ ถือโอกาสในปีใหม่นี้เลิกเถอะครับเพื่อภาพลักษณ์และการเป็นเจ้าบ้านที่ดีของเมืองไทย
อาจจะยาวไปหน่อย ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ สวัสดีปีใหม่ครับ ^^