นักสูบบุหรี่หลายๆท่านเจอข่าวแบบนี้ คงจะคิดว่า"อะไรนักหนาวะกะสูบบุหรี่บนเวทีแค่นี้"
แต่ผมคนหนึ่ง..ซึ่งเป็นนักดนตรีที่เคยมีไลฟ์สไตล์บนเวทีแบบ"นายเสก"มาก่อนคือ"เล่นดนตรีไป.ร้องเพลงไป อัดบุหรี่พราง"..เหมือนผมเปี๊ยบเมื่อ18ปีย้อนหลัีงไป
ผมเล่นเปียโน-คีย์บอร์ด..ใกล้มือ ผมจะต้องมี"ที่เขี่ยบุหรี่"ตั้งไว้รอ
เพลงจบก็จุดบุหรี่-อัดซี้ด-วางไว้..เล่นดนตรีไป,ร้องไป..ท่อนโซโล-ถ้าไอ้มือกีต้าร์โซโล-ผมก็หันไปล่อซะอีกซี้ดดด-วางไว้ หมดมวนก็ทำอย่างเดิมใหม่
จนเมื่อถึงคราวที่ผมตั้งสติได้..ผม"เลิกบุหรี่"(โดยการหักดิบแล้วเดิน-วิ่งออกกำลังกาย) ผมทำได้สำเร็จอย่างตั้งใจ-ผมดีใจมากที่สุดในชีวิต-ยิ่งกว่าตอนบวชพระให่พ่อแม่อีก..เพราะตอนบวชเป็นพระผมก็ยังสูบมัน
ทีนี้ตอนเล่นดนตรีบนเวที ก็ต้องมีปัญหาแน่
เล่นในPub-เป็นห้องแอร์อยู๋แล้ว(เพื่อกันเสียง)ความทุกสาหัสมาตกที่ผมน่ะซี
ทั้งวงเล่น 7 คน...มีผมคนเดียวที่ไม่สูบบหรี่..ตอนนั้นเลิกได้สักปีกว่าๆ
ซ้ายมือ-มือกลอง..มันวางที่เขี่ยไว้บนฟลอร์ทอม
ข้างหน้า-มือกีต้าร์..มันวางที่เขี่ยไว้บนตู้กีต้าร์ข้างหน้าผม(ผมนั่งหลังมัน)
ข้างล่างเวที-หลังตู้ลำโพงใหญ่..มือ"Saxophone"นานๆขึ้นเป่าสักเพลง..มันมวนยาเส้น-ใบจากดูด
...............โห..ล่อกันควันตลบอบไก่ยางรมควันเลยทีเดียว................
งานนั้น(ที่จ.ตรัง)สรุป-ผมอยู่ได้(ตั้ง)7เดือน อย่างทรมานมากๆ
ที่ทนเล่น ก็เพราะเห็นว่า"เงินเดือนสูง",แต่สภาพจิตใจของคนที่พยายามตั้งใจเลิกให้ขาดจากบุหรี่น่ะ..มันทุกข์หนักขนาดไหน..คนที่สูบมันไม่สารู้สมอะไรหรอก.
..แล้วเป็นเรื่องยากมากที่จะห้ามหรือเตือนใครให้หยุด-เลิกบุหรี่
ผมโวยวาย(ตอนประชุม)ขอร้องน้องๆว่า"ช่วงเล่นบนเวทีขอให้ไม่สูบได้ไหม-กูเหม็น"...ทุกคนก็โอเค-ยอมผม
แต่เชื่อไหมครับ...:-)จะบ้าหยุดได้ไม่ถึงอาทิตย์ มันจะเป็นจะตาย-สูบกันอีก...สันดานมันเคย"เล่นไป-ดูดไป"ไงครับ..อ้าว กลับมาโขมงกันอีก
..เวลาเล่นเพลงไป..แสงสีพราวบนเวที..Dry Iceไม่ต้อง-ควันพวกกูนี่แหละ-งามมว๊ากกก!!!555
ผมตัดสินใจ..เลิก-หยุดเล่นกับน้องๆวงนั้น กลับบ้านดีกว่า..ขืนอยู่กะพวกแก ปอดฉันเน่าแน่ๆ-เอิ๊ก
โธ่-บ้าไหม,เรายอมลงทุนเลิกบุหรี่เพราะเราเห็นเป็นเรื่องไม่ดีของการสูบบุหรี่,ร่างกายโทรม,คุณภาพการร้องเพลงก็แย่..ดันเสียงสูงไม่ไหว(ประมาณScorpion,Sherbet)เราก็รักสุขภาพ..เพื่อทำงานร้องเพลงได้อย่างมีคุณภาพ..และที่สำคัญที่สุดคือภาพของ"นักดนตรีขี้ยา"จะหมดไป..น้องๆ-หลานๆวับรุ่นดูอยู่..จะไม่เห็นภาพการอัดยาบนเวทีดนตรีแบบนั้น
ผมเลิก-แยกจากวงนั้นมาเป็นสิบปีกว่า..เพิ่งมีเลิกบุหรี่ได้คนเดียว(มือกีต้าร์)..นอกนั้นมันก็ยังคงเล่นไป-อัดไปอย่างเคย..จนผมไม่หาหาอีกเลย-รำคาญ
ขอเรื่องสังคม"ชาวอุตรดิตถ์ไม่พอใจเสก โลโซสูบบุหรี่บนเวทีคอนเสิร์ต จี้ผู้ว่าฯสั่งแบน"
แต่ผมคนหนึ่ง..ซึ่งเป็นนักดนตรีที่เคยมีไลฟ์สไตล์บนเวทีแบบ"นายเสก"มาก่อนคือ"เล่นดนตรีไป.ร้องเพลงไป อัดบุหรี่พราง"..เหมือนผมเปี๊ยบเมื่อ18ปีย้อนหลัีงไป
ผมเล่นเปียโน-คีย์บอร์ด..ใกล้มือ ผมจะต้องมี"ที่เขี่ยบุหรี่"ตั้งไว้รอ
เพลงจบก็จุดบุหรี่-อัดซี้ด-วางไว้..เล่นดนตรีไป,ร้องไป..ท่อนโซโล-ถ้าไอ้มือกีต้าร์โซโล-ผมก็หันไปล่อซะอีกซี้ดดด-วางไว้ หมดมวนก็ทำอย่างเดิมใหม่
จนเมื่อถึงคราวที่ผมตั้งสติได้..ผม"เลิกบุหรี่"(โดยการหักดิบแล้วเดิน-วิ่งออกกำลังกาย) ผมทำได้สำเร็จอย่างตั้งใจ-ผมดีใจมากที่สุดในชีวิต-ยิ่งกว่าตอนบวชพระให่พ่อแม่อีก..เพราะตอนบวชเป็นพระผมก็ยังสูบมัน
ทีนี้ตอนเล่นดนตรีบนเวที ก็ต้องมีปัญหาแน่
เล่นในPub-เป็นห้องแอร์อยู๋แล้ว(เพื่อกันเสียง)ความทุกสาหัสมาตกที่ผมน่ะซี
ทั้งวงเล่น 7 คน...มีผมคนเดียวที่ไม่สูบบหรี่..ตอนนั้นเลิกได้สักปีกว่าๆ
ซ้ายมือ-มือกลอง..มันวางที่เขี่ยไว้บนฟลอร์ทอม
ข้างหน้า-มือกีต้าร์..มันวางที่เขี่ยไว้บนตู้กีต้าร์ข้างหน้าผม(ผมนั่งหลังมัน)
ข้างล่างเวที-หลังตู้ลำโพงใหญ่..มือ"Saxophone"นานๆขึ้นเป่าสักเพลง..มันมวนยาเส้น-ใบจากดูด
...............โห..ล่อกันควันตลบอบไก่ยางรมควันเลยทีเดียว................
งานนั้น(ที่จ.ตรัง)สรุป-ผมอยู่ได้(ตั้ง)7เดือน อย่างทรมานมากๆ
ที่ทนเล่น ก็เพราะเห็นว่า"เงินเดือนสูง",แต่สภาพจิตใจของคนที่พยายามตั้งใจเลิกให้ขาดจากบุหรี่น่ะ..มันทุกข์หนักขนาดไหน..คนที่สูบมันไม่สารู้สมอะไรหรอก.
..แล้วเป็นเรื่องยากมากที่จะห้ามหรือเตือนใครให้หยุด-เลิกบุหรี่
ผมโวยวาย(ตอนประชุม)ขอร้องน้องๆว่า"ช่วงเล่นบนเวทีขอให้ไม่สูบได้ไหม-กูเหม็น"...ทุกคนก็โอเค-ยอมผม
แต่เชื่อไหมครับ...:-)จะบ้าหยุดได้ไม่ถึงอาทิตย์ มันจะเป็นจะตาย-สูบกันอีก...สันดานมันเคย"เล่นไป-ดูดไป"ไงครับ..อ้าว กลับมาโขมงกันอีก
..เวลาเล่นเพลงไป..แสงสีพราวบนเวที..Dry Iceไม่ต้อง-ควันพวกกูนี่แหละ-งามมว๊ากกก!!!555
ผมตัดสินใจ..เลิก-หยุดเล่นกับน้องๆวงนั้น กลับบ้านดีกว่า..ขืนอยู่กะพวกแก ปอดฉันเน่าแน่ๆ-เอิ๊ก
โธ่-บ้าไหม,เรายอมลงทุนเลิกบุหรี่เพราะเราเห็นเป็นเรื่องไม่ดีของการสูบบุหรี่,ร่างกายโทรม,คุณภาพการร้องเพลงก็แย่..ดันเสียงสูงไม่ไหว(ประมาณScorpion,Sherbet)เราก็รักสุขภาพ..เพื่อทำงานร้องเพลงได้อย่างมีคุณภาพ..และที่สำคัญที่สุดคือภาพของ"นักดนตรีขี้ยา"จะหมดไป..น้องๆ-หลานๆวับรุ่นดูอยู่..จะไม่เห็นภาพการอัดยาบนเวทีดนตรีแบบนั้น
ผมเลิก-แยกจากวงนั้นมาเป็นสิบปีกว่า..เพิ่งมีเลิกบุหรี่ได้คนเดียว(มือกีต้าร์)..นอกนั้นมันก็ยังคงเล่นไป-อัดไปอย่างเคย..จนผมไม่หาหาอีกเลย-รำคาญ