ไปเจอบทความดีๆ เลยเอามาฝากครับ
www.mangmaoclub.คอม/market-review-2012/
วันนี้เป็นวัน Christmas Eve ซึ่งอีกไม่กี่วันเราก็จะได้นั่ง Countdown ต้อนรับปีใหม่กันแล้ว ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงจะมีความสุขกับการลงทุนในปีนี้อยู่ไม่น้อย สำหรับบทความสุดท้ายก่อนสิ้นปีนี้ผมจึงอยากจะพูดถึงมุมมองของผมซึ่งมีต่อตลาดหุ้นและผลตอบแทนของคนส่วนใหญ่ในปีนี้ตามสไตล์ของผมกันสักนิดนึงครับ
2012 ปีที่หอมหวานของตลาดหุ้นไทย
ผมคงไม่ต้องบรรยายอะไรกันมากมายสำหรับตลาดหุ้นไทยและดัชนี SET index ในปีนี้สักเท่าไหร่นัก นั่นก็เพราะว่านับตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นต้นมา SET index ได้พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องโดยพักตัวลงมาบ้างเล็กน้อยเป็นครั้งคราวจนทำให้ในวันนี้ดัชนีขยับจาก 1036.21 จุดในวันที่ 4/1/12 มาถึง 1373.38 จุด ณ ปัจจุบันซึ่งบวกไปกว่า 32.53% โดยมี Maximum Drawdown ในรอบปีนี้อยู่ที่ 12.81% หรือคิดเป็นอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง MAR Ratio อยู่ที่ราว 2.54 เท่าเลยทีเดียว
มันยากที่จะบอกว่าใครเป็นเซียน
แน่นอนว่าการที่ SET index ให้ Performance ที่ดีขนาดนี้มันย่อมต้องส่งผลดีต่อนักลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยและปรากฏการณ์หนึ่งที่ได้เกิดขึ้นตามมาโดยอัตโนมัติก็คือเราจะเห็นว่ามีเซียนหุ้นใหม่ๆเกิดตามมาอย่างมากมาย
อย่างไรก็ตาม คำถามหนึ่งที่มือเก่าหลายๆคนมักจะเริ่มถามและคุยกันแล้วก็คือ ตอนนี้ตลาดหุนบ้านเรามีแต่คนเล่นหุ้นเก่งๆหรือมีเซียนเต็มบ้านเต็มเมืองเยอะไปแล้วหรือไม่??
ส่วนตัวแล้วในปีนี้ผมเห็นด้วยว่าหลายต่อหลายคนที่พึ่งอยู่ในตลาดได้ไม่นานนักมักจะเริ่มมีอาการมั่นใจในตนเองค่อนข้างสูง (รวมไปถึงคนที่ยังไม่ได้เข้าตลาดก็เริ่มที่จะอยากเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นกันมากพอสมควร) ซึ่งอันที่จริงแล้วความมั่นใจในตนเองของหลายๆคนก็คงจะไม่ได้ผิดอะไรและมันก็มีผลในแง่ดีหลายประการสำหรับการลงทุนด้วยเช่นกัน แต่ผมเองก็เชื่อว่าตลาดหุ้นไม่ใช่ที่ๆเราควรจะหลงลำพองหรือสบายใจกับการลงทุนขนาดนั้น เพราะตลาดมักที่จะเล่นงานเรากลับในช่วงเวลาที่เรามีความสุขและโลกสวยอยู่เสมอ!
ดังนั้นแล้วในวันนี้ผมจึงอยากฝากข้อมูลให้พวกเราได้ลองพิจารณากันดูว่าผลตอบแทนที่เกิดขึ้นในปีนี้ของเรานั้นเกิดขึ้นเพราะอะไรกันบ้าง และผลตอบแทนของตลาดหุ้นได้ส่งผลต่อผลการลงทุนของคุณมากสักแค่ไหน ซึ่งหวังว่าจะมีประโยชน์และช่วยอธิบายว่าทำไมตอนนี้เราจึงมีเซียนหุ้นเต็มตลาดกันจริงๆครับ
ผลตอบแทนของพอร์ทการลงทุนจากการทำ Monte Carlo Simulation
เพื่อที่จะได้เห็นถึงภาพรวมของผลตอบแทนจากพอร์ทการลงทุนของนักลงทุนส่วนใหญ่นั้น ในคราวนี้ผมขอนำเสนอแง่ๆมุมใหม่ๆด้วยการสร้างพอร์ทจำลองหลายๆพอร์ทขึ้นมาแทนที่เราจะอ้างอิแต่ผลตอบแทนของ SET Index กันดูบ้าง เนื่องจากผมคิดว่าจุดอ่อนซึ่งเกิดจากจุดแข็งของการใช้ดัชนีเป็น Benchmark ในแง่หนึ่งก็คือ พวกมันถูกคำนวณแบบถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization Weight) ซึ่งมักจะกลายเป็นภาพสะท้อนแต่ของหุ้นตัวใหญ่ๆในตลาดไม่กี่ตัวไป และหลายๆครั้งมักให้มุมมองที่ไม่ได้สะท้อนภาพผลตอบแทนการลงทุนของพวกเราหลายๆคน ซึ่งมักที่จะเล่นทั้งหุ้นตัวเล็กตัวกลางปนอยู่ในพอร์ทด้วยเสมอ
เพื่อให้เห็นภาพรวมของผลตอบแทนของนักลงทุนส่วนใหญ่นั้น ผมจะใช้วิธีการสร้างพอร์ทจำลองขึ้นมาเพื่อแทนภาพของนักลงทุนแต่ละคน โดยทำการสุ่มซื้อหุ้นในตลาดเข้ามาพอร์ทละ 10 ตัว (ซื้อตัวละ 10% ของพอร์ทต่อหุ้น) เป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,000 ครั้ง (1,000 คน) โดยใช้กลยุทธ์ที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือ Buy and Hold ถือแล้วไม่ขายตั้งแต่วันที่ 4/1/12 ปัจจุบัน ซึ่งมันได้ให้ผลสถิติที่น่าสนใจออกมาดังนี้
มันยากที่จะบอกว่าใครเป็นเซียนในตลาดหุ้นไทยปี 2012 :แมงเม่าคลับ.คอม
www.mangmaoclub.คอม/market-review-2012/
วันนี้เป็นวัน Christmas Eve ซึ่งอีกไม่กี่วันเราก็จะได้นั่ง Countdown ต้อนรับปีใหม่กันแล้ว ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงจะมีความสุขกับการลงทุนในปีนี้อยู่ไม่น้อย สำหรับบทความสุดท้ายก่อนสิ้นปีนี้ผมจึงอยากจะพูดถึงมุมมองของผมซึ่งมีต่อตลาดหุ้นและผลตอบแทนของคนส่วนใหญ่ในปีนี้ตามสไตล์ของผมกันสักนิดนึงครับ
2012 ปีที่หอมหวานของตลาดหุ้นไทย
ผมคงไม่ต้องบรรยายอะไรกันมากมายสำหรับตลาดหุ้นไทยและดัชนี SET index ในปีนี้สักเท่าไหร่นัก นั่นก็เพราะว่านับตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นต้นมา SET index ได้พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องโดยพักตัวลงมาบ้างเล็กน้อยเป็นครั้งคราวจนทำให้ในวันนี้ดัชนีขยับจาก 1036.21 จุดในวันที่ 4/1/12 มาถึง 1373.38 จุด ณ ปัจจุบันซึ่งบวกไปกว่า 32.53% โดยมี Maximum Drawdown ในรอบปีนี้อยู่ที่ 12.81% หรือคิดเป็นอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง MAR Ratio อยู่ที่ราว 2.54 เท่าเลยทีเดียว
มันยากที่จะบอกว่าใครเป็นเซียน
แน่นอนว่าการที่ SET index ให้ Performance ที่ดีขนาดนี้มันย่อมต้องส่งผลดีต่อนักลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยและปรากฏการณ์หนึ่งที่ได้เกิดขึ้นตามมาโดยอัตโนมัติก็คือเราจะเห็นว่ามีเซียนหุ้นใหม่ๆเกิดตามมาอย่างมากมาย
อย่างไรก็ตาม คำถามหนึ่งที่มือเก่าหลายๆคนมักจะเริ่มถามและคุยกันแล้วก็คือ ตอนนี้ตลาดหุนบ้านเรามีแต่คนเล่นหุ้นเก่งๆหรือมีเซียนเต็มบ้านเต็มเมืองเยอะไปแล้วหรือไม่??
ส่วนตัวแล้วในปีนี้ผมเห็นด้วยว่าหลายต่อหลายคนที่พึ่งอยู่ในตลาดได้ไม่นานนักมักจะเริ่มมีอาการมั่นใจในตนเองค่อนข้างสูง (รวมไปถึงคนที่ยังไม่ได้เข้าตลาดก็เริ่มที่จะอยากเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นกันมากพอสมควร) ซึ่งอันที่จริงแล้วความมั่นใจในตนเองของหลายๆคนก็คงจะไม่ได้ผิดอะไรและมันก็มีผลในแง่ดีหลายประการสำหรับการลงทุนด้วยเช่นกัน แต่ผมเองก็เชื่อว่าตลาดหุ้นไม่ใช่ที่ๆเราควรจะหลงลำพองหรือสบายใจกับการลงทุนขนาดนั้น เพราะตลาดมักที่จะเล่นงานเรากลับในช่วงเวลาที่เรามีความสุขและโลกสวยอยู่เสมอ!
ดังนั้นแล้วในวันนี้ผมจึงอยากฝากข้อมูลให้พวกเราได้ลองพิจารณากันดูว่าผลตอบแทนที่เกิดขึ้นในปีนี้ของเรานั้นเกิดขึ้นเพราะอะไรกันบ้าง และผลตอบแทนของตลาดหุ้นได้ส่งผลต่อผลการลงทุนของคุณมากสักแค่ไหน ซึ่งหวังว่าจะมีประโยชน์และช่วยอธิบายว่าทำไมตอนนี้เราจึงมีเซียนหุ้นเต็มตลาดกันจริงๆครับ
ผลตอบแทนของพอร์ทการลงทุนจากการทำ Monte Carlo Simulation
เพื่อที่จะได้เห็นถึงภาพรวมของผลตอบแทนจากพอร์ทการลงทุนของนักลงทุนส่วนใหญ่นั้น ในคราวนี้ผมขอนำเสนอแง่ๆมุมใหม่ๆด้วยการสร้างพอร์ทจำลองหลายๆพอร์ทขึ้นมาแทนที่เราจะอ้างอิแต่ผลตอบแทนของ SET Index กันดูบ้าง เนื่องจากผมคิดว่าจุดอ่อนซึ่งเกิดจากจุดแข็งของการใช้ดัชนีเป็น Benchmark ในแง่หนึ่งก็คือ พวกมันถูกคำนวณแบบถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization Weight) ซึ่งมักจะกลายเป็นภาพสะท้อนแต่ของหุ้นตัวใหญ่ๆในตลาดไม่กี่ตัวไป และหลายๆครั้งมักให้มุมมองที่ไม่ได้สะท้อนภาพผลตอบแทนการลงทุนของพวกเราหลายๆคน ซึ่งมักที่จะเล่นทั้งหุ้นตัวเล็กตัวกลางปนอยู่ในพอร์ทด้วยเสมอ
เพื่อให้เห็นภาพรวมของผลตอบแทนของนักลงทุนส่วนใหญ่นั้น ผมจะใช้วิธีการสร้างพอร์ทจำลองขึ้นมาเพื่อแทนภาพของนักลงทุนแต่ละคน โดยทำการสุ่มซื้อหุ้นในตลาดเข้ามาพอร์ทละ 10 ตัว (ซื้อตัวละ 10% ของพอร์ทต่อหุ้น) เป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,000 ครั้ง (1,000 คน) โดยใช้กลยุทธ์ที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือ Buy and Hold ถือแล้วไม่ขายตั้งแต่วันที่ 4/1/12 ปัจจุบัน ซึ่งมันได้ให้ผลสถิติที่น่าสนใจออกมาดังนี้