ตอนนี้แม่วัย 80 กว่า มีภาวะเครียด เพราะพี่สาวที่อยู่ด้วยสร้างปัญหาให้หนักอกหนักใจ จนแม่อึดอัด กลืนไม่เข้า คายไม่ออก
พี่สาววัย 55 โตมากกับยุคทุนนิยม เรียนจบ ป.4 ก็ออกจากบ้านไปทำงานโรงงาน จนเติบโตในหน้าที่การงาน เป็นหัวหน้า
พ่อเสียตั้งแต่เราเด็ก ๆ แม่จึงต้องกู้ยืมเงิน เอาที่ไปจำนองเพื่อให้ได้เงินมาส่งเสียลูกเรียน และเป็นทุนทำมาหากิน แม่กับลูกจำนวน 10 คน ชักหน้าไม่ถึงหลัง หนี้ก็ใช้ไม่หมด ที่ดินที่เป็นมรดกก็เริ่มหลุด หนี้ก็พอกพูน พี่สาวคนนี้และคนอื่น ๆ ที่ทำงานแล้ว จึงมีภาระหน้าที่หลักในการใช้หนี้ของครอบครัว ส่วนคนที่ไม่ได้ใช้หนี้ก็ส่งเสียน้องอย่างเรา ๆ เรียน
ปรากฎว่า หนี้ ที่ทุกคนเพียรใช้ก็ไม่หมด เป็นเหมือนกับดักชีวิต พี่สาวและพี่ ๆ ที่เคยใช้หนี้หมดยุครุ่งเรื่อง ตั้งแต่ฟองสบู่แตกก็ระหกระเหินเรื่องหน้าที่การงาน จากได้เงินเดือนเกือบครึ่งแสน เหลือหลักหมื่นต้น ๆ แต่ปรับตัวไม่ทัน ใช้บัตรเครดิตจนเต็มวงเงิน และไม่มีกำลังพอใช้หนี้ของครอบครัวอีกต่อไป
ต่อมาเรื่องแดง พบว่า หนี้ที่พี่ ๆ เค้าบอกว่าใช้ เงินต้นไม่ได้ลดเท่าที่ควร (เป็นหนี้นอกระบบ) และมีหนี้ในระบบที่ยอดกู้เงินไม่ถึง 150,000 แต่ไม่เคยส่งดอกส่งต้นเป็นเวลา 15 ปี ยอดหนี้ทะลุเกือบล้าน น้องๆ ซึ่งรวมถึงเราจึงเป็นรุ่นที่มาสะสางหนี้ตรงนี้ของครอบครัว (ที่ดินมรดก แม่เสียใจมากหากที่ดินที่หลุดจำนอง)
ประเด็น คือว่า พี่สาวคนนี้จากมีเงินเดือนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เป็นที่นับหน้าถือตา ตอนนี้ต้องมาเป็นแม่ค้าขายของในตลาดสด มีรายได้ไม่แน่นอน ต้องตากแดดตากลม เพื่อเอาของไปขาย
แต่มีสมบัติเป็นทีดินของแม่ที่โอนให้ (ที่โอนให้เพื่อกันไม่ให้แม่ให้ลูกคนไหนไปสร้างหนี้อีก) บ้านในกรุงเทพฯ อีก 1 หลังที่น้อง ๆ อย่างเราผ่อนให้จะหมดเร็วนี้ และรถอีก 1 คัน (ที่ติดไฟแนนซ์และมาร้องเอาเงินกับน้องเพื่อไปเอารถออกมา ด้วยการอ้างบุญคุณเรื่องการใช้หนี้ ส่วนเงินไฟแนนซ์ที่ได้มาเอาไปให้เพื่อนทำทุน แต่เพื่อนคนนี้ก็เบี้ยวหนี้)
ปัญหาทุกอย่างสะสมมาเรื่อง ๆ ยากที่จะบอกหมด สรุปว่า ตอนนี้พี่สาวโมโหร้าย โทษคนในครอบครัวว่าไม่ช่วย ทวงบุญคุณ เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นมาก ๆ อยู่บ้านกับแม่ไม่พูดกับแม่ ไม่ทำงานบ้าน ปล่อยให้บ้านรกสกปรก กินข้าวไม่ล้างจาน หรือทำสกปรกจนหนอนขึ้น ซึ่งเค้ารู้ดีว่าแม่ไม่ชอบแต่ก็ยังทำ เราเศร้าและสุดทนกับพฤติกรรมนี้มาก ๆ ล่าสุดทำร้ายน้องสาวแท้ ๆ ด้วยการตบตี อาฆาตถึงชีวิต พอดีแม่ห้ามไว้ทัน คนแก่อายุ 80 ต้องห้ามลูกอายุ 50 กว่าทะเลาะกัน
พฤติกรรมที่ทำประจำ คือ จุดธูปของพรสิ่งศักดิ์สิทธ์ จะคิดทำสิ่งใด ก็ต้องอาศัยหมอดู หรือ พระ ให้บอกว่าทำได้ ล่าสุด พระ (หมอดู) บอกว่าไม่ต้องไปทำงาน ... ให้อยู่บ้าน พี่สาวเลยไม่ยอมไป
ตอนนี้พวกเราขอร้องให้พี่สาวคนนี้มาอยู่บ้านกรุงเทพฯ จะส่งเสียเงินให้จำนวนหนึ่ง แต่เค้าไม่ยอมไป เค้าบอกว่า บ้าน (แม่) ก็คือบ้านเค้า ลูกทุกคนมีสิทธิ์ เหมือนกับว่าเค้าอยู่เพื่อให้ทุกคนทุกข์
จนน้องสาวที่มีเรื่องตบตีกันเข้าบ้านแม่ไม่ได้ เพราะเกรงอันตรายถึงชีวิต หากมีการทะเลาะกันอีก แม่ก็เครียด ที่ลูกเป็นแบบนี้ แม่บอกว่าตลอดที่ผ่านมาเค้าไม่เคยอยู่บ้าน จึงไม่รู้ว่า 30 กว่าปีที่ลูกไปใช้ชีวิตข้างนอก ลูกเป็นคนแบบนี้ แม่เสียใจ ด่าก็แล้ว ปลอบก็แล้ว ไม่ดีขึ้น
จึงอยากปรึกษาว่าควรทำอย่างไร เพราะคนในครอบครัวพยายามทุกวิถีทาง เกรงว่าหากถึงขั้นวิกฤิต เค้าอาจจะทำร้ายคนในครอบครัวถึงแก่ชิวิต (ทราบภายหลังว่า เค้าเคยตบเพื่อนร่วมงานก่อนออกจากงาน 2 แห่งสุดท้าย)
ทำไมเค้าไม่เคารพแม่ หรือคิดว่าแม่แก่แล้วเค้าควรทำเพื่อแม่ แต่กลับเป็นว่า เค้าเชื่อ พระ (หมอดู) และเค้าจะดูแลหมาที่เค้าเลี้ยงดีกว่าแม่ตัวเอง ซื้อกระดูกมาตุ๋น พาไปหาหมอ เพียรทำทุกอย่างเพื่อหมา
ล่าสุดเราพาแม่ไปหาหมอ ใจชื้นขึ้นหน่อยที่ความดันแม่ปกติ แต่เราก็ไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันเหมือนมะเร็ง เราจะทำอย่างไรได้บ้าง ขอคำแนะนำหน่อยคะ
อยากทำเพื่อแม่
พี่สาววัย 55 โตมากกับยุคทุนนิยม เรียนจบ ป.4 ก็ออกจากบ้านไปทำงานโรงงาน จนเติบโตในหน้าที่การงาน เป็นหัวหน้า
พ่อเสียตั้งแต่เราเด็ก ๆ แม่จึงต้องกู้ยืมเงิน เอาที่ไปจำนองเพื่อให้ได้เงินมาส่งเสียลูกเรียน และเป็นทุนทำมาหากิน แม่กับลูกจำนวน 10 คน ชักหน้าไม่ถึงหลัง หนี้ก็ใช้ไม่หมด ที่ดินที่เป็นมรดกก็เริ่มหลุด หนี้ก็พอกพูน พี่สาวคนนี้และคนอื่น ๆ ที่ทำงานแล้ว จึงมีภาระหน้าที่หลักในการใช้หนี้ของครอบครัว ส่วนคนที่ไม่ได้ใช้หนี้ก็ส่งเสียน้องอย่างเรา ๆ เรียน
ปรากฎว่า หนี้ ที่ทุกคนเพียรใช้ก็ไม่หมด เป็นเหมือนกับดักชีวิต พี่สาวและพี่ ๆ ที่เคยใช้หนี้หมดยุครุ่งเรื่อง ตั้งแต่ฟองสบู่แตกก็ระหกระเหินเรื่องหน้าที่การงาน จากได้เงินเดือนเกือบครึ่งแสน เหลือหลักหมื่นต้น ๆ แต่ปรับตัวไม่ทัน ใช้บัตรเครดิตจนเต็มวงเงิน และไม่มีกำลังพอใช้หนี้ของครอบครัวอีกต่อไป
ต่อมาเรื่องแดง พบว่า หนี้ที่พี่ ๆ เค้าบอกว่าใช้ เงินต้นไม่ได้ลดเท่าที่ควร (เป็นหนี้นอกระบบ) และมีหนี้ในระบบที่ยอดกู้เงินไม่ถึง 150,000 แต่ไม่เคยส่งดอกส่งต้นเป็นเวลา 15 ปี ยอดหนี้ทะลุเกือบล้าน น้องๆ ซึ่งรวมถึงเราจึงเป็นรุ่นที่มาสะสางหนี้ตรงนี้ของครอบครัว (ที่ดินมรดก แม่เสียใจมากหากที่ดินที่หลุดจำนอง)
ประเด็น คือว่า พี่สาวคนนี้จากมีเงินเดือนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เป็นที่นับหน้าถือตา ตอนนี้ต้องมาเป็นแม่ค้าขายของในตลาดสด มีรายได้ไม่แน่นอน ต้องตากแดดตากลม เพื่อเอาของไปขาย
แต่มีสมบัติเป็นทีดินของแม่ที่โอนให้ (ที่โอนให้เพื่อกันไม่ให้แม่ให้ลูกคนไหนไปสร้างหนี้อีก) บ้านในกรุงเทพฯ อีก 1 หลังที่น้อง ๆ อย่างเราผ่อนให้จะหมดเร็วนี้ และรถอีก 1 คัน (ที่ติดไฟแนนซ์และมาร้องเอาเงินกับน้องเพื่อไปเอารถออกมา ด้วยการอ้างบุญคุณเรื่องการใช้หนี้ ส่วนเงินไฟแนนซ์ที่ได้มาเอาไปให้เพื่อนทำทุน แต่เพื่อนคนนี้ก็เบี้ยวหนี้)
ปัญหาทุกอย่างสะสมมาเรื่อง ๆ ยากที่จะบอกหมด สรุปว่า ตอนนี้พี่สาวโมโหร้าย โทษคนในครอบครัวว่าไม่ช่วย ทวงบุญคุณ เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นมาก ๆ อยู่บ้านกับแม่ไม่พูดกับแม่ ไม่ทำงานบ้าน ปล่อยให้บ้านรกสกปรก กินข้าวไม่ล้างจาน หรือทำสกปรกจนหนอนขึ้น ซึ่งเค้ารู้ดีว่าแม่ไม่ชอบแต่ก็ยังทำ เราเศร้าและสุดทนกับพฤติกรรมนี้มาก ๆ ล่าสุดทำร้ายน้องสาวแท้ ๆ ด้วยการตบตี อาฆาตถึงชีวิต พอดีแม่ห้ามไว้ทัน คนแก่อายุ 80 ต้องห้ามลูกอายุ 50 กว่าทะเลาะกัน
พฤติกรรมที่ทำประจำ คือ จุดธูปของพรสิ่งศักดิ์สิทธ์ จะคิดทำสิ่งใด ก็ต้องอาศัยหมอดู หรือ พระ ให้บอกว่าทำได้ ล่าสุด พระ (หมอดู) บอกว่าไม่ต้องไปทำงาน ... ให้อยู่บ้าน พี่สาวเลยไม่ยอมไป
ตอนนี้พวกเราขอร้องให้พี่สาวคนนี้มาอยู่บ้านกรุงเทพฯ จะส่งเสียเงินให้จำนวนหนึ่ง แต่เค้าไม่ยอมไป เค้าบอกว่า บ้าน (แม่) ก็คือบ้านเค้า ลูกทุกคนมีสิทธิ์ เหมือนกับว่าเค้าอยู่เพื่อให้ทุกคนทุกข์
จนน้องสาวที่มีเรื่องตบตีกันเข้าบ้านแม่ไม่ได้ เพราะเกรงอันตรายถึงชีวิต หากมีการทะเลาะกันอีก แม่ก็เครียด ที่ลูกเป็นแบบนี้ แม่บอกว่าตลอดที่ผ่านมาเค้าไม่เคยอยู่บ้าน จึงไม่รู้ว่า 30 กว่าปีที่ลูกไปใช้ชีวิตข้างนอก ลูกเป็นคนแบบนี้ แม่เสียใจ ด่าก็แล้ว ปลอบก็แล้ว ไม่ดีขึ้น
จึงอยากปรึกษาว่าควรทำอย่างไร เพราะคนในครอบครัวพยายามทุกวิถีทาง เกรงว่าหากถึงขั้นวิกฤิต เค้าอาจจะทำร้ายคนในครอบครัวถึงแก่ชิวิต (ทราบภายหลังว่า เค้าเคยตบเพื่อนร่วมงานก่อนออกจากงาน 2 แห่งสุดท้าย)
ทำไมเค้าไม่เคารพแม่ หรือคิดว่าแม่แก่แล้วเค้าควรทำเพื่อแม่ แต่กลับเป็นว่า เค้าเชื่อ พระ (หมอดู) และเค้าจะดูแลหมาที่เค้าเลี้ยงดีกว่าแม่ตัวเอง ซื้อกระดูกมาตุ๋น พาไปหาหมอ เพียรทำทุกอย่างเพื่อหมา
ล่าสุดเราพาแม่ไปหาหมอ ใจชื้นขึ้นหน่อยที่ความดันแม่ปกติ แต่เราก็ไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันเหมือนมะเร็ง เราจะทำอย่างไรได้บ้าง ขอคำแนะนำหน่อยคะ