[CR] {A Little Girl in Wild World}#เด็กสาวและหุบเขาแห่งตำนาน#Kibune - Kurama#04#


เอาล่ะค่ะ หลังจากพักเอาแรงกันหนึ่งคืน วันนี้(22/07/2559)เราก็มีแผนที่เหนือความคาดหมายเช่นเคย(ฮา)
เนื่องจากเราถือ Kansai Wide Area Pass ไว้ในมือ แต่ก็ใช่ว่ามันจะพาเราไปได้ทุกที่นะคะ เราจึงซื้อ IC Card ไว้ด้วย
และแล้ววันนี้เราก็จะได้ใช้มันค่ะเพราะเราต้องเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ Keihan เพื่อที่จะเดินทางไปเมืองหุบเขาในตำนาน
ขอเชิญทุกท่านสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นของหญิงสาวที่เกลียดการออกกำลังกาย แต่ทำดันซ่าไปปีนเขา
วันนี้เราขอนำเสนอหุบเขาแห่งใบเมเปิ้ล(สีเขียว)เพราะตอนเราไปไม่ใช่ฤดูใบไม้แดง เลยมีแต่สีเขียว เหอะๆ อมยิ้ม20
ถึงกระนั้น...เราก็จะไปสัมผัสการปีนเขาหน้าร้อนแบบชาวญี่ปุ่น ขอเชิญพบกันหุบเขาแห่งตำนาน "คิบุเนะ-คุรามะ" เย๊!!!


เราเริ่มต้นที่สถานีชินอิมามิยะเช่นเดิม เพิ่มเติมคือเราต้องนั่งไปลงที่สถานีเทนโนจิ(Tennoji Stn.) เพื่อต่อรถไฟ..
ไปลงที่สถานีเคียวบาชิ(Kyobashi Stn.)และที่สถานีนี้ของ JR เราสามารถต่อรถไฟของ Keihan ได้ค่ะ(เดินตามป้ายบอกทางนะคะ)
เราจะขึ้นรถไฟของ Keihan ไปลงที่สถานีเดมาชิยานางิ(Demachiyanagi Stn.)เพื่อนจะต่อรถไฟไปหุบเขาคุรามะ
ซึ่งที่สถานีเดมาชิยานางินี้เราต้องรอขึ้นขบวนรถที่มีคำว่า 'Kurama' เขียนอยู่นะคะ การเดินทางเราใช้ IC Card แตะเพื่อจ่ายเงินค่ะ
เพราะ JR pass สามารถใช้ได้ถึงแค่สถานีเคียวบาชิเท่านั้น ถึงบอกว่า IC Card ก็ควรซื้อสำรองค่ะ อย่าหวังน้ำบ่อหน้าเช่นการซื้อตั๋ว
ขอบอกว่ารถไฟ Keihan คนเยอะและวุ่นวายมาก อะไรที่สะดวกสบาย ทำซะเถอะค่ะ ...พอไปถึงสถานี Keihan แรกๆสตั๊นเหมือนกัน
วุ่นวายจริงๆขนาดวันธรรมดา...ตอนนั้นเราก็รู้สึกดีใจที่ตัวเองซื้อ IC Card ไว้ค่ะ(เราเองมีเรื่องฉลาดเหมือนกันนะ) แหะๆ




ใครที่ไม่มีบัตร IC ก็จ่ายด้วยเหรีญได้นะคะ จะต้องจ่ายให้พอดีกับค่าโดยสาร ใครไม่มีเหรียญก็มีเครื่องแลกเหรียญค่ะ


พอขึ้นมาตอนแรกเราได้นั่งค่ะเพราะขึ้นจากต้นทาง แต่พอดีมีคุณตากับคุณยายในชุดปีนเขาเดินขึ้นมาแล้วไม่มีที่นั่ง
และอย่างที่บอกว่าคนที่นี่เขาไม่ค่อยลุกให้กันนั่ง ด้วยความที่เป็นคนไทยน้ำใจงาม เลยลุกให้คุณยายนั่งและมันก็ทำให้เราเจอมุมดีๆ
เดินมายืนตรงหน้าขบวนจะได้ชมวิวตอนรถไฟวิ่งผ่านเมืองต่างๆจนเข้ามาในเขตภูเขาที่มีแต่ต้นเมเปิ้ลล้อมรอบเลย สวยมากๆค่ะ
ถ้าใครมาช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ชมใบไม้แดงที่สวยที่สุด ติด 1 ใน 5 ของประเทศญี่ปุ่นเลยนะคะ



และสถานีที่เราจะลงไม่ใช่สถานีคุรามะอย่างที่ทุกท่านเข้าใจกันนะคะ(เซอร์ไพรส์สสส) เราจะลงก่อนหนึ่งสถานีค่ะ...
นั่นคือสถานีคิบุเนะงุชิ(Kibuneguchi Stn.) เพราะเรามีสถานที่แห่งหนึ่งที่อยากไปขอพรค่ะ และถ้าพูดถึงหน้าร้อนของญี่ปุ่น
หลายคนที่ชอบดูรายการญี่ปุ่นคงรู้จักหรือเคยดูร้านอุด้งที่ไหลตามกระบอกไม้ไผ่และร้านที่ตั้งอยู่กลางน้ำตกในหุบเขาลึกในเกียวโต
ถูกต้องค่ะ ร้านที่ว่าอยู่นี่เมืองนี้ค่ะ แต่ราคาของบอกว่าเราไม่ได้ทางไปกินแน่นอน(คนนึงหลายพันบาทเหมือนกันค่ะ) เราเลยขอแค่ดูพอ
การขอพรที่ว่าคือช่วงที่เรามายังอยู่ในช่วงเทศการทานาบาตะและที่ศาลเจ้าคิบุเนะเขาก็ยังมีการให้ขอพรได้อยู่ โดยเขียนติดกับต้นไผ่
เมื่อหมดเทศกาลทานาบาตะ เขาจะนำคำขอพรและต้นไผ่ที่เราใช้ผูกกระดาษไปทำพิธีเผาเพื่อให้คำขอพรของเราเป็นจริงด้วยค่ะ



และแล้วเราก็ถึงแล้วค่ะ จากสถานีถ้าจะเข้าเมืองต้องต่อรถบัสหน้าสถานี(ค่ารถ160เยน) แต่เราเลือกที่จะเดินค่ะ อมยิ้ม35



ที่นี่เขามีบ่อน้ำพุร้อนด้วยนะคะ หนุ่มสาวใส่ยูกาตะมาพักผ่อนกัน...สมกับเป็นหน้าร้อนค่ะ บรรยากาศดีมากๆ
ที่นี่มีข้อดีอีกอย่าง คือ เราไม่เจอกรุ๊ปทัวร์ต่างชาติที่จะมาสร้างความวุ่นวาย ส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวที่นี่มีแต่คนญี่ปุ่นค่ะ(ตอนที่เราไปนะ)


คนอื่นขึ้นรถไป เราก็เริ่มเดินค่ะ ถนนที่นี่จะเล็กๆและเรียบน้ำตกและคลองน้ำเล็กๆไปจนถึงเมืองคิบุเนะเลย ตามภาพเลยค่ะ^^





ตอนแรกนึกว่าเป็นบ้าเดินคนเดียว เดินไปเดินมาก็เจอมีคนเดินเข้าเมืองเหมือนกัน ดีจังเลยเนอะ^^
บรรยากาศที่นี่ร่มรื่นค่ะ อากาศเย็นเพราะมีป่าที่ค่อนข้างสมบูรณ์ มีกวางอยู่บนเขาที่มากินน้ำในลำธาร เหมือนสวรรค์เลยค่ะ
ต้นไม้ที่นี่ส่วนใหญ่ค่ะต้นเมเปิ้ล ระหว่างเดินก็จะมีเสียงน้ำที่ไหลผ่านซอกหินและน้ำตกเล็กๆตลอดทางเลยค่ะ



หลังจากใช้ความพยายามในการเดินเกือบครึ่งชั่วโมง เราก็เข้าเขตเมืองค่ะ...ที่จริงระยะทางมันไม่ไกลมากนะคะ
แต่เราออกตัวเลยว่าเราไม่ชอบออกกำลังกาย เลยเดินได้ช้ากว่าชาวบ้าน แถมชอบแวะถ่ายรูปดูนู่นนี่นั้นระหว่างทางไปเรื่อย



และนี่คือร้านอุด้งวิ่งตามรางไม้ไผ่ที่เราบอกตอนแรก ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลยไม่ค่อยมีคนมา ร้านก็เริ่มทยอยเปิด
มีสาวๆใส่กิโมโนมาคอยต้อนรับลูกค้า ส่วนใหญ่ที่มาก็มีแต่คนญี่ปุ่น แต่จุดหมายเราต้องเดินต่ออีกหน่อยค่ะ




เย๊! ในที่สุดก็ถึงแล้วค่าาาาาา! ศาลเจ้าคิบุเนะ...หาไม่ยากค่ะ แค่เดินตามทางมาเรื่อยๆ เราบิ้วให้ดูโอเว่อร์เฉยๆ(ฮา)
เดี๋ยวเราจะพามาดูแรงบันดาลใจให้เราถ่อมาถึงที่นี่กันนะคะ นั่นก็คือ...ทางขึ้นไปยังศาลเจ้านั่นเองค่ะ ^^



เป็นไงคะ...สวยชิมิล๊าาาาา ข้อดีของการมาเช้าคือจะไม่มีคนมาเดินบนบันไดให้เราถ่ายติดไงล่ะคะ สุโก๊ยยย!!


เดี๋ยวเราจะเดินขึ้นไปยังศาลเจ้ากันนะคะ ไปกันๆ ตามเลยค่ะท่านผู้โชมมมม^^


เมื่อเข้ามาก็จะพบต้นไผ่ที่ให้ผูกกระดาษและกระดาษขอพรที่สนนราคาอยู่ที่ใบละ 100 เยน จัดไปค่ะ!


แล้วเดี๋ยวเราไปสักการะศาลเจ้า ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์และซื้อของที่ระลึกกันนะคะ ที่สำคัญที่นี่ wifi ฟรีค่ะ!




หลังจากพักหายใจหายคอกัน กินขนมกินน้ำกินท่า เช็คอีเมล์อัพเฟซบุ๊คอวดชาวบ้านเสร็จ
เราก็ได้เวลาออกเดินทางต่อค่ะ เพราะเราได้ยินมาว่าที่นี่มีเส้นทางแสวงบุญที่ขึ้นชื่อม๊ากกกกกกกกก
ด้วยความที่อยากได้บุญเพิ่ม...เลยไปแสวงหามาจนเจอค่ะ เราอยากลองก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง
ด้วยการเดินข้ามภูเขาค่ะ...ใช่ค่ะ ภูเขาหลายลูกเลยค่ะ เหอๆ


ลงจากศาลเจ้าแล้วเดินย้อนกลับไปทางร้านอาหารที่เราเดินผ่านมานะคะ
ท่าจะพบกับสะพานสีแดงเล็กๆ อาจจะไม่สะดุดตาเท่าที่ควร เราจะไปที่จุดเริ่มต้นที่นั่นค่ะ
แต่! แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ ...ขอให้ทุกท่านพักชมสิ่งที่น่าสนใจซักครู่ เดี๋ยวเราจะกลับมาเดินทางต่อกันนะคะ อิอิ


ใครสนใจอยากรำลึกตอนเก่าๆ ตามLink ด้านล่างเลยนะคะ เราให้อ่านฟรี ไม่คิดตังส์ค่า! จุ๊บๆ

V
V
V


ตอนใหม่ออกแล้วน๊า!! เด็กสาวกับกระท่อมโบราณ#Miyama#05#
V
V
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชื่อสินค้า:   เกียวโต Kyoto ญี่ปุ่น Japan
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่