ธนาคารไทยพาณิชย์ การกระทำของคุณส่งผลเสียต่อธุรกิจของผม คุณจะรับผิดชอบยังไง

ผมยื่นเรื่องกู้เงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์  ก็ยื่นเรื่องตามปกติเหมือที่เคยกู้ทั้วไป  แต่พนักงานธนาคารขอข้อมูลเบอร์,โทรศัพท์  ลูกค้ารายใหญ่ๆของผม  ข้อมูลโรงงานที่ๆผมซื้อวัตถุดิบ   ซึ่งผมก็ได้ถามว่าเอาไปทำอะไร    พนักงานธนาคารตอบว่าเอาไปเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาสินเชื่อ  ถ้าเป็นอย่างที่ว่าผมก็ไม่ว่ากัน  แล้วผมได้ย้ำหลายรอบแล้วว่า  กรุณาอย่าโทรถามลูกค้าผมนะ  เพราะผมไม่ต้องการให้ใครรู้  มันเป็นผลเสียกับทางโรงงานผม  
( บางท่านอาจคิดว่ามันจะเป็นผลเสียอย่างไร  ผมยกตัวอย่างคร่าวๆว่า  ถ้าโรงงานที่ส่งวัตถุดิบผมรู้ว่าผมขาดสภาพคล่อง  แล้วเค้าจะเชื่อมั่นเหมือนเดิมมั้ย  และอีกหลายอย่าง  เพราะฉนั้นอย่าโทรดีกว่า ) พอผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ธนาคารไทยพาณิชย์  คุณเล่นโทรหมดเลยทุกที่  ทั้งที่เอาเบอร์มาจากผม  ทั่งที่จากหาในบิล  คุณโทรถามลูกค้าผม  โรงงานส่งวัตถุดิบให้ผม   แสดงว่าเอกสารเบื้อต้น เช่นเครดิตบูโร  เงินหมุน  และเอกสารรายได้ผมด็ต้องโอเคแล้วสิ  
     พอผ่านไปอีก  15  วันทางธนาคารก็ขอเอกสารผมเรื่อยๆ  ว่าผมมีรายได้อะไรอีกบ้างนอกจากนี้  ผมก็ส่งให้ซึ่งผมมีป้ายโฆษณาให้เช่าอีกปีละสามแสนกว่าบาท  พอส่งเอกสารไป  อีกเป็นเดือนผมก็ตามเรื่องไปเรื่อยๆ  ปรากฎว่าเอกสารหาย  
     ผมก็ได้ส่งเอกสารใหม่อีกครั้ง  ผ่านไปอีกประมาณ 15 วันทางธนาคารขอโฉนดที่ผมให้เช่าป้ายผมก็ส่งให้  และหลังจากนี้อีกประมาณ 15 วัน เจ้าหน้าที่โทรมาหาผมบอกผมว่าทางธนาคารขอให้ผมเดินบัญชีใหม่ให้สวยๆอีก 6 เดือนโดยจะดูแค่เดินบัญชีอย่างเดียวเอกสารอย่างอื่นไม่ต้องแล้ว
   ผมขอถามธนาคารว่า
     1.  ทำไมทางธนาคารไม่ไปดูการเดินบัญชีก่อนว่าได้หรือไม่ได้แล้วค่อยดำเนินการอย่างอื่น  โดยเฉพาะที่โทรหาลูกค้า  และ คู่ค้าของผมทั้งหลาย
     2.  สรุปทางธนาคารดูอะไรกันแน่  ดูธุรกิจ  ดูความสามารถในการส่ง   ดูรายได้  หรือว่าจะดูแค่เงินฝากเข้าออก
     3.  ผมทำโรงงานผลิตสินค้าที่ต้องเริ่มจากวัตถุดิบ  กว่าจะขายได้แต่ละล๊อตต้องใช้เวลาเป็นเดือน  แล้วธนาคารบอกให้ผมเดินบัญชีอีก 6 เดือนธนาคารเอาอะไรคิด  แล้วพนักงานผมอีก  16  คนละผมบอกเค้าให้กลับไปนอนเล่น 6 เดือนแล้วค่อยมาทำงานใหม่ได้มั้ย
     4. ผมต้องการคำตอบ  ไม่ต้องมาบอกผมขอชื่อที่อยู่  นามสกุลเบอร์โทรในกล่องข้อความ
ผมอยากถามถึงความรับผิดชอบของธนาคาร  มาตรฐานในการอนุมัติ  ได้โปรดตอบด้วยอย่าเงียบแล้วรอให้เรื่องหาย  เพราะผมจะมาถามเรื่อยๆถ้าไม่ได้คำตอบจากธนาคารไทยพาณิชย์

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ธนาคารต่างๆปัจจุบันไม่สามารถจะหาบุคคลากรดีๆแบบสมัยก่อนได้ เพราะเด็กเก่งๆจบสถาบันดีๆ
ไม่ต้องการมานั่งขายประกัน  ธนาคารสมัยนี้จึงมีพนักงานจำนวนมากที่ไม่เก่ง ไม่ฉลาดแบบ
พนักงานสมัยก่อนเข้ามา ทำงานเป็นฝ่ายต่างๆ  จึงทำให้เกิดปัญหาต่างๆเช่นนี้ตามมา  ผมก็เพิ่ง
เจอเหมือนกัน  ลูกค้าจะซื้อบ้าน มีเงินฝากเป็นล้าน มีธุรกิจที่มีรายรับหลายแสนบาทต่อเดือน ไม่ติด
บูโร  แต่พนักงานธนาคารกรุงเทพฯ ดันซื่อบื้อ ไม่อนุมัติ ผมก็เลยขายของไม่ได้ทั้งๆที่ลูกค้ามีฐานะดี

พนักงานธนาคารสมัยนี้ เอาคนโง่มาทำงานเยอะขึ้นเพราะคนฉลาดๆไม่เลือกทำงานธนาคารกันแล้ว
เนื่องจากต้องขายประกัน  ขอให้มีใบว่าจบ ปตรีมา และขยันขายประกัน ทำงานธนาคารได้ทั้งนั้น

เจ้าหน้าที่พิจารณาสินเชื่อผมว่าควรจะมาจากคนที่มีประสบการณ์ ไม่ใช่เด็กจบ ป ตรี ที่ไม่เคยทำธุรกิจ
อะไรมาก่อน ประสบการณ์น้อย พิจารณาตามตัวเลขเท่านั้น จึงทำให้เงินล้นระบบทั้งๆที่ควรจะปล่อยกู้
ให้กับคนที่มีศักยภาพที่จะจ่ายได้

ตอนนี้พวกลีสซิ่งรวยกันใหญ่ เพราะเค้าไม่ต้องมาพิจารณาอะไรมากมายแค่เอาที่ดินราคาแพงมาจำนอง
ราคาถูกๆ แค่นี้เค้าก็ปล่อยสินเชื่อแล้วครับ ไม่ต้องไปพิจารณาอะไรกันมากมายเพราะมีหลักประกัน
มูลค่าสูงอยู่ในมือ ใครจะปล่อยที่หลุดง่ายๆ คนมันก็มีวิธีหาเงินมาจ่ายหนี้อยู่แล้ว ไม่มีเงินที่ก็หลุดสิครับ
เด็กจบใหม่ไม่เคยทำธุรกิจมาก่อนจะไปรู้จักวิธีหาเงินอะไร ให้คนพวกนี้มาพิจารณาสินเชื่อ เน่า
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
เราก็มีปัญหากับธนาคารสีม่วงจนถึงกับต้องโมโหปิดบัญชีหนีเลย555
แต่เจอเหตุการณ์ตรงกันข้ามกับของ จขกท นะ555

ของ จขกท น่ะ จะกู้เงินแต่ธนาคารสีม่วงเรื่องมากกว่าจะให้กู้ได้ ของเราไม่ได้อยากกู้เงินแต่พนักงานซื่อบื้อโทรมาซ้ำๆกันมาถามเราว่า "จะให้กู้ตั้งหลายล้าน จะเอาหรือไม่" โทรมาแบบนี้เดือนละ 4-5 รอบ แล้วโทรต่อเนื่องกันตั้งหลายเดือน ทุกครั้งที่โทรมาเราก็ได้แต่ตอบว่า

"ไม่ต้องการเงินกู้ แต่อยากรู้ว่ามีบัญชีประเภทไหนอัตราดอกเบี้ยดีๆหน่อย หรือกองทุนอะไรที่เราพอจะฝากเงินหรือลงทุนได้โดยไม่ต้องเสี่ยงมากนัก"

^
พนักงานขายทุกคนที่โทรมา ไม่เคยจดบันทึกข้อมูลเลยว่าเรา

"ไม่ต้องการอะไร และต้องการอะไร"

แล้วก็โทรมาเรื่อยๆแบบนี้หลายๆเดือนอย่างต่อเนื่อง  มันอะไรกันเนี่ย...!!???...

แต่เรื่องที่เราไม่พอใจมากๆจนถึงกับต้องปิดบัญชีธนาคารสีม่วงไปเลย นั่นก็คือ เวลาเราเซ็นชื่อถอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์ (ถอนต่างสาขา) เค้าตุกติดว่า "เราเซ็นไม่เหมือน" บัตรประชาชนก็ให้ดูแล้ว ยังตุกติกอีก ถอนวันที่มีปัญหาวันแรก โดนให้เซ็นใหม่ซ้ำๆกันประมาณ 5 ครั้ง แล้วเค้ายอมให้เราถอนเงิน  แต่พอไปถอนเงินวันต่อมา คราวนี้ปัญหาใหญ่ เค้าให้เราเซ็นใหม่ซ้ำๆกันจนหมด slips ถอนเงินไป น่าจะ 20-30 ใบ สงสัยเราคงเซ็นไปเป็นร้อยๆครั้ง! มีพนักงานมานั่งล้อมรอบตัวเราดูเราเซ็นชื่อ เหมือนว่าเราเป็น "ตัวตลก" บัตรประชาชนก็ให้ดูแล้ว จะเอายังไงอีก...!!???... พวกเค้าดูลายเซ็นแล้วก็ติว่าเส้นบนมีหางมั่ง ไม่มีหางมั่ง หรือเส้นล่างตวัดไกลบ้าง ใกล้บ้าง ตรวจลายเซ็นแบบบ้าๆบอๆ แล้วในที่สุดพวกเค้าก็ไล่เราให้ไปถอนที่สาขาต้นสังกัด เราก็บอกว่า "อ้าวแล้วทีเมื่อวานทำไมให้ถอนได้ล่ะ ไม่คิดจะจำหน้าลูกค้าไว้บ้างเลยหรือว่าคนๆนี้เป็นเจ้าของบัญชีนี้จริงๆ" แต่คำตอบก็คือ "เซ็นไม่เหมือน ให้ไปถอนที่สาขาต้นสังกัด"  แล้วเราก็ถามต่อไปอีกว่า "ถ้าฉันไม่สบาย ขยับมือเซ็นชื่อไม่ได้ แล้วแสดงบัตรประชาชนก็ไม่ให้ถอนเงิน แล้วฉันจะเบิกเงินไปรักษาตัวได้ยังไงกัน" คำตอบก็คือ "สารพัดที่จะตอบ555" แล้วก็ไล่เราไปที่สาขาต้นสังกัด

^
วันนั้นเราอายคนรอบๆมากๆเลยนะ...น่าเสียดายที่ไม่ได้ถ่าย video ฉากเหตุการณ์อันระทึกใจนี้ไว้ขึ้น youtube อะ555  

^
ลายเซ็นคนน่ะเซ็นร้อยครั้งมันไม่มีทางเหมือนกันเป๊ะๆหรอก อะไรกัน ดูลายเซ็น จะดูทุกเส้นให้เหมือนเลยหรือ? อบรมพนักงานมายังไงกัน? วันนั้นโมโหมากๆ  ฝากเงินได้แต่ถอนเงินไม่ได้ แล้วเค้าก็จะเอาเงินตั้งหลายล้านมาให้เรากู้ ตลกหรือเปล่า อะ555

ทำไมทำยังงี้กับลูกค้า อบรมพนักงานกันมายังไงกัน เวลาเราถอนเงิน (ต่างสาขา) ที่ธนาคารอื่นบ่อยๆ จนพนักงานเค้าจำหน้าเราได้ พวกเค้าจะให้เกียรติเราโดยการไม่ขอดูบัตรประชาชน ให้ถอนได้เลย ไม่เคยตุกติกเรื่องลายเซ็นไม่เหมือนอย่างแสนสาหัสแบบนี้!

ยิ่งโมโหถอนเงินไม่ได้ แล้วยังโดนพนักงานขายโทรมา "ปล่อยเงินกู้" ซ้ำๆกัน ก็ยิ่งรำคาญใหญ่ เราทนไม่ไหว จึงค่อยๆถอนเงินออกจนหมดบัญชีธนาคารสีม่วงเลย ใช้เวลาถอนหลายวันเหมือนกัน เพราะไม่อยากถอนเป็น cashier's cheque ใบเดียว (กลัวโดนตุกติกเรื่องลายเซ็นเงินก้อนใหญ่) เลยถอนเงินสด แต่ไม่กล้าแบกเงินสดไปทีละมากๆ ถึงจะแค่เดินไปฝากธนาคารอื่นใกล้ๆกัน (ในห้างสรรพสินค้า) ก็เถอะ เสียวๆกลัวโดนโจรตีหัวอะ555 แล้วที่ขำกลิ้งฉากสุดท้าย นั่นก็คืออีก 2-3 วันต่อมาเรากลับไปธนาคารสีม่วงยื่นสมุดบัญชีจะปิดบัญชีนะ ตอนนั้นมีเงินเหลือประมาณ 10 กว่าบาท กว่าจะปิดบัญชีได้ก็โดนพนักงานสั่งให้เซ็นชื่อซ้ำๆอีก 5-6 รอบ เราก็ยื่นบัตรประชาชน แล้วพนักงานก็เอาลายเซ็นเรา 5-6 ลายเซ็นไปให้หัวหน้าดูว่า "เซ็นเหมือนหรือเปล่า" เหลือเชื่อสุดๆ วิธีตรวจสอบลายเซ็น (เหมือนหุ่นยนต์ทำงาน) กะอีแค่ถอนเงิน 10 กว่าบาทเพื่อปิดบัญชี555

ก็เลยอยากจะฝากบอกไว้ว่า

*****ธนาคารสีม่วงฝึกอบรมพนักงานได้ห่วยแตกสุดๆ! ไม่ให้เกียรติลูกค้าเอาซะเลย! (เรื่องตรวจสอบลายเซ็น) แถมพนักงานขาย (ขายวงเงินสินเชื่อตั้งหลายล้าน) ยังไม่รู้จักลงบันทึกว่าลูกค้าไม่ต้องการอะไร และต้องการอะไร สมัยนี้คอมพิวเตอร์มีไว้ทำไมกัน...ธ่อๆๆๆ...โปรดดูตัวอย่างที่ดีของพนักงาน call center ของ true บ้าง เวลาพนักงานเค้าโทรมาหาเราหรือเราโทรไปหาเค้า พอเปลี่ยนตัวพนักงาน พวกเค้าทุกคนคุยกับเรารู้เรื่องหมด เพราะพวกเค้าบันทึกการสนทนาไว้หมดเลย*****

^
ติเพื่อก่อนะเนี่ย จะให้รางวัลเราบ้างหรือไม่555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่