รัฐเร่งเครื่อง FastPass ปลดล็อกลงทุนกว่า 9.4 แสนล้าน กระตุ้นเศรษฐกิจปี69

KEY POINTS
รัฐบาลเร่งผลักดันระบบ FastPass เพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาการอนุมัติโครงการลงทุนจากหน่วยงานภาครัฐ โดยตั้งเป้าลดเวลาได้ 20-50%

มีเป้าหมายเพื่อปลดล็อกโครงการลงทุนที่ได้รับบัตรส่งเสริมจากบีโอไอแล้ว ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 9.4 แสนล้านบาท ให้สามารถเริ่มต้นดำเนินการได้เร็วขึ้น

คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2569 โดยจะสามารถดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบได้ทันทีประมาณ 3 แสนล้านบาท

จากที่รัฐบาลโดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ระบุว่า รัฐบาลอยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการในหลายเรื่อง ทั้งในด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุน การช่วยเหลือเอสเอ็มอี การ Upskill และ Reskill เพื่อเพิ่มทักษะแรงงานไทยให้ทันต่อเทคโนโลยีในโลกยุคใหม่ รวมถึงการใช้ระบบ Fast Pass เพื่อเร่งรัดขั้นตอนการอนุมัติ/อนุญาตที่สำคัญจากหน่วยงานภาครัฐ

ทั้งนี้ นายเอกนิติ ระบุว่า ณ ปัจจุบันมีโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมจากบีโอไอแล้วรอการปลดล็อก คิดเป็นมูลค่าการลงทุนอยู่ประมาณ 470,000 ล้านบาท โดยคาดว่าเม็ดเงินประมาณ 300,000 ล้านบาท จะสามารถเข้าสู่ระบบได้ในปี 2569 ทันที หากมีการปลดล็อกในขั้นตอนต่าง ๆ ได้โดยเร็ว


นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีโครงการได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจำนวน 2,413 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 1,114,798 ล้านบาท คาดจะมีการใช้วัตถุดิบในประเทศคิดเป็นมูลค่าประมาณ 6.1 แสนล้านบาทต่อปี เกิดการจ้างงานคนไทยกว่า 175,000 ตำแหน่ง และทำให้มูลค่าการส่งออกของประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี ขณะที่ตัวเลขโครงการที่อยู่ในขั้นการออกบัตรส่งเสริมการลงทุนมีจำนวน 2,050 โครงการ เงินลงทุนรวม 947,661 ล้านบาท
“นักลงทุนส่วนใหญ่ที่ยื่นคำขอ และได้รับอนุมัติและออกบัตรส่งเสริมแล้วจะพยายามลงทุนเพื่อเริ่มผลิตและให้บริการให้เร็วที่สุด เพื่อสร้างรายได้ตามที่วางแผนไว้ ซึ่งในการลงทุนมีหลายขั้นตอน ตั้งแต่การเจรจาพันธมิตรทางธุรกิจ การขอใบอนุญาตต่าง ๆ การเตรียมที่ดิน ก่อสร้างโรงงาน ติดต่อซัพพลายเออร์ต่าง ๆ และระบบ โลจิสติกส์ เตรียมจ้างพนักงาน ซื้อและติดตั้งเครื่องจักร ทดลองเดินเครื่อง เตรียมวัตถุดิบ จนสามารถเริ่มผลิตได้”

ทั้งนี้จากข้อมูลที่ผ่านมาพบว่า โครงการส่วนใหญ่กว่า 80% จะเริ่มลงทุนจริง ภายใน 2 ปีแรกหลังได้รับบัตรส่งเสริม ที่เหลืออีก 20% มักเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เวลาวางระบบ หรือกรณีมีการสั่งเครื่องจักรจากต่างประเทศต้องใช้เวลาเพิ่มเติม แต่หากเป็นโครงการที่ย้ายฐานการผลิตจากสงครามการค้า มีแนวโน้มเริ่มลงทุนเร็วกว่าโครงการทั่วไป โดยเฉลี่ยภายใน 1-1.5 ปีก็สามารถเริ่มผลิตได้แล้ว

อย่างไรก็ดี จากที่บอร์ดบีโอไอได้เห็นชอบการขับเคลื่อนระบบ FastPass เพื่อเร่งรัดการพิจารณาอนุมัติ/อนุญาตที่สำคัญจาก 7 หน่วยงาน ได้แก่ บีโอไอ กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมการจัดหางาน และสำนักงาน EEC คาดจะช่วยลดเวลาในการพิจารณาได้ร้อยละ 20-50 โดยมุ่งเป้าในการขยายระบบ FastPass ให้ครอบคลุมขั้นตอนหลักในการอนุมัติ/อนุญาตที่ส่งผลต่อการเริ่มต้นธุรกิจในไทย

“นอกจากนี้ บีโอไอยังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาและอุปสรรคด้านการลงทุน เพื่อให้เกิดความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) และสนับสนุนให้ภาคเอกชนสามารถเริ่มลงทุนได้โดยเร็ว โดยเฉพาะอุปสรรค 3 ด้านที่สำคัญที่เป็นปัญหาร่วมกันของหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ ด้านไฟฟ้า ด้านการจัดหาพื้นที่สำหรับการลงทุน และด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน” นายนฤตม์ กล่าว



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่