ตัดสิทธิ์ 'ทรู' เหลือ ดีแทคฟัดเอไอเอส ชิง 900 'พิชญ์' เปิดใจรับไม่ได้แบงก์ให้พ่อค้ำประกัน
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559
บอร์ดกสทช.เคาะกติกาประมูลใหม่คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ตัดสิทธิ์ "ทรูมูฟ เอช" ลงสนามกลัวผูกขาด เหลือ 2 ค่าย "ดีแทค-เอไอเอส" ได้สิทธิ์ชิงชัยอีกครั้ง 24 มิ.ย.นี้ ส่วนข้อเสนอเครือเอไอเอสขอรับช่วงคลื่นความถี่ของแจส โมบายนั้น บอร์ด กสทช.รีบส่งคสช.ภายในสัปดาห์นี้ ว่าจะใช้ม.44 ออกประกาศหลักเกณฑ์ใหม่รองรับหรือไม่ "บิ๊กตู่" ออกตัวขอดูข้อกฎหมายก่อน ด้าน "พิชญ์" ปรากฏตัวครั้งแรกเข้าชี้แจงบอร์ดกสทช. แจง 5 ปมคาใจ
จากกรณีบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ในชุดที่ 1 ช่วงคลื่นความถี่ 895-905 เมกะเฮิรตซ์ คู่กับ 940-950 เมกะเฮิรตซ์ ที่ราคา 75,654 ล้านบาท แต่ทำผิดเงื่อนไขไม่มาชำระเงินงวดแรกพร้อมแบงก์การันตีภายในกำหนด จนถูกยึดเงินประกันการประมูล 644 ล้านบาท และคณะทำงานกำลังสรุปความเสียหายที่จะเรียกร้องให้ชดใช้ พร้อมกันนี้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) เตรียมการประมูลใหม่ วันที่ 24 มิถุนายนนี้ โดยเปิดทางให้บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ผู้ชนะประมูลคลื่นในชุดที่ 2 ที่เสนอราคาสุดท้ายที่ 76,289 ล้านบาท เข้าร่วมประมูลได้ นั้น
ตัดสิทธิ์"ทรูมูฟเอช"เข้าประมูล
เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา มีการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อพิจารณาเงื่อนไขการจัดประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ใหม่ของกทค. ภายหลังการประชุมนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กสทช. รับรองมติที่ประชุมบอร์ด กทค. ในการนำคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ แต่มีมติให้แก้ไขเงื่อนไขผู้เข้าร่วมประมูลกรณีของทรูมูฟ เอช โดยบอร์ด กสทช. มีมติ 5:3 เสียง ไม่ให้ทรูมูฟ เอช เข้าร่วมประมูลครั้งใหม่นี้
นอกจากนี้แล้วบอร์ด กสทช.มีมติด้วยเสียง 6 : 0 เห็นด้วยกับการกำหนดราคาเริ่มต้นการประมูล เท่ากับที่แจสเสนอราคาสุดท้าย คือ 75,654 ล้านบาท แต่อีกจำนวน 2 เสียงไม่ออกความคิดเห็นในเรื่องนี้
ส่วนเงื่อนไขอื่นให้เป็นไปตามข้อกำหนดเดิมและที่กทค.มีมติ คือ เงื่อนไขหลักประกันการประมูล ยืนที่อัตรา 5% ของจำนวนราคาเริ่มต้นประมูล คือ 3,783 ล้านบาท เคาะราคาครั้งละ 152 ล้านบาท ขณะที่หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการประมูล กทค.มีมติเปลี่ยนแปลงปรับจากเดิม 15% เพิ่มเป็น 20% หรือคิดเป็นมูลค่า 15,351 ล้านบาท และจะมีการขึ้นบัญชีผู้ชนะการประมูลตามลำดับที่ 1-2 และ 3 หากผู้ชนะการประมูลในลำดับที่ 1 ไม่นำเงินมาชำระประมูล จะเลื่อนลำดับที่ 2 และ 3 ขึ้นมารับสิทธิแทนตามลำดับ
แจงหวั่น "ทรูมูฟ เอช"ผูกขาด
นายฐากรกล่าวอีกว่า จากเดิมที่บอร์ด กทค.เห็นว่า ควรให้ทรูมูฟ เอช เข้าร่วมประมูลได้ แต่บอร์ดกสทช.ไม่ให้เข้าประมูลตามมติดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าทรูมูฟ เอช จะผูกขาดตลาดมากจนเกินไป โดยในการประชุมครั้งนี้มีคณะกรรมการ กสทช.จำนวน 2 คน ที่ไม่ได้มาร่วมประชุม
ส่วนมติตัดสิทธิ์ดังกล่าวจะทำให้ทรูมูฟ เอช ฟ้องหรือไม่นั้น นายฐากรกล่าวว่า เป็นมติที่ประชุมบอร์ด กสทช. เมื่อออกมาอย่างไรแล้ว ก็ต้องยืนตามมตินั้น ให้รอวันที่ 24 มิถุนายนนี้ ว่าจะมีเอกชนเข้าร่วมประมูลหรือไม่ ดังนั้นขณะนี้เหลือผู้ประกอบการเพียง 2 รายเท่านั้น คือ บริษัทในเครือเอไอเอส หรือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และในเครือดีแทค หรือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่จะเข้ามามาเคาะราคาประมูลแข่งกัน
ด้านน.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา หรือ "หมอลี่" หนึ่งในบอร์ด กสทช. เผยถึงเรื่องนี้ว่า ควรจะเปิดประมูลที่ราคา 75,654 ล้านบาท เป็นราคาเริ่มต้นตามที่แจส ประมูลได้เมื่อครั้งที่แล้ว และการประมูลใหม่ควรเปิดกว้างให้ทุกค่ายเสนอราคาเข้ามาได้แต่เขียนเป็นตัวเลขเสนอราคาประมูลเพียงครั้งเดียว รอบเดียว แล้วเปิดซอง ไม่ต้องเคาะราคาเหมือนครั้งที่ผ่านมาเพราะกฎหมายระบุให้ต้องเปิดประมูล
ชิงส่งข้อเสนอเอไอเอส.ให้คสช.
ส่วนข้อเสนอตามหนังสือของบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด(เอดับบลิวเอ็น)ในเครือเอไอเอส ที่สำนักงานกสทช.ได้รับเมื่อ 15.00 น.วันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา แจ้งว่าพร้อมรับราคาคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่ 75,654 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาคลื่นความถี่ที่แจส ประมูลได้ในราคาสุดท้าย แต่ทั้งนี้ต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 14 เมษายนนี้ ก่อนที่มาตรการเยียวยาลูกค้าผู้ใช้บริการในคลื่นความถี่นี้ จะสิ้นสุดลง ตามที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองจนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 14 เมษายนนี้ เลขาธิการ กสทช.รับว่า จะรีบนำเรื่องดังกล่าวเรียนเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)โดยเร็วต่อไป
"ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่เอไอเอสสนใจราคานี้ แต่ในทางกฎหมาย กสทช.ไม่สามารถทำได้ ต้องใช้อำนาจของ คสช. โดยอาศัยมาตรา 44 ออกประกาศกฎเกณฑ์เพิ่มเติม จากเดิมที่ กสทช.กำหนดว่า เมื่อยกเลิกการประมูล รายที่ 2 ที่เสนอราคาได้ไม่มีสิทธิ์ ต้องจัดการประมูลใหม่ แต่เราจะนำเรียนเสนอต่อหัวหน้า คสช. ให้ใช้ม.44 เปลี่ยนหลักเกณฑ์ให้ผู้ประมูลรายที่ 2 คือ เอดับบลิวเอ็น หรือบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในเครือเอไอเอส ที่ประมูลราคาสุดท้าย 75,976 ล้านบาท เมื่อมีคนสนใจแล้วเราต้องทำความเห็น ได้คำนึงถึงข้อดีข้อเสียทั้งหมด ถ้าคสช.รับเรื่อง ก็ไม่ต้องประมูลในวันที่ 24 มิถุนายน เพราะถือว่าเป็นการออกประกาศเพิ่มเติม"
8 เม.ย.รู้ผล
นายฐากร กล่าวอีกว่า การประมูลครั้งที่ผ่านมา กสทช.ไม่คาดว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เมื่อเอดับบลิวเอ็น เสนอเงื่อนไขเข้ามาทำหน้าที่ของ กสทช.ต้องนำเสนอต่อ คสช.ขึ้นไปถือว่าเป็นอำนาจ คสช. ดังนั้น กสทช.พิจารณาเรื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุด ถ้า คสช.ออกประกาศมาอย่างไร กสทช.ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะแย้งได้ เราจะพยายามให้ดีที่สุด
"กสทช.ไม่อยากรบกวนท่าน (หัวหน้า คสช.) แต่เมื่อได้รับหนังสือจากเอดับบลิวเอ็น ทำให้เรามีจุดเริ่มต้น ศุกร์นี้ (8 เมษายน) รู้ผล"
นอกจากนี้แล้วราคาสุดท้ายที่แจสประมูลได้นี้ คิดว่าราคาไม่สูง เพราะถ้าราคาสูงทรูก็คงไม่รับราคาประมาณนี้ ซึ่งภายใต้สัญญาสัมปทาน ทุกคนต้องจ่ายสัญญาสัมปทานสูงกว่าค่าใบอนุญาตที่กสทช.จัดสรรให้ภายใน 15 ปี เฉลี่ยปีละ 5 พันกว่าล้านบาท
ขณะที่นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของเอไอเอส ได้เดินทางเข้าพบประธานบอร์ด กสทช.บนชั้นที่ 12 ใช้เวลาหารือกันประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเดินทางกลับ โดยตอบคำถามเพียงสั้นๆ ว่า "รอก่อน"
"บิ๊กตู่" ขอดู ก.ม.ก่อน
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม. ถึงข้อเสนอเอไอเอสจะขอรับช่วงคลื่นที่แจสประมูลได้ ซึ่งต้องใช้อำนาจตาม ม.44 สั่งการ ว่า เรื่องนี้ขอดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ และต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่หากเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นและไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ก็พร้อมจะใช้คำสั่งม.44 ดำเนินการ
ด้านนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ส่วนจะใช้อำนาจตามม.44 ของหัวหน้าคสช.หรือไม่ เป็นอำนาจการตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์
พิชญ์แจงติดเงื่อน"ค้ำส่วนตัว"
วันเดียวกันนายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้ปรากฏตัวครั้งแรก โดยได้เดินทางตามคำเชิญสำนักงาน กสทช. ให้มาชี้แจงกรณีผิดนัดชำระค่างวดจนต้องถูกเรียกใบอนุญาตคืน หลังการชี้แจง ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ได้มาชี้แจงกสทช. ใน 5 ประเด็นหลัก คือ
1. ได้ทำเต็มที่แล้วมีศักยภาพ ตอนแรกมี 3BB ให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ตั้งใจเข้ามาจริงๆ ไม่ได้เป็นนอมินีของใคร เราอยากเป็นผุ้ให้บริการมือถือ 4 จี สัญชาติไทย
2.กรณีการมาเคาะราคาประมูลเองตอนคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ แต่ทำไม 900 เมกะเฮิรตซ์ถึงไม่มาเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องของกลยุทธ์ เป็นแท็กติกส์การประมูล และให้นโยบายทีมงาน วางกรอบวงเงินประมูลเงินไว้ที่ 8 หมื่นล้านบาท เป็นหน้าที่ของทีมงานที่เคาะจนได้ อย่าลืมว่าเป็นการแข่งขันการประมูลราคาต้องสูง อยู่ที่ใครมีตัวเลขมากกว่ากัน การประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ครั้งนี้มาราธอน เหตุผลไม่เข้าประมูลเป็นเรื่องแท็กติกส์ 3.แหล่งเงินและพันธมิตร ได้มีการเจรจากับแบงก์กรุงเทพ หัวเว่ย (ซัพพลายเออร์ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่)
"สุดท้ายติดเรื่องเดียว ผู้ใหญ่โทร.มานาทีสุดท้าย ว่าคุณพิชญ์ ต้องค้ำประกันส่วนตัว และให้คุณพ่อ (อดิศัย โพธารามิก) ต้องค้ำประกันด้วย ตรงนี้ผมรับไม่ได้ เพราะคุณพ่อก็อายุมากแล้ว เป็นเหตุให้ไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของบริษัท เรากับแบงก์กรุงเทพเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน ช่วงวันที่ 20 มกราคม จึงได้หยุดคุยกับแบงก์กรุงเทพ"
4.บริษัทได้หาวิธีอื่น ได้มีการเจรจากับ ICBC (ธนาคารพาณิชย์อุตสาหกรรมแห่งประเทศจีน) ก่อนตรุษจีนได้ส่งจดหมายเจรจากับผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ คือ ไชน่า เทเลคอม,ไชน่า ยูนิคอม และ แชร์ลิ่ง โมบาย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับที่ 4 ในสาธารณรัฐประชาชนจีน และทาง ZTE ได้เสนอเซริโก้ (CERICO เป็นรัฐวิสากิจของจีน) ช่วงหลังมีบริษัทแนะนำ คือ ICDC เป็นกองทุนจากปักกิ่ง พร้อมลงทุน 3 หมื่นล้านบาทโดยจะเข้ามาถือหุ้นในแจส โมบาย จำนวน 49% แต่เวลาเหลือไม่มาก
"ทำให้ระยะเวลาการหาพันธมิตรไม่ทัน ทำให้ไม่จบในวันที่ 21 มีนาคมนี้ตามกำหนดการ สิ่งที่เราเจรจาจะแล้วเสร็จเดือนเมษายน"
เคลียร์ปมหุ้นแจส
ในประเด็นสุดท้ายคือ แจสได้จ่ายปันผล 30 สตางค์ ซื้อหุ้นคืน 6 พันล้านบาท ทำโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 4 จี ทำได้ เพราะสิ่งที่บริษัททำอยู่เรื่องปันผลซื้อหุ้นคืน เป็นผลประกอบการของแจส หรือ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่ขายกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน(JASIF) สิ่งที่ทำเพื่อผู้ถือหุ้น "เราทำหมดทุกอย่างแม้แต่เรื่องไม่เพิ่มทุนในแจส วันนี้เราก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น เราขอจบแบบนี้ และไปเน้นธุรกิจบรอดแบนด์ที่มีเป้าหมาย"
ต่อข้อถามว่ายังอยู่ในวงการโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือไม่ พิชญ์ ตอบว่าตอนนี้ไม่ทำมือถือ แต่อนาคตยังตอบไม่ได้ ส่วนเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ต้องรอคณะทำงาน ส่วนกรณีที่ กสทช.จะยึดใบอนุญาตนั้น บริษัท อื่นไม่ได้ทำผิดอะไรทำตามกติกา และ กสทช.ต้องตัดสินใจจากข้อเท็จจริง
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 (หน้า 1, 12)
ข่าวอื่นๆ
หวั่นประมูลคลื่น 900 รอบใหม่ล่มเร่งเจรจา 3 ค่ายมือถือหาทางออก-หาเงินเข้ารัฐ
http://pantip.com/topic/35004006
'เลอโนโว' เพิ่มโฟกัสตลาดไทยดึง 'โมโต' เสริมทัพสมาร์ทโฟน
http://pantip.com/topic/35004428
"สุภิญญา" เผย 'หมอลี่" ร่วมวงโหวตคว่ำ 5:3 ตัดสิทธิ์ "TRUE" ประมูลคลื่น 900
http://pantip.com/topic/35004720
ตัดสิทธิ์ 'ทรู' เหลือ ดีแทคฟัดเอไอเอส ชิง 900 'พิชญ์' เปิดใจรับไม่ได้แบงก์ให้พ่อค้ำ
ตัดสิทธิ์ 'ทรู' เหลือ ดีแทคฟัดเอไอเอส ชิง 900 'พิชญ์' เปิดใจรับไม่ได้แบงก์ให้พ่อค้ำประกัน
ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559
บอร์ดกสทช.เคาะกติกาประมูลใหม่คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ตัดสิทธิ์ "ทรูมูฟ เอช" ลงสนามกลัวผูกขาด เหลือ 2 ค่าย "ดีแทค-เอไอเอส" ได้สิทธิ์ชิงชัยอีกครั้ง 24 มิ.ย.นี้ ส่วนข้อเสนอเครือเอไอเอสขอรับช่วงคลื่นความถี่ของแจส โมบายนั้น บอร์ด กสทช.รีบส่งคสช.ภายในสัปดาห์นี้ ว่าจะใช้ม.44 ออกประกาศหลักเกณฑ์ใหม่รองรับหรือไม่ "บิ๊กตู่" ออกตัวขอดูข้อกฎหมายก่อน ด้าน "พิชญ์" ปรากฏตัวครั้งแรกเข้าชี้แจงบอร์ดกสทช. แจง 5 ปมคาใจ
จากกรณีบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ในชุดที่ 1 ช่วงคลื่นความถี่ 895-905 เมกะเฮิรตซ์ คู่กับ 940-950 เมกะเฮิรตซ์ ที่ราคา 75,654 ล้านบาท แต่ทำผิดเงื่อนไขไม่มาชำระเงินงวดแรกพร้อมแบงก์การันตีภายในกำหนด จนถูกยึดเงินประกันการประมูล 644 ล้านบาท และคณะทำงานกำลังสรุปความเสียหายที่จะเรียกร้องให้ชดใช้ พร้อมกันนี้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) เตรียมการประมูลใหม่ วันที่ 24 มิถุนายนนี้ โดยเปิดทางให้บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ผู้ชนะประมูลคลื่นในชุดที่ 2 ที่เสนอราคาสุดท้ายที่ 76,289 ล้านบาท เข้าร่วมประมูลได้ นั้น
ตัดสิทธิ์"ทรูมูฟเอช"เข้าประมูล
เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา มีการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อพิจารณาเงื่อนไขการจัดประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ใหม่ของกทค. ภายหลังการประชุมนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กสทช. รับรองมติที่ประชุมบอร์ด กทค. ในการนำคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ แต่มีมติให้แก้ไขเงื่อนไขผู้เข้าร่วมประมูลกรณีของทรูมูฟ เอช โดยบอร์ด กสทช. มีมติ 5:3 เสียง ไม่ให้ทรูมูฟ เอช เข้าร่วมประมูลครั้งใหม่นี้
นอกจากนี้แล้วบอร์ด กสทช.มีมติด้วยเสียง 6 : 0 เห็นด้วยกับการกำหนดราคาเริ่มต้นการประมูล เท่ากับที่แจสเสนอราคาสุดท้าย คือ 75,654 ล้านบาท แต่อีกจำนวน 2 เสียงไม่ออกความคิดเห็นในเรื่องนี้
ส่วนเงื่อนไขอื่นให้เป็นไปตามข้อกำหนดเดิมและที่กทค.มีมติ คือ เงื่อนไขหลักประกันการประมูล ยืนที่อัตรา 5% ของจำนวนราคาเริ่มต้นประมูล คือ 3,783 ล้านบาท เคาะราคาครั้งละ 152 ล้านบาท ขณะที่หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการประมูล กทค.มีมติเปลี่ยนแปลงปรับจากเดิม 15% เพิ่มเป็น 20% หรือคิดเป็นมูลค่า 15,351 ล้านบาท และจะมีการขึ้นบัญชีผู้ชนะการประมูลตามลำดับที่ 1-2 และ 3 หากผู้ชนะการประมูลในลำดับที่ 1 ไม่นำเงินมาชำระประมูล จะเลื่อนลำดับที่ 2 และ 3 ขึ้นมารับสิทธิแทนตามลำดับ
แจงหวั่น "ทรูมูฟ เอช"ผูกขาด
นายฐากรกล่าวอีกว่า จากเดิมที่บอร์ด กทค.เห็นว่า ควรให้ทรูมูฟ เอช เข้าร่วมประมูลได้ แต่บอร์ดกสทช.ไม่ให้เข้าประมูลตามมติดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าทรูมูฟ เอช จะผูกขาดตลาดมากจนเกินไป โดยในการประชุมครั้งนี้มีคณะกรรมการ กสทช.จำนวน 2 คน ที่ไม่ได้มาร่วมประชุม
ส่วนมติตัดสิทธิ์ดังกล่าวจะทำให้ทรูมูฟ เอช ฟ้องหรือไม่นั้น นายฐากรกล่าวว่า เป็นมติที่ประชุมบอร์ด กสทช. เมื่อออกมาอย่างไรแล้ว ก็ต้องยืนตามมตินั้น ให้รอวันที่ 24 มิถุนายนนี้ ว่าจะมีเอกชนเข้าร่วมประมูลหรือไม่ ดังนั้นขณะนี้เหลือผู้ประกอบการเพียง 2 รายเท่านั้น คือ บริษัทในเครือเอไอเอส หรือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และในเครือดีแทค หรือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่จะเข้ามามาเคาะราคาประมูลแข่งกัน
ด้านน.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา หรือ "หมอลี่" หนึ่งในบอร์ด กสทช. เผยถึงเรื่องนี้ว่า ควรจะเปิดประมูลที่ราคา 75,654 ล้านบาท เป็นราคาเริ่มต้นตามที่แจส ประมูลได้เมื่อครั้งที่แล้ว และการประมูลใหม่ควรเปิดกว้างให้ทุกค่ายเสนอราคาเข้ามาได้แต่เขียนเป็นตัวเลขเสนอราคาประมูลเพียงครั้งเดียว รอบเดียว แล้วเปิดซอง ไม่ต้องเคาะราคาเหมือนครั้งที่ผ่านมาเพราะกฎหมายระบุให้ต้องเปิดประมูล
ชิงส่งข้อเสนอเอไอเอส.ให้คสช.
ส่วนข้อเสนอตามหนังสือของบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด(เอดับบลิวเอ็น)ในเครือเอไอเอส ที่สำนักงานกสทช.ได้รับเมื่อ 15.00 น.วันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา แจ้งว่าพร้อมรับราคาคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่ 75,654 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาคลื่นความถี่ที่แจส ประมูลได้ในราคาสุดท้าย แต่ทั้งนี้ต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 14 เมษายนนี้ ก่อนที่มาตรการเยียวยาลูกค้าผู้ใช้บริการในคลื่นความถี่นี้ จะสิ้นสุดลง ตามที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองจนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 14 เมษายนนี้ เลขาธิการ กสทช.รับว่า จะรีบนำเรื่องดังกล่าวเรียนเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)โดยเร็วต่อไป
"ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่เอไอเอสสนใจราคานี้ แต่ในทางกฎหมาย กสทช.ไม่สามารถทำได้ ต้องใช้อำนาจของ คสช. โดยอาศัยมาตรา 44 ออกประกาศกฎเกณฑ์เพิ่มเติม จากเดิมที่ กสทช.กำหนดว่า เมื่อยกเลิกการประมูล รายที่ 2 ที่เสนอราคาได้ไม่มีสิทธิ์ ต้องจัดการประมูลใหม่ แต่เราจะนำเรียนเสนอต่อหัวหน้า คสช. ให้ใช้ม.44 เปลี่ยนหลักเกณฑ์ให้ผู้ประมูลรายที่ 2 คือ เอดับบลิวเอ็น หรือบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในเครือเอไอเอส ที่ประมูลราคาสุดท้าย 75,976 ล้านบาท เมื่อมีคนสนใจแล้วเราต้องทำความเห็น ได้คำนึงถึงข้อดีข้อเสียทั้งหมด ถ้าคสช.รับเรื่อง ก็ไม่ต้องประมูลในวันที่ 24 มิถุนายน เพราะถือว่าเป็นการออกประกาศเพิ่มเติม"
8 เม.ย.รู้ผล
นายฐากร กล่าวอีกว่า การประมูลครั้งที่ผ่านมา กสทช.ไม่คาดว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เมื่อเอดับบลิวเอ็น เสนอเงื่อนไขเข้ามาทำหน้าที่ของ กสทช.ต้องนำเสนอต่อ คสช.ขึ้นไปถือว่าเป็นอำนาจ คสช. ดังนั้น กสทช.พิจารณาเรื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุด ถ้า คสช.ออกประกาศมาอย่างไร กสทช.ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะแย้งได้ เราจะพยายามให้ดีที่สุด
"กสทช.ไม่อยากรบกวนท่าน (หัวหน้า คสช.) แต่เมื่อได้รับหนังสือจากเอดับบลิวเอ็น ทำให้เรามีจุดเริ่มต้น ศุกร์นี้ (8 เมษายน) รู้ผล"
นอกจากนี้แล้วราคาสุดท้ายที่แจสประมูลได้นี้ คิดว่าราคาไม่สูง เพราะถ้าราคาสูงทรูก็คงไม่รับราคาประมาณนี้ ซึ่งภายใต้สัญญาสัมปทาน ทุกคนต้องจ่ายสัญญาสัมปทานสูงกว่าค่าใบอนุญาตที่กสทช.จัดสรรให้ภายใน 15 ปี เฉลี่ยปีละ 5 พันกว่าล้านบาท
ขณะที่นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของเอไอเอส ได้เดินทางเข้าพบประธานบอร์ด กสทช.บนชั้นที่ 12 ใช้เวลาหารือกันประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเดินทางกลับ โดยตอบคำถามเพียงสั้นๆ ว่า "รอก่อน"
"บิ๊กตู่" ขอดู ก.ม.ก่อน
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม. ถึงข้อเสนอเอไอเอสจะขอรับช่วงคลื่นที่แจสประมูลได้ ซึ่งต้องใช้อำนาจตาม ม.44 สั่งการ ว่า เรื่องนี้ขอดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ และต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่หากเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นและไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ก็พร้อมจะใช้คำสั่งม.44 ดำเนินการ
ด้านนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ส่วนจะใช้อำนาจตามม.44 ของหัวหน้าคสช.หรือไม่ เป็นอำนาจการตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์
พิชญ์แจงติดเงื่อน"ค้ำส่วนตัว"
วันเดียวกันนายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้ปรากฏตัวครั้งแรก โดยได้เดินทางตามคำเชิญสำนักงาน กสทช. ให้มาชี้แจงกรณีผิดนัดชำระค่างวดจนต้องถูกเรียกใบอนุญาตคืน หลังการชี้แจง ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ได้มาชี้แจงกสทช. ใน 5 ประเด็นหลัก คือ
1. ได้ทำเต็มที่แล้วมีศักยภาพ ตอนแรกมี 3BB ให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ตั้งใจเข้ามาจริงๆ ไม่ได้เป็นนอมินีของใคร เราอยากเป็นผุ้ให้บริการมือถือ 4 จี สัญชาติไทย
2.กรณีการมาเคาะราคาประมูลเองตอนคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ แต่ทำไม 900 เมกะเฮิรตซ์ถึงไม่มาเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องของกลยุทธ์ เป็นแท็กติกส์การประมูล และให้นโยบายทีมงาน วางกรอบวงเงินประมูลเงินไว้ที่ 8 หมื่นล้านบาท เป็นหน้าที่ของทีมงานที่เคาะจนได้ อย่าลืมว่าเป็นการแข่งขันการประมูลราคาต้องสูง อยู่ที่ใครมีตัวเลขมากกว่ากัน การประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ครั้งนี้มาราธอน เหตุผลไม่เข้าประมูลเป็นเรื่องแท็กติกส์ 3.แหล่งเงินและพันธมิตร ได้มีการเจรจากับแบงก์กรุงเทพ หัวเว่ย (ซัพพลายเออร์ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่)
"สุดท้ายติดเรื่องเดียว ผู้ใหญ่โทร.มานาทีสุดท้าย ว่าคุณพิชญ์ ต้องค้ำประกันส่วนตัว และให้คุณพ่อ (อดิศัย โพธารามิก) ต้องค้ำประกันด้วย ตรงนี้ผมรับไม่ได้ เพราะคุณพ่อก็อายุมากแล้ว เป็นเหตุให้ไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของบริษัท เรากับแบงก์กรุงเทพเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน ช่วงวันที่ 20 มกราคม จึงได้หยุดคุยกับแบงก์กรุงเทพ"
4.บริษัทได้หาวิธีอื่น ได้มีการเจรจากับ ICBC (ธนาคารพาณิชย์อุตสาหกรรมแห่งประเทศจีน) ก่อนตรุษจีนได้ส่งจดหมายเจรจากับผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ คือ ไชน่า เทเลคอม,ไชน่า ยูนิคอม และ แชร์ลิ่ง โมบาย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับที่ 4 ในสาธารณรัฐประชาชนจีน และทาง ZTE ได้เสนอเซริโก้ (CERICO เป็นรัฐวิสากิจของจีน) ช่วงหลังมีบริษัทแนะนำ คือ ICDC เป็นกองทุนจากปักกิ่ง พร้อมลงทุน 3 หมื่นล้านบาทโดยจะเข้ามาถือหุ้นในแจส โมบาย จำนวน 49% แต่เวลาเหลือไม่มาก
"ทำให้ระยะเวลาการหาพันธมิตรไม่ทัน ทำให้ไม่จบในวันที่ 21 มีนาคมนี้ตามกำหนดการ สิ่งที่เราเจรจาจะแล้วเสร็จเดือนเมษายน"
เคลียร์ปมหุ้นแจส
ในประเด็นสุดท้ายคือ แจสได้จ่ายปันผล 30 สตางค์ ซื้อหุ้นคืน 6 พันล้านบาท ทำโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 4 จี ทำได้ เพราะสิ่งที่บริษัททำอยู่เรื่องปันผลซื้อหุ้นคืน เป็นผลประกอบการของแจส หรือ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่ขายกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน(JASIF) สิ่งที่ทำเพื่อผู้ถือหุ้น "เราทำหมดทุกอย่างแม้แต่เรื่องไม่เพิ่มทุนในแจส วันนี้เราก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น เราขอจบแบบนี้ และไปเน้นธุรกิจบรอดแบนด์ที่มีเป้าหมาย"
ต่อข้อถามว่ายังอยู่ในวงการโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือไม่ พิชญ์ ตอบว่าตอนนี้ไม่ทำมือถือ แต่อนาคตยังตอบไม่ได้ ส่วนเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ต้องรอคณะทำงาน ส่วนกรณีที่ กสทช.จะยึดใบอนุญาตนั้น บริษัท อื่นไม่ได้ทำผิดอะไรทำตามกติกา และ กสทช.ต้องตัดสินใจจากข้อเท็จจริง
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 (หน้า 1, 12)
ข่าวอื่นๆ
หวั่นประมูลคลื่น 900 รอบใหม่ล่มเร่งเจรจา 3 ค่ายมือถือหาทางออก-หาเงินเข้ารัฐ
http://pantip.com/topic/35004006
'เลอโนโว' เพิ่มโฟกัสตลาดไทยดึง 'โมโต' เสริมทัพสมาร์ทโฟน
http://pantip.com/topic/35004428
"สุภิญญา" เผย 'หมอลี่" ร่วมวงโหวตคว่ำ 5:3 ตัดสิทธิ์ "TRUE" ประมูลคลื่น 900
http://pantip.com/topic/35004720