ไขคดีหัวใจ...ใต้มนต์จันทร์ ตอนที่ ๑๖ - ตอนที่ ๑๗

ตอนเก่า



ไขคดีหัวใจ...ใต้มนต์จันทร์


ตอนที่ 16


    สำหรับเกวลินแล้ว ในเกมการจับผิดคนนอกใจ สิ่งสำคัญคือต้องไม่ลืมว่าขณะนี้เป็นยุคสมัยแห่งความซับซ้อน ไม่นับว่าพฤติกรรมของคนเรายังซับซ้อนยิ่งกว่ายุคสมัย ลูกค้าผู้หญิงหลายคนของหล่อนมักพุ่งเป้ามือที่สามไปที่หมอนวด นักร้องในคาเฟ่ โคโยตี้ตามผับบาร์ จนเกวลินต้องคอยดึงสติพวกหล่อนอยู่เสมอว่าควรคิดให้ซับซ้อนกว่านั้นหน่อย เพราะกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของคดีที่หล่อนเคยสืบ มือที่สามซ่อนตัวแนบเนียนกว่านั้นเยอะ อย่างคดีของชนมนก็เช่นกัน สรุปแล้วชู้รักของนายโกสินทร์กลับเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของชนมนอย่างที่ตั้งสมมติฐานไว้ตั้งแต่ต้น

    ไม่ใช่อรอุมา ไม่ใช่พิมตะวัน...และไม่ใช่แองจี้

    แต่เป็น...สาวิตรี!

    จริงอยู่ว่าตอนแรกเกวลินสงสัยสาวิตรีน้อยที่สุด เพียงแต่พอได้คุยกันเท่านั้นแหละ นักสืบสาวก็ได้ข้อสรุปว่าสาวิตรีคือผู้ต้องสงสัยเบอร์หนึ่ง การที่เธอเดินเข้ามาให้ข้อมูลก็เพื่อจะเล่นละครทำให้หล่อนไขว้เขวไปหาแองจี้

    ร้ายกาจสมกับเป็นนักแสดงมือรางวัล

    หลังจากนั้น เกวลินจึงทำการแบ่งลูกทีมสองคนออกเป็นสองภารกิจ คนหนึ่งไปตามนายโกสินทร์ และอีกคนหนึ่งตามประกบสาวิตรี สลับกันไปในแต่ละวัน แผนการนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการจับผิดการนอกใจครั้งนี้ให้อยู่หมัดง่ายขึ้น ดีกว่าตามสะกดรอยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่คนเดียว และในบ่ายโมงตรงวันหนึ่ง หลังจากสะกดรอยทั้งคู่มาเป็นเวลาสามวัน ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเกวลินในขณะนี้ก็ยืนยันได้ว่าแผนการที่ทำมาทั้งหมดนั้นไม่ล้มเหลว เมื่อโกสินทร์และสาวิตรีนัดพบกันที่ปั๊มแห่งหนึ่งบนถนนที่มุ่งหน้าออกสู่ชานเมือง

    เกวลินซ่อนตัวอยู่ในรถคันใหญ่ที่จอดอยู่บริเวณหน้าปั๊ม ใช้กล้องส่องทางไกลมองการเคลื่อนไหวของเป้าหมายทั้งสองที่กำลังลงจากรถของตัวเองแล้วพากันมาขึ้นรถญี่ปุ่นบุโรทั่งซึ่งจอดแช่ไว้ก่อนแล้ว ขณะที่ลูกทีมทั้งสองแสตนบายอยู่ไม่ไกล รถโฟล์คของจงจินต์จอดอยู่ถนนฝั่งตรงข้าม ในขณะที่ปวีร์ซ่อนตัวอยู่พร้อมกับช็อปเปอร์คู่ใจในตรอกแคบๆ ข้างปั๊ม

    ในจังหวะที่นักสืบสาวกำลังรอคอยเป้าหมายให้เคลื่อนไหวเพื่อทำการสะกดรอยตามครั้งสำคัญอยู่นั้น บทสนทนาระหว่างหล่อนกับเขาเมื่อสองวันก่อนก็ดังขึ้นมาในห้วงความทรงจำ

    ‘ผมขอสั่งให้คุณหยุดทำทุกอย่างเดี๋ยวนี้เลยคุณเกวลิน’ เขาออกคำสั่ง

    ‘อ้าว ก็ไหนเราตกลงกันแล้วนี่ว่า...’

      ‘เมื่อวานผมจะพูดกับคุณยังไงก็ช่าง’ เขาพูดแทรก ‘เอาเป็นว่า ตอนนี้ผมขอยกเลิกทุกอย่าง’

    ‘ทำไมคะ’

      ‘คุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอก’ เขาตัดบท ‘เอาเป็นว่าคุณสัญญากับผมได้ไหมว่าจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้อีก ว่าไงคุณเกวลิน ตอบผมด้วยว่าคุณสัญญา’

    ‘แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหมล่ะ’


    มีแต่ออกคำสั่ง พูดแทรก แถมยังตัดบท ความทรงจำดีๆ ที่เริ่มจะผุดขึ้นมาอยู่บ้างหายวับไปในพริบตา เกวลินรู้สึกโกรธจนไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเสียเวลาคุยกับเขาเพิ่มอีกแม้แต่ประโยคเดียว และสิ่งที่เขาสมควรได้รับจากหล่อนก็คือการแกล้งตอบตกลงแล้วตลบหลังแบบนี้แหละ!

    พอนายโกสินทร์ขับรถเก๋งคันเก่าออกจากปั๊มแล้วมุ่งหน้าออกสู่ชานเมือง นักสืบสาวและลูกทีมก็รีบผลัดกันขับรถตามประกบนายโกสินทร์ต่ออย่างระมัดระวัง ไม่สนใจคำสัญญาบ้าบอที่มีต่อร้อยตำรวจโทชงคมอย่างสิ้นเชิง จากท่าทีอันเต็มไปด้วยพิรุธของเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นการแอบนัดเจอในปั๊มเล็กๆ แถวชานเมือง แถมยังมีสับเปลี่ยนรถอีกด้วย เกวลินยิ่งมั่นใจว่าวันนี้หล่อนจะต้องทำได้สำเร็จ

    แต่ทุกอย่างกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด คนที่กำลังทำความผิดย่อมระแวงฉันใด นายโกสินทร์ในเวลานี้ก็เป็นไปฉันนั้น ในจังหวะที่ปวีร์เริ่มขับประกบไปตามถนนวิภาวดีรังสิต จู่ๆ นายโกสินทร์เลี้ยวรถเข้าสู่ถนนเล็กๆ เลียบทางรถไฟอย่างกะทันหัน คล้ายกับจะสงสัยขึ้นมาเสียอย่างนั้นว่ากำลังถูกติดตาม

    “เอาไงดีเจ๊” ปวีร์จอดรถถามมาทางโทรศัพท์ที่เปิดประชุมสายเอาไว้ “ไม่รู้ว่าวิ่งเข้าทางลัดหรือเปล่า”

    “ถนนเส้นนั้นวิ่งเป็นเส้นตรงออกปทุมธานี ด้านหนึ่งเป็นรางรถไฟ ส่วนอีกด้านมีรั้วลวดหนามกั้นไว้เป็นพื้นที่หวงห้าม ไม่สามารถหลบตรงไหนได้ แล้วก็ไม่ใช่ทางลัดด้วย เพราะระยะทางรวมแล้วมันไกลกว่าวิ่งถนนใหญ่เสียอีก” จงจินต์ผู้ซึ่งมีสมองเปรียบได้กับแผนที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเอ่ยขึ้นพร้อมกับวิเคราะห์ออกมาอย่างรวดเร็ว แต่เกวลินให้ความเห็นที่หนักแน่นกว่า

     “วันนี้รถไม่ติด แต่เป้าหมายก็ยังเลือกที่จะขับเข้าถนนเล็กๆ ทั้งที่ระยะทางยาวกว่า นั่นก็เพื่อให้ตัวเขาสามารถจับสังเกตได้ง่ายว่ามีรถขับตามมาไหม เพราะฉะนั้น เราต้องระวังตัวมากขึ้น วันนี้ปลาติดเบ็ดแล้ว เราจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด”

    เพื่อความมั่นใจในช่วงเวลาที่ผิดพลาดไม่ได้ เกวลินสั่งให้ปวีร์ส่งต่อเป้าหมายให้จงจินต์ติดตามเข้าไปในถนนเส้นนั้นแทน โดยให้ปวีร์เตรียมไปดักรอยังถนนใหญ่ที่สามารถทะลุถึงกันได้ ส่วนนักสืบสาวเลือกที่จะจอดรออยู่ตรงปากทางที่นายโกสินทร์เลี้ยวเข้าไป เผื่อในกรณีที่เขาเลี้ยววนกลับมา หล่อนจะได้เป็นฝ่ายเข้าไปประกบได้ทัน

    ถึงจุดนี้เกวลินต้องยอมรับว่าสืบคดีชู้สาวมาหลายสิบคดี ไม่มีครั้งไหนที่หล่อนจะตื่นเต้นเท่าครั้งนี้เลย แต่ยิ่งกดดันมากเท่าไร สถานการณ์ก็เหมือนยิ่งยากไปเสียหมด พอขับตามนายโกสินทร์ไปได้สักพัก จงจินต์ก็รายงานกลับมาอีกว่าจู่ๆ เป้าหมายก็ชะลอรถช้าลงเสียดื้อๆ ซึ่งท่าทีแบบนี้ตีความออกมาได้อย่างเดียวก็คือเป้าหมายกำลังรู้ตัว!

    “ผมขับแซงมาแล้ว” จงจินต์ตัดสินใจได้ถูกต้อง “ก็ลุ้นเอาแล้วกันว่าเป้าหมายจะขับออกไปโผล่ที่ปากทางหรือจะเลี้ยวกลับไป”

    “แกแน่ใจใช่ไหมจินต์ว่าถนนเส้นนี้ออกได้แค่ทางเดียว”

    “นอกจากจะขับขึ้นไปบนรางรถไฟ หรือไม่ก็ต้องขับทะลุลวดหนาม แต่ไม่หรอก มองกระจกหลังแล้วผมยังเห็นเป้าหมายขับตามมาอยู่”

    “อีกห้านาที ผมจะไปดักรออยู่ปากทาง” ปวีร์รายงานแทรกเข้ามาอย่างทันท่วงที เสียงท่อรถดังผ่านปลายสายเข้ามาบ่งบอกว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังขับเนื้อหุ้มเหล็กแล่นฉิวอย่างรวดเร็วราวลมกรด

    “ดีมาก” เกวลินยังเบาใจได้ว่าถึงจะปล่อยให้นายโกสินทร์เป็นอิสระจากการสะกดรอยอยู่ครู่หนึ่ง แต่อย่างน้อยก็ยังไม่หลุดมือ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ความระแวงของเป้าหมายอาจทำให้การสะกดรอยล้มเหลวได้เสมอ ถ้าเขาล้มเลิกแผนการแล้วเลี้ยวรถกลับบ้านทันที ทุกอย่างก็จบได้เช่นกัน

    แต่โชคดีที่นายโกสินทร์ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ นักการเมืองหนุ่มใหญ่ยังคงขับรถตรงไปทางเดิมจนกระทั่งออกสู่ถนนใหญ่ที่เข้าสู่ตัวจังหวัดปทุมธานี จงจินต์เลือกที่จะเลี้ยวหายออกไปโดยให้ปวีร์ตามประกบเป้าหมายอีกรอบแทน

    “มีโมเต็ลอยู่ข้างหน้า เป้าหมายชะลอรถเตรียมจะเลี้ยวซ้ายเข้าไปแล้ว” คำรายงานของปวีร์ทำเอาเกวลินยิ่งรู้สึกพองฟูว่าแผนการกำลังจะลุล่วง หากไม่ทันไร ปวีร์กลับสบถออกมาพร้อมกับมีเสียงบีบแตรลั่นที่ดังผ่านปลายสายเข้ามา “แย่แล้วเจ๊ จู่ๆ เป้าหมายก็ปิดไฟเลี้ยวแล้วเบี่ยงตัวเลี้ยวขวาออกไปยูเทิร์นซะงั้น ท่าทางรีบมาก เกือบจะถูกรถสิบล้อชนท้ายแล้วด้วยซ้ำ”

    เกวลินได้ยินดังนั้นก็ว้าวุ่น

    “วีร์...แกสลัดตัวเองออกมาซะ อย่าให้มีพิรุธ”

    ปวีร์ปฏิบัติตามคำสั่ง หนุ่มติสต์ปล่อยให้นายโกสินทร์ยูเทิร์นกลับไปโดยไม่เลี้ยวตาม เกวลินหวังว่าการสละเป้าหมายครั้งนี้จะทำให้นายโกสินทร์โล่งใจแล้วไม่ล้มเลิกแผน แต่ก็ยังแน่ใจไม่ได้ ตอนนั้นนักสืบสาวขับรถไปถึงบริเวณโรงแรมที่นายโกสินทร์ทำท่าจะเลี้ยวเข้าไปพอดี ละแวกนี้มีโรงแรมแห่งเดียวที่เปิดบริการอยู่ ถ้าวันนี้นายโกสินทร์ไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ถึงอย่างไรเขาก็จะต้องขับกลับมาที่โรงแรมนี้ เกวลินแกล้งทำเป็นรถเสียอยู่หน้าโมเต็ล แม้จะเป็นมุกเดิมๆ ที่หล่อนใช้อยู่ซ้ำๆ ก็ตามแต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่มีมุกไหนดีกว่านี้อีกแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่