ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาติดตามนะครับ
ขอบคุณ คุณ PuPaKae , คุณ Old Law Boy นิติวิพากษ์, คุณ GTW, คุณ แมวน้อยหางกุด, คุณ Inverness, คุณออมอำพัน, คุณแอม วิเชียรฉาย ถูกใจ
และทุกคนที่กดโหวตและกดใฟ้กิฟต์ด้วยครับ
และขอบคุณคอมเม้นต์ที่เข้ามาพูดคุยและทักทายนะครับ
โดยเฉพาะ
คุณออมอำพันที่มาเป็นคนแรกเสมอ เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนได้ดีมากเลยครับ
คุณแมวน้อยหางกุดสำหรับการช่วยปรูฟคำผิด ก็ถือว่ามีพระคุณกับผมเป็นอย่างสูงเช่นกัน ผมเองก็ยังมีข้อบกพร่องตรงนี้อยู่มาก แม้จะพยายามให้มีคำผิดน้อยที่สุดครับ ตอนนี้ถ้าเข้ามาอ่านแล้วเจอก็ตักเตือนกันได้เช่นเคยครับผม
และดีใจมากที่ได้เห็นคอมเม้นต์ของคุณ
GTW นะครับ ทำให้นึกถึงช่วงแรกๆ ที่นำมางานมาลงที่นี่ ยังไงก็ติชมได้เต็มที่นะครับ ยังอยากได้คำแนะนำและความคิดเห็นจากอาจารย์จีเสมอครับ
และท้ายที่สุดขอบคุณคุณ
Fluffymiyacatz ที่เข้ามาติดตามนะครับ มีความคิดเห็นยังไง ติชมได้เต็มที่เลยนะครับ ยินดีน้อมรับไปปรับปรุงเสมอครับ

ตอนนี้ก็ขอลงสองตอนเหมือนเดิมนะครับ คิดว่าคงจะลงทีละสองตอนไปเรื่อยๆ เลยดีกว่า ฮ่าๆ
__________________________________
ไขคดีหัวใจ...ใต้มนต์จันทร์
ตอนที่ 6
มันเป็นเวลาที่อึดอัดอย่างน่าอันตรายสำหรับคนทั้งคู่ สำหรับเกวลินแล้ว หล่อนก็ยังรู้สึกว่าตนไม่ผิดที่หนีเขาในคืนนั้น ที่ผิดคือโชคชะตากลั่นแกล้งให้ต้องมาเจอเขาอีกครั้งต่างหาก ในขณะที่ทางด้านร้อยตำรวจโทชงคม ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากจะเห็นหน้าผู้หญิงใจดำคนนี้อีก แต่ใครใช้ให้หล่อนเข้ามาเกี่ยวข้องกับหน้าที่ที่เขารับผิดชอบอยู่ล่ะ
“ปล่อยแขนฉันก่อนได้ไหม” เกวลินนึกอยากจะสะบัดมือหนาที่ถือวิสาสะจับแขนหล่อนไว้อย่างแน่น แต่เรี่ยวแรงหดหายไปอย่างไร้สาเหตุ ชายหนุ่มก็ยอมปล่อยแขนหญิงสาวออก เกวลินรวบรวมสติทิ้งตัวนั่งประจันหน้ากับเขาที่โต๊ะทำงาน ก่อนที่ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยเข้าเรื่องทันที
“เอาล่ะ คุณคงทราบเรื่องคดีของคุณชนมนอยู่แล้ว ขณะนี้ศพของเธอกำลังถูกชันสูตรอย่างละเอียดที่นิติเวช แต่โดยเบื้องต้นเราพบว่า... เดี๋ยวก่อนนะ คุณฟังผมอยู่ใช่ไหม” ผู้หมวดหนุ่มชักน้ำเสียงเล็กน้อยในประโยคท้ายจากปฏิกิริยาแน่นิ่งจากคู่สนทนา
“ค่ะ” เสียงดุๆ ของชายหนุ่มก็ดึงหญิงสาวให้หลุดออกมาจากห้วงความคิดที่สับสนได้ในที่สุด หล่อนรีบกลบเกลื่อนอาการผิดปกติของตนเอง “นี่ฉันเพิ่งรู้นะว่าคดีคนฆ่าตัวตายต้องตั้งทีมสืบสวนกันจริงจังขนาดนี้ด้วย”
“คุณชนมนไม่ได้ฆ่าตัวตายหรอกครับ”
จังหวะนั้น นักสืบสาวไม่อาจเก็บซ่อนความหวาดวิตกอีกต่อไปได้ ซึ่งท่าทีของหล่อนไม่พลาดไปจากสายตาจับพิรุธของผู้หมวดหนุ่ม ผู้ซึ่งยังพยายามจะเล่นบทนิ่งต่อไป
“จากการตรวจสอบกิจวัตรประจำวันของคุณชนมน เราพบว่าหลายเดือนมานี้ เธอไปที่บาร์เล็กๆ แห่งหนึ่งบ่อยมาก อยู่ในซอยที่ค่อนข้างลึกแถวสาธร” ร้อยตำรวจโทชงคมพูดพลางหยิบรูปถ่ายรูปหนึ่งยื่นให้อีกฝ่ายดู เป็นรูปถ่ายตึกเล็กๆ ที่มีสภาพปิดทึบ มีโคมแดงแขวนอยู่หน้าร้านและควบคู่กับป้ายตัวอักษรจีน “บาร์แห่งนี้จะเปิดไว้บริการสำหรับขาประจำที่ไปบ่อยๆ เท่านั้น คนทั่วไปไม่รู้จัก คุณชนมนเดินทางไปที่นี่แทบทุกสัปดาห์ ทางเราพยายามจะหาจุดเชื่อมโยงว่าที่บาร์นั่นมีเบาะแสที่พอจะชี้มูลอะไรได้บ้างไหม ก็พบว่าที่นั่นมีพนักงานหญิงคนหนึ่งทำงานอยู่”
พูดจบ หมวดชงคมหยิบรูปถ่ายของผู้หญิงคนหนึ่งออกมา เกวลินเห็นรูปแล้วก็จำได้ได้ทันที
“คุณรัมภา”
ร้อยตำรวจโทชงคมเก็บรูปอย่างรวดเร็วแล้วถามต่อ
“คุณชนมนไปมาหาสู่กับผู้หญิงที่ชื่อรัมภามาตลอดหลายเดือนมานี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สอดคล้องพอดีกับ...”
“คุณอยากจะทราบอะไรจากฉันก็ถามออกมาสักทีเถอะค่ะ” เกวลินพูดแทรกเขาออกไปทันที รู้สึกอึดอัดและระแวงจนไม่อาจทนกับคำพูดยืดเยื้อของเขาได้อีกแล้ว
“โอเค” ร้อยตำรวจโทชงคมพยายามระงับความไม่พอใจ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีปัญหาในการเก็บซ่อนความรู้สึก แต่ในขณะนี้ต้องยอมรับว่ามันยากขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ “ผู้หญิงที่ชื่อรัมภามาหาคุณทำไมครับ”
“เธอมาที่นี่เพราะอยากให้ฉันช่วยหาหลักฐานว่านายโกสินทร์นอกใจเพื่อนของเธอ”
“เพื่อน?” หมวดชงคมทวนคำแล้วขมวดคิ้ว “คุณหมายถึงใครเพื่อนเป็นเพื่อนใครเหรอครับ”
“ก็นี่เรากำลังพูดถึงคุณรัมภากับคุณชนมนอยู่ไม่ใช่เหรอ” เกวลินกระแทกเสียงออกไปอย่างเครียดๆ รู้สึกกดดันกับสถานการณ์ที่ยังไม่น่าไว้ใจวางใจ ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูจะไม่ออมมือเลย
“แล้วคุณรัมภาได้บอกคุณหรือเปล่าว่าทำไมพนักงานในบาร์เล็กๆ อย่างเธอถึงเพื่อนกับอดีตดาราดังอย่างคุณชนมนได้ หรือว่าคุณไม่ได้สนใจประเด็นพวกนั้น”
“ขอโทษนะ อันนี้ฉันฟังคุณไม่เข้าใจ พูดใหม่ให้ฉันฟังรู้เรื่องหน่อย”
“คุณชนมนเพิ่งจะไปมาหาสู่กับคุณรัมภาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี่เอง”
“เธอเป็นเพื่อนสมัยมัธยมต้น แต่ว่าเพิ่งกลับมาติดต่อกันอีกครั้งเมื่อไม่กี่เดือนมานี้”
“ไม่จริง” ร้อยตำรวจโทชงคมเอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาดและมั่นใจ ในขณะที่เกวลินอึ้ง
“ก็คุณรัมภาบอกฉันอย่างนั้น”
“เรื่องนี้ตรวจสอบง่ายมาก แค่ดูในบัตรประชาชนก็ได้ สองคนนี้อายุห่างกันหลายปี แล้วจะเป็นเพื่อนวัยเรียนกันได้ยังไงล่ะครับ”
“ก็...อาจจะมีใครสักคนเรียนเร็ว หรือไม่ก็อีกคนเรียนช้า” เกวลินพยายามจะแถ แต่สีหน้าของอีกฝ่ายทำให้หล่อนต้องหยุด แล้วยอมรับออกมาแบบเก้อๆ “แสดงว่าคุณรัมภาโกหกฉันเหรอเนี่ย”
“ต้องมีใครสักคนโกหกแน่” ร้อยตำรวจโทชงคมพูดเสียงเรียบๆ ซึ่งนับว่ากระตุ้นโทสะของเกวลินได้ดีเลิศ “ไหนคุณเล่าสิ่งที่คุณรัมภาคุยกับคุณให้ผมฟังอย่างละเอียดหน่อยสิครับ ผมอยากรู้ว่าเธอคุยอะไรกับคุณบ้าง”
“แล้วทำไมคุณไม่ไปถามคุณรัมภาเองล่ะ”
เกวลินย้อนกลับไปห้วนๆ นัยน์ตาดุราวเสือมองชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง
บ้าจริง! ตำรวจประเทศนี้มีกันเป็นหมื่นเป็นแสน ทำไมต้องเป็นเขาด้วยนะ! ผู้หมวดหนุ่มถอนใจแรงเพื่อผ่อนคลายอารมณ์เดือดดาลที่คุกรุ่นอยู่ในความรู้สึก
ให้ตายเถอะ วันนั้นเขาไม่เห็นรู้สึกเลยว่าหล่อนจะเป็นคนที่พูดจาด้วยยากแบบนี้
บรรยากาศมาคุอยู่สักพัก จนกระทั่ง ผู้หมวดหนุ่มเริ่มพูดขึ้นมาก่อน
“ให้ความร่วมมือกับผมด้วยครับคุณเกวลิน” ถึงอย่างไรก็ต้องพูดจากันดีๆ ให้ได้นานที่สุด “ผมขอร้อง”
“โอเค ฉันจะให้ความร่วมมือกับคุณค่ะ” สุดท้ายแล้ว นักสืบสาวก็คิดได้ว่าทางเดียวที่จะทำให้เขาเดินออกไปจากห้องทำงานของหล่อนให้เร็วที่สุดก็คือการยอมให้ข้อมูลที่เขาต้องการ “เมื่อสามวันก่อน คุณรัมภาเข้ามาหาฉัน แนะนำตัวว่าเป็นเพื่อนกับชนมน แล้วจากนั้นเธอก็เล่าว่านายโกสินทร์นอกใจชนมนไปมีผู้หญิงอื่น แม้ชนมนจะตายไปแล้ว แต่เธอก็ยังอยากสานต่อเรื่องนี้ เธอเลยขอให้ฉันสะกดรอยตามนายโกสินทร์ให้ แต่ฉันก็ปฏิเสธ”
“แล้วคุณได้ให้คำแนะนำอะไรเธอไหม”
“ไม่แนะนำอะไรทั้งนั้น ฉันปฏิเสธหัวชนฝาทุกครั้งที่ได้คุยกับเธอ”
“คุณเจอเธอมาแล้วกี่ครั้งครับ”
“ฉันเจอเธอแค่ครั้งเดียว แต่เธอโทรศัพท์มาคุยกับฉันหลายครั้ง”
ผู้หมวดหนุ่มมองนักสืบสาวอย่างจับผิด
“แน่ใจนะครับ ว่าคุณปฏิเสธเธอ”
“แล้วทำไมฉันถึงจะไม่แน่ใจล่ะคะ” เกวลินจงใจกวนประสาทเขาด้วยการย้อนถาม แต่มันก็ไม่ทำให้หน้านิ่งๆ ของเขาไหวสะเทือนแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เขากลับย้อนขึ้นมาอีก
“คุณยืนยันว่าคุณปฏิเสธไม่รับทำคดีนี้ให้เธอ ซึ่งมันก็ตรงกับที่คุณรัมภาบอก แต่ทีนี้ผมสงสัยอยู่อย่าง ทำไมแหวนแต่งงานของคุณชนมนถึงได้มาอยู่กับคุณได้ล่ะ”
ไขคดีหัวใจ...ใต้มนต์จันทร์ ตอนที่ ๖ - ตอนที่ ๗
ขอบคุณ คุณ PuPaKae , คุณ Old Law Boy นิติวิพากษ์, คุณ GTW, คุณ แมวน้อยหางกุด, คุณ Inverness, คุณออมอำพัน, คุณแอม วิเชียรฉาย ถูกใจ
และทุกคนที่กดโหวตและกดใฟ้กิฟต์ด้วยครับ
โดยเฉพาะคุณออมอำพันที่มาเป็นคนแรกเสมอ เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนได้ดีมากเลยครับ
และดีใจมากที่ได้เห็นคอมเม้นต์ของคุณ GTW นะครับ ทำให้นึกถึงช่วงแรกๆ ที่นำมางานมาลงที่นี่ ยังไงก็ติชมได้เต็มที่นะครับ ยังอยากได้คำแนะนำและความคิดเห็นจากอาจารย์จีเสมอครับ
และท้ายที่สุดขอบคุณคุณ Fluffymiyacatz ที่เข้ามาติดตามนะครับ มีความคิดเห็นยังไง ติชมได้เต็มที่เลยนะครับ ยินดีน้อมรับไปปรับปรุงเสมอครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มันเป็นเวลาที่อึดอัดอย่างน่าอันตรายสำหรับคนทั้งคู่ สำหรับเกวลินแล้ว หล่อนก็ยังรู้สึกว่าตนไม่ผิดที่หนีเขาในคืนนั้น ที่ผิดคือโชคชะตากลั่นแกล้งให้ต้องมาเจอเขาอีกครั้งต่างหาก ในขณะที่ทางด้านร้อยตำรวจโทชงคม ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากจะเห็นหน้าผู้หญิงใจดำคนนี้อีก แต่ใครใช้ให้หล่อนเข้ามาเกี่ยวข้องกับหน้าที่ที่เขารับผิดชอบอยู่ล่ะ
“ปล่อยแขนฉันก่อนได้ไหม” เกวลินนึกอยากจะสะบัดมือหนาที่ถือวิสาสะจับแขนหล่อนไว้อย่างแน่น แต่เรี่ยวแรงหดหายไปอย่างไร้สาเหตุ ชายหนุ่มก็ยอมปล่อยแขนหญิงสาวออก เกวลินรวบรวมสติทิ้งตัวนั่งประจันหน้ากับเขาที่โต๊ะทำงาน ก่อนที่ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยเข้าเรื่องทันที
“เอาล่ะ คุณคงทราบเรื่องคดีของคุณชนมนอยู่แล้ว ขณะนี้ศพของเธอกำลังถูกชันสูตรอย่างละเอียดที่นิติเวช แต่โดยเบื้องต้นเราพบว่า... เดี๋ยวก่อนนะ คุณฟังผมอยู่ใช่ไหม” ผู้หมวดหนุ่มชักน้ำเสียงเล็กน้อยในประโยคท้ายจากปฏิกิริยาแน่นิ่งจากคู่สนทนา
“ค่ะ” เสียงดุๆ ของชายหนุ่มก็ดึงหญิงสาวให้หลุดออกมาจากห้วงความคิดที่สับสนได้ในที่สุด หล่อนรีบกลบเกลื่อนอาการผิดปกติของตนเอง “นี่ฉันเพิ่งรู้นะว่าคดีคนฆ่าตัวตายต้องตั้งทีมสืบสวนกันจริงจังขนาดนี้ด้วย”
“คุณชนมนไม่ได้ฆ่าตัวตายหรอกครับ”
จังหวะนั้น นักสืบสาวไม่อาจเก็บซ่อนความหวาดวิตกอีกต่อไปได้ ซึ่งท่าทีของหล่อนไม่พลาดไปจากสายตาจับพิรุธของผู้หมวดหนุ่ม ผู้ซึ่งยังพยายามจะเล่นบทนิ่งต่อไป
“จากการตรวจสอบกิจวัตรประจำวันของคุณชนมน เราพบว่าหลายเดือนมานี้ เธอไปที่บาร์เล็กๆ แห่งหนึ่งบ่อยมาก อยู่ในซอยที่ค่อนข้างลึกแถวสาธร” ร้อยตำรวจโทชงคมพูดพลางหยิบรูปถ่ายรูปหนึ่งยื่นให้อีกฝ่ายดู เป็นรูปถ่ายตึกเล็กๆ ที่มีสภาพปิดทึบ มีโคมแดงแขวนอยู่หน้าร้านและควบคู่กับป้ายตัวอักษรจีน “บาร์แห่งนี้จะเปิดไว้บริการสำหรับขาประจำที่ไปบ่อยๆ เท่านั้น คนทั่วไปไม่รู้จัก คุณชนมนเดินทางไปที่นี่แทบทุกสัปดาห์ ทางเราพยายามจะหาจุดเชื่อมโยงว่าที่บาร์นั่นมีเบาะแสที่พอจะชี้มูลอะไรได้บ้างไหม ก็พบว่าที่นั่นมีพนักงานหญิงคนหนึ่งทำงานอยู่”
พูดจบ หมวดชงคมหยิบรูปถ่ายของผู้หญิงคนหนึ่งออกมา เกวลินเห็นรูปแล้วก็จำได้ได้ทันที
“คุณรัมภา”
ร้อยตำรวจโทชงคมเก็บรูปอย่างรวดเร็วแล้วถามต่อ
“คุณชนมนไปมาหาสู่กับผู้หญิงที่ชื่อรัมภามาตลอดหลายเดือนมานี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สอดคล้องพอดีกับ...”
“คุณอยากจะทราบอะไรจากฉันก็ถามออกมาสักทีเถอะค่ะ” เกวลินพูดแทรกเขาออกไปทันที รู้สึกอึดอัดและระแวงจนไม่อาจทนกับคำพูดยืดเยื้อของเขาได้อีกแล้ว
“โอเค” ร้อยตำรวจโทชงคมพยายามระงับความไม่พอใจ ที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีปัญหาในการเก็บซ่อนความรู้สึก แต่ในขณะนี้ต้องยอมรับว่ามันยากขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ “ผู้หญิงที่ชื่อรัมภามาหาคุณทำไมครับ”
“เธอมาที่นี่เพราะอยากให้ฉันช่วยหาหลักฐานว่านายโกสินทร์นอกใจเพื่อนของเธอ”
“เพื่อน?” หมวดชงคมทวนคำแล้วขมวดคิ้ว “คุณหมายถึงใครเพื่อนเป็นเพื่อนใครเหรอครับ”
“ก็นี่เรากำลังพูดถึงคุณรัมภากับคุณชนมนอยู่ไม่ใช่เหรอ” เกวลินกระแทกเสียงออกไปอย่างเครียดๆ รู้สึกกดดันกับสถานการณ์ที่ยังไม่น่าไว้ใจวางใจ ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูจะไม่ออมมือเลย
“แล้วคุณรัมภาได้บอกคุณหรือเปล่าว่าทำไมพนักงานในบาร์เล็กๆ อย่างเธอถึงเพื่อนกับอดีตดาราดังอย่างคุณชนมนได้ หรือว่าคุณไม่ได้สนใจประเด็นพวกนั้น”
“ขอโทษนะ อันนี้ฉันฟังคุณไม่เข้าใจ พูดใหม่ให้ฉันฟังรู้เรื่องหน่อย”
“คุณชนมนเพิ่งจะไปมาหาสู่กับคุณรัมภาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี่เอง”
“เธอเป็นเพื่อนสมัยมัธยมต้น แต่ว่าเพิ่งกลับมาติดต่อกันอีกครั้งเมื่อไม่กี่เดือนมานี้”
“ไม่จริง” ร้อยตำรวจโทชงคมเอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาดและมั่นใจ ในขณะที่เกวลินอึ้ง
“ก็คุณรัมภาบอกฉันอย่างนั้น”
“เรื่องนี้ตรวจสอบง่ายมาก แค่ดูในบัตรประชาชนก็ได้ สองคนนี้อายุห่างกันหลายปี แล้วจะเป็นเพื่อนวัยเรียนกันได้ยังไงล่ะครับ”
“ก็...อาจจะมีใครสักคนเรียนเร็ว หรือไม่ก็อีกคนเรียนช้า” เกวลินพยายามจะแถ แต่สีหน้าของอีกฝ่ายทำให้หล่อนต้องหยุด แล้วยอมรับออกมาแบบเก้อๆ “แสดงว่าคุณรัมภาโกหกฉันเหรอเนี่ย”
“ต้องมีใครสักคนโกหกแน่” ร้อยตำรวจโทชงคมพูดเสียงเรียบๆ ซึ่งนับว่ากระตุ้นโทสะของเกวลินได้ดีเลิศ “ไหนคุณเล่าสิ่งที่คุณรัมภาคุยกับคุณให้ผมฟังอย่างละเอียดหน่อยสิครับ ผมอยากรู้ว่าเธอคุยอะไรกับคุณบ้าง”
“แล้วทำไมคุณไม่ไปถามคุณรัมภาเองล่ะ”
เกวลินย้อนกลับไปห้วนๆ นัยน์ตาดุราวเสือมองชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง บ้าจริง! ตำรวจประเทศนี้มีกันเป็นหมื่นเป็นแสน ทำไมต้องเป็นเขาด้วยนะ! ผู้หมวดหนุ่มถอนใจแรงเพื่อผ่อนคลายอารมณ์เดือดดาลที่คุกรุ่นอยู่ในความรู้สึก ให้ตายเถอะ วันนั้นเขาไม่เห็นรู้สึกเลยว่าหล่อนจะเป็นคนที่พูดจาด้วยยากแบบนี้
บรรยากาศมาคุอยู่สักพัก จนกระทั่ง ผู้หมวดหนุ่มเริ่มพูดขึ้นมาก่อน
“ให้ความร่วมมือกับผมด้วยครับคุณเกวลิน” ถึงอย่างไรก็ต้องพูดจากันดีๆ ให้ได้นานที่สุด “ผมขอร้อง”
“โอเค ฉันจะให้ความร่วมมือกับคุณค่ะ” สุดท้ายแล้ว นักสืบสาวก็คิดได้ว่าทางเดียวที่จะทำให้เขาเดินออกไปจากห้องทำงานของหล่อนให้เร็วที่สุดก็คือการยอมให้ข้อมูลที่เขาต้องการ “เมื่อสามวันก่อน คุณรัมภาเข้ามาหาฉัน แนะนำตัวว่าเป็นเพื่อนกับชนมน แล้วจากนั้นเธอก็เล่าว่านายโกสินทร์นอกใจชนมนไปมีผู้หญิงอื่น แม้ชนมนจะตายไปแล้ว แต่เธอก็ยังอยากสานต่อเรื่องนี้ เธอเลยขอให้ฉันสะกดรอยตามนายโกสินทร์ให้ แต่ฉันก็ปฏิเสธ”
“แล้วคุณได้ให้คำแนะนำอะไรเธอไหม”
“ไม่แนะนำอะไรทั้งนั้น ฉันปฏิเสธหัวชนฝาทุกครั้งที่ได้คุยกับเธอ”
“คุณเจอเธอมาแล้วกี่ครั้งครับ”
“ฉันเจอเธอแค่ครั้งเดียว แต่เธอโทรศัพท์มาคุยกับฉันหลายครั้ง”
ผู้หมวดหนุ่มมองนักสืบสาวอย่างจับผิด
“แน่ใจนะครับ ว่าคุณปฏิเสธเธอ”
“แล้วทำไมฉันถึงจะไม่แน่ใจล่ะคะ” เกวลินจงใจกวนประสาทเขาด้วยการย้อนถาม แต่มันก็ไม่ทำให้หน้านิ่งๆ ของเขาไหวสะเทือนแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เขากลับย้อนขึ้นมาอีก
“คุณยืนยันว่าคุณปฏิเสธไม่รับทำคดีนี้ให้เธอ ซึ่งมันก็ตรงกับที่คุณรัมภาบอก แต่ทีนี้ผมสงสัยอยู่อย่าง ทำไมแหวนแต่งงานของคุณชนมนถึงได้มาอยู่กับคุณได้ล่ะ”